Mocktail
สวัสดีครับ พบกันอีกแล้วทุกวันศุกร์ กับการนำสิ่งละอันพันละอย่างมาทำให้กลายเป็นสิ่งของขึ้นมา หรือ เรียกง่ายๆสั้นๆว่า D.I.Y. ครับ จากครั้งที่แล้วที่ผมได้ทิ้งท้ายไว้สำหรับเรื่องค๊อกเทล ผมกำลังทำตามสัญญาที่ว่าไว้แล้วครับ คุณๆที่ยังไม่ทราบว่าผมได้สัญญาอะไรไว้กรุณาโปรดแวะเข้าไปที่ blog ที่ชื่อ วงแหวนสารพัดนึก นะครับ(นี่ตา veerar จะ up comment ก็ว่ามา อย่ามาทำให้คุณๆเขาเสียเวลาสิ ครั้งที่แล้วก็โดนคุณๆบ่นเรื่องขี้โม้ไปแล้วนะ)
ก่อนที่ผมจะลุยปรุงค๊อกเทล ผมขอเท้าความนิดหนึ่งนะครับสำหรับการทำ cocktail คุณๆทราบไหมครับว่าทำไมเราถึงเรียกการปรุงน้ำผลไม้กับ alcohol ว่า cocktail และทำไม cocktail ถึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า mocktail (นั้นน่ะสิ) ผมมีคำตอบให้ครับ cocktail แปลว่า หางขนไก่ เป็นเครื่องดื่มที่มี alcohol ประสมอยู่ด้วยอย่างน้อย 1-2 ชนิด เข้ากับส่วนประสมอื่น ไม่ว่าจะเป็น น้ำผลไม้ ชา กาแฟ น้ำเชื่อม หรือส่วนประสมอื่นตามวิธีการประสมในแบบต่างๆ
คำว่า ค็อกเทล ได้ถูกใช้เรียกชื่อแทนเครื่องดื่มผสมชนิดนี้มาเป็นเวลายาวนานกว่า 200 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1776 ในบาร์แห่งหนึ่ง ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีสุภาพสตรีผู้หนึ่งได้เปิดร้านขายสุรา และภายในร้านของเธอจะตกแต่งบาร์ด้วยหางขนไก่ที่มีสีสันสวยงามเต็มร้านไปหมด อยู่มาวันหนึ่งเธอเกิดความคิดที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใครขึ้นมา เธอได้นำเอาหางขนไก่ ( Cocktail ) ใส่ตกแต่งในเครื่องดื่มที่เธอผสมขึ้นทุกแก้วแทนไม้คนบาร์ทั่วไป และในไม่ช้าร้านของเธอก็เป็นที่รู้จัก และนิยมของนักท่องเที่ยวยามราตรีทั้งหลายในยุคนั้น จนทำให้คนส่วนใหญ่พูดติดปากกันว่า ค็อกเทล ( Cocktail ) เมื่อต้องการจะสั่งเครื่องดื่มชนิดนี้ และจากจุดนี้เองนับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า ค็อกเทล
ส่วนคำว่า ม๊อกเทล เกิดจากการเรียกให้เป็นชื่อแผลงมา ซึ่งคำว่า mock แปลว่า เลียนแบบ ดังนั้นเมื่อมาผสมกับคำว่า cocktail มันเลยกลายเป็น mocktail ครับ mocktail เป็นเครื่องดื่มที่มีทุกอย่างเหมือนกันกับ cocktail แต่ไม่เติม alcohol เข้าไป
คำว่า ม๊อกเทล เกิดขึ้นที่ นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา ในศตวรรษที่ 19 น่าจะถือกำเนิดมาพร้อมๆ กับเครื่องดื่มค็อกเทล การดื่มกินส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของการบำรุงสุขภาพร่างกายมากกว่า ด้วยรสชาติของผลไม้ที่มีหลากหลายรส ทำให้เครื่องดื่มม็อกเทล และพั้นช์ก็มีหลายสูตร หลายรสชาติเช่นกัน แต่จะที่สีสันมากกว่า รวมถึงการตกแต่งในแก้วด้วยเนื้อผลไม้ด้วย เครื่องดื่มประเภทนี้จะเป็นที่นิยมดื่มกันมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากคนหันมาดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น และยังเป็นที่นิยมดื่มกันมากในประเทศแถบเอเชีย ม็อกเทล และพั้นช์ดื่มแล้วทำให้สดใส ชื่นใจ ดับกระหาย คลายร้อนได้ และยังเป็นเครื่องดื่มที่ใช้รับรองแขกผู้มาเยือนด้วย
OK ครับผมก็ได้ว่าถึงเรื่อง cocktail และ mocktail กันไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นเรามาเตรียมปรุงเครื่องดื่ม mocktail กันเลยนะครับ เริ่มจากอุปกรณ์กันก่อน ผมมี
1.shaker หรือหม้อน้ำแข็ง(ชื่อไทยผมจำเขามาอีกทีครับ อย่าคิดมากนะครับ) 1 อัน
2.spoon ice หรือที่ตักน้ำแข็ง 1 คัน
3.spoon หรือช้อน 1 คัน
อุปกรณ์มีเพียงสามอย่างที่สำคัญสำหรับใช้ปรุง mocktail ครับเนื่องจาก shaker เป็นอุปกรณ์ที่ค่อนข้างหายากพอสมควร (ถ้าคุณๆคนไหนต้องการ shaker ลองแวะไปหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ทำอาหารประเภท stainless steel หรือ หน้าโรงงานที่เขาทำเกี่ยวกับ อุปกรณ์เครื่องครัว เอาเป็นว่าถ้าคุณๆไม่อยากไปทั้งสองสถานที่นี้ก็แวะเข้าไปที่ marco ดูครับ มีแน่นอน เกือบทุกสาขา แต่ถ้าคุณๆไม่อยากไปทั้งหมดที่ผมได้ว่ามาให้ใช้ขวดน้ำพลาสติก ก็ได้เหมือนกันครับ) และเป็นอุปกรณ์ที่ถ้าขาด shaker ไปอาจจะทำให้รสชาติของ mocktail ไม่ดี ส่วนspoon เราจะใช้เมื่อต้องการกันเมล็ดของมะนาว ใช้ในการเปิดฝา shaker และใช้ในการคนส่วนประสมให้เข้ากัน เพราะนอกจากการเขย่า shaker ที่ทำให้ส่วนประสมเข้ากันแล้วเรายังต้องมีช้อนด้วยเนื่องจากส่วนประสมบางอย่างไม่สามารถใส่เข้าไปกับ shaker ได้เช่น น้ำอัดลม หรือ soda สุดท้ายคือ spoon ice เพื่อความสะอาดนะครับ (เพราะคงไม่มีคุณๆคนไหนที่ต้องการปรุง mocktail ไว้ดื่มเองหรือดื่มกับเพื่อนๆแล้วท้องเสียนะครับ) และยังสามารถทำให้การปรุงครั้งนี้สนุกขึ้นด้วยครับ เอาล่ะครับร่ายมาซะยาวสำหรับเรื่องอุปกรณ์ คราวนี้ผมจะพูดถึงเรื่องเครื่องปรุงกันบ้าง (ใจเย็นนะครับอีกนิดเดียวคุณๆก็จะได้ดื่มกันแล้ว ของแบบนี้ต้องใจเย็นๆ)
1.น้ำเสาวรส 1 shot ครับ
2.น้ำดอกไม้ที่คุณๆชื่นชอบ ¼ - ครึ่งช้อนชา ครับ(ดอกไม้นะครับไม่ใช่มะม่วง)ของผมใช้น้ำดอกกระดังงาครับ
3.น้ำตาลละลายน้ำหรือน้ำผึ้งละลายน้ำ ½ shot ครับ
4.น้ำแข็ง
5.มะนาวฝาน 1 ชิ้น
6.soda 1 shot ครับ
ไม่พูดพล่ามทำเพลงแล้วครับ เริ่มทำกันเลย
1.ใส่น้ำแข็งลงใน shaker สัก 2-3 ก้อน
2.ตามด้วยน้ำเสาวรส 1shot
3.ใส่น้ำของดอกไม้ ¼ - ครึ่งช้อนชา
4.เติมน้ำตาลละลายน้ำหรือน้ำผึ้งละลายน้ำ ½ shot
5.บีบมะนาวลงไป 1 ชิ้น
6.หลังจากนั้นก็ปิดฝา shaker แล้วเขย่า ครับ จนกว่าจะมีฝ้าความเย็นจับที่ตัว shaker
7.รินใส่แก้วที่เราได้ใส่น้ำแข็งเตรียมไว้แล้วเติม soda ลงไปครับ
ผมมีเทคนิคการปรุง mocktail ให้รสชาติดีและเพิ่มความสนุกมาฝากครับ ซึ่งเทคนิคนี้สามารถดัดแปลงนำไปใช้นอกจากวิธีที่ผมได้บอกไว้นะครับ เช่น
1.เวลาจะใส่น้ำแข็งลงใน shaker ให้คุณๆตักน้ำแข็งด้วย ice spoon ทีละหนึ่งก้อนครับ แล้วโยนขึ้นและรับด้วย shaker หรือจะให้เพื่อนของคุณๆโยนให้ก็ได้ ถ้าคุณๆเริ่มถนัดแล้ว
2.เวลารินของเหลวลงใน shaker โดยปกติเราจะมีที่กรองเอาไว้กันกากน้ำผลไม้หรืออื่นๆ แต่ในที่นี้ผมไม่มี ผมก็เลยใช้ฝาของ shaker ที่มีที่กรองอยู่แล้วมากรองแทนครับ ซึ่งรูที่กรองอาจจะใหญ่ไปนิด แต่รับรองว่ากรองได้ครับ(ไม่เชื่อลองหาซื้อ shaker มาลองปรุงดื่มดูครับ)
3.เวลาปิดฝา shaker ต้องปิดให้แน่นพอสมควร มิฉะนั้นคุณๆอาจไม่ได้ดื่มอะไรเลยเพราะมันจะหกออกไปหมดตอนคุณๆ เขย่ามัน
4.เมื่อปิดฝา shaker แล้วจำไว้ว่าอากาศใน shaker และอากาศภายนอกไม่เท่ากันนะครับ เมื่อเขย่าไปสักครู่ฝากับตัว shaker จะปิดแน่นมากเนื่องจากอากาศร้อนจากภายนอกจะพยายามแทรกตัวเข้าไปด้านในของ shaker ดังนั้นจึงควรเขย่าโดยความเร็วและแรงด้วยเวลาอันสั้น เพื่อทำให้เปิดฝา shaker ออกได้ง่าย แต่ถ้าฝาปิดแน่นไปแล้วก็ให้ใช้ช้อนเคาะไปตรงใกล้ๆฝาด้วยความแรงพอประมาณสัก 2-3 ครั้ง ฝาก็จะเปิดได้ง่ายเหมือนกันครับ(แต่ตัว shaker จะเป็นรอยจากการเคาะครับ น่าเสียดาย)
5.เวลาเขย่า shaker ต้องทำมือเหมือนดอกบัวคว่ำหรือสามเหลี่ยมคว่ำครับ ถ้าคุณๆไม่เข้าใจโปรดกรุณาแวะเข้าไปชมวิธีได้ใน blog ที่ผมเคยลงเรื่อง cocktail ไว้นะครับ(สำหรับ shaker ขนาดเล็ก)แล้วผลักมือไปมาพร้อมทั้งขึ้นและลง หรืออีกวิธีหนึ่งคือใช้มือขวาจับส่วนบนของ shaker ส่วนมือซ้ายจับส่วนล่างของ shaker แล้วก็เขย่าตามวิธีที่ผมบอกไว้นะครับ ส่วนวิธีพิศดารคุณๆต้องหาวิธีคิดเองนะครับเพราะคุณๆแต่ละคนก็มีวิธีโยนที่แตกต่างกัน
6.เวลาริน mocktail ลงแก้วก็ให้คุณๆรินสูงๆครับเพื่อไม่ให้ฟองอากาศพยายามเล็ดลอดออกมาได้ เพราะถ้าเครื่องดื่ม ของเรามีฟองอากาศแล้วจะดูไม่น่าดื่มนะครับ
7.เนื่องจากเครื่องดื่มแก้วนี้เติม soda เข้าไปด้วย ดังนั้นจะต้องมีการ คน ด้วยช้อนครับ เวลาที่จะ คน ก็ให้ใช้ช้อนจุ่มลงไปในแก้วที่คุณๆได้ริน mocktail ไว้แล้วก็กระทุ้งสัก 5-6 ครั้งให้ soda เข้ากับเครื่องดื่ม ที่ต้องทำแบบนี้เพราะเราไม่สามารถใส่ soda เข้าไปใน shakerได้เพราะจะทำให้ระเบิดได้ครับ(แต่ไม่รุนแรงอย่างที่คุณๆคิดหรอกครับ)
สำเร็จแล้วครับสำหรับ mocktail แก้วนี้รอคุณๆดื่มได้เลย แต่ผมยังไม่มีชื่อสำหรับ mocktail แก้วนี้เลย ผมอยากให้คุณๆมาช่วยผมตั้งชื่อ mocktail กัน เอาเป็นว่ารสชาติจะออกไปทาง เปรี้ยวนำ ซ่าส์ตาม หวานนิดๆ และพอได้กลิ่นหอมจากดอกกระดังงาเล็กน้อย คุณๆคนไหนที่ตั้งชื่อถูกใจผม ผมมีของรางวัลเล็กๆน้อยๆเป็นที่ระลึกครับสำหรับหนึ่งท่าน(มีรูปให้ดูครับไม่ได้ไก่กา)หมดเวลาส่งชื่อ 29 พฤศจิกายน 50 และจะประกาศชื่อใน 30 พฤศจิกายน 50 ครับ สำหรับวันนี้เนื่องจากเขียนยาวมาก ผมเลยลาไปเพียงเท่านี้ครับ สวัสดี
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2550 21:27:44 น. |
|
76 comments
|
Counter : 4228 Pageviews. |
|
|
อ่านมาหลายอย่างคราวนี้แหละ ได้แสดงฝีมือซะที ของโปรดซะด้วย
ไว้รสชาติเป็นอย่างไรจะมาบอกนะคะ ขอบคุณมากๆสำหรับสูตรและความรู้ที่แบ่งปัน
ช่วยตั้งชื่อด้วยละกัน สำหรับสูตรนี้ก็เป็นว่า
“passion sweet&sour” แล้วกันค่ะ
เพราะมีชื่อ passion fruit ของเสาวรสไปด้วย และ passion ยังหมายถึงความรู้สึกร้อนแรงได้ด้วย
ก็ประมาณว่า ทั้งหวานทั้งเปรี้ยวต้องลองชิมดู
แถมให้อีกชื่อแบบยาวนิดนึงก็ “tingly sweet&sour passion”
หรือเวอร์ชั่นสั้นหน่อยก็ “tingly passion”
เอาเป็นว่าเน้นชื่อภาษาอังกฤษค่ะ จะได้อินเตอร์