Maribu cocktail
สวัสดีครับ เนื่องจากสัปดาห์นี้ตัวผมมีงานล้นมือมากเลยทำให้ สมองอิ่มและเต็มไปด้วยงาน จึงไม่สามารถคิดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่อง D.I.Y. ได้ ดังนั้นผมเลยนำเครื่องดื่ม cocktail มาปรุงให้คุณๆได้ชมอีกหนึ่งสูตรและได้ตัดบทความเก่าบางส่วนจากใน blog ของผมมาลงเพื่อให้คุณๆได้อ่านและนำกลับไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ผมจึงขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้
ช่วงนี้เข้าเทศกาลการทานอาหารมังสวิรัสของพี่น้องชาวจีน และ ด้วยความบังเอิญที่ตรงกับเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม ผมในนามเจ้าของ blog ของร่วมน้อนจิตแผ่เมตตาและร่วมบุญกับพี่น้องสองเชื้อสายไว้ในโอกาสนี้ครับ วันนี้ผมจะปรุงเครื่องดื่ม cocktail ในแบบมังสวิรัสที่สามารถดื่มได้ทั้งพี่น้องชาวมุสลิมและพี่น้องชาวจีน ถ้าอย่างนั้นผมขอเท้าความถึงประวัติของ cocktail กันก่อนครับแล้วค่อยว่ากันถึงเรื่องสูตรและวิธีการปรุง
Cocktail เกิดจากการนำน้ำผลไม้หรือการปั่นเนื้อผลไม้ให้ละเอียดสองชนิดขึ้นไปมาใส่ร่วมกันในภาชนะทรงสูงหรือเรียกว่า โถ แล้วใช้ไม้คนให้น้ำผลไม้เข้ากันดีเพื่อให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่ cocktail เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1850 (โดยประมาณ) ที่บาร์แห่งหนึ่ง Westchester County, New York โดยใช้วิธีการปรุงที่กล่าวมาแล้วในขั้นตอน ต่อมาในปี ค.ศ. 1862 จึงได้เกิดผู้ปรุง cocktail คนแรกหรือเรียกว่า bartender ชื่อ Professor Jerry Thomas ตานี้ได้นำส่วนประสมต่างๆเช่น เกลือ ครีมเนย นม ฯลฯ มาใช้เป็นส่วนประสมในการทำ cocktail และคิดค้นสูตร cocktail ขึ้นมาได้ 10 ชนิดจากคำติชมของลูกค้าที่แวะเข้ามาดื่ม
การนำ alcohol มาประสมลงในเครื่องดื่ม cocktail เริ่มเกิดขึ้นในอเมริกาปีค.ศ. 1919 โดยคนขายเหล้าเถื่อนในสมัยนั้น(ในปี ค.ศ. 1919-1933 ในอเมริกามีกฎหมายห้ามขายเหล้า)จึงทำให้ต้องแอบใส่ลงไปใน cocktail (สมัยนั้นเป็นยุคของอันตพาลและมาเฟียรวมทั้งแก๊งสเตอร์ด้วยยกตัวอย่างเช่น อัลคาร์โปล นอกเรื่องกันไปใหญ่แล้วเราเข้าเรื่องต่อดีกว่า) และ cocktail ก็ได้พัฒนาสูตรเพิ่มมากขึ้นและมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากขึ้นด้วย
Alcohol ที่นำมาใส่ลงไปมีมากมายครับ(เดี๋ยว...อันนี้เพียงยกตัวอย่างครับเพราะวันนี้ผมจะไม่ใส่มันลงไป)เช่น gin whiskey rum gimlet martini รวมไปถึง vodka อันเนื่องมาจากเหล้าขาวฝรั่งนี่ แทบจะไม่มีรสไม่มีกลิ่น เขาเลยนำมันมาใส่รวมกันกับน้ำผลไม้
เอาล่ะครับผมร่ายมายาวขนาดนี้ไม่ทราบว่าคุณๆเพลินกันจนลืม cocktail สูตรที่ผมจะปรุงแล้วหรือยัง อันที่จริงแล้วที่ผมร่ายมาเพื่อทำให้เรื่องน่าสนใจมากขึ้นน่ะครับ ต่อไปถึงเวลาเตรียมอุปกรณ์กันแล้วครับ
1.shaker หรือเรียกอีกอย่างว่าหม้อน้ำแข็ง(ชื่อไทยอันนี้จำเขามาอีกที)
2.น้ำแข็งสัก 4-5 ก้อนสำหรับเขย่าใน shaker
4.น้ำสับปะรด 1 shot jiggle (1 shot jiggle ประมาณ 1 ออนซ์)
5.น้ำมะม่วงหรือเนื้อมะม่วงปั่นละเอียด 1 shot jiggle (1 shot jiggle ประมาณ 1 ออนซ์)
6.น้ำผึ้งหรือน้ำตาล ละลายน้ำ (แล้วแต่ความชอบครับ) 1 shot jiggle
7.ช้อน stainless steel 1 คัน(สำหรับเคาะเปิดฝาshaker)
8.นมถั่วเหลือง 1 shot jiggle
เมื่อเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วเรามาเริ่มกรรมวิธีปรุงกันเลยครับ
1.นำน้ำแข็งใส่ลงไปใน shaker ครับ
2.นำน้ำสับปะรด น้ำมะม่วงหรือเนื้อมะม่วงปั่นละเอียด น้ำผึ้งหรือน้ำตาลละลายน้ำและนมถั่วเหลืองมาใส่รวมกันใน shaker ครับ
3.หลังจากนั้นก็เริ่มเขย่า shaker ครับ
4.เมื่อเขย่าเรียบร้อยแล้วให้ใช้ช้อนเคาะเพื่อเปิดฝา shaker แล้วเทส่วนประสมที่อยู่ใน shaker ลงไปในแก้ว
เพื่อให้คุณๆเข้าใจในเรื่องการเขย่าหรือลีลาในการเขย่าผมมี tip เด็ดๆในการปรุงมาเพิ่มความสนุกซึ่งมีดังต่อไปนี้
1.tip แรกเวลาใส่น้ำแข็งลง shaker ลองใช้การโยนน้ำแข็งขึ้นกลางอากาศแล้วรับด้วย shaker ที่ละก้อน ยิ่งสูงยิ่งสนุกครับ
2.tip ต่อมาเวลาเทส่วนประสมลง shaker ถ้าคุณๆฝึกการประสมจนชำนาญแล้วก็ให้ตัด jiggle ออกไปได้ครับคือใช้การกะประมาณด้วยตาแทนได้ครับ(ได้ความดิบ ห้าว และความเมามันส์อีกตะหาก) และเวลารินส่วนประสมก็ให้รินจากสูงลงต่ำเพื่อให้ส่วนประสมสัมผัสกับอากาศทำให้รสชาดค๊อกเทลดีขึ้นด้วยครับ
3.tip นี้มีหรือไม่ก็ได้ครับ แต่ถ้าจะให้เกิดความรู้สึกสนุก ให้หาเพลงสนุกๆมาเปิดไปพร้อมกับการเขย่า shaker (ผมจะใช้เพลงบทสวดมนต์มาเปิดพร้อมเขย่า shaker ไปด้วย เป็นต้น นรกจะกินหัวไหมนี่)
4.เวลาจับ shaker ให้ใช้นิ้วโป้งของทั้งสองมือประคองก้นของ shaker ไว้และใช้นิ้วที่เหลือประกบกับส่วนหัวของ shaker (ทำมือคล้ายรูปดอกบัวหรือคล้ายรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า) หันมือออกไปด้านหน้า
5.วิธีเขย่าให้ผลักมือไปข้างหน้าและดึงมือกลับ พร้อมกับการสลับมือขึ้นและลงไปพร้อมกัน นี่เป็นวิธีมาตรฐานในการเขย่า shaker นะครับ(ตอนแรกจะยากสักหน่อยแต่ทำไปเรื่อยๆด้วยคล่องไปเองล่ะครับ)หรือเมื่อชำนาญในการเขย่า shaker แล้วก็สามารถดัดแปลงวิธีเขย่าให้น่าสนใจยิ่งขึ้นได้ครับ(กรุณาอย่าเขย่าแบบโฆษณา เรย์ สแตคส์ นะครับเพราะวิธีนั้นส่วนประสมจะไม่เข้ากัน)
6.สุดท้ายเวลารินลงแก้วให้รินจากต่ำไปสูงเพื่อให้อากาศเข้ากับส่วนประสมอีกครั้งและทำให้ฟองอากาศที่อยู่ใน shaker ไม่หลุดลอดออกมาครับ
ผมหวังว่า cocktail สูตรนี้คงทำให้คุณๆที่โปรดปรานในการดื่มน้ำผลไม้และคุณๆที่อยู่ในช่วงที่ต้องทานเจและถือศีลอด ชื่นชอบกันนะครับ และผมก็หวังว่าคุณๆที่แวะเข้ามาดื่ม cocktail แก้วนี้หรือได้แวะเข้ามาเห็นสูตร cocktail แก้วนี้จะได้รับความ สดชื่น สนุกสนาน ในวันสบายๆกับอาหารมังสวิรัสนะครับ ผมรอ comment ของคุณๆอยู่นะครับ วันนี้ต้องลากันไปก่อน แล้วพบกันใหม่นะครับสวัสดี
Create Date : 12 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 21:56:26 น. |
|
81 comments
|
Counter : 1954 Pageviews. |
|
|
ท่าทางจะอร่อยนะคะ เดี๋ยวเสาร์นี้ลองทำดูดีกว่า