Salad พิสดาร กับ Steak วิตถาร (จะกินได้ไหมเนี่ย)
สวัสดีครับ ถ้าผมพูดถึง บราซิล (Brazil) คุณๆจะนึกถึงอะไรกันบ้างครับ สำหรับผมแล้วผมจะนึกถึง หาดทรายสวยๆ สาวละตินในชุด Bikini รัดๆ () เมืองหลวงของบราซิล (Rio de Janeiro) นึกถึงนักฟุตบอลที่เก่งๆ นึกถึงป่า อาเมซอน (Amezon) นึกถึงเพลง Samba และ Bossa Nova นึกถึง............... เอาล่ะครับ(นึกไม่ออกแล้ว ) ที่ผมพูดมานี้ผมกำลังจะพาคุณๆเข้ามาทำอาหารกันครับ มีคนเขาบอกว่าแม่น้ำ อาเมซอน นอกจากจะยาวที่สุดในโลก ยังมี ปลา ปิรันย่า ที่ดุร้าย และไม่เท่านั้นในแม่น้ำยังมีจระเข้ที่ตัวใหญ่ๆซะด้วยครับ
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสจับจ่ายอาหาร นอกจากอาหารและวัตถุดิบที่ต้องซื้อเข้าร้านอยู่ทุกวัน (โห...พูดถึง บราซิลๆ ไอ้เราก็นึกว่าจะพาไป บราซิล จริงๆ) พอดีว่าผมเดินผ่านแผนกเนื้อสัตว์แช่แข็งแล้วสายตาของผมก็ต้องมาหยุดจ้องอยู่ที่เนื้อสัตว์แข็งชนิดหนึ่ง มันคือเนื้อจระเข้นั้นเอง เนื้อจระเข้นี้มีหลายส่วนที่สามารถทานได้ครับเช่น เนื้อส่วนบ้องตัน รสชาติจะดีหน่อยเพราะถือว่าเป็นเนื้อสันของจระเข้เลยก็ว่าได้ เนื้อส่วนลำตัว นี่ก็ดีครับแต่รสชาติจะไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ส่วนของกระดูกอ่อนจระเข้ก็ดีเหมือนกันครับ จะคล้ายทานกระดูกอ่อนหมู ผมเลือกดูอยู่นานว่าจะใช้เนื้อส่วนไหนทำ steak ดี มองไปมองมาผมก็หยิบเนื้อมา 1 ถุงแล้วก็จ่ายตังค์ไปครับ
พอถึงร้านผมก็จัดเตรียมอาหารที่จะขายเสียก่อน พอเตรียมเรียบร้อยผมก็มาเริ่มบรรเลงเพลงทำ steak กับเนื้อจระเข้ต่อ เนื้อจระเข้นี้จะมีกลิ่นสาบที่รุนแรงมากครับกลิ่นจะคล้ายๆ....เอาเป็นว่าคุณๆว่างๆลองซื้อมาทำทานดูนะครับว่ากลิ่นสาบเหมือนอะไร ผมเลยคิดสูตร salad ไว้แก้กลิ่นสาบของเนื้อจระเข้ นอกเหนือจาก salad สูตรธรรมดาแล้ว งั้นเรามาเริ่มทำกันเลยนะครับ
เริ่มจากการทำ steak กันก่อนจะได้ไม่เสียเวลานะครับ สูตรของ steak ผมเคยแนะนำสูตรไว้มากมายแล้วคุณๆลองเปิดหาสูตรหมักกันใน blog ของผมดู แต่ย้ำไว้อย่างหนึ่งคือให้หนักกลิ่นเครื่องเทศไว้นะครับสำหรับเนื้อจระเข้นี่ เมื่อหมักเสร็จเรียบร้อยแล้วให้นำไปย่างครับ ที่ผมแนะนำ steak แบบย่างเพราะซะส่วนใหญ่ก็เนื่องจากว่าการทอดจะทำให้เนื้อมีน้ำมันมากเวลาตั้งไว้นานๆมันจะไม่อร่อยครับ (หรือคุณๆจะนำไปทอดก็ไม่ผิดกติกาครับ)
ต่อไปเรามาเริ่มทำ salad กันต่อ วันนี้แนะนำ salad สองประเภทครับแต่เป็น salad แบบ seafood เหมือนกัน เริ่มจากแบบแรกกันก่อนนะครับ
แบบแรกเราจะมีผักเป็นวัตถุดิบหลักๆ เช่น กะหล่ำปลี แครอต บีทรูต ข้าวโพด ถั่วแดง ลูกเดือย กุ้ง และหอยแมลงภู่ ส่วนน้ำ salad ผมเคยแนะนำสูตรไปแล้วก็ต้องรบกวนในค้นหาสูตรใน blog ผมกันอีกครั้งนะครับ
แบบที่สองเราจะมีผลไม้เป็นวัตถุดิบหลักๆ เช่น กล้วยหอม มะม่วง มะละกอฮาวาย สัปปะรด ผักเล็กน้อย กุ้งและหอยแมลงภู่
เมื่อทำ salad และ steak เรียบร้อยแล้วเราก็จัดอาหารวางลงบนจานครับ (หรือจะเปลี่ยนจากจานเป็นพาชนะอื่นเช่น ใบบัวหลวง ใบตองตึง ใบตอง ก็เก๋ดีครับ) วางให้สวยที่บอกแบบนี้เพราะการทานอาหารประเภทนี้ ไม่ควรที่จะมีน้ำเกรวี่ หรือน้ำจากสลัดมากจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้รสชาติไม่เป็นอย่างที่ต้องการแล้วยังจะดูไม่น่าทานอีกครับ เอาเป็นว่าเราราดน้ำเกรวี่ลงบนจานเล็กน้อยแล้ววางเนื้อทับแล้วตบด้วยน้ำเกรวี่เล็กน้อยอีกครั้ง ส่วนสลัดก็ตักส่วนที่เป็นวัตถุหลักมาวางครับเดี๋ยวน้ำสลัดจะซึมออกมาพอสวยเองครับ เวลาทำสลัดผมขอให้คุณๆคำนวณให้ดีนะครับเพราะเวลาทำแล้วจะได้ไม่เหลือน้ำสลัดมากเกินไป ส่วนเครื่องแกล้มเช่น ขนมปัง ข้าว มันฝรั่ง สปาเก็ตตี้ ฯลฯ ก็แล้วแต่คุณๆชอบนะครับ สำหรับผมวันนี้เลือกทานแกล้มกับขนมปัง
เมื่อผมหั่นเนื้อจระเข้แล้วนำเข้าปากคำแรก ความรู้สึกที่ได้สัมผัสด้วยลิ้นทำให้ผมนึกถึงการทานเนื้อไก่และเนื้อหมูในเวลาเดียวกัน (ถ้าคุณๆทำให้เนื้อหมดกลิ่นสาบ) คือความนุ่มนวลคล้ายเนื้อหมูแต่ตัวเนื้อสามารถฉีกออกได้เป็นริ้วๆเหมือนเนื้อไก่ และส่วนที่เป็นไขมันที่มีเล็กน้อยให้รสชาติที่เหมือนการทานไขมันของเนื้อโค เมื่อทานกับสลัดและขนมปัง มันเป็นอะไรที่ อือ....อ่า....โอ่....Great มากๆครับ
การทานอาหารแปลกไม่ใช่เป็นเรื่องพิสดารหรือวิตถารใดๆหรอกครับ แต่มันเป็นการทำอาหารของในถิ่นต่างๆที่ทรัพยากรมันมีเหลือเฟือต่างหากครับ ผมก็หวังว่าคุณๆคงได้รับประโยชน์จากเคล็ดลับการทำอาหารแปลกๆนะครับ ก่อนจะจาก ไหนๆผมได้พูดถึง Brazil แล้ว วันนี้ผมมีเพลงมาฝากคุณๆเช่นเคย และขอให้คุณๆ อร่อยกับอาหารจานนี้นะครับ สวัสดี
//
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2551 |
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2551 12:46:57 น. |
|
90 comments
|
Counter : 2688 Pageviews. |
|
|
อรเคยลองเนื้อจระเข้เหมือนกันค่ะ ในงานปลาที่เดอะมอลล์น่ะค่ะ เค้าว่าโคเลสตรอรัลน้อยด้วย แต่นึกถึงหน้าแล้วก้อกลืนไม่ค่อยลงเลยค่ะ