ธรรมะที่ทำให้ผู้ฟังบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้อย่างรวดเร็ว
ในสมัยพุทธกาล พาหิยะเป็นพ่อค้าทางเรือ วันหนึ่งระหว่างเดินเรือเกิดพายุ ทำให้เรือแตก ผู้คนในเรือเสียชีวิตหมด เว้นพาหิยะคนเดียวที่เกาะซากเรือรอดชีวิตขึ้นฝั่งมาได้แต่ตัวเปล่า ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยเนื่องจากฉีกขาดหลุดหายไประหว่างลอยคออยู่ในทะเล พอขึ้นฝั่งได้พาหิยะจึงต้องใช้ใบไม้เปลือกไม้เป็นเครื่องปกปิดร่างกาย ต่อมาชาวบ้านผ่านมาเห็นพาหิยะแต่งกายเช่นนั้นก็เข้าใจว่าเป็นพระอรหันต์ตามความเชื่อที่มีมาแต่เดิม พากันนำอาหารพร้อมเสื้อผ้ามาให้ พาหิยะรับอาหารบริโภคแต่ไม่ยอมรับเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เพราะเห็นว่าการอยู่ในสภาพเช่นนั้นได้รับการยอมรับจากชาวบ้านและเริ่มติดในลาภสักการะนั้น และหลงว่าตนเป็นพระอรหันต์จริงๆ จนวันหนึ่งพรหมได้มาเตือนสติว่าอย่าลวงโลกอยู่เลย พระอรหันต์ที่แท้จริงคือพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นแล้ว และประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี ให้ไปเฝ้าฟังธรรมเถิด ทำให้พาหิยะนึกละอายใจในความประพฤติของตน และปราถนาที่จะได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า จึงออกเดินทางไปยังเมืองสาวัตถี เมื่อมาถึงเป็นเวลาเช้า พระพุทธเจ้ากำลังออกบิณฑบาตอยู่ในเมือง พาหิยะก็ตามไปจนพบ แล้วกราบทูลขอฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธองค์ตรัสว่าเวลานี้เป็นเวลาบิณฑบาตไม่ใช่เวลาแสดงธรรม แต่พาหิยะคิดว่าหากไม่ได้ฟังธรรมในขณะนั้นก็คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว จึงกราบทูลขออีกเป็นครั้งที่สอง พอครั้งที่สามพระพุทธเจ้าจึงแสดงธรรมให้ฟัง ดังนี้



ดูก่อนพาหิยะ เพราะเหตุนั้นแล ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า
เมื่อเห็นจักเป็นสักว่าเห็น
เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง
เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ
เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง
ดูก่อนพาหิยะ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล
ดูก่อนพาหิยะ ในกาลใดแล
เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น
เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง
เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ
เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง
ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มี
ในกาลใด ท่านไม่มี ในกาลนั้นท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ย่อมไม่มีในโลกหน้า ย่อมไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์


เมื่อฟังธรรมจบ พาหิยะก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และขอบวช พระพุทธเจ้าทรงทราบโดยพระญาณว่าถ้าพระองค์บวชให้ตอนนี้ ก็จะไม่มีจีวรและบาตให้ เหมือนพระภิกษุที่พระองค์บวชให้ท่านอื่นๆ เนื่องจากในชาติก่อนหน้านั้นพาหิยะไม่เคยถวายจีวรและบาตแด่พระสงฆ์มาก่อน พระองค์จึงให้พาหิยะ ไปหาจีวรและบาตมาก่อน แต่ด้วยบุพกรรมในอดีตชาติทำให้พาหิยะถูกวัวแม่ลูกอ่อนขวิดตายเสียก่อน พระพุทธเจ้าทรงทราบแล้วได้รับสั่งให้พระภิกษุจัดการฌาปนกิจศพ และทรงยกย่องพาหิยะว่าเป็นเอตทัคคะ ด้านเลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในการบรรลุธรรมได้เร็ว

ผมยกเรื่องพระพาหิยะมาเล่านี้ ก็เพื่อให้ท่านผู้สนใจในธรรมะได้ทราบถึงธรรมะที่ทำให้พระพาหิยะบรรลุธรรม เผื่อว่าท่านใดจะเกิดความรู้แจ้งแทงตลอดอย่างท่านบ้าง

อ่านแล้ว รู้ความหมายที่แท้จริงแล้ว เข้าใจแล้ว ใช่ว่าจะบรรลุธรรมได้ง่ายๆ ไม่เช่นนั้นคงมีพระอรหันต์เต็มบ้านเมืองไปแล้ว

เมื่อเห็น(ฟัง รู้ รับรู้อารมณ์)ก็แค่เห็น(ฟัง รู้ รับรู้อารมณ์) ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ปล่อยวางได้ ทำใจได้ ไม่เก็บเอามาคิดต่อ ปรุงแต่งต่อ ทำได้ก็เหมือนไม่มีตัวตนเราเขามาเกี่ยวข้อง เมื่อไม่มีเราเขา สิ่งที่ได้ เห็น(ฟัง รู้ รับรู้อารมณ์) นั้นก็ไม่ทำให้ทุกข์ ต้องฝึกครับ ฝึก"สักแต่ว่า" ให้มากๆ ให้ชำนาญ ฝึกได้ก็ละทุกข์ได้ครับ



Create Date : 01 เมษายน 2555
Last Update : 1 เมษายน 2555 16:42:36 น.
Counter : 1833 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุษา
Location :
แพร่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]



เมษายน 2555

2
3
4
5
6
7
9
10
11
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog