วันนี้เป็นวันพระขึ้น๘ค่ำ ผมตื่นแต่เช้าตั้งใจไปสร้างบุญบารมีให้กับตัวเอง และเป็นผู้นำบุญให้คุณย่าเปาเปาด้วยเพราะต้องขายของอยู่ที่ร้าน วันพระก่อนหน้านี้สองวันผมไม่ได้ไปวัดเพราะป๊ะโอพาเปาเปากับน้องเอมมาแพร่และเราตามไปส่งที่เมืองนนท์
วันนี้มีญาติโยมไม่มาก แต่มีอุบาสิกามาถือศีลแปด ศีลอุโบสถมาก ส่วนอุบาสกนั้นมีน้อย เมื่อพระอาจารย์เอกราชเขมานันโท ให้ญาติโยมรับศีลห้า ศีลแปด แล้ว ท่านก็แสดงธรรมตามปกติ
สวนหย่อมหน้าศาลาตักอาหาร
เรื่องที่ท่านแสดงคือการให้ตั้งใจมาประพฤติปฎิบัติธรรม
เมื่อมาอยู่วัดก็ให้ตั้งใจทำข้อวัตรต่างๆของวัด ต้องละทิฐิความถือตัวถือตน ต้องวางยศถาบรรดาศักดิ์และตำแหน่งหน้าที่ไว้ ต้องเพียรฝึกจิต ทำสมาธิ เดินจงกรม ยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนาภาวนา เพื่อให้รู้แจ้งสภาวะธรรมที่เกิดขึ้น ท่านเน้นให้มีสติรู้ตัว มีสติรู้เท่าทันจิต ตามรู้จิตที่มักจะคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วบ้าง ยังไม่มาถึงบ้าง คิดถึงเรื่องที่เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง หรือเรื่องที่ไม่เป็นทั้งกุศลและอกุศลบ้าง การมีสติตามรู้จิต รู้เท่าทันจิต อยู่เสมอๆนี้คือการฝึกจิตนั่นเอง จิตที่อบรมมาดีแล้วย่อมทำให้เกิดความสุข ตามพุทธภาษิต ที่ว่า จิตตํ ทนตํ สุขาวหํ (จิตตัง ทันตัง สุขาวะหัง ) จิตที่ฝึกดีแแล้ว ย่อมนำสุขมาให้เรื่องของการอบรมพัฒนาจิตหรือการเจริญจิตภาวนานี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็ไม่ยากเกินกว่าที่เราจะทำนะครับ ผมอยากแนะนำให้ผู้สนใจได้ปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ตามเว็บนี้ครับ
//www.nkgen.com/Jalernjit.htm