อยู่เพื่อพัฒนากรรมไม่ใช่อยู่เพื่อใช้กรรม
ถาม : มีคำเก่าได้ยินมานานแล้วประโยคหนึ่ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรมเก่า คือที่พูด "คนเราเกิดมาเพื่อใช้กรรมเก่า" ถ้าเชื่ออย่างนี้จะถูกหรือผิดอย่างไร?
พระธรรมปิฎก : ความเชื่ออย่างนั้นไม่ใช่พุทธศาสนา และต้องระวังจะเป็นลัทธินิครนถ์ ที่พูดกันมาอย่างนั้น ความจริงก็คงประสงค์ดี คือมุ่งว่าถ้าเจอเรื่องร้ายก็อย่าไปซัดทอดคนอื่น และอย่าไปทำอะไรที่ชั่วร้ายให้เพิ่มมากขึ้นด้วยความโกรธแค้น เป็นต้น แต่ยังไม่ถูกหลักพระพุทธศาสนา และจะมีผลเสียมาก
ถาม : ที่ว่าเป็นลัทธินิครนถ์ เป็นอย่างไร?
พระธรรมปิฎก : ลัทธินิครนถ์ ซึ่งก็มีผู้นับถือในสมัยพุทธกาลจนกระทั่งในอินเดียทุกวัน เป็นลัทธิกรรมเก่าโดยตรงเขาสอนว่า คนเราจะได้สุขได้ทุกข์อย่างไรก็เป็นเพราะกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อน และเขาสอนต่อไปว่าไม่ให้ทำการใหม่ และทำกรรมเก่าให้หมดสิ้นไปด้วยการบำเพ็ญตบะ จึงจะสิ้นกรรมสิ้นทุกข์ นักบวชลัทธินี้จึงบำเพ็ญตบะทรมานร่างกายด้วยวิธีต่างๆ (ดูเทวทหสูตร,ม.อุ.๑๔/๑/๑) คนที่พูดว่า เราอยู่ไปเพื่อใช้กรรมเก่านั้น ก็คล้ายกับพวกนิครนถ์นี่แหละ คิดว่าเมื่อไม่ทำกรรมใหม่ อยู่ไปๆ กรรมเก่าก็คงจะหมด ต่างแต่ว่าพวกนิครนถ์ไม่รอให้กรรมเก่าหมดไปเอง แต่เขาบำเพ็ญตบะเพื่อทำกรรมเก่าให้หมดไปด้วยความเพียรพยายามของเขาด้วย
ถาม : เมื่อไม่ทำกรรมใหม่ อยู่ไปกรรมเก่าก็น่าจะหมดไปเองไม่ใช่หรือ?
พระธรรมปิฎก : ไม่หมดหรอก จะชดใช้กรรมเก่าไปเท่าไร ก็ไม่มีทางหมดไปได้
ถาม : ทำไมล่ะ?
พระธรรมปิฎก : จะหมดไปได้อย่างไรล่ะ เหตุผลง่ายๆ คือ ๑. คนเรายังมีชีวิต ก็คือเป็นอยู่ ต้องกินอยู่ เคลื่อนไหวอิริยาบถ ทำโน่นทำนี่ เมื่อยังไม่ตายก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ ๒. คนเหล่านี้เป็นมนุษย์ปุถุชน ก็มีโลภ โกรธ หลง โดยเฉพาะความหลงหรือโมหะ นี้มีอยู่ประจำในใจตลอดเวลาเพราะยังไม่ได้รู้เข้าใจความจริงถึงสัจธรรม เมื่อรวมทั้งสองข้อนี้ก็คือ คนที่อยู่เพื่อใช้กรรมนั้นเขาก็ทำกรรมใหม่อยู่ตลอดเวลาทั้งที่ไม่รู้ตัว แม้จะไม่เป็นบาป กรรมที่ร้ายแรง แต่ก็เป็นการกระทำที่ประกอบด้วยโมหะเช่นกรรมในรูปต่างๆ ของความประมาท ปล่อยชีวิตเรื่อยเปื่อย ถ้ามองลึกเข้าไปในใจ โลภะ โทสะ โมหะ ก็โผล่ขึ้นมาในใจของเขาอยู่เรื่อยๆ ในลักษณะต่างๆ เช่น เศร้า ขุ่นมัว กังวลอยากโน่นอยากนี่ หงุดหงิด เหงา เบื่อหน่าย กังวล คับข้อง ฯลฯ อย่างนี้ไม่มีทางสิ้นกรรม ชดใช้ไปเท่าไรก็ไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่เพิ่มกรรม
ถาม : แล้วทำอย่างไรจะหมดกรรม?
พระธรรมปิฎก : การที่จะหมดกรรม ก็คือ ไม่ทำกรรมชั่ว ทำกรรมดี และทำกรรมที่ดียิ่งขึ้น คือแม้แต่กรรมดีก็เปลี่ยนให้ดีขึ้นจากระดับหนึ่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง พูดเป็นภาษาพระว่า เปลี่ยนจากคำอกุศลกรรม เป็นทำกุศลกรรมและทำกุศลระดับสูงขึ้นไปจนถึงขั้นเป็นโลกุตตรกุศล ถ้าใช้ภาษาสมัยใหม่ก็พูดว่า พัฒนากรรมให้ดียิ่งขึ้น เราก็จะมีศีล มีจิตใจ มีปัญญา ดีขึ้นๆ ในที่สุดก็จะพ้นกรรม
Create Date : 04 มีนาคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 4 มีนาคม 2552 20:20:15 น. |
Counter : 812 Pageviews. |
|
|
|
ตอนนี้เข้าใจแล้วค่ะ และจะพัฒนากรรมต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะขอบคุณบทความนี้จริง ๆ ค่ะ