Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
4 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 

คนสิ้นท่า


ตัวเงินตัวทอง (เหี้ย) ขนาดยักษ์ ยาวกว่า ๒.๔ เมตร หนักเกิน ๕๐ กิโลกรัม
กำลังท้องแก่อาศัยอยู่ในป่ารกชัฏ ในซอยวัดด่านสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ถูกบุกรุกที่อยู่อาศัย เพราะมีการถมที่เพื่อเตรียมสร้างหมู่บ้านจัดสรร จึงแอบหนีเข้าไปในโรงงาน
แห่งหนึ่ง อาศัยบ้านพักคนงานหลังหนึ่งเพื่อใช้เป็นที่วางไข่ ระหว่างที่รอวางไข่ สองสามีภรรยา
ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านได้จุดธูปเทียนพร้อมทั้งหาเครื่องเซ่นไหว้มาบูชา เพราะเชื่อว่าตัวเงินตัวทองนี้
จะนำโชคลาภมาให้ ขณะเดียวกันชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างแห่กันไปขอหวยอย่างเนืองแน่น
เวลาประมาณ ๐๒.๔๕ น. (๒๓ เม.ย. ๒๕๓๖) ตัวเงินตัวทองได้ ออกไข่มา ๑ ฟอง
หลังออกไข่เกิดตื่นคนจึงฟาดหางไปทั่วห้อง ถูกไข่ แตกกระจาย ผู้คนต่างเผ่นหนีกันกระเจิง
อาละวาดแล้ว ก็คลานออกทางประตูลงไปในป่าบอนข้างบ้านหายไป

ตอนสี่โมงเย็นวันเดียวกัน จึงกลับมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้างบ้าน เจ้าของบ้านได้ไปซื้อเนื้อไก่สด
มาหั่นให้กิน เจ้าของโรงงานได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การที่ตัวเงินตัวทองเข้ามาในโรงงานของ
ตนและใช้บ้านคนงานเป็นที่วางไข่ เสมือนเป็นการมาให้ลาภ ตนก็จะนิมนต์พระ ๙ รูป
มาทำบุญบ้านในวันที่ ๒๕ เมษายนนี้ เพื่อเป็นสิริมงคลกับตนเองและครอบครัว รวมทั้งแผ่ส่วน
กุศลให้กับตัวเงินตัวทองนี้ด้วย จากการที่ตัวเงินตัวทองมาวางไข่ในครั้งนี้ ชาวบ้านนับร้อยคนต่าง
ทยอยมากราบไหว้และตีความเป็นหวยเลข
(ในภาพประกอบ ชาย ๔-๕ คนกำลังคุกเข่าพนมมือกำธูป หันหน้าไปทางที่เหี้ยอยู่)
เมื่อข่าวแพร่กระจายไป คนก็ยิ่งแตกตื่นพากันเหมารถมาดูแน่นขนัดไปหมด ตั้งแต่เช้ายันค่ำเป็น
หมื่นคน โดยประเมินจากจำนวนรถนับร้อยคัน เป็นชาวกรุงเทพมากกว่าชาวต่างจังหวัด
ส่วนใหญ่มุ่งไปดูว่าออกไข่กี่ฟอง
เพื่อตีความเป็นเลขหวยแทงถล่มเจ้ามือหวยเถื่อนให้ย่อยยับไปข้างหนึ่ง
(น.ส.พ. ไทยรัฐ ๒๔-๒๕ เมษายน ๒๕๓๖)

นี้คือเรื่องของคนที่สิ้นท่าถึงกับลงทุนจุดธูปบูชาเหี้ยซึ่งเป็นเพียงสัตว์ดิรัจฉานเพื่อขอหวย
ผลปรากฏว่า เลขเด็ดที่ชาวบ้านตีความเอาเองนั้นเหลวไหลทั้งเพ แทนที่เจ้ามือหวยเถื่อน
จะถูกถล่มจนย่อยยับ คนแทงนั้นแหละจะเป็นฝ่ายย่อยยับ ใครหลงแทงมากเท่าไรก็ยิ่งยากจน
ยิ่งฉิบหายขายตัวมากเท่านั้น การพนันไม่ใช่เหตุแห่งความร่ำรวย แต่เป็นอบายมุข เป็นเหตุแห่ง
ความฉิบหายต่างหาก เมื่อไม่ได้ทำเหตุซึ่งทำให้ร่ำรวยแล้ว ย่อมจะร่ำรวยไปไม่ได้ แม้จะลงทุน
คุกเข่า จุดธูปบูชาติดสินบนหรืออ้อนวอนสิ่งที่คิดว่าศักดิ์สิทธิ์ เช่น รูปปั้น จอมปลวก
ต้นไม้ประหลาด หรือสัตว์ประหลาด เช่นเหี้ยยักษ์ ดังที่เป็นข่าว ก็ยากที่จะสำเร็จได้


พุทธศาสนามีทัศนะอย่างไรต่อการอ้อนวอน จะศึกษาได้จากพระสูตรต่อไปนี้
นายบ้านนามว่า อสิพันธกบุตร ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า

อ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกพราหมณ์ชาวปัจฉาภูมิมีคณโฑน้ำติดตัว ประดับพวงมาลัย
สาหร่าย อาบน้ำทุกเช้าเย็น บำเรอไฟ พราหมณ์เหล่านั้นชื่อว่ายังสัตว์ที่ตายแล้วให้ฟื้นคืนมา
ให้รู้สึกตัว จูงให้ขึ้นสวรรค์ ก็พระองค์เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
สามารถกระทำให้สัตว์โลกทั้งหมด เมื่อตายไป พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ได้หรือไม่

พ. ถ้าอย่างนั้นเราจักถามท่าน ท่านเห็นอย่างไรก็ตอบอย่างนั้น เปรียบเหมือนบุรุษโยนหิน
ก้อนหนาใหญ่ลงในห้วงน้ำลึก มหาชน พึงมาประชุมกันแล้ว พึงสวดวิงวอน สรรเสริญ
ประนมมือเดินเวียนรอบหินนั้นว่า ขอจงโผล่ขึ้นเถิด ขอจงลอยขึ้นเถิด ขอจงขึ้นบกเถิด
ก้อนหินนั้นพึงโผล่ขึ้น พึงลอยขึ้น หรือพึงขึ้นบก เพราะการสวดวิงวอน สรรเสริญ
ประนมมือเดินเวียนรอบของมหาชนบ้างหรือไม่

อ. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า

พ. ฉันนั้นแล บุรุษที่ทำบาป แม้มหาชนมาประชุมกันแล้วพึงสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนม
มือเดินเวียนรอบผู้นั้นว่า ขอบุคคลนี้เมื่อตายไป จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ก็จริง แต่บุรุษนั้น
เมื่อตายไป พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เปรียบเหมือนบุรุษลงไปในห้วงน้ำลึก
แล้วทุบหม้อเนยใส หรือ หม้อน้ำมัน ก้อนกรวดหรือก้อนหินที่มีอยู่ในหม้อนั้นพึงจมลง เนยใส
หรือน้ำมันที่มีอยู่ในหม้อนั้นพึงลอยขึ้น มหาชนพึงมาประชุมกันแล้ว พึงสวดวิงวอน สรรเสริญ
ประนมมือเดินเวียนรอบเนยใสหรือน้ำมันนั้นว่า ขอจงจมลงเถิด ขอจงดำลงเถิด ขอจงลง
ภายใต้เถิด เนยใสหรือน้ำมันนั้น พึงจมลง พึงดำลง พึงลงภายใต้
เพราะการสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบของมหาชนบ้างหรือไม่

อ. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า

พ. ฉันนั้นแล บุรุษที่เว้นจากบาปกรรม แม้มหาชนมาประชุมกันแล้ว พึงสวดวิงวอน สรรเสริญ
ประนมมือเดินเวียนรอบผู้นั้นว่า ขอบุคคลนี้เมื่อตายไปจงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ก็จริง แต่บุรุษนั้นเมื่อตายไปพึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
(ภูมกสูตร ๑๘/๕๙๘-๖๐๑)


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนอนาถปิณฑิกคหบดีว่า ดูก่อนคหบดี สิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่
น่าพอใจ หาได้ยากในโลกมี ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุข ยศ สวรรค์ เรามิได้กล่าวว่า
สิ่งเหล่านั้นจะพึงได้มาเพราะเหตุแห่งความอ้อนวอน หรือเพราะเหตุแห่งความปรารถนา
ถ้าสิ่งเหล่านั้นจักได้เพราะเหตุแห่งความอ้อนวอน หรือเพราะเหตุแห่งความปรารถนาแล้วไซร้
ในโลกนี้ใครจะพึงเสื่อมจากอะไร
ดูก่อนคหบดี ผู้ที่ต้องการสิ่งเหล่านั้น ไม่ควรจะอ้อนวอนหรือเพลิดเพลินยินดีสิ่งเหล่านั้น
ผู้ที่ต้องการสิ่งเหล่านั้น พึงปฏิบัติปฏิปทา อันเป็นไปเพื่อสิ่งเหล่านั้น เพราะเมื่อปฏิบัติแล้ว
ผู้นั้นย่อมได้สิ่งเหล่านั้น
(อิฏฐสูตร ๒๒/๔๓)

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ไข่ไก่อันแม่ไก่ไม่นอนทับด้วยดี
ไม่กกด้วยดี ไม่ฟักด้วยดี แม่ไก่นั้นถึงจะเกิดความปรารถนาอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ
ขอลูกของเราพึงทำลายเปลือกไข่ด้วยปลายเล็บเท้า หรือด้วยจะงอยปากออก มาโดยสวัสดี
ดังนี้ก็จริง ถึงอย่างนั้น ลูกไก่ก็ไม่สามารถทำลายเปลือกไข่ด้วยปลายเล็บเท้า หรือด้วยจะงอย
ปากออกมาโดยสวัสดีได้ แม้ฉันใด เมื่อภิกษุไม่ทำความเพียรในการอบรมจิตอยู่ ก็ฉันนั้นแล
ถึงจะเกิดความปรารถนาอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ ขอจิตของเราพึง พ้นจากอาสวะ ดังนี้ก็จริงอยู่
ถึงอย่างนั้น จิตของเธอย่อมไม่พ้นไปจากอาสวะได้เลย

ภิกษุทั้งหลาย ไข่ไก่อันแม่ไก่นอนทับด้วยดี กกด้วยดี ฟักด้วยดีแม่ไก่นั้นถึงจะไม่เกิดความ
ปรารถนาอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ ขอลูก ของเราพึงทำลายเปลือกไข่ด้วยปลายเล็บเท้า หรือด้วย
จะงอยปากออกมาโดยสวัสดี ดังนี้ก็จริง ถึงอย่างนั้น ลูกไก่ก็สามารถทำลายเปลือกไข่ด้วย
ปลายเล็บเท้า หรือด้วยจะงอยปากออกมาโดยสวัสดีได้ แม้ฉันใด เมื่อภิกษุประกอบความเพียร
ในการอบรมจิตอยู่ ก็ฉันนั้นแล ถึงจะไม่เกิดความปรารถนาอย่างนี้ว่า ไฉนหนอ
ขอจิตของเราพึงพ้นจากอาสวะ ดังนี้ก็จริงอยู่ ถึงอย่างนั้น จิตของเธอย่อมพ้นไปจากอาสวะได้
(นาวาสูตร ๑๗/๒๖๑)


สาระที่ควรกล่าวถึงมีดังนี้
๑. ทุกคนต้องการความเจริญไม่ต้องการความเสื่อม แต่เพราะไม่รู้จักเหตุแห่งความเจริญและ
ความเสื่อม ดังนั้น ทั้งที่ต้องการความเจริญ กลับหลงไปทำเหตุแห่งความเสื่อมเข้า
เมื่อเป็นเช่นนี้จะเจริญได้อย่างไร
การพนันทุกอย่างเป็นอบายมุข เป็นเหตุให้ฉิบหาย เป็นเหตุให้ยากจน ไม่ใช่เหตุให้ร่ำรวย
ยิ่งลุ่มหลงมากเท่าไรก็ยิ่งยากจน ยิ่งฉิบหายขายตัวเท่านั้น ขอให้ดูชาวบ้านที่ไปเพื่อขอหวย
จากเหี้ยเป็นตัวอย่าง ต้องเสียหายหลายอย่าง คือ เสียเวลาทำมาหากิน เสียค่าใช้จ่ายในการ
เดินทางเพื่อไปขอหวย และเสียค่าโง่เพราะหวยถูกกิน

๒. การบูชาบุคคลผู้ควรบูชา เช่น พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูอาจารย์ จัดเป็นมงคล
แต่สัตว์ดิรัจฉานไม่ใช่สิ่งที่ควรบูชา การบูชาสัตว์ดิรัจฉานจึงไม่เป็นมงคล แต่เป็นอัปมงคล
เป็นความเสื่อม ที่เห็นชัดๆ คือเสื่อมเสียศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์

๓. ผู้ที่บวงสรวงอ้อนวอนเทวดาให้ช่วยปลดเปลื้องทุกข์ของตนควรจะทราบไว้บ้างว่า
เทวดาเพียงแค่พ้นทุกข์ชั่วคราวเพราะบุญเก่ากำลังให้ผล เมื่อหมดบุญก็ต้องผจญกับทุกข์อีก
เพราะยังไม่หมดกิเลสตัณหาซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์ เมื่อเทวดาเองยังตกอยู่ในห้วงทุกข์
ไฉนเลยจะเปลื้องทุกข์ผู้อื่นได้ แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้ง
หลาย ถึงซึ่งกำลังคือพระทศพลญาณแล้ว ก็ไม่อาจบันดาลให้คนอื่นพ้นจากทุกข์ พระองค์ทรง
ได้แต่ชี้แนะ ทุกคนต้องช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากทุกข์ โดยการปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงชี้แนะ

๔. จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทุกคนย่อมรู้ดีว่า ผลสำเร็จย่อม เกิดจากการกระทำ
ไม่ใช่เกิดจากการอ้อนวอน ไม่ใช่เกิดจากโชคชะตา หรือเกิดเองลอยๆ
คนเรารู้หนังสือก็เพราะฝึกหัดทีละขั้นจนอ่านออกเขียนได้ มีใครบ้างที่อยู่ดีๆ ก็อ่านออกเขียนได้เองโดยไม่ต้องเรียนหนังสือ คนเรามีข้าวกินเพราะลงมือลงแรง ไถหว่าน..
หรือเพราะอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแน่

เมื่อปลายปี ๒๕๔๑ ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนเกมส์ ทีมไทย มัวแต่เดินสายทำพิธี
ไสยศาสตร์ตามคำแนะนำของหมอดู ไม่ฝึกซ้อมหรือพักผ่อน จึงถูกทีมคูเวตซึ่งฝึกซ้อมมา
อย่างดีถล่มจนยับเยิน หมอดูตัวดีเลยถูกแฟนฟุตบอลด่าอย่างสาดเสียเทเสีย

๕. เซอร์เอ็ดวิน อาโนลด์ นักกวีชาวอังกฤษผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ประพันธ์บท
กวีเรื่อง “ประทีปแห่งเอเซีย” มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงเรื่องการอ้อนวอนว่า
จงอย่าอ้อนวอนเลย ความมืดจะสว่างขึ้นมาไม่ได้
จงอย่าขออะไรจากความเงียบเลย เพราะมันพูดไม่ได้
อย่ารบกวนจิตใจอันคร่ำครวญของท่าน ด้วยความเจ็บปวดอันระคนด้วยศรัทธาเลย
พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย จงอย่าขออะไรจากเทพเจ้าที่จะช่วยอะไรท่านไม่ได้โดยของบน
และคำสวดสรรเสริญเลย จงอย่าติดสินบนด้วยเลือด หรือเลี้ยงเทพเจ้าด้วยผลไม้และขนม
ความหลุดพ้นจะต้องค้นภายในตัวท่านเอง
ทุกคนสร้างคุกตะรางเครื่องจองจำให้แก่ตัวเองต่างหาก

(คุณลักษณะพิเศษแห่งพระพุทธศาสนา โดย สุชีพ ปุญญานุภาพ)
เห็นแก้ว แวววับ ที่จับจิต ไยไม่คิด อาจเอื้อม ให้เต็มที่
เมื่อไม่เอื้อม จะได้ อย่างไรมี อันมณี ฤาจะโลด ไปถึงมือ

ธมฺมวฑฺโฒ ภิกฺขุ
๑ มกราคม ๒๕๔๒
วัดโสมนัสวิหาร คณะ ๖
ป้อมปราบฯ กทม. ๑๐๑๐๐




 

Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552
1 comments
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 21:52:45 น.
Counter : 699 Pageviews.

 

เป็นบทความที่ดีแม้จะรู้แล้วแต่ก็เหมาะแก่การอ่านเตือนสติ จะได้ดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาณ ทัศว่าการอ่านเป็นเพื่อนที่ดีอย่างหนึ่งเลยนะคะ

 

โดย: Tassanee 16 เมษายน 2552 0:19:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.