เกือบจะเป็นมหากาพย์ที่ไม่จบเรื่องซะแล้ว เพราะหลังจากที่ทางฝั่งของ ไฮโซน้ำหวาน-วรพรรณ พันธุ์คงชื่น เพชรนันทวงศ์ ตั้งโต๊ะพร้อมทนาย เอาหลักฐานมาแฉกลับและตอบโต้ หนิง-ปณิตา และ จิน-จรินทร์ ธรรมวัฒนะ เมื่อวันก่อน ว่าข้อความที่ฝ่ายหนิงแปลออกมานั้นไม่เป็นความจริง ด้านทนายของไฮโซน้ำหวานก็ยืนยันว่าที่หนิงแปลออกมานั้นไม่เป็นความจริง แถมยังบอกให้นักภาษาศาสตร์เอาไปแปลให้อีก เพื่อจะได้เข้าใจตรงกัน มาวันนี้นักข่าวก็ได้ตามไปสัมภาษณ์ถึงกรณีนี้อีกครั้ง ในงานปรับแผนการตลาดของ Dr.Jart ณ ร้าน Audrey Café & Bistro ทองหล่อ ซอย 11 เมื่อไปถึงฝ่ายของหนิงก็ตกใจว่า นักข่าวสายบันเทิงมาได้อย่างไร เพราะตัวเองนัดแต่นักข่าวสายการตลาดมาเท่านั้น แต่ก็ยอมให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับต่อสายให้คุยกับจินโดยตรง

กรณีที่ฝ่ายตรงข้ามได้ออกมาพูดถึงฝ่ายหนิงและจิน พูดในทำนองอีกแง่หนึ่งเลย หนิงได้ดูที่เขาออกมาแถลงข่าวบ้างไหม เช่น ฝั่งนั้นเขาบอกว่า คำว่า honey ที่เขาพูดออกมา เขาไม่รู้ว่าคนไทยแปลว่า ที่รัก และที่หนิงออกมาแปลภาษาที่เขาจะสื่อความหมายนั้น หนิงแปลผิด? “เอาจริงๆ เลยนะ ที่หนิงจะแถลงวันนี้เป็นงานของ ดร.จาร์ท  หนิงก็ยังงงเหมือนกันว่าทุกคนมาได้ยังไง ที่จริงหนิงนัดนักข่าวฝ่ายการตลาดมา เรื่องจริงๆ มันก็จบไปตั้งแต่วันที่หนิงแถลงข่าวไปตั้งแต่วันนั้นแล้วนะคะ จริงๆ มันก็ไม่มีอะไรจะต้องชี้แจงแล้วนะคะ เพราะว่าในส่วนของหนิงเองเนี่ย หนิงชี้แจงไปหมดแล้ว คือในเรื่องของข้อความที่หนิงแปลใช่ไหม (ยิ้ม) ควรให้ประชาชนเป็นคนแปลดีกว่า ให้ประชาชนส่วนใหญ่เป็นคนตัดสินดีกว่าที่แปลเนี่ย แล้วบวกกับข้อความอื่นๆ หนิงแปลผิดหรือเปล่า อย่างที่เขาบอกว่าจะให้นักภาษาศาสตร์แปล ก็ให้นักภาษาศาสตร์นี่แหละแปล แปลตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วมันผิดหรือเปล่า อย่างนั้นดีกว่า เพราะจริงๆ ในส่วนของหนิงพูดเคลียร์แล้วจบไปแล้วค่ะ”  ตอนที่ฝั่งนั้นออกมาแถลงข่าวเมื่อวันก่อน หนิงได้ฟังทั้งหมดไหม? “เอาจริงๆ นะ ไม่ได้ฟังค่ะ เพราะว่าไม่ได้ใส่ใจแล้ว และก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเอาเรื่องของเขามาเป็นเรื่องที่สำคัญ อย่างที่บอกวันนี้เป็นวันที่หนิงตั้งใจทำงาน เป็นวันที่ต้องเปิดตัวสินค้าใหม่ของ ดร.จาร์ท แถลงข่าวไตรมาสใหม่ ให้นักข่าวสายการตลาดมา แต่ปรากฏว่าบันเทิงมาก่อนเต็มไปหมดเลยค่ะ”

แล้วหนิงพอจะทราบไหม ที่เขาตั้งโต๊ะแถลงข่าว เรารู้มาก่อนล่วงหน้าไหม? “ไม่ทราบค่ะ คือรู้พร้อมๆ พี่ๆ นักข่าว เพราะพี่นักข่าวหลายๆ คนก็จะโทร.มา ว่าวันนี้ฝั่งนั้นเขาจะแถลงข่าว แล้วหนิงรู้สึกยังไง แต่ว่าตั้งแต่วันนั้นที่หลายคนโทร.มาสัมภาษณ์หนิง หนิงก็ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ตั้งแต่วันนั้นเลย เพราะว่าพี่ๆนักข่าวโทร.หาหนิงตั้งแต่ช่วง 10 โมงแล้ว ว่าวันนี้ผู้หญิงคนนั้นจะแถลงข่าว แล้วคุณหนิงรู้สึกยังไงบ้าง โทร.มาเยอะมาก หนิงก็บอกว่าไม่อะไร ก็เป็นเรื่องของเขา จนกระทั่งวันนี้หนิงมีงานของหนิง แล้วพี่ๆ ก็ตามกันมาค่ะ”  ที่ฝั่งโน้นเขาออกมาแถลงเหมือนไม่จบ แทนที่เขาจะเงียบไป มีทนายออกมาด้วย? “จริงๆ แล้วหนิงก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร เขาจะออกมาพูดเพื่อต้องการอะไร ในส่วนของหนิง หลักฐานมันชัดเจนจริงๆ คือหนิงว่าอยู่เฉยๆ เงียบๆ ดีกว่า อย่างที่บอกล่ะค่ะ อะไรก็แล้วแต่ตั้งแต่ต้นจนจบเนี่ย ข้อมูลหรือข้อความอะไรก็แล้วแต่ มันต้องแปลไล่ตั้งแต่ต้นจนจบ คำว่า honey, I miss you อะไรอย่างนี้มันแปลชัดเจน หนิงว่าอย่าที่เอาที่หนิงเป็นตัวตัดสินเลยว่าหนิงแปลผิดคนเดียวดีกว่า คือหนิงว่าหนิงแปลไม่ผิด ให้หนิงหรือประชาชนในประเทศไทย หรือพี่ๆ นักข่าวทุกคนแปล พี่ๆ คิดว่าความหมายเป็นยังไงล่ะ (ถามกลับ) ประชาชนเขาคิดว่าความหมายเป็นยังไง”

ที่ทางโน้นเขาออกมาแถลงข่าว ทางทนายฝั่งโน้นเขาบอกว่า อยากให้คุณจินมาบอกมาเคลียร์ ชี้แจงให้เป็นกลางกว่านี้? “คุณจินก็ออกมาเคลียร์แล้ว ต้องบอกว่า... เอาหนิงพูดเดี๋ยวหาว่าหนิงเข้าข้างสามีตัวเองอีก ซึ่งถ้ากลับไปดูภาพที่เป็นคลิปแถลงข่าวของหนิงเต็มๆ นะคะ คุณจินก็เคลียร์แล้ว และเคลียร์ว่าตัวเองเป็นคนทำผิด แล้วก็ตัวเองก็ยอมรับผิดทั้งหมด และเขาก็ได้ขอโทษผ่านสื่อไปแล้ว ให้ไปดูใหม่ดีๆ ดูตรงนี้ให้ชัดเจน คุณจินไม่ได้ออกมาแก้ตัวเลยแม้แต่นิดเดียว ถูกต้องไหม คุณจินออกมายอมรับผิด ขอโทษแล้วจะทำทุกอย่างให้ดี เริ่มใหม่กับครอบครัวให้ดีนะคะ”  แล้วกรณีที่ผู้หญิงฝั่งนั้นเขาบอกว่า หนิงเข้าใจผิดที่มีการจับมือลูบผมกัน? “หมายถึงหนิงมั่วเหรอ อ๋อ อันนี้มันเป็นส่วนของเขา คือหนิงพูดออกสื่อเยอะแยะขนาดนี้ แล้วหนิงก็พูดโดยที่หนิงไม่ต้องมีทนายมานั่ง ไม่ต้องมีสคริปต์มาวาง ถามอะไรมาหนิงก็ยังตอบคำถามเหมือนเดิม ไม่ใช่ไม่ถามแล้วหนิงตอบวนเหมือนอยู่ในอ่าง ความจริงมันก็คือความจริง ไม่ต้องเอารายละเอียดเล็กๆ เอาภาพรวมทั้งหมดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ความจริงคืออะไร แล้วเรื่องก็สัมภาษณ์ไปแล้ว มันจบที่ตรงไหน”

วันนั้นที่แถลงเขาพูดถึงการโพสต์อินสตาแกรมของหนิง ที่เหมือนพาดพิงเขา? “คือการโพสต์อินสตาแกรมนี้นะคะ ต้องบอกว่าให้ตายเถอะ ไม่มีเจตนาจะกล่าวพาดพิงถึงใครใดๆ ทั้งสิ้น วันนั้นเนี่ยจัดงานวันเกิดเพื่อน แล้วทุกคนมาก็จะได้ป้ายคนละ 1 อันอยู่ในมือ สำหรับเอาไว้ถ่ายรูปเล่นและขำๆ หนิงก็ได้ป้ายมา 1 อันเช่นกัน คือได้คำว่า สวย ใส ไร้ศัลยกรรม จบป่ะ คือในอินสตาแกรมหนิงก็ยังมี แล้วหนิงก็ถือป้ายนั้นน่ะ ถ่ายรูปเฉยๆ แต่บังเอิญว่าคนอื่นที่เขาได้ป้ายอื่นแล้วมาถ่ายรวมๆ กัน เขาก็เลยคิดว่าหนิงเนี่ยไปว่าทางเขา หนิงก็เห็นแล้วว่ารูปนี่มันเป็นประเด็น พอรู้ว่าเป็นประเด็นหนิงก็ไม่อยากมีเรื่องราวกับใคร เลยลบออก แต่หนิงสามารถยืนยันได้ ถ้าไปดูในอินสตาแกรมหนิงจะเห็นป้ายคำว่า สวย ใส ไร้ศัลยกรรม จบป่ะ แต่หนิงดันปิดคำว่า ไร้ ไป แล้วก็เหลือแค่ว่า จบป่ะ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าฉันทำนะ ฉันยอมรับ แล้วป้ายนั้นหนิงก็ถ่ายกับคนอื่นที่ได้ป้ายอื่นด้วย ต้องบอกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับหนิง แต่มันดันมาเป็นประเด็น เพราะมันกลายเป็นว่าประเด็นในอินสตาแกรมมันไม่จบสักที ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถ้าเป็นอินสตาแกรมหนิงเอง หนิงจะโพสต์อะไรก็แล้วแต่ หนิงจะโพสต์ผ่าน IG หนิงเอง เป็น IG ที่ระบุความเป็นตัวตนว่านี่คือหนิง-ปณิตาโพสต์  ไม่มีจะต้องไปลอบกัดหรือทำอะไรใคร แต่ตอนนี้มันมี IG ที่ทำรูปน้องนิรินปลอมขึ้นมา แล้วเขียนด่าคนอื่นเยอะแยะมากมาย เพื่อที่จะเข้ามาด่า  หนิงว่าน่าจะไปสนใจทางนั้นมากกว่าว่าใครทำ ถ้าเป็นตัวหนิงเอง หนิงแสดงตัวตนชัดเจนอยู่แล้ว”

เหมือนเขาตัดพ้อ เรื่องอินสตาแกรมว่าไม่จบสักที ทำให้ครอบครัวเขาเสียหาย? “ก็อันนั้นให้เขาไปฟ้องคนทั้งประเทศมั้งคะ คือคนโพสต์เยอะมาก คนตาม IG หนิงประมาณ 270,000 กว่าคน คนเข้ามาโพสต์ให้กำลังใจหนิงแต่ละอัน ประมาณ 300-400 คน ซึ่งหนิงอ่านได้ไม่หมดด้วย เพราะงั้นคุณคงต้องไปหาฟ้องคนทั้ง IG ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนิง และหนิงก็อยากจะขอร้องและย้ำตรงนี้อีกครั้งหนึ่งว่า ขอบคุณแฟนคลับทุกคนจริงๆ ที่รักหนิง ถ้าใครรักหนิงจริงๆ อย่าไปโพสต์ข้อความอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ถึงจะหวงแต่มาโพสต์ใน IG หนิง อย่าไปโพสต์ใน IG คนอื่นให้มันเป็นปัญหา เพราะพวกเราเวลาทำอะไร ต้องแสดงตัวตนที่ชัดเจนว่า มีตัวตนชัดเจน แต่อย่าทำ IG ปลอมเลย ยิ่งโดยเฉพาะรูปน้องนิริน อย่าเลย เด็กเนี่ยเป็นผ้าขาวและยังไม่รู้เรื่องอะไร เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่าให้เด็กเข้ามาเกี่ยวข้องและต้องมารับรู้กับเรื่องที่มันผิดศีลธรรมแบบนี้ค่ะ”  เหมือนเรื่องยังไม่จบไปง่ายๆ? “หนิงจบแล้วค่ะ จบตั้งแต่วันนั้นแล้วค่ะ”  ตั้งแต่วันที่ฝั่งโน้นออกมาแถลงข่าว ทางทนายของเขาได้ติดต่อมาทางหนิงและจินบ้างไหม? “ไม่มีนะคะ”

ถ้าฝั่งนั้นเขามีการโต้ตอบอะไรอีก จะจัดการยังไง? “จริงๆ เรื่องนี้มันไม่ต้องจัดการอะไร คือคนเขารู้อยู่แล้วว่า อะไรถูกอะไรผิด แล้วเรื่องก็ ณ วันนี้คงเคลียร์ในระดับหนึ่งแล้ว ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะอะไร แล้วมันควรจะเป็นยังไง ทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้มันควรจะเป็นยังไง”  หลังจากที่เขาแถลงข่าววันนั้น เขาก็ได้บอกว่าส่งข้อความมาหาคุณจิน จริงไหม? “เอ่อ เดี๋ยวหนิงว่าเรื่องนี้ให้คุณจินตอบเองดีกว่า หนิงจะต่อสายให้ จะได้จบๆ กันไปเลยวันนี้ ไม่ต้องถามอีก ให้คุณจินตอบเรื่องนี้เองแล้วกันนะ เพราะว่าหนิงไม่อยากพูดอะไรแล้ว ไม่เกี่ยวกับหนิงแล้ว”  ตอนนี้ครอบครัวกลับมาแฮปปี้เหมือนเดิมหรือยัง? “ครอบครัวก็พยายามทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดค่ะ มันก็ดีนะคะ”  จินก็เลิกติดต่อกับคนนั้นแน่นอนใช่ไหม? “อันนี้ต้องให้พี่จินเป็นคนตอบค่ะ”

(หนิงต่อสายหาจิน) จินตอบว่า “เขามีส่งข้อความมาจริงครับ เรื่องว่าเขาไม่ได้ทำ IG ปลอม เขาส่งมาขอโทษนะครับ แล้วก็จบ ไม่มีอะไร ไม่เคยติดต่อกัน และไม่เคยติดต่อกันเลยนะครับ”  ทางทนายฝั่งโน้นเขาบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนจินไม่ปกติ ต้องหาที่ระบาย จินคิดเห็นอย่างไรบ้าง? จิน “เป็นทนายนะครับ ผมไปทำอะไรถึงต้องไปเอาทนายมา ผมก็ไม่เข้าใจ แถวบ้านผมทนายก็เยอะนะ ไม่เห็นจะต้องเอาออกมาแถลงข่าวด้วย อันนี้เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ แล้วถ้าเกิดว่าตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ผมพูดไปแล้ว และจริงๆ วันนี้ผมไม่อยากออกมาพูดอะไรอีก วันนั้นผมพูดผมถือว่าผมจบ และผมก็ขอให้ทุกฝ่ายจบ ก่อนที่ทนายจะออกมาพูดเนี่ย ช่วยดูก่อนนะครับว่าฝ่ายนั้นเขาส่งมาหาผม และถ้ามองว่าผมเป็นต่ออยู่ ช่วยเอาหลักฐานมาเลย มีเบอร์ผมขึ้นอยู่ในโทรศัพท์เขาไหม ว่าผมโทร.หาเขาไหม ไหนๆ ก็เอาเบอร์ผมลงในเว็บไซต์ไปแล้วหนิ ผมน่ะไม่เคยเอาเบอร์เขาไปให้ใครเลยนะ ไม่เคยเอาเขาไปแฉอะไร แต่ว่าเบอร์โทรศัพท์ผมไปขึ้นในเว็บได้ยังไง รู้ไหมทุกวันนี้ผมโดนโทรศัพท์โทร.เข้ามาด่าผมนะ วันละ 50 สายเป็นอย่างต่ำนะ โทร.มาแล้ววางสายใส่ พอผมรับก็ตัดสาย คือจะเล่นอะไรอย่าเล่นด้วยวิธีสกปรก”  สรุปว่าตอนนี้ความสัมพันธ์กับฝั่งนั้นไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยอะไรเลยใช่ไหม? จิน “ไม่มีเลยครับ ไม่มีมานานแล้ว ตั้งแต่วันที่แถลงข่าวไป ก็ไม่เคยเจอไม่เคยอะไรเลย คือไม่เข้าใจว่าไปเอาข่าวมาจากไหน ว่าผมไปติดต่อเขา ผมงงมากเลย”

ตั้งแต่วันที่ฝั่งนั้นออกมาแถลง มันมีผลกระทบอะไรต่อจินบ้างไหม? จิน “ผมไม่เคยอ่านสัมภาษณ์ใครเลยนะครับ นอกจากตัวเอง พูดจริงๆ ครับ สัมภาษณ์ของคุณน้ำหวานผมก็ไม่ได้อ่าน แต่ว่ามีคนโทร.มาบอกผม และก็มีคนโทร.มาหาผมว่า เนี่ยมีเบอร์ผมไปลงอยู่ในเว็บไซต์ ผมก็เลยงงว่าทำไมไปขึ้นอยู่ในนั้นได้ เลยคิดว่าเบอร์อาจจะไปขึ้นอยู่ในหน้าจอที่เขาแถลง ผมก็พูดตรงๆ ว่าผมไม่ได้กดเว็บไซต์นั้นดูด้วย”  วันนั้นทางทนายเขาพูดว่า จินพูดไม่หมด พูดให้ตัวเองดูดี ฝั่งนั้นเขาต้องการให้จินพูดให้เคลียร์ และออกมาปกป้องฝ่ายนั้นบ้าง? จิน “ผมพูดขอโทษฝ่ายนั้นแล้วเพราะผมเป็นคนก่อเรื่อง นี่ยังไม่พอใจอีกเหรอ เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมไม่อยากจะเถียงกับใครแล้ว ผมจบแล้วคือผมจบ และผมขอให้เขาจบ ถ้าเขายังไม่จบ เขาอยากทำอะไรก็เชิญมาเลย อย่าเล่นกันสกปรก อย่าเล่นกันใต้โต๊ะ ไม่เอา บอกให้ผมมาพูด ผมไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ผมบอกผมผิด ผมขอโทษ ผมพูดขอโทษทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าพูดคำขอโทษแล้วยังไม่พอใจ ต้องการอะไรอีกล่ะครับ”

ถ้าฝ่ายนั้นเห็นหนิงมาพูดในครั้งนี้แล้ว หนิงจะตอบโต้ยังไง? หนิง “วันนี้ก็เป็นวันที่หนิงไม่ได้มาตอบโต้อะไร ขอย้ำอีกทีนะคะว่า วันนี้คือวันที่หนิงนัดฝ่ายการตลาดมาพูดเรื่องแผนธุรกิจของ ดร.จาร์ท ในไตรมาสต่อไป แต่ว่าพี่ๆ นักข่าวสายบันเทิงก็ตามมา หนิงก็เข้าใจว่าตามมา หนิงก็โอเคให้สัมภาษณ์และตอบค่ะ” หลังจากเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ไปแล้ว ทางจิน สามีของหนิงก็โทร.กลับมาอีกครั้งหนึ่ง และฝากบอกกับทางทนายของไฮโซน้ำหวานว่า มีอะไรก็ให้ทนายฝั่งโน้นโทร.มาคุย มาเคลียร์กันตรงๆ อย่าใช้วิธีสกปรก.