เจมส์ มาร์ ไม่รู้โดนลดบทเป็นพระรองในละคร "กลแค้นแสนรัก" ทางช่อง 3 ปัดรับแต่งานอีเวนต์จนอาจารย์ติงไม่ค่อยมีเวลาเข้าเรียน โต้ข่าวเอ-ศุภชัย ป้อนงานให้ตนมากกว่าเด็กในสังกัดคนอื่น...

กำลังเป็นหนุ่มฮอตที่มีงานอีเวนต์รุมแน่นอีกรายสำหรับพระเอกหนุ่มตี๋หล่อ เจมส์ มาร์ จนทำให้หนุ่มเจมส์เม้าท์ว่าผู้จัดการส่วนตัว เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร ยกหนุ่มเจมส์ให้เป็นลูกรักคนใหม่เพราะป้อนงานให้เจ้าตัวเยอะเป็นพิเศษ แถมเตรียมดันให้เป็นคู่ขวัญกับนางเอกสาว ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ แทนพระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ และเพราะมีงานอีเวนต์รุมแน่นเลยกลายเป็นมีกระแสว่าอาจารย์ของหนุ่มเจมส์ที่ ม.อัสสัมชัญ หรือเอแบค ติงว่าพระเอกหนุ่มไม่ค่อยมีเวลาเข้าไปเรียนด้วย แต่ถึงแม้จะเป็นหนุ่มฮอตงานรุมแบบนี้ก็มีกระแสว่าละครเรื่องใหม่ "กลแค้นแสนรัก" ทางช่อง 3 มีรายชื่อของหนุ่มเจมส์ด้วย แต่กลับลดบทของเจ้าตัวเป็นบทพระรองไปซะงั้น โดยประกบคู่กับนักแสดงสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา และมี หมาก-ปริญ สุภารัตน์ รับบทพระเอกในเรื่อง ได้เจอหนุ่มเจมส์ที่มาร่วมงาน "PEPSI LIVE FOR NOW WITH MANCHESTER UNITED" ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลยซักถามถึงหลากหลายประเด็นร้อนกันหน่อย

ได้ยินว่ามีการวางตัวดาราในละคร "กลแค้นแสนรัก" แล้ว แต่ลดตัวเราเป็นพระรอง? "ไม่ทราบเลยครับ  เรื่องนี้เราไม่ได้รับเลยครับ ไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่คุยกันรึเปล่า แต่ว่าผมเองไม่ทราบเรื่องนี้ครับ ผมไม่เคยได้ยินชื่อละครเรื่องนี้เลยครับ" ถ้าเกิดเราเป็นพระรองจริงๆ จะยินดีรับไหม? "ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ท่านดูว่าบทไหนเหมาะสมกับใครมากกว่ากัน ซึ่งผมเองก็เปิดรับกับบททุกอย่างครับ ถามว่าเสียใจไหมคือผมว่าบทละครทุกตัวมีความเป็นตัวละครทุกตัวครับ เราเชื่อว่าผู้ใหญ่ท่านก็เลือกบทที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้วครับ" ข่าวว่าวางตัวเราคู่กับเอสเธอร์ แล้วก็มีหมาก-ปริญ ด้วย กลัวไหมว่าเราจะเสียภาพความเป็นพระเอกแล้วเป็นพระรองไป? "ไม่ครับ เราก็ดีใจถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาสเราครับ ส่วนจะเล่นกับใครนั้น จริงๆ ทุกคนเป็นนักแสดงที่เราก็เคยร่วมงานกันด้วย เราก็ดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งหนึ่ง"  

ไม่มีคิวงานละครเพราะช่วงนี้รับแต่งานอีเวนต์? "จริงๆ ผมว่าไม่เกี่ยวครับ คือถ้าเกิดผมมีคิวละครมาก็ทุ่มให้กับคิวละครอยู่แล้วครับ ส่วนอีเวนต์ผมก็ไม่ได้เป็นคนตัดสินใจว่าจะมาวันไหน ผมมีหน้าที่ทำงานให้ดีที่สุดมากกว่า" ปกติเรามีส่วนในการตัดสินใจรับงานแค่ไหน? "เอ่อ...ไม่ค่อยมีครับเพราะทางพี่เอ (ศุภชัย ศรีวิจิตร) และคนดูแลเขาจะดูให้เรียบร้อยแล้วว่าวันนี้เราทำแบบนี้ๆ วันไหนไปเรียนก็เรียน เขาจัดตารางให้เราครับ เราก็ทำงานให้ดีที่สุดดีกว่า ก็โอเคได้ไปเรียนได้เจอเพื่อนๆ ได้ทำงานที่เราชอบ ได้เจอผู้คนเราก็ดีใจครับ" รู้สึกยังไงที่เราขึ้นแท่นลูกรักพี่เอ? "ก็ดีใจ แต่จริงๆ พี่เอรักทุกคนแหละครับ แต่ช่วงนี้ละครเพิ่งจบไปแล้วมีแคมเปญใหม่ๆ ออกมา พี่เอก็อาจจะโปรโมตให้คนได้รับรู้มากกว่า จริงๆ พี่เอก็รักทุกคนครับ" 

เหมือนพักนี้พี่เอโพสต์รูปคู่เราแล้วลงอินสตาแกรมมากเป็นพิเศษ? "ก็ดีใจครับที่พี่เอเขาคิดถึง ผมก็คิดถึงพี่เอเหมือนกันครับ" ข่าวว่าเขาจะดันเราไปคู่กับญาญ่าแทนณเดชน์แล้ว? "อ๋อ เหรอครับ ผมว่าเป็นเรื่องละครมากกว่าครับ ถ้ามีโอกาสเล่นละครกับใครก็ตามผมก็ดีใจครับ" คนอื่นอาจน้อยใจเพราะพี่เอเอางานให้เราคนเดียวเลย? "ผมว่าก็เป็นช่วงที่ทุกคนก็ได้ทำงาน อย่างผมก็เพิ่งเริ่ม ไม่ได้คิดว่าผมพิเศษไปกว่าใคร พี่เอก็ให้โอกาสกับทุกคนครับ" ส่วนตัวเราคิดว่าเราถูกป้อนงานมากกว่าปกติรึเปล่า? "ผมว่าไม่นะครับ ก็ด้วยธรรมชาติของการทำงาน เราก็มีโอกาสโปรโมตละครตามอีเวนต์บ้าง มีแคมเปญดีๆ โฆษณาดีๆ ผมว่ามันก็เป็นไปตามธรรมชาติครับ" 

พอเรารับงานอีเวนต์เยอะเลยมีข่าวว่าอาจารย์ที่เอแบคเขาติงว่าเราไม่ค่อยเข้าเรียนเลย? "อ๋อ ไม่จริงครับ เพราะว่าผมเองก็ได้คุยกับอาจารย์เรียบร้อยแล้วว่าผมอาจจะรับงานบ้าง  แต่ผมสามารถทำงานส่งได้ ไม่ว่าจะเป็นการพรีเซ้นต์อะไรก็ตามผมไปตลอดครับ เข้าเรียนก็สำคัญ เราก็มีการพูดคุยกับอาจารย์เรียบร้อยแล้วครับ"  คิดจะดร็อปเรียนเลยไหม? "ไม่คิดครับเพราะผมเชื่อว่าทุกอย่างทำได้ครับ จริงเรื่องการเรียนเราก็สามารถจัดการควบคู่กับการทำงานได้ อย่างถ่ายละครเราก็ไปเรียนได้ไม่มีปัญหาอะไร ผมเชื่อว่าทำงานทุกวันนี้ก็แบ่งเวลาไปเรียนได้เหมือนกัน เราทำได้อยู่แล้วครับ".