คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" อัพเดตชีวิตนักแสดงหนุ่ม "บอล-วิทวัส" ทั้งเรื่องละครเรื่องใหม่ที่ใกล้ลงจอ รวมถึงชีวิตส่วนตัวหลังเจอภาวะงานหด-ปัญหาชีวิตเพียบ แต่ได้กำลังใจจากครอบครัวและหวานใจ "แนนนี่" ที่ไม่เคยทิ้งกัน...

ห่างหายไปจากจอทีวีและพื้นที่สื่อไปนาน กลับมาอีกทีนักแสดงหนุ่ม บอล-วิทวัส สิงห์ลำพอง ก็ตกเป็นข่าวว่าเตรียมจะจูงมือสาวนอกวงการ แนนนี่ ซึ่งเป็นหลานสาวนักร้องดัง ติ๊ก ชิโร่ เข้าพิธีวิวาห์แล้ว ทำเอาหนุ่มบอลต้องรีบออกมาปฏิเสธทันทีว่ายังไม่ถึงเวลาเพราะยังเด็ก ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะพร้อมใช้ชีวิตคู่ คอลัมน์ "เทรนดี้" โดย "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" เลยชวนหนุ่มบอลมาอัพเดตถึงการทำงานหลังห่างหายวงการบันเทิงไปพักใหญ่ พร้อมทั้งถามถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมาที่หนุ่มบอลต้องเจอปัญหาชีวิตส่วนตัวและปัญหาครอบครัวอย่างหนัก แถมงานในวงการก็ลดลงเพราะปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว แต่ก็ได้กำลังใจจากครอบครัวรวมถึงแนนนี่ที่ให้โอกาสหนุ่มบอลได้พิสูจน์ตัวเอง และไม่เคยทิ้งกันแม้จะมีช่วงเวลาที่ดีและไม่ดีในชีวิตอีกด้วย

Q : หายไปค่อนข้างนานเลย แต่ล่าสุดก็ใกล้จะมีละครออนแอร์แล้ว?
A : ใช่ครับ ตอนนี้ก็จะมีละครออนแอร์เร็วๆ นี้คือเรื่อง "นางร้ายสายลับ" ทางช่อง 3 อันนี้บอกได้เลยว่าแซบแน่นอน บทแรงที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาเลยครับ (หัวเราะ) ในเรื่องเนี่ยเรียกว่าได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงเลยทั้งเรื่อง คิดดูว่าน่าดูขนาดไหนอะเรื่องนี้ (ยิ้ม) เรื่องนี้ผมรับบทเป็น "เมธา" เป็นคนที่อยากจะดัง อยากเป็นพระเอกเบอร์ 1 ของประเทศ ทำทุกอย่างเพื่อตะเกียกตะกายให้ตัวเองดัง ที่ตัดสินใจเล่นเพราะบทเลยครับ ผมมองว่าบทน่าสนใจมากและเป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีครับ

Q : เครียดไหมตอนเล่นบทแบบนี้ครั้งแรก?
A : ก็เครียดนะ (หัวเราะ) เพราะไม่เคยเล่นแบบนี้และไม่เคยเข้าฉากเลิฟซีนกับผู้ชาย แต่ในเรื่องผมจะเข้าฉากกับพี่โกสินทร์ (ราชกรม) ซึ่งพี่โกค่อนข้างจะเก่งอยู่แล้ว ทำให้การแสดงมันง่ายขึ้น ส่วนวิธีการศึกษาคาแรกเตอร์ตัวละครเนี่ยคือจริงๆ แล้วเราทำงานในวงการนี้มันสัมผัสกับเพศที่ 3 อยู่แล้วครับ ก็ชินอยู่แล้วไม่ต้องสังเกตอะไรมาก แล้วผู้กำกับก็จะบอกว่าให้เล่นแบบนี้ไม่ต้องเยอะมากเพราะเราไม่ใช่เกย์จ๋าหรือคนชอบผู้ชายด้วยกัน แต่เราทำเพราะหวังจะดังครับ ถามว่ามาเล่นแบบนี้กลัวคนจะติดภาพแนวนี้ไปก็ไม่หรอกครับ มันเป็นการแสดง คนก็รู้ว่าผมไม่ใช่แบบนั้น

Q : บรรยากาศการทำงานเป็นยังไงบ้างเล่าให้ฟังสักนิด?
A : บรรยากาศเนี่ยโอ้โห สุดยอดมากครับ คือทุกคนเฟรนด์ลี่และสนุกมาก รักกองนี้ รักพี่คิง (สมจริง ศรีสุภาพ) ครับ ซึ่งพี่คิงก็จะคุยเรื่องคาแรกเตอร์ก่อนที่จะมาเล่นว่าจริงๆ ตัวเมธาเป็นยังไงบ้าง ตัวละครคิดยังไง และที่สำคัญสุดคือให้ลดน้ำหนัก (หัวเราะ)  ก็ลดลงมาเยอะครับ ประมาณ 10 กก.กว่าๆ (ยิ้ม)

Q : ใกล้ออนแอร์แล้วเราคาดหวังเรื่องกระแสละครยังไงบ้าง?
A : ก็ประมาณนึง เรียกได้ว่าทุ่มเทกับละครเรื่องนี้ อยากให้ทุกคนได้ดูผลงานก็เท่านั้นเอง ถามว่ากลัวไหมว่าเรื่องหน้าจะมีแต่บทแนวนี้เข้ามาคือก็ต้องดูก่อนครับ แต่เอาเป็นว่าผมเต็มที่กับละครเรื่องนี้มากๆ และอยากให้ทุกคนสนุกกับละครเรื่องนี้ครับ

Q :  ถามถึงซิทคอม "ขออภัย...มือใหม่หัดโต" ทางช่องไทยพีบีเอส อัพเดตการทำงานให้ฟังหน่อย?
A : สำหรับซีรีส์ซิทคอมเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเด็กที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยมา แล้วเริ่มคิดว่าตัวเองจะทำงานอะไร ใช้ชีวิตในออฟฟิศ สมัครงานเสร็จปุ๊บจะเจอเจ้านายยังไง บรรยากาศในออฟฟิศจะเป็นยังไง มีเพื่อนร่วมงานยังไง  ซึ่งในเรื่องนี้จะร่วมงานกับนักแสดงหน้าใหม่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งแม้เราจะมีประสบการณ์การแสดงมากกว่า แต่การแนะนำน้องๆ เนี่ยจริงๆ ผมว่าทุกคนเก่งอยู่แล้วนะ เพราะทุกคนเล่นละครเล่นหนังมาอยู่แล้ว ผมก็ไม่ได้มองตัวเองว่าตัวเองจะเก่งขนาดนั้นจนถึงขั้นแนะนำใครได้ เราทำงานออกมาให้เต็มที่ที่สุด และอยากให้ทุกคนเต็มที่กับเราด้วย งานจะออกมาดีครับ เรื่องนี้น่าจะออนแอร์ในเดือน ก.ค.นี้แหละครับ

Q : ร่วมงานกับน้องๆ นักแสดงหน้าใหม่ บรรยากาศน่าจะสนุกสนานครื้นเครง?
A : ด้วยความที่นักแสดงกองนี้จะวัยรุ่นทุกคน แล้วเราเองก็พอรู้จักกันมาบ้างอยู่แล้ว มันก็เป็นบรรยากาศกองละครที่ทุกคนสนิทกัน ทำงานง่ายครับ

Q : เห็นว่าเป็นครั้งแรกที่มาเล่นซิทคอมด้วย?
A : ใช่ครับ ส่วนการทำงานผมว่าจังหวะของซิทคอมเรื่องนี้มันคล้ายกับหนังครับ และเป็นละครฮาๆ เล็กๆ จะมีมุกมีอะไรตลอดครับ เรื่องนี้ผมว่าดูได้ทุกวัยนะครับ โดยเฉพาะคนที่ทำงานแล้วจะคิดถึงวัยที่ตัวเองเพิ่งเริ่มสมัครงานใหม่ๆ เจอเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ ประมาณว่าเรียนจบมาแล้วไม่เคยทำงานก็จะต้องเจอปัญหาอะไรบ้าง

Q : ผลงานเยอะแบบนี้มีงานอื่นๆ เข้ามาต่อเนื่องอีกไหม?
A : ก็มีละครติดต่อมาอีก 2 เรื่อง ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยากให้ติดตามกันครับ บทน่าจะเป็นพระนางคู่สองครับ ผมก็แฮปปี้นะครับ ขอให้มีงาน ใครสนใจผมก็เต็มที่แน่นอนครับเพราะตอนนี้ผมมีภาระที่ต้องรับผิดชอบเยอะครับ (ยิ้ม) ผมเองเป็นฟรีแลนซ์ ไม่ได้เซ็นสัญญากับที่ไหนครับ

Q : ได้ยินมาว่าเป็นเพราะบอลมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเลยทำให้ที่ผ่านมางานลดลง?
A : ก็มีส่วนนิดนึง (หัวเราะ) จริงๆ มันก็ไม่ได้เงียบนะ มีงานมาตลอด แต่อาจจะเว้นระยะไปนานนิดหน่อย คือเมื่อปีที่แล้วมีปัญหาชีวิตส่วนตัวค่อนข้างเยอะ แล้วงานมันไม่ค่อยต่อเนื่องนานๆ พออยู่บ้านเราก็เลยกิน (ยิ้ม) มันเป็นช่วงเบญจเพสด้วยแหละ แล้วเราต้องดูแลครอบครัว ตอนนั้นก็มีปัญหาหลายอย่างครับเลยกินอย่างเดียว ดึกๆ ก็นอนไม่หลับด้วย

Q : จากตรงนั้นสุดท้ายเราผ่านพ้นปัญหามาได้ยังไง?
A : คือปัญหาครอบครัวมันเริ่มหนักขึ้น เราก็รู้สึกว่าถ้าเรายังเป็นอย่างนี้ต่อไปมันจะแย่กับตัวเองและครอบครัวด้วย แล้วพอดีช่วงนั้นก็มีละครของพี่คิงเข้ามาพอดี เราก็รู้สึกว่ามันเป็นโอกาสใหม่ในชีวิตเหมือนกัน ซึ่งช่วงที่มีปัญหาเยอะๆ เราก็ได้กำลังใจที่สำคัญที่สุดคือพ่อแม่ คนในครอบครัว อีกคนก็คือแนนนี่ ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะอยู่กับคุณแม่ จะคุยกับคุณแม่เยอะ ท่านเป็นคนเข้มแข็งครับและพยายามบอกเราว่าให้ลืมๆ เรื่องครอบครัวไปบ้าง  อยากให้เราตั้งใจทำงานเพื่อตัวเองและครอบครัวครับ ส่วนแนนนี่เขาก็ให้โอกาสผม เพราะก่อนหน้านี้ด้วยภาพของผมมันค่อนข้างดูไม่ดี จะคบกับใครสักคนเขาก็จะมองว่าเราเจ้าชู้รึเปล่า ดูไม่จริงใจรึเปล่า ผมก็พยายามจะแก้ตัว อยากให้ทุกคนมองผมใหม่ ซึ่งตอนแรกแนนนี่เขาก็มีสงสัยในตัวผมเหมือนกัน ผมเลยพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าผมโตแล้ว ไม่ใช่แบบที่ตัวเองเป็นเมื่อก่อน ซึ่งผมว่าสิ่งที่พิสูจน์ได้ดีที่สุดคือเวลาครับ เราพยายามทำให้ดีที่สุด แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองว่าเราดีพอรึยัง

Q : พอผ่านพ้นช่วงเวลาพิสูจน์ตัวเองมาแล้ว ความรักเลยค่อนข้างแฮปปี้?
A : ก็แฮปปี้ครับ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็รู้จักกัน เราคบกันในสายตาผู้ใหญ่ของเรา ไม่มีอะไรเสียหายครับ ถามว่าอะไรที่ทำให้เรามั่นใจว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับเรา ผมว่าระยะเวลาที่คบกันมา 3 ปีครับ อย่างที่บอกไปว่ามันก็มีช่วงเวลาที่ผมแย่ ช่วงเวลาที่ผมดี มีปัญหาบ้าง แต่ทุกครั้งเขาจะฟังเหตุผลของเราตลอด เขาก็อยู่เคียงข้างเราและเข้าใจเราครับ ไม่ว่าชีวิตผมจะแย่หรือดีขนาดไหนเขาก็ไม่เคยทิ้งผมไปครับ ซึ่งตอนนี้ผมก็มั่นใจ 90 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ แต่ผมอยากให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ทั้งสองคนมากกว่านี้ เพราะผมมองว่า 3 ปีมันก็ยังน้อยไปที่จะคิดเรื่องอนาคต เรื่องแต่งงาน

Q : แบบนี้ต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะคิดถึงอนาคตร่วมกัน?
A : ก็อีกหลายปีแหละครับ คือยังไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่จะมีข่าวดีแน่นอน ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นคนนี้แหละ ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดครับ

Q : สุดท้ายแล้วฝากอะไรถึงแฟนๆ ที่ติดตามผลงานของเรามาตลอดหน่อย?
A : ผมกลับมาแล้วนะครับ ตอนนี้ผมก็มีละคร 2 เรื่อง และมีงานเข้ามาเรื่อยๆ และอาจจะได้เห็นผมตามงานอีเวนต์หรือพื้นที่สื่อเยอะขึ้น ผมก็อยากให้คนที่ติดตามผมอยู่ก็ติดตามผมต่อไป ผมจะพยายามทำงานให้เต็มที่ที่สุดครับเพื่อคุณผู้ชมทุกคนครับ และใครที่เล่นอินสตาแกรมสามารถติดตามผมได้ที่ @imbonz จะติดต่อเรื่องงานหรือติดตามรูปอัพเดตการทำงานของผมได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ.