ยิปซี-คีรติ รับเสียใจกรณีปั้นจั่น-ปรมะ ใช้ทวิตเตอร์ของตนโพสต์ว่าโตโน่-ภาคิน ให้เลิกส่งข้อความมาทัก แจงลดสถานะปั้นจั่นเหลือแค่เพื่อนเหตุนิสัยเข้ากันไม่ได้ไม่เกี่ยวกับกรณีทวิตเตอร์ ปัดพ่อแม่สั่งเลิกแต่รับพ่อเตือนเหตุหวั่นกระทบการทำงาน...

เป็นประเด็นร้อนๆ ในโลกทวิตเตอร์และสื่อบันเทิงต่างๆ มาหลายวันสำหรับกรณีที่นักร้องหนุ่มค่ายอาร์เอส ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัย ใช้ทวิตเตอร์ของนางเอกหน้าหวาน ยิปซี-คีรติ มหาพฤกษ์พงศ์ โพสต์ข้อความถึงพระเอกนักร้องหนุ่มเดอะสตาร์ โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ว่า "ไม่ต้องส่งมาทักเราอีกนะ พี่ปั้นจั่นไม่ชอบ" จนทำให้แฟนๆ ของโตโน่ไม่พอใจ รุมกระหน่ำว่าทั้งสาวยิปซีและหนุ่มปั้นจั่นเลยทีเดียว ซึ่งฝั่งหนุ่มปั้นจั่นเองก็ได้ออกมาขอโทษหนุ่มโตโน่เรียบร้อยแล้ว พอได้เจอสาวยิปซีที่มาร่วมงานเปิดตัวโรงเรียน Digital Hollywood ณ โรงเรียนดิจิตอล ฮอลลีวูด ชั้น 1 อาคารเวฟเพลส เพลินจิต เลยสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นบ้าง

ซึ่งยิปซีเปิดใจว่า  ''ก็คุยกันแล้วค่ะ ล่าสุดก็คือที่พี่ปั้นจั่นออกมาขอโทษพี่โตโน่และทางแฟนคลับ ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นนะคะ เราก็แก้ไขและพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก" ตอนนั้นเขามาปรึกษาเรายังไงบ้าง? "ช่วงนั้นแทบไม่ได้ปรึกษากันเลยค่ะ เขาก็ออกมาขอโทษของเขาเอง เราไม่ได้เป็นคนบอกว่าจะต้องทำอะไรค่ะ" เราโกรธไหมที่เขาทำแบบนั้น? "จริงๆ ด้วยนิสัยส่วนตัวเขาเป็นคนที่ค่อนข้างขี้หึงและอารมณ์ร้อน เข้าใจได้ค่ะถึงนิสัยของคน แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ดีและควรทำ โกรธไหมก็ไม่ได้ถึงกับโกรธแต่ค่อนข้างเสียใจมากกว่าที่เหตุการณ์ออกมากระทบคนอื่นที่เราไม่ได้ตั้งใจ'' แฟนคลับโตโน่ถล่มต่อว่าเรารุนแรงด้วย? ''เข้าใจได้ค่ะที่แฟนคลับจะไม่ชอบและมาต่อว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  คนที่เรารักถ้ามีใครมาว่าก็เป็นธรรมชาติที่จะตอบโต้ ทางยิปซีก็ต้องขอโทษทางพี่โตโน่และแฟนคลับพี่โตโน่ทุกคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ เริ่มมาจากเรื่องส่วนตัวของเรากับพี่ปั้นจั่น ซึ่งไม่ได้มีความตั้งใจจะไปว่าร้ายใครหรือทำให้ใครดูไม่ดี ผิดพลาดไปต้องขอโทษด้วยค่ะ'' ได้มีโอกาสคุยกับโตโน่บ้างหรือยัง? ''ไม่ได้คุยค่ะ เพราะไม่ได้มีช่องทางการติดต่อส่วนตัวตั้งแต่แรก ไม่มีคอนแทคอะไรค่ะ''

พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาหลายคนก็จับตามองว่าความสัมพันธ์ของเรากับปั้นจั่นจะเป็นยังไงต่อไป? ''ตอนนี้เปลี่ยนสถานะเป็นเพื่อนกัน" เราเป็นคนเปลี่ยน? "จริงๆ ประมาณนั้น แต่การที่จะเปลี่ยนสถานะเหมือนตอนเริ่มคบค่ะ คือจะต้องได้รับความยินยอมจากทั้งสองฝ่ายถึงจะเปลี่ยนได้" ยิปซีเคยพูดว่าถ้าทำผิดอีกครั้งจะไม่ให้อภัยแล้ว? "จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับที่เราพูดไว้ ว่าถ้าทำผิดจะไม่โอเคแล้ว ขึ้นอยู่กับเรื่องๆ ไปดีกว่าว่าอภัยได้หรือไม่ได้ แต่สาเหตุที่ทำให้ลดสถานะเป็นแค่เพื่อนเพราะมันเป็นปัญหาที่เราพยายามแก้มาเรื่อยๆ แต่ทีนี้ปัญหาเกิดจากการเป็นตัวตน คือนิสัยของคนเรามันไม่ใช่จะมาแก้ง่ายภายในครั้งสองครั้ง ถึงเขาอยากจะแก้ แต่อะไรที่มันเป็นตัวตนของเรามันค่อนข้างยากและต้องใช้เวลา อย่างเวลาที่เขาหึงขึ้นมา มันไม่ใช่แค่ยิปซีคนเดียวที่ทุกข์ พี่ปั้นจั่นก็ทุกข์เหมือนกัน คนที่หึงใจก็ทุกข์มันก็ร้อน เราก็คิดว่าในเมื่อสถานะเราเป็นแบบนี้ เรายังต้องทำงานตรงนี้ แล้วเรายังต้องเจอผู้คนยิปซียังต้องทำงานร่วมกันกับผู้ชาย แล้วถ้ามันมีปัญหาบ่อยๆ แบบนี้ก็ไม่โอเค ก็เลยคิดว่าตอนนี้เราต่างตั้งใจทำงาน ตั้งใจทำชีวิตของตัวเองให้มันดี" ลดสถานะลงตั้งแต่เมื่อไหร่? "ประมาณ 2-3 วันที่แล้วค่ะ เขาโอเคมาก เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน''

โอกาสจะกลับมาหรือเพิ่มสถานะมีมากน้อยแค่ไหน? ''ก็มีนะคะ ขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาและการเปลี่ยนแปลงด้วย ซึ่งอย่างที่บอกค่ะว่าการเปลี่ยนตัวตนไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนได้ภายในเดือนสองเดือน มันต้องใช้เวลา ช่วงที่ห่างๆ ไปเป็นเพื่อนกันต่างคนทำชีวิตของตัวเองให้ดี ทำหน้าที่การงานของตัวเองให้ดี วันหนึ่งถ้าใช่มันก็ใช่เอง" ที่ลดสถานะเพราะรับตัวตนของกันและกันไม่ได้? "เรียกว่ามันมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของเรามากกว่า" กลัวคนมองไหมว่าเลือกงานมากกว่าความรัก? "จริงๆ การงานและความรักมันควรจะอยู่ด้วยกันได้ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าอยู่ด้วยกันได้แบบไหน ถ้าอยู่ด้วยกันได้แบบไม่ราบรื่นนักเราก็ต้องแยก คือยิปซีมีงาน มีคนที่ต้องดูแลก็คือที่บ้านเพราะครอบครัวเราสำคัญที่สุด'' ผู้ใหญ่เรียกเข้าไปคุยถึงเรื่องนี้ไหม? "ยังค่ะ แต่เชื่อว่าเขาเป็นห่วงและต้องการตักเตือนอยู่แล้ว" พ่อแม่ว่าไงบ้าง เพราะมีข่าวว่าสั่งให้เลิกคบกัน? "คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้สั่งห้ามนะคะ เพราะที่บ้านยิปซีเลี้ยงมาแบบความคิดอิสระ คุยกันทุกเรื่องค่ะ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นห่วงมากๆ อยู่แล้วค่ะ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นท่านก็เตือนค่ะว่ามันจะมีผลกระทบต่อการทำงานของเราว่าจะทำงานลำบาก แต่ที่บ้านไม่ได้ยื่นคำขาดและไม่ได้สั่งห้ามค่ะ แต่ในเมื่อความคิดเห็นมาจากคนที่สำคัญต่อเราคือครอบครัวก็ต้องนำมาคิดอยู่แล้ว"

เรียกว่าโสดเต็มปากได้ไหม? ''ก็โสดค่ะ" พอลดสถานะทำให้โล่งใจทำอะไรง่ายขึ้นไหม? "ก็สะดวกขึ้นต่อการทำงานของเรานะคะ เพราะไม่ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ต้องพบปะกับเพศตรงข้ามทั้งนั้นค่ะ" พอลดสถานะแล้วเขาจะมีระแวงอะไรเราอีกไหม? "ไม่นะคะ เพราะเขาเองก็โอเคมากกับการเป็นเพื่อนกัน อาจเป็นอะไรที่เหมาะกว่าสำหรับเราตอนนี้ก็ได้ค่ะ ก็ยังคุยปกติเหมือนเดิมค่ะ" มีข้อตกลงอะไรเพิ่มเติมไหม? "ไม่ได้ตกลงค่ะ และไม่คาดหวังว่าเขาจะทำตัวใหม่เพื่อกลับมาดีกับเราให้เร็วที่สุด มันเป็นตัวของเขา ถ้าเขาทำได้มันก็จะดีกับตัวเขาเองด้วย" จากเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ตัดสินใจเลิกรึเปล่า หรือเป็นเพราะผู้ใหญ่ว่าเราด้วย? "ยังไม่ได้โดนผู้ใหญ่ว่าโดยตรงค่ะ แต่จะโดนรึเปล่าอันนี้ไม่ทราบ แต่จะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เลิกมันก็มองอย่างนั้นไม่ได้ค่ะ จริงๆ มันมีหลายสาเหตุ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องนิสัยและตัวตนของมนุษย์ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆ ค่ะ".