ใครอยู่ในห้อง?
ใครอยู่ในห้อง?

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"หนิม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องนอน

หนูเป็นคนกลัวผีมากๆ ทั้งที่ยังไม่รู้แน่ว่าผีมีจริงหรือไม่ เมื่อเร็วๆ นี้เองได้เกิดเรื่องหนึ่งซึ่งทำให้หนูสยองแทบตาย..เชื่อมั้ยคะ บ้านของหนูแท้ๆ ที่อยู่มาแต่เล็กแต่น้อย ก็เกิดมีผีกับเขาด้วย! ที่จริงหนูคิดว่าบ้านทุกหลังน่ะแหละต้องมีผี อย่างน้อยก็ผีบ้านผีเรือนไงคะ

แต่โดยปกติแล้ว เวลาเราอยู่ในบ้านของเราเอง เราจะรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย และไม่ค่อยกลัวผีเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับเวลาไปที่อื่นๆ อย่างโรงแรม โรงพยาบาล หรือแม้แต่โรงเรียน...ซึ่งหนูว่าโรงเรียนนี่แหละตัวดีละ

ตอนกลางวันมีคนอยู่กันเป็นพันๆ พอตกเย็นก็กลับบ้านกันหมด เหลือแต่ยาม หนูเคยถามลุงยามว่ามีผีไหม? แกบอกว่ามีสิ...แล้วแกก็เล่าให้ฟังเยอะแยะ

ไม่รู้ว่าหลอกหนูหรือเปล่า? ทั้งผีครู ผีเด็กนักเรียนและผีเจ้าที่เจ้าทาง เล่นเอาหนูไม่กล้าอยู่โรงเรียนตอนเย็นๆ เลย มันวังเวงมาก หนูเคยคอยคุณแม่ประชุมสมาคมผู้ปกครองกว่าจะเลิกตั้งสี่ทุ่มแน่ะค่ะ...กลัวผีชะมัดเลย!

สถานที่อื่นๆ น่ะ ถึงจะผีดุแค่ไหนก็ช่างมันเถอะ ไม่ใช่บ้านเรานี่นา อ้อ! แต่ขอกระซิบนิดนึงนะคะ หนูว่าในห้องหนูมีอะไรแปลกๆ เหมือนกัน หนูโดนผีอำบ๊อยบ่อย แต่แม่บอกว่าเป็นเพราะหนูนอนหลับทับเส้น เลือดลมเดินไม่สะดวกก็เลยฝันร้ายเป็นตุเป็นตะ

บางคืนเวลาผีอำ หนูจะเห็นผีเด็กผู้หญิงลอยลงมาจากเพดานมานั่งทับหนู! ผีเด็กคนนี้มาบ่อยมาก มายิ้มและชวนไปเล่นด้วยกัน มันน่าสยองมากเลยค่ะ

หนูรู้ว่าแกเป็นผีก็ไม่ยอมไปท่าเดียว แต่พอเวลาหนูตื่นเต้นที่หนูก็เชื่อแม่ว่ามันอาจเป็นความฝังใจลึกๆ บางอย่าง และผีเด็กผู้หญิงคนนั้นมาจากจิตของหนูเอง!

เอาละค่ะ เมื่อก่อนเปิดเทอมปีนี้เอง คือราวกลางเดือนพฤษภาคม วันนั้นเพื่อนหนูมาหา จุ๋งเป็นเพื่อนสนิทของหนู เราเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ป.1 จนตอนนี้กำลังจะขึ้นม.2 อยู่แล้วเธอนิสัยดีมาก ตัวเล็กๆ น่ารัก เราสนิทกันแต่นี่เป็นครั้งแรกที่จุ๋งมาบ้านหนู

เผอิญวันนั้นคุณพ่อคุณแม่มีธุระไปต่างจังหวัด ก็เลยเอาจุ๋งมาฝากให้อยู่บ้านหนูคืนหนึ่ง ดีใจจังเลยค่ะ

เราขลุกกันอยู่ในห้องนอนของหนูทั้งวัน เล่นเน็ต ดูทีวี และพอตอนเย็นหลังกินข้าวกับคุณพ่อคุณแม่แล้ว เราก็ขึ้นไปอยู่บนห้องอีกตามเคย คืนนี้ขอนอนดึกหน่อยเถอะนะ เราขนขนมขนน้ำไปกินบนห้องด้วย แม่บอกว่าอย่าทำเลอะนะ!

ไม่เลอะหรอกค่ะ พวกหนูเรียบร้อยจะตาย

ตอนดึกๆ เราคุยเรื่องผีกัน หนูสองคนลากผ้าห่มมาคลุมตัวคนละผืน นั่งกับพื้นตรงปลายเตียง ปิดไฟดวงใหญ่และเปิดทีวีทิ้งไว้ เสียงแอร์ครางเบาๆ อยู่ในห้องเย็นฉ่ำ...

ที่เราคุยเรื่องผีก็เพราะรายการทีวีเขาเล่าเรื่องผีกันไงคะ แต่เล่านิดเดียวเอง เรายังไม่หายมันส์ก็เลยเล่ากันฟังสองคนก็ได้ สนุกดี

หนูสังเกตว่าตอนที่กำลังเล่าๆ กันอยู่นั้น จุ๋งมักจะชะงักเหมือนถูกขัดจังหวะบ่อยๆ และทำท่าหันไปมองอะไรบางอย่าง

"ห้องนี้มีผีเรอะ?" เธอถามอย่างไม่เกรงใจ น่าโมโหชะมัด เธอเล่าว่าเห็นอะไรแว่บๆ ทางหางตาเหมือนเด็กวิ่งไปวิ่งมา คล้ายอยากจะเล่นจ๊ะเอ๋กับเรา หนูฟังแล้วก็ยังไม่เฉลียวใจ คิดว่าห้องมืดสลัวแบบนี้ แสงวับๆ จากทีวีอาจหลอกตาเราได้

จุ๋งเพื่อนหนูคนนี้ถึงจะเรียบร้อย นิสัยดี สมเป็นกุลสตรีไทย แต่ก็ยังมีอะไรแผลงๆ อยู่ไม่น้อย..จู่ๆ เธอก็ปิ๊งไอเดีย หยิบโทรศัพท์มือถือโนเกียรุ่นถ่ายรูปได้ออกมา

"มองแว่บอีกที เราจะถ่ายรูปเก็บไว้เลย" เธอบอกอย่างมันเขี้ยว

"เฮ้ย! ไม่เอาน่า ขืนถ่ายติดอะไรมา เราจะอยู่ห้องนี้ได้ไง นี่มันห้องนอนเรานะ"

หนูประท้วง แต่จุ๋งอมยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ เธอเปิดเมนูไปที่กล้องแล้วเปิดโหมดกลางคืนเพื่อถ่ายภาพในความมืดได้ชัดขึ้น จากนั้นก็ส่องไปรอบๆ ห้อง กดชัตเตอร์แล้วดูภาพที่ขึ้นมาหน้าจออย่างสนุกอยู่คนเดียว พอไม่มีอะไรผิดปกติเธอก็กดลบแล้วถ่ายใหม่

"เลิกเถอะจุ๋ง!" หนูโมโหจริงๆ แล้วคราวนี้ เธอบอกว่าขอถ่ายอีกหนเดียว ว่าแล้วก็กดชัตเตอร์ปุ๊บ ไม่กี่วินาทีภาพก็ขึ้นหน้าจอ..สีหน้าเธอเปลี่ยนไปชัดเจน

"อะไรน่ะ?" หนูร้อง แล้วคว้าโทรศัพท์มือถือมาดู

คุณพระช่วย! ภาพหน้าจอเป็นมุมตรงหัวเตียงหนูเอง และมีเงารางๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังอยู่ในท่าวิ่ง จะหลุดเฟรมอยู่แล้วล่ะค่ะ เห็นแต่ตัวซีกเดียว ใบหน้านั้นไม่เห็น แต่เธอนุ่งกระโปรงฟูๆ อายุราวสามขวบ และเห็นขาข้างหนึ่ง

หนูร้องลั่นบ้าน พ่อกับแม่ตกใจ ส่วนจุ๋งก็ตกใจมากเช่นกัน แต่แม่ปลอบว่าไม่เป็นไรหรอก เด็กคนนั้นอาจจะเป็นพี่สาวหนูก็ได้ ก่อนหนูเกิดแม่มีลูกสาวอายุสองขวบกว่าแต่จมน้ำตาย! แม่บอกว่าอย่ากลัวไปเลย พี่เขาอยากมาเล่นด้วยน่ะ

ทำไงดีล่ะคะ? ตั้งแต่นั้นหนูย้ายไปนอนห้องแม่จนถึงวันนี้เลยค่ะ!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEV4TURZMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB4TVE9PQ==



Create Date : 11 มิถุนายน 2551
Last Update : 11 มิถุนายน 2551 20:24:14 น.
Counter : 688 Pageviews.

0 comment
ดงผีดุ!
ดงผีดุ!

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"คุณเขื่อง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวัดจอมทอง

ใครจะโอ้อวดหรือยืนยันว่าที่นั่นที่นี่ผีดุที่สุด เฮี้ยนที่สุด ขนาดหลอกหลอนผู้คนตอนกลางวันแสกๆ ก็ยังได้! ช่างเถอะครับ ผมไม่สนใจจริงๆ เอ้า สาเหตุก็เพราะวัดจอมทองแถวๆ บ้านผมที่ธนบุรีน่ะ ผีดุสุดขีดน่ะซีคุณ!

รถไฟสายคลองสาน-แม่กลอง แล่นกระฉึกกระฉักข้ามคลองที่หน้าวัด โอย...ใครว่าทางรถไฟสายไหนมีผีสิงมากที่สุด มารู้ข่าวจากคนละแวกนี้แล้วจะหนาว! บอกไม่เชื่อ

เล่าเรื่องผีทางรถไฟก่อนแล้วกัน!

ผีดุขนาดต้องมีคนเอาชีวิตไปสังเวยปีละ 2-3 คนเป็นประจำ ถ้าคนเมาเดินเซแซ่ดๆ จนโดนรถไฟชนตายก็ว่าไปอย่าง นี่คนดีๆ ที่เดินกลับบ้านแต่ไม่ยักได้ยินเสียงรถไฟ แถมเสียงหวูดรถดังแทบแก้วหูจะแตกยังไม่ได้ยิน เดินลอยหน้าเฉิบๆ จนโดนรถไฟชนกระเด็นไปตั้งหลายสิบวา...จะเหลือมั้ยล่ะเนี่ย?

ผัวเมียทะเลาะกัน ฝ่ายเมียน้อยใจเลยออกมานั่งซึมกะทือข้างรถไฟ พอเจ้าม้าเหล็กข้ามสะพานมาก็พุ่งเข้าใส่ ร่างกายกับแขนขาขาดเป็นท่อนๆ ไม่รู้ว่ากี่ท่อนกันแน่ งานนี้น่ะ

บอกว่าน้อยอกน้อยใจตามประสาผู้หญิงเลยโดดให้รถไฟทับตาย!

ที่ว่าผีดุนักหนาก็เพราะเชื่อกันว่าผีมันมาเรียกให้ไปอยู่ด้วยน่ะซีครับ ฟังๆ แล้วชักจะเข้าเค้า เพราะอีกแค่ 4-5 วันฝ่ายผัวที่เพิ่งเผาเมียไปหยกๆ ก็ไปกระโดดให้รถไฟทับตายเหมือนกัน! บรื๋ออออ...

คราวนี้ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ก็เลยมีคนเห็นหนุ่มสาวเดินทื่อมาตามรถไฟ พอใกล้เข้ามาก็มองเห็นหน้าตากับเนื้อตัวโชกเลือด! ร้องจ้าเหมือนจะหาแม่เสียงโหยหวน เผ่นกระเจิดกระเจิงจนล้มลุกคลุกคลาน หวิดจะจับไข้หัวโกร๋นไปตามๆ กัน

ใครขวัญอ่อนมากๆ แต่ชอบบอกว่าตัวเองเป็นคนรอบคอบ ก็เลยลงเรือจ้างกลับบ้าน ยอมเสียเงินดีกว่าไปวัดดวงเอาว่าจะโดนผีหลอกกลางทางหรือเปล่า?

จากทางรถไฟก็มาถึงวัดจอมทอง!

สมัยเด็กๆ น่ะพวกผมชอบไปเล่นกับเด็กวัด วิ่งเล่นเกรียวกราวตามประสาเด็กน่ะแหละครับ เล่นไล่จับมั่ง ซ่อนแอบมั่ง บางวันก็เล่นหยอดหลุมทอยกองเอาหนังยางกัน...ไม่เย็นค่ำเมื่อไหร่ไม่ค่อยอยากกลับบ้านกันทั้งนั้น

มุมสำราญของพวกเราต้องลับหูลับตาคนหน่อย คือข้างโบสถ์ที่มีลานอโศกทำเลชอบกลอยู่ หรือไม่ก็แถวซอกกำแพงหน้าวัดที่มีเจดีย์เก๋งจีนเก่าแก่ เคยมีรุ่นพี่เตือนว่าอย่าไปเล่นเพลินจนมืดค่ำล่ะ เดี๋ยวจะโดนผีหลอก!

แหม...กลับนะครับ ไม่ใช่ไม่กลัว แต่ก็อย่างว่าละคุณ กำลังเพลิดเพลินเจริญใจซะอย่าง ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ล้วนแต่ลืมเวลา จนถึงลืมคืนลืมวัน ชนิดที่ลืมตัวลืมตายไปเลยก็ได้

จนกระทั่งถึงวันเกิดเหตุ...

บ่ายแก่ๆ วันนั้นตรงกับวันเสาร์ ผมกับไอ้เม้งที่อยู่ห้องแถวริมคลองด้วยกัน ได้โอกาสแม่เผลอ เตี่ยไม่ทันเห็น...พากันชิ่งไปที่วัดจอมทองทันใด เพราะใจสั่นริกๆ อยากจะเล่นทอยกองกับพวกเด็กวัดเต็มแก่ พกหนังยางไปเต็มกระเป๋ากางเกง เดี๋ยวจะเอาไปร้อยข้อมือให้เป็นพวง อวดไอ้พวกเล่นเสียไงล่ะครับ

ครั้นถึงจุดหมาย ไอ้ป่อง ไอ้เขกับไอ้เอี้ยงกำลังเล่นกันครืนๆ อยู่ที่ซอกกำแพงข้างเก๋งจีนพอดี พวกเราห้าคนสนุกกันใหญ่ ลืมตาลืมเวลาไปจนหมดสิ้น...

เสียงลมพัดยอดไม้ดังซู่ซ่า หมาหอนโจ๋วเยือกเย็น แต่จะต้องไปสนใจทำไมล่ะในเมื่ออยู่กันเป็นโขยง จริงมั้ยครับ?

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะคิกๆ ก็ดังมาจากหลังเจดีย์ เล่นเอาพวกเราหันขวับไปมอง ไอ้เนี้ยวย่นคิ้ว ถามไอ้ป่องว่ามีเด็กที่ไหนมาเล่นแถวนี้? ไอ้ป่องก็ส่ายหน้าดิก ยืนยันว่าไม่มีหรอกโว้ย เด็กตัวเล็กๆ ที่ไหนจะมาเล่นที่เปลี่ยวๆ ตอนเย็นแบบนี้?

"เด็กผีละมั้ง?" ไอ้เขโพล่งแล้วหัวเราะชอบใจ เล่นเอาผมกระเดือกน้ำลายอึกเบ้อเร่อ เพราะได้ยินแล้วมันแสลงใจชอบกลครับ พับผ่าเถอะเอ้า!

แทบจะไม่ขาดคำไอ้เข เสียงหัวเราะของเด็กเล็กๆ หลายคนก็ประสานกันขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศเยือกเย็นและเงียบเชียบ พวกเราชะงักงันไปตามๆ กัน เกือบจะเป็นเวลาเดียวกับที่เสียง "จ๊ะเอ๋!" ดังมาจากหลังเจดีย์เก๋งจีน

คราวนี้หันขวับไปมองเป็นตาเดียวกัน...เห็นใบหน้าเล็กๆ ของเด็กกลุ่มหนึ่งทั้งชายและหญิงยื่นออกมามองพลางยิ้มทะเล้น ไอ้เอี้ยงร้องถามว่าพวกเอ็งมาจากไหนกันวะ? เด็กๆ พวกนั้นก็ยื่นหน้ามากขึ้น...แต่ไม่ยักเห็นร่างกายแม้แต่คนเดียว

ไม่ใช่ตาฝาด หรือเพราะเป็นเวลาโพล้เพล้ แต่ผมเห็นชัดเจนว่าเด็กๆ พวกนั้นมีแต่หัวทุกคน...เป็นพวกไม่มีร่างกาย...ก็ผีน่ะซี! แก้วหูผมลั่นเปรี๊ยะแต่ยังได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวายก่อนจะแตกฮือไปคนละทิศละทาง...เข็ดหลาบดงผีดุตั้งแต่นั้นมาเลยละครับ!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEV3TURZMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB4TUE9PQ==



Create Date : 10 มิถุนายน 2551
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 20:02:48 น.
Counter : 890 Pageviews.

0 comment
ห้องอุบาทว์
ห้องอุบาทว์

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"ลักษณ์ เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงแรมผีสิง

ว่ากันว่า คนดวงซวยจะต้องโดนผีหลอก ไม่ว่าจะหาทางหลบเลี่ยงแค่ไหนก็หนีไม่พ้นหรอกค่ะ วันดีคืนร้ายก็โดนตัวประหลาดโผล่เข้ามาเขย่าขวัญ เล่นเอาหัวใจเกือบหยุดเต้นหรือไม่ก็จับไข้แทบหัวโกร๋นไปตามๆ กัน

แหม! ลองคิดดูซิคะว่าพวกเราสาวๆ แส้ๆ ยังโสดสนิทกันทั้งนั้น ถ้าดันหัวโกร๋นจะพิลึกแค่ไหนล่ะ เจ้าประคุณรุนช่องขา...

อาชีพเซลส์แมนสาว...เอ๊ย! เซลส์สาวค่ะ พลอยติดมาจากคุณกฤษณะ ที่โผล่หน้าหล่อๆ มาเล่าข่าวตอนดึกที่ช่อง 3 น่ะซีคะ เรื่องเซลส์สาวถูกสมุนพระครูทำร้าย ทั้งตีทั้งยิงจนเธอต้องแกล้งทำตายจึงหนีรอดมาได้ กลายเป็นข่าวครึกโครมในเดือนพฤษภาคมไงคะ

คุณกฤษณะบอกว่า...วันเกิดเหตุเนี่ย...เซลส์แมนสาวคนนั้นเนี่ยนะฮะ...เข้าแจ้งความว่าถูกพระครูเนี่ยข่มขืนฮะ เท่านั้นเนี่ยยังไม่พอ พระครูเนี่ยยังส่งลูกน้องเนี่ยมาตามฆ่าเธออีกนะฮะ...เดชะบุญที่เธอรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดฮะ เนี่ย...นะฮะ...

โอ๊ย! สนุกสุดขีดอะไรยังงี้เนี่ย...คืนนั้นเนี่ย พวกเราขำกลิ้งกันตั้งแต่เจอลูกเล่น...เซลส์แมนสาว! แล้วละค่ะ เออ...หรือสาวประเภทสองปลอมเป็นเซลส์แมนละมั้งเนี่ย? ถึงได้เรียกว่าเซลส์แมนสาวนะฮะ! มุขเยอะมากเลยเนี่ย...นะฮะนะฮ้า เนี่ย...หัวเราะนะฮะเนี่ย...

ว่าแต่พวกเราเนี่ยทำไมนอนดึกจังละเจ้าคะ?

เซลส์แมน...ว้าย! เซลส์สาวเจ้าค่ะ ต้องยกโขยงออกต่างจังหวัดบ่อยๆ ประชุมสัมมนา อบรมน้องใหม่ ถือโอกาสแนะนำสินค้าไปด้วย กว่าจะได้กลับโรงแรมก็ดึกดื่น อาบน้ำอาบท่า ล้างหน้าที่โบ๊ะเครื่องสำอางเสร็จก็ได้ดูข่าวเขย่าเส้นก่อนนอน

ส่วนมากมาออกันในห้องเดียว 4-5 คน บริษัทเขาให้นอนห้องละ 2 คน แต่ดิฉันดันเป็นหัวหน้าเลยได้สิทธิ์นอนคนเดียว ไม่ใช่ว่าดีเด่อะไรนะคะ เพราะลูกน้องมันเล่าเรื่องผีกันอยู่ได้ ทั้งๆ ที่คนเล่ามันก็กลัวผี ไม่รู้จะกระแดะเล่าไปทำไมให้ขนลุกขนพองเปล่าๆ

คืนนั้นค่อยยังชั่วหน่อย คือคุยกันเรื่องกฎหมายที่จะออกต้นเดือนหน้า (มิถุนายน) ว่าให้สิทธิ์ผู้หญิงแต่งงานจดทะเบียนสมรสแล้ว ใช้คำว่า "นางสาวนำหน้าได้" รวมทั้งแม่ม่ายแม่ร้างก็ได้ทั้งนั้น ดูเหมือนจะมีพวกผู้หญิงเราสนใจกันมากๆ นะคะ ป่านนี้คงจะรู้ผลไปแล้วมั้ง?

ต่างคนต่างเม้าธ์กระจาย แสดงความเห็นน่ะซีคะ

เจ้าต่องบอกว่าดีๆ แม่ม่ายกลับมาใช้นางสาวจะได้ไม่มีใครมาถามสะเหร่อๆ ว่าสามีไม่ได้มาด้วยเหรอ? หรือคนตกงานจะไปหางานทำก็สะดวก เพราะใช้คำนำหน้าว่านางนั่นนางนี่ เขาไม่สนใจจะรับเข้าทำงานหรอก สู้นางสาวไม่ได้

เจ้าสวยค้านว่าไม่ชอบ หลอกตัวเองชัดๆ แหม! มีโผเห็นๆ ยังอยากใช้นางสาวให้คนเข้าใจผิดซะอีกแน่ะ! ต่างจิตต่างใจนะคะ แต่ที่ตรงกันเผงก็มีเจ้าค่ะ

เจ้าเพ็ญประกาศอุดมการณ์ว่า คุณขา...พวกหนูๆ ใช้นางสาวนำหน้ามาช้านานจนเบื่อหน่าย ไม่อยากอยู่บนคาน! ต้องการให้มีใครซักคนมาชวนให้หนูได้ใช้คำว่า "นาง" นำหน้าซะที เมื่อไหร่จะสมปรารถนาล่ะเจ้าคะ! ได้ฮากระจายไปตามๆ กัน แทงใจดำทุกคนซะไม่มีละ

มาเกิดเรื่องตรงที่ดิฉันจะกลับเข้าห้องนอนเดียวดาย เจ้าสวยดันมีเรื่องเล่าเขย่าขวัญว่าเมื่อตอนเย็นก่อนจะออกไปหาอะไรกินน่ะ ได้ยินผู้หญิงสองคนที่มาพักโรงแรมนี้ ถามพนักงานหนุ่มที่เคาน์เตอร์ว่า...โรงแรมนี้ผีดุหรือเปล่าฮ้า? เล่าเอาเจ้าสวยตะลึงไปเลย

"ไม่ใช่ตกใจเรื่องผีหรอกย่ะ" มันลอยหน้า "แต่เพราะหนุ่มที่ถูกถามน่ะ สูงสง่านัยน์ตาฝันเหมือนสเตฟานบวกฟิล์ม คูณชาคริต...ขอบอก! ผู้ชายห่...อะไรไม่รู้...หล่อซะ!!"

เสียงใครดังขึ้นว่า "อีบ้า" ก่อนจะถามถึงเรื่องผีว่ามีจริงหรือเปล่า?

"ไม่มีหรอกย่ะ" สวยทำตาเยิ้มเชียว "เฮ้อ...เสียดายจัง อยากให้มีว่ะ จะได้ขอร้องให้สุดหล่อช่วยมาเฝ้าข้างเตียงหน่อย ซักครึ่งคืนก็ยังดี"

เสียงโห่ฮาดังขรมแต่ดิฉันไม่สนใจ ขอตัวกลับเข้าห้องที่อยู่ติดๆ กัน ลูกน้องแสบๆ ยังแซวตามหลังมาว่า...พี่มานอนรวมกับพวกหนูก็ได้ หรือจะลงไปดูหน้าหล่อๆ ล่ะคะ?

ต้องหันไปทำเสียงดุว่า...น้อยๆ หน่อยย่ะ พวกเซลส์แมนสาว! มันฮากันตรึมเลยค่ะ

ดิฉันสวดมนต์ ไหว้เจ้าที่เจ้าทางแล้วดับไฟนอน...ราวตีสามก็ได้ยินเสียงทุบประตูโครมๆ จนนึกว่าไฟไหม้...ครั้นเปิดออกไปก็เจอเจ้าเพ็ญกับเจ้าสวยวิ่งถลาเข้ามาหอบฮั่กๆ หน้าตาทั้งตื่นทั้งซีดเซียว...ปรากฏว่าโดนผีหลอกมาหยกๆ

แย่งกันเล่าว่ากำลังจะเคลิ้มก็ได้ยินเสียงลมพัดอู้ๆ เข้ามาในห้อง ลมบ้าที่ไหนจะพัดเข้าห้องแอร์ ไม่ช้าก็มีเสียงใครร้องเพลงหงิงๆ อยู่ในห้องน้ำ เล่นเอาลุกพรวดขึ้นทั้งสองคนเปิดไฟหัวเตียงแล้วหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก ครั้นหันไปอีกทีก็เห็นผู้หญิงแปลกหน้าเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ...ตาดำปี๋ ปากอ้ากว้างจนเป็นโพรงดำมืด...แว่!!

วิ่งไปร้องไปมาหาดิฉัน คืนนั้นเลยต้องนอนเบียดกันสามคน ขนหัวลุกจริงๆ ค่ะ!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3lNREE1TURZMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB3T1E9PQ==



Create Date : 09 มิถุนายน 2551
Last Update : 9 มิถุนายน 2551 20:45:20 น.
Counter : 638 Pageviews.

0 comment
ไปสู่หนไหน?
ไปสู่หนไหน?

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"ดารกา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปฟังสวดศพ

ญาติมิตรหลายๆ คนของดิฉันพูดตรงกันว่าไม่ชอบไปงานศพ อย่างฝังจิตฝังใจ...จะเป็นงานสวดศพ เผาศพ หรือแม้แต่ทำบุญ 7 วัน 100 วันก็ไม่อยากไปร่วมด้วยทั้งนั้น ส่วนมากมีเหตุผลว่า กลัวจะเคราะห์ร้ายเพราะดวงชงกับผู้ตาย

บางคนยืนยันว่าไม่ใช่เป็นความเชื่อเลื่อนลอย เพราะไปงานศพทีไรมักจะเกิดเหตุทีนั้น ไม่เกิดกับตัวเองก็กับคนในครอบครัวแทบทุกครั้งไป

ตั้งแต่รถชนกัน ลูกเจ็บป่วย โดนหมากัด จนถึงหมาตัวเองออกไปกัดคนนอกบ้านต้องเสียค่าทำขวัญบ้าง จ่ายตามบิลของโรงพยาบาลบ้าง...ล่าสุดญาติที่เพิ่งกลับจากฟังสวดศพหยกๆ ต้องพาคนข้างบ้านที่ถูกหมาตัวเองกัดไปหาหมอที่ร.พ.เอกชน เสียค่าตรวจรักษา ฉีดยากันบาดทะยัก 1 เข็มเป็นเงินถึง 1,550 บาท

เคยซื้อลอตเตอรี่ที่เขาเร่ขายในวัดก็ไม่เคยถูกแม้แต่เลขท้ายสองตัวสักครั้ง

บางคนสารภาพว่าไม่ใช่เพราะหวาดหวั่นเรื่องดวงจะชงหรือไม่ชง แต่ไม่ชอบไปงานศพเพราะกลัวผีหลอกต่างหาก!

เพื่อนคนหนึ่งเล่าว่าไปงานศพญาติที่ตายเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ระหว่างที่นั่งฟังพระสวดอภิธรรมเสียงเยือกเย็นอยู่นั้น บังเอิญเหลือบไปเห็นภาพถ่ายของผู้ตายที่ตั้งเด่นอยู่หน้าโลง...จะเป็นเพราะแสงไฟสะท้อนหรือตาฝาดไปเองก็ไม่ทราบ แต่เธอยืนยันว่าเห็นญาติจ้องมองและยิ้มเศร้าๆ จนแทบจะกรีดร้องลั่นศาลา

สำหรับดิฉันเองกลับตรงกันข้ามค่ะ

ใครแจกการ์ดงานแต่งงานหรืองานวันเกิด จะไปงานหรือไม่ก็แล้วแต่สะดวก ถ้าไม่สนิทกันมาก หรือไกลเกินไปสำหรับคนที่วัยใกล้เกษียณอย่างดิฉันก็จะไม่ไป แต่ฝากซองไปช่วยงานบ้าง ส่งจดหมายอวยพรและเช็คของขวัญทางไปรษณีย์บ้าง แล้วแต่ความเหมาะสม

ตรงข้าม ถ้าเป็นงานศพญาติมิตรดิฉันจะต้องไปร่วมงานทุกครั้ง ถือว่าเป็นการล่ำลากันครั้งสุดท้าย ขออโหสิกรรมต่อกัน ถ้ารู้ข่าวจะไปร่วมด้วยทันทีค่ะ

นับวันชีวิตเราก็ก้าวไปสู่เงื้อมมือมัจจุราช...ใกล้เข้าไปทุกทีแล้ว แม้ชีวิตนี้จะเป็นที่รักของตนแค่ไหน แต่วันหนึ่งไม่ช้าก็เร็ว ก็ต้องลงไปนอนพนมมืออยู่ในโลงศพ...ร่างกายที่ไร้ลมหายใจรอให้เขานำไปเผาหรือฝัง

วิญญาณจะมีจริงหรือไม่? ตายแล้วจะไปไหนก็ไม่มีโอกาสรู้ได้เลย!

ไม่ใช่ว่าเพิ่งมารู้ตัวว่าวันหนึ่งต้องตายเพราะไปงานศพหรอกค่ะ แต่ชีวิตคนเราล้วนแต่มีภาระวุ่นวายยุ่งเหยิง ไม่มากก็น้อยด้วยกันทั้งนั้น หลายๆ ครั้งก็วุ่นเสียจนลืมความตายของตัวเองเสียสนิท...มางานศพเมื่อไหร่ก็ได้ทอดถอนใจ ปลงสังเวชชีวิตของคนเราเสียที

ร่างที่นอนหงายหลับตา ยื่นมือให้รดน้ำคล้ายจะบอกกล่าวว่า เคยกระเสือกกระสนไขว่คว้ามาสารพัดชีวิต ทั้งเหน็ดเหนื่อยยากเข็ญ แม้แต่ทรยศคดโกง เอารัดเอาเปรียบหรือเคยเบียดเบียนใครมา แต่เดี๋ยวนี้จบสิ้น...ได้พักผ่อนนอนหลับไปตลอดกาล

มือที่เคยกำแน่นเมื่อแรกเกิด บ่งบอกว่าจะกำเกร็งสรรพสิ่งมาชั่วชีวิต ก็แบออกให้เห็นทั่วกันว่าไม่ได้นำสิ่งใดติดไปโลกหน้าแม้แต่สิ่งเดียว!

งานศพล้วนแต่ทำให้ได้แง่คิดและมุมมองดีๆ สำหรับชีวิตเสมอมา...

จนกระทั่งถึงงานสวดศพครั้งล่าสุด หัวหน้ากองชื่อคุณทนงเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับก่อนจะเกษียณราว 3 ปี รุ่นราวคราวเดียวกับดิฉัน แต่หัวหน้ากองเคยเล่าว่าตัวเองใช้ชีวิตสิ้นเปลืองมาตั้งแต่สมัยหนุ่ม หรือเสเพลทั้งเหล้า บุหรี่ เรียกว่าสุรา นารี พาชี กีฬาบัตร ครบเครื่อง ไม่รู้ว่ารอดมาจนถึงห้าสิบกว่าๆ ได้ยังไง?

พวกรุ่นน้องๆ ในที่ทำงานเคยเล่าว่า หัวหน้าเป็นทั้งโรคเบาหวาน ตับแข็ง ความดันเลือดสูง ไทรอยด์อักเสบ ระยะหลังๆ มีอาการหลงๆ ลืมๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นอัลไซเมอร์ แม้ว่าจะเลิกเหล้าและบุหรี่มาหลายปีแล้ว แต่พิษร้ายก็สะสมอยู่ร่างกายเพียบแปล้

ยกเว้นเรื่องนี้แล้ว หัวหน้าทนงถือว่าเป็นเจ้านายที่ลูกน้องรักมาก สวดศพวันแรกก็มีแขกแน่นจนล้นศาลา ดิฉันไปเร็วจึงได้ที่นั่งด้านในแถวกลางๆ มองดูพวงหรีดทยอยกันมาไม่หยุด ท่ามกลางกลิ่นธูปอวลกรุ่น

ขณะที่พระสวดอภิธรรมอยู่นั้น ผู้หญิงสูงวัยที่นั่งพนมมืออยู่ข้างๆ ดิฉันก็พูดขึ้นว่า...ขอบใจนะที่อุตส่าห์มางานผม! เล่นเอาดิฉันหันขวับไปพบเธอที่กำลังจ้องมองดิฉันเช่นกัน

"ผมเอง...ทนงไงล่ะ? ขอบคุณนะที่มางานศพผม!"

ผู้หญิงร่างท้วมคนนั้นอ้าปากค้าง หน้าซีดเผือด ดิฉันเองก็คงไม่แตกต่างกันขณะที่หันขวับไปทางโลงศพที่ตั้งเด่นอยู่เบื้องหน้า คุณทนงในภาพถ่ายยิ้มเศร้าๆ ดูเหมือนจะพยักหน้านิดๆ เป็นการอำลา ในบรรยากาศที่เยือกเย็นจนขนลุกซ่าไปทั้งตัว

ก่อนจะกลับ ขณะที่ยกมือไหว้โลงศพนั้น ดิฉันอดนึกไม่ได้ว่า...ถ้าวันหนึ่งตัวเองถึงเวลาไปนอนในนั้น จะมีโอกาสได้มาขอบอกขอบใจแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเราหรือเปล่าหนอ?

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEEyTURZMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB3Tmc9PQ==



Create Date : 06 มิถุนายน 2551
Last Update : 6 มิถุนายน 2551 21:54:10 น.
Counter : 600 Pageviews.

0 comment
มอเตอร์ไซค์สยอง
มอเตอร์ไซค์สยอง

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"ชูชีพ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้วยขวาง

ใครว่าคนไม่กลัวผีมักจะไม่โดนผีหลอก! แหม...ผมคนหนึ่งล่ะครับที่ขอค้านว่าไม่จริงเสมอไป ถ้าไม่เจอะเจอกับตัวเองคงไม่กล้าพูด แต่ผมขอยืนยันจริงๆ เอ้า ว่าคนที่ไม่กลัวผีอย่างผมนี่แหละที่โดนผีหลอกมาอานไปเลย!

ไม่รู้ว่าพวกภูตผีปีศาจมันจะจองล้างจองผลาญอะไรผมนักหนา ตั้งแต่เด็กยันโตเป็นหนุ่มอายุอานามเลยเบญจเพสมาหลายปีนี่ ผมโดนผีหลอกหลอนไม่รู้ว่ากี่หนต่อกี่หน

คิดอีกที พวกผีสางอีนางโกงมันอาจจะเกิดความพิศวาสผมเป็นพิเศษก็ได้มั้ง? ถึงได้ขยันมาหลอกหลอนซะจริง ตรงข้ามกับไอ้แจ้วเพื่อนผมที่คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ บ้านใกล้กัน โตขึ้นก็ทำงานบริษัทใกล้ๆ กันแถวสะพานควาย...ไอ้นี่มีนิสัยแปลกอย่างตรงที่...ขึ้นชื่อว่าคนแล้วไม่มีกลัว แต่กลัวผีจับจิตจับใจตั้งแต่เด็กจนโตแล้วยังสังกัดบริษัทปอดอ้า-ตาแหกไม่เลิกรา

มันให้เหตุผลกับผมว่า

"คนเราสองมือสองตีนเหมือนกันกูจะไปกลัวทำไม? แต่ขึ้นชื่อว่าผีแล้ว...โธ่! ขนาดนึกถึงกูยังขนลุก มึงคิดดูซีวะว่ามันจะมีกี่มือกี่ตีนก็ไม่รู้ แถมหายตัวได้อีกต่างหาก! พอโผล่มาแบบตากลวงโบ๋ หัวเราะแหบโหย จะเอาอะไรไปสู้กับมันวะ?"

ทั้งๆ ที่กลัวผีสุดขีด แต่ไอ้แจ้วไม่เคยโดนผีหลอกสักครั้งเดียว!

แต่ไอ้แจ้วคนกลัวผี กับผมผู้ไม่หวั่นเกรงภูตผีต้องมาโดนผีหลอกพร้อมๆ กัน...ขนาดว่าไม่กลัวๆ ผมยังต้องยอมรับว่ารายการนี้มันหลอนสุดขีดคลั่งจริงๆ เอ้า! นึกถึงผีที่เคยมาหลอกหลอนผมในอดีตน่ะ กลายเป็นผีเด็กๆ ไปเลย

เรื่องเป็นยังงี้ครับ!

บ้านเราอยู่ในซอยขวามือของถนนสุทธิสาร จากสะพานควายตรงลิ่วข้ามถนนวิภาวดีฯ ไปหน่อยเดียวก็เลี้ยวขวาเข้าถนนซอย...เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา...เอาเป็นว่าไปทะลุออกข้างโรงนวดโพไซดอน ถนนรัชดา ภิเษกได้ก็แล้วกัน

ย่านนั้นมีตึกรามบ้านเรือน ร้านค้าและอู่รถแท็กซี่ ผู้คนคึ่กๆ ตลอดวันกับครึ่งคืน บ้านผมกับไอ้แจ้วอยู่ช่วงกลางๆ อาศัยมอเตอร์ไซค์ในย่านนั้นเข้าออกมาหลายปี จนรู้จักมักคุ้นกันดีหลายคน บางเย็นก็ตั้งวงกันที่ "วิน" กลางทางนั่นแหละ ผลัดกันเป็นเจ้ามือ ไม่ว่าเหล้าหรือเบียร์ก็ซื้อที่ร้านตรงข้ามได้เลย

พูดถึงวินหรือที่พักก็มีทำเลเหมาะเจาะได้การ!

แคร่ไม้ไผ่เก่าๆ อยู่ตรงหัวมุมทางแยกพอดี ต้นมะขามเฒ่าจากที่ดินว่างๆ ด้านหลังร่มครึ้ม แต่ยังหาสังกะสีเก่าๆ มามุงกันแดดกันฝน ตอนกลางวันคนน้อยก็จอดรถคุยกัน ตกเย็นค่ำก็วิ่งรถแทบไม่ได้หยุด ราว 2-3 ทุ่มก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

ถึงผมกับไอ้แจ้วจะทำงานใกล้ๆ กัน แต่ก็ไม่ได้ไปกลับพร้อมกันทุกวันหรอกครับ บางวันเราก็มีนัดกับเพื่อนฝูงที่อื่นมั่ง นัดสาวมั่ง นานๆ ก็เกิดจ๊ะเอ๋กลับบ้านพร้อมกัน หามอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายกลับบ้านคนละคัน

บางทีตอนเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ เราติดต่อกันทางมือถือ ออกมาเดินดูสาวตามร้านสะดวกซื้อ ร้านเสริมสวย บางทีก็โต๋เต๋ไปที่วิน...เล่นหมากฮอสมั่ง สั่งเหล้ามาซดกันมั่ง

น้าชื้น ลุงต่อม พี่เพิก ไอ้เดีย...นักบิดอาชีพพวกนี้ล้วนแต่ชอบพอกับเราทั้งนั้น เห็นหน้าก็พยักหงึก โดดซ้อนท้ายได้เลย เงินทองไม่ต้องพูดถึง แต่ผมกับไอ้แจ้วก็หาทางตอบแทนด้วยการหิ้วเหล้าไปฝาก ถือว่ามิตรจิตมิตรใจไงครับ

วันเกิดเหตุตรงกับวันศุกร์ ฟ้าครึ้มฝนเชียว ตอนผมเลิกงานมาเจอไอ้แจ้วพอดี รถราไม่ว่างสักคัน เลยชวนกันเข้าไปซดเหล้าในร้านลาบ...ฝนเทจั้กๆ ลงมาเหมือนฟ้ารั่ว เคราะห์ดีที่ไม่เข้าบ้านเพราะมีหวังเปียกโชกกลางทาง...จนกระทั่งผ่านไปเกือบสองแบนฝนถึงได้ขาดเม็ด

โชคดีเหลือเชื่อที่เห็นลุงต่อมรถว่างๆ กำลังจะเลี้ยวกลับ ไอ้แจ้วกับผมรีบเข้าซ้อนท้ายสองคน ลุงต่อมบอกว่าทนเอาหน่อยแล้วกันเพราะไม่เหลือคันอื่นแล้ว ถ้าขืนรอก็ต้องเสียเงินค่าตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่

ผมเพิ่งนึกได้ตอนนั้นเองว่าเราไม่ได้สวมหมวกกันน็อกทั้ง 3 คน!

ปกติก็ไม่ได้สวมกันอยู่แล้ว รถมอเตอร์ไซค์ในตรอกซอยน่ะ ตามถนนใหญ่ก็เห็นบ่อยๆ บางคันที่สาวนั่งซ้อนท้ายเกาะเอวหนุ่ม เด็กๆ กอดเอวพ่อแน่น...ทำไมตำรวจไม่จับก็ไม่รู้? แต่ฝนตกถนนลื่นแบบนี้อดเสียวไส้ไม่ได้หรอกครับ ลุงต่อมแกอายุมากแล้วก็จริง แต่ยังชอบซิ่งไม่แพ้หนุ่มๆ โชคดีที่ไม่เกิดเหตุน่าหวาดเสียว ส่งเราถึงบ้านจนเรียบร้อย

รุ่งขึ้นผมนอนตื่นสายตะวันโด่ง ไอ้แจ้วซีครับที่โทร.มาปลุก บอกข่าวร้ายว่าลุงต่อมรถคว่ำตายเมื่อคืนนี้เอง ผมเด้งผางจากที่นอน หลุดปากว่า...โธ่! เพราะแกมาส่งเราแท้ๆ แต่ไอ้แจ้วพูดเสียงสั่นๆ ว่า ลุงต่อมโดนรถแท็กซี่ชนคอหักตายตั้งแต่ตอนฝนตกหนักเมื่อหัวค่ำแล้ว!

ผมเผ่นไปหาเพื่อนที่บ้านก็เจอมันนั่งรอหน้าตาซีดเซียว...พอรู้แน่ว่าผีลุงต่อมมาส่งเราจริงๆ เล่นเอาผมหวิดจับไข้...ขนหัวลุกอยู่ตั้งหลายวันแน่ะครับ! บรื๋อออ...

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEExTURZMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB3TlE9PQ==



Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 20:46:54 น.
Counter : 706 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend