เงือกสาวที่แม่ปิง
เงือกสาวที่แม่ปิง
คอลัมน์ ขุนหัวลุก
"คนเมือง" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากดอยเต่า
เรื่องผีดุนี่ผมเคยได้ยินเขาโอ้อวดกันมานานแล้วละครับ ว่าวัดใกล้บ้านตัวเองมีภูตผีดุร้ายสาหัสกว่าวัดอื่นๆ หรือไม่ก็ที่ถนนหน้าบ้านมั่ง ซอยบ้านมั่ง ผีดุฉกาจฉกรรจ์ยิ่งกว่าถนนอื่นหรือซอยอื่นตั้งหลายเท่า
ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมถือโอกาสคุยซะเลย แม่น้ำปิงผีดุสุดยอด...สาเหตุเพราะไหลผ่านป่าดง ขุนเขาลำเนาไม้ มาจนถึงบ้านเมืองน้อยใหญ่ กลายมาเป็นแม่น้ำเจ้าพระยานั่นปะไร
ผมเคยเล่าเรื่องนักท่องเที่ยววัยชรามายืนชมวิวที่ชายหาดดอยเต่า ทั้งๆ ที่เจ้าตัวยังช็อกเพราะโรคหัวใจกำเริบในแพโน่นแน่ะ...พอเห็นเขานำตัวจากแพไปขึ้นรถพยาบาลถึงได้รู้ว่าสิ่งที่ผมเห็นน่ะเป็นเจตภูตคนเป็นเท่านั้นเอง...ได้ข่าวว่าแกรอดตาย แต่เล่นเอาขนหัวลุกละครับ
ลำน้ำปิงไม่ได้มีแต่ภูตผีปีศาจเท่านั้น แต่มีเงือกสิงสู่อยู่อีกต่างหาก!
ไม่ใช่เรื่องเล่าขานเลื่อนลอยนะครับ แต่มีคนเห็นหลายราย ที่น่าแปลกคือเป็นเงือกสาว ไม่ใช่เงือกแก่ อาจจะเป็นเพราะวงจรชีวิตไม่ยืนยาวก็เป็นได้?
เดี๋ยว! อาจจะมีผู้คัดค้านว่าเงือกไม่ใช่ผีนี่นา!! แต่ว่าจัดอยู่ในประเภท "อมนุษย์" ตัวเป็นคน หางเป็นปลา อาศัยอยู่ในถ้ำหรือ "วัง" ลี้ลับจนเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆ ท่านๆ จะด้นดั้นไปถึง แต่ถ้าจู่ๆ ใครเห็นเงือกโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำก็คงตกใจไม่ต่างกับโดนผีหลอก เผลอๆ ก็แทบจะหัวใจล่มสลายได้ง่ายๆ
คนดอยเต่าเคยเห็นเงือกมาเล่นน้ำตอนเช้ามืดบ้าง ตอนโพล้เพล้บ้าง บางคนเล่าว่าตอนแรกๆ ก็นึกว่าผู้หญิงมาอาบน้ำเล่นน้ำ แต่ที่ไหนได้ พอดำผลุบก็มีหางปลาโผล่ขึ้นมา! เล่นเอาหงายตึง ก้นจ้ำเบ้าไปเลย
เจ้าแก้วเพื่อนผมออกไปหาปลากับพ่อตอนกลางคืนเจอเงือกเข้าเต็มเปา!
คืนนั้นเดือนหงายสรรพสิ่งเงียบเชียบ มีแต่สายลมพัดวู่หวิวไปตามท้องน้ำกับดงไม้ชายฝั่ง จู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงดังแว่วมากระทบหูคล้ายจะร้องเพลง แต่ฟังไม่ออกว่าเป็นภาษาอะไรแน่ เจ้าแก้วเหลียวซ้ายแลขวา แต่พ่อมันจุ๊ปากเป็นสัญญาณให้เงียบๆ ไว้ก่อน
ทันใดนั้นเอง เจ้าแก้วก็เหลือบไปเห็นร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง นั่งเงยหน้าอยู่บนชะง่อนหิน ใบหน้ากับทรวงอกเต่งตึงโดดเด่นอยู่ในแสงจันทร์ที่เจ้าหล่อนกำลังเพลินมอง...ดูเผินๆ ก็ไม่ต่างกับคนทั่วๆ ไป แต่ท่อนล่างของหล่อนเป็นปลา!!
"เงือก! เจ้าแก้วหลุดปากอย่างลืมตัว ใบหน้านั้นหันขวับมามองอย่างตกใจ ก่อนจะพุ่งพรวดลงน้ำท่วมกลางความตกตะลึงของสองพ่อลูก เจ้าแก้วเล่าว่าพ่อของมันพร่ำแต่ว่า...เงือก! เงือกจริงๆ กูนึกว่าพ่ออุ้ยแม่อุ้ยเล่านิทานให้ฟังซะอีก โอย...ทีนี้กูเชื่อแล้วว่ามีเงือกอยู่จริงๆ
ชาวเรือชาวแพก็เคยเห็นเงือกหลายคน แต่ที่น่ากลัวสุดๆ คือรายพี่อินแปง คนจอมทองที่มาหากินเป็นลูกจ้างชาวแพโดยสารประจำแม่ปิง
คืนนั้นเดือนเต็มดวง ลำน้ำและราวป่าอาบแสงจันทร์ขาวโพลน...
เรือยนต์ลากแพออกจากเหนือเขื่อนภูมิพลตอนเช้า ผ่านถ้ำโยคีผาแดงและพระธาตุแก่งสร้อย...จนเลยครึ่งคืนจึงได้หยุดพัก ผู้โดยสารหลับนอนเรียงรายกันเกือบหมดแล้ว ไฟดับมืดยกเว้นตอนท้ายแพ...อินแปงก็เตรียมจะนอนเอาแรงเพราะต้องตื่นก่อนไก่โห่เพื่อทำงาน
ขณะนั้นเอง เหมือนมีอะไรดลใจให้มองไปทางท้ายแพ!
สาวร่างเล็กนั่งห้อยขาอยู่ที่นั่น เงยหน้ามองดวงจันทร์ที่ลอยอ้างว้างอยู่กลางหาว พลางเอียงหน้าสางผมยาวสยายถึงกลางหลังเปล่าเปลือย...
อินแปงยืนตัวชาดิกอยู่กับที่ ท่อนขาหนักอึ้งจนไม่อาจขยับเขยื้อน ปากคอแห้งผากแทบจะเป็นผุยผง นัยน์ตาเบิกโพลงจ้องมองดูร่างเล็กๆ แต่สมส่วนขาวโพลนอยู่ในแสงจันทร์ท่ามกลางเสียงลมพัดวู่หวิวมาตามยอดไม้ ฟังคล้ายเสียงใครกระซิบกระซาบความลับต่อกันจนชวนให้วังเวงใจสิ้นดี
...จากแสงสว่างขาวนวลนั่นเองที่ทำให้อินแปงมองเห็นหวีในมือของเธอได้ชัดเจน...มันคือก้างปลาขาวๆ ที่สาวประหลาดใช้ต่างหวี!
ราวกับมีอะไรดลใจ...ทำให้หญิงสาวที่กำลังนั่งชมจันทร์พลางสางผมอย่างเพลิดเพลินหยุดชะงัก ชั่วขณะนั้นเหมือนโลกหยุดหมุน เธอค่อยๆ เบือนหน้ามาทางอินแปงอย่างเชื่องช้า...หันมา...หันมาจนเห็นเสี้ยวหน้าที่มีขนอุยสีขาวค่อนข้างยาว...จนกระทั่งหันมาสบตากัน!
ใบหน้าเล็กๆ ค่อนข้างกลมเหมือนงบน้ำอ้อย ปากแดงสด แต่นัยน์ตากลมโตดำขลับคล้ายก้อนหินใสๆ พริบตานั้นเอง เธอก็ทิ้งตัวลงน้ำหายลับไป อินแปงร้องสุดเสียงก่อนล้มฟาดลงสลบคาที่
พี่อินแปงฟื้นขึ้นมาก็อำลาอาชีพชาวแพเด็ดขาด บอกผมว่า...ถ้ายังทู่ซี้ทำงานต่อไป คืนไหนตื่นขึ้นมาเห็นเงือกสาวนอนยิ้มอยู่ข้างกายที่ท้ายแพ มีหวังขาดใจตายคาที่จริงๆ เอ้า!
//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hOekF5TURVMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOUzB3TWc9PQ==