สองพ่อลูก

สองพ่อลูก

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"เอ็ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากดินแดง

พวกเราได้ข่าวว่าลุงเลิศตายแล้ว...ตายตามพี่โจ้-ลูกชายคนเดียวที่ไปสู่ปรโลก ก่อนหน้านั้นราว 3-4 เดือน หลายๆ คนก็เชื่อกันว่า พี่โจ้มารับพ่อไปสู่ปรโลกเหมือนจะเป็นการขอลุกะโทษที่เคยก่อกรรมทำเข็ญให้ บุพการี!

สมัยหนุ่ม พวกเราอยู่แถวหลังโบสถ์แม่พระ ดินแดงมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ พี่โจ้เรียนทางช่างยนต์มาราว 3-4 ปีแล้ว ผมกับเพื่อนๆ ยังเรียน ม.ปลายกันทั้งนั้น พี่โจ้คบเพื่อนมากมายนับไม่ถ้วน บางทีเพื่อนเอารถมารับ บางทีตอนค่ำๆ ก็ออกไปหาเพื่อน กว่าจะกลับก็ดึกดื่น...ขนาดบ้านผมอยู่ถัดไปสองหลังยังได้ยินหมาเห่าเกรียว กราว

ลุงเลิศเพิ่งจะเกษียณอายุราชการ ส่วนป้ายงค์ทำงานรัฐวิสาหกิจก็ใกล้เกษียณเต็มที ทั้งคู่มีลูกชายคนเดียวเท่านั้น เพื่อนบ้านบางคนบอกว่าเพราะมีลูกโทนจึงตามใจจนลูกเสียคน!

พี่โจ้ไปเรียนมั่งไม่ไปมั่ง บางวันก็มีเพื่อนมาหา...มากินเหล้ากันที่บ้านนั่นแหละ! กว่าจะกลับก็เกือบสองยาม บางวันยังออกไปต่อกับเพื่อนอีก คราวนี้ถ้าไม่กลับตอนเช้าก็จะหายไปเกือบตลอดวัน

ป้ายงค์เคยปรับทุกข์กับแม่ผมว่า พี่โจ้ยืนยันว่าไม่ได้ติดเหล้า แต่วันไหนไม่ได้กินจะหงุดหงิด อย่างดีก็เว้นไป 2-3 วันแล้วก็หันเข้าหาเหล้าหรือเบียร์

"พี่ไม่อยากให้มันไปเมาที่อื่น เดี๋ยวจะมีเรื่องมีราว แต่พาเพื่อนมากินที่บ้านก็เฮๆ กันจนไม่เป็นอันหลับอันนอน นี่ขนาดเรียนหนังสืออยู่นะ ยังหาเงินทองด้วยลำแข้งตัวเองไม่ได้! ถ้าทำงานแล้วจะขนาดไหน? พ่อเขาก็เจ็บไข้สารพัดโรค ไม่รู้ว่าจะได้เห็นผ้าเหลืองลูกหรือเปล่า"

แม่ผมก็ปลอบใจป้ายงค์ไปเท่าที่จะนึกได้ บางวันผมเล่นแบดกับเพื่อนๆ ในซอย ลุงเลิศก็กวักมือเรียกเข้าไปนั่งคุยที่โต๊ะหินในรั้วบ้าน...ผมถามถึงพี่โจ้ ก็ได้รับคำตอบว่าเพิ่งโทร.มาว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ต้องเป็นห่วง!

"พ่อแม่ที่ไหนจะไม่ห่วงลูก" ลุงเลิศถอนใจยืดยาว ใบหน้าขาวซีดด้วยโรคประจำตัวเท่าที่รู้คือหลอดเลือดหัวใจตีบกับตับอักเสบ ติดเชื้อไวรัสบีมาสิบกว่าปีแล้ว

"ทำไมลุงไม่ห้ามพี่โจ้เรื่องกินเหล้าล่ะ?" เจ้าป๋อถาม ลุงเลิศก็ถอนใจอีกครั้ง

"ลุงเองก็เคยกินเหล้าหนักมาก่อน ทั้งเหล้าทั้งบุหรี่ครบเครื่อง เจ้าโจ้มันก็เห็นมาจนโตเพราะลุงเพิ่งเลิกมาไม่กี่ปีนี่เอง...แล้วจะไปสอนมัน ยังไง? ได้แต่ขอร้องเรื่องบุหรี่ ต้องออกตัวว่าพ่อพลาดไปแล้วก็ไม่อยากเห็นลูกซ้ำรอย กินเหล้าไม่มากไม่เป็นไร แต่อย่าริสูบบุหรี่เลย"

พวกเราได้แต่นิ่งฟัง ลุงเลิศตักเตือนว่าไม่จำเป็นอย่าดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ขอให้ดูแกเป็นตัวอย่าง... โรคร้ายรุมเร้าสารพัดก็เพราะความประมาทตั้งแต่วัยหนุ่ม ไม่นึกว่ามันจะสะสมมาเล่นงานสาหัสเอาในตอนแก่ตัว

"ลูกตัวเองน่ะลุงจนปัญญาจริงๆ ของพวกนี้อย่าไปริทดลองเข้าเพราะมันติดได้ง่ายๆ ลุงทำใจแล้วว่าโจ้มันจะติดเหล้าติดบุหรี่ก็ยังดี ขออย่าได้ติดยาเสพติดเลย ติดเข้าไปแล้วก็ถอนตัวไม่ขึ้นทั้งนั้น...ใครติดยาก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น!"

ต่อมา สังเกตว่าพี่โจ้ดูผ่ายผอมทรุดโทรมลงทุกที ผมยาวรุงรัง หน้าตาหมองคล้ำ เสื้อผ้าสกปรกจนมีกลิ่นสาบสาง...มักจะหายหน้าไปบ่อยๆ กลับมาก็ทะเลาะกับพ่อแม่เสียงดังออกมานอกบ้าน...รีดไถเอาเงินไปเสพยา!

เจ้าป๋อเล่าให้ผมฟังว่าได้ยินลุงเลิศคร่ำครวญ...พ่อแม่ไม่อยากเผาลูกตัวเอง!

เขาว่าคำพูดของพ่อแม่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด...อีกราวเดือนเศษพี่โจ้ก็ตายคาห้องเพราะเสพยามากเกินไปจนร่างกายที่อ่อนแออยู่แล้วรับไม่ไหว

ตั้งแต่รู้จักกันมา ผมก็เพิ่งเคยเห็นน้ำตาลุงเลิศเป็นครั้งแรกวันเผาลูกชาย แกไม่พูดจากับใครเลย นั่งเหม่อลอย นัยน์ตาแดงช้ำ...ตอนที่ลงจากเมรุก็เป็นลมล้มกลิ้งลงมาถึงพื้นท่ามกลางเสียง หวีดร้องของผู้คน...กลายเป็นคนเงียบเชียบ ซึมเศร้าเหมือนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

ป้ายงค์เข้มแข็งที่สุด ลาออกจากงานมาดูแลคู่ชีวิตอย่างใกล้ชิด...พวกเราแวะไปเยี่ยมบ่อยครั้ง บางทีก็คุยกับป้ายงค์ที่ระเบียงหน้าบ้าน เจ้าป๋อเล่าว่ามันเคยไปกับแม่ก็ได้ยินเสียงลุงเลิศดังแว่วมาจากห้องชั้น ล่างอย่างถนัดหู

"เป็นไงลูก...สบายดีหรือเปล่า? อยากกินอะไรก็บอกพ่อ จะได้ให้แม่เขาทำส่งไปให้กิน...ไม่ช้าพ่อก็จะตามไปอยู่ด้วยแล้ว..."

คืนหนึ่ง ฝนตกพรำมาตั้งแต่เย็นจนถึงสามทุ่มเศษ มีคนเห็นผู้ชายรูปร่างผ่ายผอมเดินเข้าไปในบ้านลุงเลิศ...ไม่ช้าก็มีชายสองคน เดินคู่กันออกมาช้าๆ เหมือนเจตภูตที่ล่องลอยอยู่ในความอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว...หมาในซอยโก่งคอหอน รับกันเป็นทอดๆ ด้วยเสียงโหยหวน เย็นยะเยือกเข้าไปถึงหัวใจของทุกคนที่ได้ยิน...

วันรุ่งขึ้นก็ ได้ข่าวว่าลุงเลิศสิ้นลมหายใจเสียแล้ว...ผมได้แต่หวังว่าสองพ่อลูกคงจะหมด ทุกข์หมดโศก...ได้พักผ่อนอย่างสงบสุขไปตลอดกาลนาน!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEkwTURZMU1RPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOaTB5TkE9PQ==

Create Date : 24 มิถุนายน 2551 Last Update : 24 มิถุนายน 2551 20:44:33 น. Counter : 651 Pageviews.		0 comments
Share Tweet