เรื่องสนุก-ทุกสัปดาห์ "พบกันบนรถทัวร์"
"อ้าว. ไปคันเดียวกันเหรอ นั่งติดกันอีก โอ้โชคดีอะไรอย่างนี้" ชายกลางคนสวมกางเกงยีนส์เสื้อยืดสีมอๆ รองเท้าผ้าใบ ใส่แจ็กเกตทับ วางกระเป๋าผ้าใบเล็ก ๆ ที่พื้น ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ชิดกระจกกลาง ๆ ของรถทัวร์ "ผมก็ดีใจครับ ของผมนั่งด้านนี้" ชายหนุ่มผมเรียบวัยอ่อนกว่า สวมเสื้อเชิร์ตสีฟ้ากางเกงสะแลคยิ้มแย้มก่อนจะนั่ง "ผมต้องขอบคุณน้องชายมากจริงๆ ที่ช่วยดึงผมไว้ ไม่อย่างนั้นแบนติดยางรถ" พูดจบหัวเราะ "ไม่เป็นไรหรอก" ชายวัยอ่อนกว่าหันมาพูด "ถ้าผมไม่กระชากพี่ ผมก็โดนไอ้รถบ้าคันนั้นมันบี้ด้วย ว่าแต่ว่าที่ล้มลงไปจ้ำข้าวเม่าเจ็บมากไหม อ้าวเลือดไหลออกมานอกกางเกงนี่" พูดจบหนุ่มผมเรียบใช้นิ้วจิ้มไปที่ขาขวากางเกงยีนส์ที่ชุ่มไปด้วยเลือด จนหนุ่มใหญ่ก้มลงมองตามแล้วเลื่อนมือไปกด ทำหน้าเหยเก "เอ้อ ก็รู้สึกเจ็บ แต่ไม่เป็นไร ผมทนได้อยู่แล้ว" "แต่ผมว่าไปทำแผลก่อนดีกว่า ข้ามถนนไปฝั่งวัดธาตุทองมีคลีนิค ผมเคยเห็น" ชายหนุ่มเสนอ "ไม่หรอก ผมต้องรีบ.พอไปถึงพัทยาค่อยหาคลีนิคก็ได้" ชายวัยกลางคนบอก "แล้วแต่พีชาย"ชายวัยกลางคนเอามือลูบบาดแผลจนมือชุ่มโลหิต เขาล้วงกระดาษเช็ดปากจากกระเป๋ากางเกงไปซับไว้ รู้สึกปวดตรงบาดแผล พลางนึกทบทวนว่า เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนขณะทีกำลังเดินข้ามถนนนั้น มีรถยนต์ปิคอัพขับมาอย่างเร็วตัดหน้า นี่ถ้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ไม่ตะโกนและผลักเขาไปอีกด้านจนล้มหกคะเมนไปที่พื้นถนน แทนที่จะแค่บาดเจ็บจากขากระแทกพื้น ป่านนี่เขาคงเป็นศพกองอยู่กลางถนนแล้ว "พี่ชายกำลังคิดอะไรอยู่ ให้ผมทายก็ต้องบอกว่านัดกับผู้หญิงใช่ไหม" "ไอ้น้องชายคิดอย่างนั้นหรือ" หนุ่มใหญ่หันมาจ้องหน้าจนตัวโยนไปตามแรงเหวี่ยงของรถที่หักหลบรถข้างหน้าท่ีแซงปาดหน้าไปอย่างกระทันหัน "ผมว่าใคร ๆ ก็ต้องคิดอย่างผม เห็นไหมว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญอย่างเช่น... พี่ก็ต้องไปทำแผลก่อนแล้ว พี่ช่างสุขสบายกว่าผม เพราะผมต้องหาเช้ากินค่ำ" พูดจบหนุ่มผมเรียบถอนหายใจ "ผมไม่ได้นัดผู้หญิงเหมือนอย่างที่เข้าใจหรอก ผมก็ลำบาก " หนุ่มใหญ่พูดเรียบ ๆ "พูดถึงความลำบาก ผมลำบากสุด ๆ หลายปีมาแล้ว ขายเสื้อผ้าเก่าที่ตลาดนัดจตุจักร แรก ๆ ก็กำไรพอได้กินได้เที่ยว พอมาตอนหลัง ๆ เพื่อนที่ทำด้วยกันโกงไป ผมก็ต้องรับใช้หนี้แย่จริงๆ" พูดจบมองออกไปทางด้านนอกของกระจกที่รถกำลังใช้ควาเร็ว "ผมกัดฟันใช้หนี้จนหมด ไม่มีทุนอีกแล้ว ไม่รู้จะหยิบยืมใคร พี่รู้ไหม ผมไปรับจ้างเข็นรถในตลาดจตุจัดรอีกน่ะแหละ เช่ารถมา 100 บาท เข็นเร่หาลูกค้าที่เขาซื้อของมากๆ แต่หิ้วไม่ไหวรถเข็นนี่ล่ะท่าจะได้ประโยชน์ เข็นไปส่งที่รถ บางครั้งเทียวเดียวก็ทุนคืนแล้ว เที่ยวต่อไปก็ได้กินได้ใช้" "ก็ดีนี่ไอ้น้องชาย อาชีพสุจริต เหนื่อยหน่อย" หนุ่มใหญ่พูดโดยมองไปด้านหน้ารถที่กำลังใช้ความเร็ว "ถูกของพี่ชาย อาชีพสุจริต แต่มันก็เกิดเรื่องจนได้" "เข็นไปชนคนเดินเข้าล่ะซี" "ไม่ใช่ครับ วันนั้นเงินเหลือสักสองร้อย ผมกระหยิ่มแล้ว ตั้งใจว่าวันนี้ ก็ต้องไปกินเหล้าเฮฮาตามประสาหนุ่มโสดสักคืน แต่รู้ไหมเกิดอะไรขึ้น" พูดจบชะโงกหน้าไปใกล้หนุ่มใหญ่ที่มองไปทางด้านนอกรถ ชายกลางคนสั่นหน้า หนุ่มจึงพูดต่อ "ตำรวจสายสืบเข้ามาจับผม บอกว่าของท่ีผมเข็นไปเมื่อบ่ายวันนั้น ลักมาจากแผงค้าผมจะอธิบายอย่างไรก็ไม่ฟัง หิ้วผมไปโรงพักจนได้" พูดจบก้มหน้ามองพื้น "น่าเห็นใจนะ แล้วตำรวจก็ดำเนินคดี" "ระหว่างนั่งรอ ผมก็ปลงตกแล้ว ไม่ได้ทำผิดจะมาติดคุกก็เอาซี แต่อีกใจก็บอกตัวเองว่ามันไม่ยุติธรรมนี่" "ก็เลยเสียเวลา,เสียเงินในการสู้คดี ว่างั้นเถอะ" หนุ่มใหญ่ต่อเรื่องให้ "ไม่ใช่ พอตำรวจเผลอ ผมก็เดินลงจากโรงพักไปดื้อ ๆ จนป่านนี้ล่ะ" พูดป้องปากกลัวคนแถวหน้าจะได้ยิน "อ้าวหนีคดีมาซินี่" "ไม่ถึงอย่างนั้นหรอกครับ" หนุ่มขยับหน้าเข้าไปใกล้ "ผมแอบรู้มาว่า ตำรวจก็ตามใครมาไม่ได้ทั้งนั้น เรื่องก็เลิกไปแล้ว" "ก็โชคดีไป" หนุ่มใหญ่ถอนหายใจ มองออกไปด้านนอกหน้าต่างรถ "ผมก็คิดอย่างนั้นล่ะ กลางคืนเดือนมืด รออีกสักหน่อยมันก็จะสว่าง คนเราไม่ใช่จะตกทุกข์กันตลอด" เขาพูดเหมือนปลงตก "จริง ไอ้น้องชาย" "แต่พี่เชื่อไหม ผมนี่ซวยจริง" "อ่าว. มีเรื่องอีกล่ะซี" หนุ่มใหญ่หันหน้ามาจ้องอย่างตั้งใจ "ใช่ ใช่ซี" "มีเรื่องอีกจนได้ เมื่อสักเดือนเศษ ๆ นี่เอง ผมไปทำงานบาร์แถวอโศก ขากลับบ้านตอนดึกเดินยาวหน่อยจะไปขึ้นรถประจำทางถนนใหญ่ เพลิน ๆ อยู่นั่นก็มีเสียงเอะอะจากด้านหลัง วิ่งตามกันมาผ่านหน้าผม ตกใจก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอคนไล่กันพ้นไปแล้ว เห็นของตกอยู่ที่พื้น เมื่อตอนผ่านหน้า..." "กระเป๋าสตางค์" หนุ่มใหญ่รีบพูดนำ "ไม่ใช่. แต่เป็นมีดพับปลายแหลม" "ไอ้หยา ยุ่งละซี ของใครล่ะ" หนุ่มใหญ่อ้าปากกว้าง "ยุ่งซีครับ เปื้อนเลือดด้วย. ก็ต้องเป็นของคนที่ใช้แทงเขาแน่ ๆ ก็ไอ้คนที่วิ่งผ่านหน้าผมไป" "ไอ้น้องชายน่าจะเก็บแล้วส่งตำรวจ. เล่าให้ฟังตามความเป็นจริง" "มันไม่ทันอย่างนั้นน่ะซี เพราะขณะที่ผมหยิบมีดมาถือไว้นั้น. ตำรวจก็วิ่งมาถึงพอดี รวบผมซีครับ ใส่กุญแจมือทันทีโดยที่ไม่ฟังผมอธิบาย" "ซวยจริง ๆ " หนุ่มใหญ่อุทาน "ครับซวยมาก พาผมไปโรงพัก บอกว่าผมแทงฝรั่งที่มาเทียวบาร์. ผมพูดอย่างไรตำรวจก็ไม่ฟังทั้งนั้น" "แล้วก็ติดคุก แต่เอ๊ะ ถ้าติดก็ยังไม่น่าออกมาได้ หนีออกมาก่อนล่ะซี". หนุ่มใหญ่ถาม "ไม่ได้หนีหรอก ตำรวจซักถามประวัติแล้วพาไปพิมพ์มือ. ตอนนั้นสักตีสองเห็นจะได้. เกิดไฟดับทั้งโรงพัก ผมได้โอกาส จะอยู่ให้ติดคุกทำไม เผ่นซีครับ" "อ้าว แล้วไม่กล้วตำรวจตามจับหรือนี่" หนุ่มใหญ่ถามอย่างเร็ว "ถ้าเขาจะตามจับ ก็จับไปนานแล้ว ผมแอบรู้มาอีกว่า ตำรวจตามไปจับตัวจริงไอ้คนที่แทงได้แล้ว ตัวปลอมอย่างผมจะมาตามทำไม" หนุ่มดวงชะตาตกบอกกล่าว "ก็พ้นเคราะห์ไปซีนะ.นี่ไอ้น้องชาย ไปทำบุญบ้างนะ ใส่บาตรบ้างก็ได้" หนุ่มใหญ่แนะนำ "ผมนึกอยู่เสมอเรื่องทำบุญ ผ่านวัดไหนก็ยกมือไหว้ให้ช่วยคุ้มครองรักษา ผมคิดว่าที่ผมไม่พาลติดคุกติดตะราง ก็คงมีพระคอยคุ้มครองรักษาเหมือนกันนะ" เขาหยุดพูดชั่วครู่ แล้วพูดต่อ "แต่นี่ พี่ชายผมนึกได้แล้ว ไปทำบุญที่วัดก็มีปัญหา" "พระแจ้งตำรวจให้มาจับอีกล่ะซี" "โอ๊ย ถ้าถึงขนาดนั่น ผมต้องไปบวชเสียเองแล้ว ไม่ถึงขนาดนั่นหรอก คือวันนั้น ผมตั้งใจไปใส่บาตร เชื่อไหมว่า เดินอีท่าไหนไม่รู้ อาจจะง่วงก็ได้ แปลบเดียวเดินไปชนพระจนล้ม บาตรกระเด็นทำให้ข่าวปลาอาหารร่วงหล่น" เขาหยุดพูดทำหน้าเศร้าแล้วพูดต่อเบา ๆ "พอผมตั้งสติได้ กระโดดเข้าไปคว้าหลวงพี่ที่ล้มลงไป รถจักรยานยนต์วิ่งมาจากไหนไม่รู้ก็เฉี่ยวผมจนล้มกระเด็นตามหลวงพี่ไปด้วย" "โอ้โฮ ซวยมหาซวยจริง ลงแบบนี้" หนุ่มใหญ่สวนมาทันที "แล้วไอ้น้องชายทำยังไง" หนุ่มใหญ่ถามขึ้นเมื่อเห็นเห็นว่าคนดวงชะตาตกหยุดพูด "ผมก็ได้แต่กราบขอขมา,ขออภัย สารพัดที่จะขอโทษ ซึ่งใคร ๆ เห็นเขาก็เห็นใจผมจึงตั้งใจว่า จะไม่อยู่แล้วล่ะกรุงเทพ ฯ เมืองฟ้าอมร" เขาพูดเหมือนหมดอาลัยตายอยาก "อ๋อ ! นี่เองละมั้งที่ไอ้น้องชายกำลังจะไปพัทยา หางานทำแล้วหรือ" หนุ่มใหญ่ก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือพลางหันออกไปทางหน้าต่าง "ใช่พี่. ผมติดต่อกับเพื่อนที่ทำงานบาร์ฝรั่งพัทยาใต้ไว้แล้ว คืนนี้ก็ลงมือเลย ไม่ยากครับพนักงานเสิร์ฟ ผมเคยทำอยู่แล้ว เอ้อ นี่ก็ถึงพัทยาแล้วนี่ แหมเสียดายกำลังคุยสนุก ว่าแต่พี่ไปเที่ยวพัทยาเหรอ" เขาขยับเสื้อผ้าเมื่อรถทัวร์กำลังเลี่ยวจะเข้าสถานีขนส่ง "เปล่า. ผมไปทำงาน. มีเรื่องด่วน" "ทำอะไรล่ะพี่. ขอโทษ" หนุ่มใหญ่หันมามองแล้วยิ้มนิดๆ. พลางตอบเบา ๆ. "ตำรวจ" "อ้าว พี่ ผมก็ซวยอีกล่ะซี" พลางขยับจะลุกขึ้นจากที่นั่งจนหนุ่มใหญ่คว้าข้อมือไว้ "เฮ๊ย น้องชาย ไม่เกี่ยวกัน ที่เล่ามาทั้งหมด. ผมไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น คุณเล่าเรื่องจริง เรื่องเท็จอะไรก็ไม่รู้. แต่ถ้าคุณทำผิดต่อหน้า. หรือผมเห็น ผมคงไม่เว้นหรอก ถึงแล้วนี่ ถ้าไม่รีบกินข้าวด้วยกันก่อนยังได้ ดูไอ้น้องชายซื่อ ๆ ด้วยซ้ำ" "ขอบคุณครับพี่" หนุ่มยกมือไหว้พลางลุกขึ้นจากที่นั่ง ค่อย ๆเดินตามหนุ่มใหญ่ลงจากรถ "ผมขอบคุณพี่อีกครั้ง อยากกินข้าวกับพี่เหมือนกัน แต่ก็รีบไป เอ้อ พี่ชื่ออะไรครับ" "ผมดาบสามารถครับ อยู่หน่วยสืบสวนพิเศษ แล้วน้องล่ะ" "ผมชื่อโชคดีครับ แต่โชคไม่ดีเลย หายยุ่งเมื่อไหร่จะไปขอเปลี่ยนชื่อ ไปก่อนล่ะครับพี่" " ขอให้โชคดีนะ อ้อ..คุณโชคดี" หนุ่มใหญ่โบกมือ ทั้งคู่ห่างจากรถทัวร์ เดินปะปนไปกับผู้โดยสารอื่น ๆ จำนวนมาก สวนกับชาย2 คนที่รี่เข้ามาหยุดหน้าหนุ่มใหญ่เหมือนจะเอาเรื่อง แล้วจ้องหน้าหนุ่มดวงชะตาตก "คุณชื่อโชคดีใช่ไหม. ผมมีหมายจับคุณครับ !" ที่มา thaitribune
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2559 | | |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2559 16:33:06 น. |
Counter : 259 Pageviews. |
| |
|
|
|