“สมศักดิ์”เฮ สนช.ถอดถอนไม่ได้คดีร่ำรวยผิดปกติ

สนช.ลงมติคะแนนไม่ถึง3ใน5 ถอดถอน”สมศักดิ์”ไม่ได้ คดีป.ป.ช.ชี้มูลร่ำรวยผิดปกติสร้างบ้าน16ล้านบาท หลังแถลงปิดคดีอ้างรับโทษในคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินแล้ว ระบุสร้างบ้านเสร็จก่อนเป็นรมว.ศึกษาฯยันยังไม่อยากตายคาเวทีการเมือง

 

เมื่อวันที่13 พ.ย.2558 ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธานการประชุม พิจารณาเรื่องด่วน เพื่อดำเนินกระบวนการลงมติว่าจะถอดถอนหรือไม่ถอดถอน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ออกจากตำแหน่ง กรณีร่ำรวยผิดปกติ

ทั้งนี้ที่ประชุมลงมติถอดถอนด้วยคะแนน 109 เสียง และไม่ถอดถอน 82 เสียง งดออกเสียง 3 เสียงและมีบัตรเสีย 1 ใบ เป็นผลให้นายสมศักดิ์ ไม่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากคะแนนถอดถอนไม่ถึง 3 ใน 5 หรือไม่ถึง 132 เสียงขึ้นไป ทำให้นายสมศักดิ์ไม่ถูกถอดถอน และไม่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ ประธาน สนช. จะดำเนินการแจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในฐานะผู้กล่าวหา และนายสมศักดิ์ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ทราบต่อไป

ก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ ได้แถลงปิดคดีด้วยวาจา เมื่อวันที่12พ.ย.2558 คดค้านข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ที่ชี้มูลความผิดตามข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ จากกรณีสร้างบ้านมูลค่า 16 ล้านบาท ที่ตำบลไผ่จำศีล อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ขณะที่ตัวแทน ป.ป.ช.ในฐานะผู้กล่าวหา ได้ขอแถลงปิดสำนวนด้วยเอกสาร

นายสมศักดิ์ แถลงว่า ตามเอกสารปิดสำนวนของป.ป.ช. ทั้ง 164 หน้า พบว่า ไม่มีคำใดที่พูดถึงว่าผมได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่ให้ได้ทรัพย์สินดังกล่าวมา ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลก เพราะในสำนวนต้องมีรายละเอียดว่า ผมได้ใช้อำนาจหน้าที่อย่างไรถึงจะสามารถยื่นถอดถอนได้ ทั้งที่ได้ยอมรับไปแล้วในคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินว่า เป็นการสำคัญผิด ซึ่งศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้วินิจฉัยเสร็จสิ้นกระบวนการ และก็ได้รับโทษไปทั้งหมดแล้ว แต่ ป.ป.ช.ได้นำผลของคดีดังกล่าวมาชี้มูลถอดถอนอีกในกรณีร่ำรวยผิดปกติ และยังพูดจากำกวมให้สังคม และสมาชิกสนช.เข้าใจผิดว่า ญัตติถอดถอนดังกล่าวเป็นกระบวนการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน

“ คำว่า ร่ำรวยผิดปกติ ตามมาตรา 58 หมวด 5 ว่าด้วยการถอดถอน ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ระบุว่า ผู้ใดมีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติส่อไปในทางทุจริตต่อหน้าที่ ส่อว่ากระทำผิดต่อราชการให้วุฒิสภาถอดถอนผู้นั้น แต่ป.ป.ช.กลับวินิจฉัยว่า เมื่อครั้งที่เป็น รมว.ศึกษาธิการ ได้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาโดยไม่สมควร สืบเนื่องจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่ ทั้งๆที่บ้านที่ 5/5 ได้มีการซื้อที่ ถมที่ดิน ออกแบบ และดำเนินการก่อสร้าง เมื่อเดือนส.ค. ปี2541 ซึ่งมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศของกรมแผนที่ทหารยืนยัน และสร้างเสร็จภายเดือนเม.ย. ปี 2552 ซึ่งเป็นสมัยก่อนที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสียอีก (ก.ค. ปี 2542) และด้วยความสุจริตใจก็ได้นำใบเสร็จจำนวน 18 งวด ยอดเงิน 1.4 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าวัสดุต่อเติมเรือนรับรองเพื่อรับชาวบ้านในพื้นที่ แต่ป.ป.ช.กลับนำหลักฐานดังกล่าวไปเหมารวมว่าเป็นเงินสร้างบ้าน และตีมูลค่าว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 16 ล้านบาท”

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่านี่คือข้อเท็จจริงและความยุติธรรมที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลแก่ผม ทั้งๆที่ ป.ป.ช.รู้อยู่แล้วว่า เอาผิดผมไม่ได้ แต่กลับเอื้อมไปเอาเงิน 1.4. ล้านบาทที่เกิดขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่ง รวมกับตัวบ้านที่มีก่อนรับตำแหน่งมาวินิจฉัยผม จึงเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ยุติธรรม และก็ไม่มีมูล ในเอกสารชี้มูลของ ป.ป.ช.ไม่มีแม้แต่คำเดียวว่า ทุจริตในขณะที่เป็น รมว.แต่อย่างใด

" มั่นใจว่าสนช.จะให้ความเป็นธรรมและใช้วิจารณญาณในการลงมติ และจะเป็นความภูมิใจของสมาชิกสนช. เพราะจะเป็นบันทึกของประวัติทางการเมืองว่า สามารถกำจัดนักการเมืองชั่วให้พ้นจากการเมืองไปตลอดชีวิต แต่ท่านจะภูมิใจยิ่งกว่าหากมติของสนช.จะให้ความเป็นธรรมที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลด้วยข้อหาเช่นนี้ และให้ความเป็นธรรมแก่ผม ลูก เมีย ครอบครัวได้ หากเมตตาก็ปล่อยผมไปเถอะครับ อย่าให้ต้องตายคาเวทีทางการเมือง ผมยังรักที่จะรังสรรค์ความงดงามของการเมืองให้ดีขึ้น สุดท้ายก็ต้องขอน้อมรับการลงมติที่จะชี้ชะตากรรมของผมและครอบครัว"

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2558 20:30:11 น.
Counter : 289 Pageviews.  

ครูหนี้ท่วม-กยศ.ถูกเบี้ยว ปรอทวัดคุณภาพคนไทย

เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ว่า ขณะนี้ กยศ.ได้ทยอยโอนเงินค่าเล่าเรียน และค่าครองชีพให้แก่ผู้กู้ กยศ.และผู้กู้กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ภาคเรียนที่ 1ประจำปีการศึกษา 2557 ไปแล้ว แต่มีผู้ที่ครบกำหนด และอยู่ระหว่างชำระหนี้ 2,185,133ราย ค้างชำระหนี้ 1,205,626 รายส่วนผู้กู้ กรอ. ครบกำหนดชำระ 267,184 ราย เป็นเงิน 10,318 ล้านบาท ค้างชำระ190,700 ราย เป็นเงิน 7,243 ล้านบาท

สาเหตุสำคัญของผู้ที่ไม่มาชำระหนี้ ลำดับแรกคือ ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน ถัดมาคือ มีเงิน มีงานทำ แต่ตั้งใจไม่มาชำระหนี้ ซึ่งสถิติสาขาที่มีผู้ค้างชำระมากที่สุดคือ สังคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศึกษาศาสตร์ อยู่ที่ประมาณ 72%โดยกลุ่มสาธารณสุข/พยาบาล 57% และกลุ่มแพทย์ 51% ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย ที่น่าตกใจคืออาชีพหมอและพยาบาล ซึ่งมีงานทำแน่นอน กลับไม่ยอมชำระหนี้ วิธีแก้ปัญหานอกจากสร้างวินัยและจิตสำนึกให้แต่ละคนแล้ว ยังต้องดูระบบติดตามหนี้ ที่จะต้องมีความเข้มข้นมากขึ้นด้วย

ขณะเดียวกันมีข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ ว่าปัญหาหนี้สินของครูที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่ามีครูที่กู้ยืมเงินจากธนาคารออมสินประมาณ 460,000 คน เป็นเงินประมาณ 500,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นหนี้นอกระบบและหนี้ที่กู้ยืมจากสหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆ อีกประมาณ 700,000 ล้านบาท(รวม1.2ล้านบาท) ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครูกับธนาคารออมสิน แบ่ง เป็น ลูกหนี้วิกฤตรุนแรงที่อยู่ระหว่างการถูกฟ้องร้องถูกดำเนินคดี ลูกหนี้ใกล้วิกฤต และลูกหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 12 งวด คิดเป็นมูลค่าหนี้ทั้งหมด 34,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีผู้กู้ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้กองทุนการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วย เพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (สกสค.) ประมาณ 60,000 คน ตั้งใจไม่ใช้หนี้ เพราะมีกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการ เงินกู้ ช.พ.ค.ชำระหนี้แทนให้

ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสังเกตว่าทั้ง2กรณีล้วนอยู่ในแวดวงการศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นสถาบันและมีบุคลากรที่เป็นมันสมองของประเทศ ให้การศึกษาอบรมบ่มเพาะแก่เด็กและเยาวชน ที่จะเติบใหญ่ในอนาคตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ โดยเฉพาะครูที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวและมีแนวโน้มจะไม่ชำระหนี้นั้นถือว่าเป็นภาพอัปลักษณ์ของสังคมไทยซึ่งเคยให้ความเคารพนับถือครูมาเป็นเวลาช้านาน ขณะที่ผู้กู้เงินกยศ.ที่มีอาชีพอย่างหมอและพยาบาล กลับไม่ยอมชำระหนี้นั้นก็เป็นภาพของความไม่รับผิดชอบและเห็นแก่ตัวอย่างชัดเจน

เรา”ไทยทริบูน”มีความเห็นว่า ภาพครูมีหนี้สินมากมายแต่จะไม่ชำระหนี้ และหมอ-พยาบาล ที่กู้เงินมาเรียนยังไม่ยอมชำระหนี้นั้น เป็นปรอท ที่จะวัดคุณภาพ คุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตของสังคมไทยว่า แม้แต่ครูซึ่งเป็นบุคลากรสั่งสอนอบรมเยาวชนให้เป็นคนดีมีความซื่อสัตย์ ยังปฏิบัติตัวขัดกับคำสอนของตนเอง รวมทั้งหมอ-พยาบาล ซึ่งกู้เงินมาเรียนแต่ไม่ชำระหนี้ จะถือเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ คุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริตในอนาคตได้อย่างไร

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2558 11:21:33 น.
Counter : 315 Pageviews.  

ด่านแม่สอดจับรถเก๋งจากกรุงเทพฯพบซากเสือโคร่ง 2 ตัวถูกชำแหละสดๆอ้างส่งให้ร้านอาหารย่านบางแค

ด่านตรวจรถเก๋ง 2 หนุ่มซิ่งออกจากอ.แม่สอดตามปกติถึงกับผงะ เจอซ่อนซากเสือโคร่งชำแหละแล้วสดๆยัดกล่องโฟมในรถถึง 2 ตัวมีทุกอย่างครบหมดทั้งเนื้อหนังมังสาและกระดูกทุกชิ้น อ้างรับจ้างขนส่งร้านอาหารย่านบางแค เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อเหตุเสือโคร่งหายาก หากส่งออกหลักแสน-หลักล้าน

 

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ท.ศาศวัต สัตยพงษ์ นายทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจฝ่ายความมั่นคง บ้านห้วยหินฝน อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกันตั้งจุดตรวจความมั่นคง บนถนนสายแม่สอด-ตาก เขตบ้านห้วยหินฝน แม่สอด เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กง 1132 กรุงเทพฯ ขับออกจากตัวเมืองแม่สอดมาด้วยความเร็วสูง จึงให้สัญญาณหยุดตรวจ

เบื้องต้นพบนายนิพนธ์ สุขสมบท อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 733 ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง บางมด กรุงเทพฯ เป็นคนขับ และนายลือไทย เตียวเจริญ อายุ 55 ปี นั่งโดยสารมาด้วย โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ขอตรวจบัตรประชาชนทั้งสองส่ออาการมีพิรุธ ตัวสั่น และมีเหงื่อออกมากผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวลงจากรถ

เมื่อนำสุนัขทหารเข้าตรวจค้นรถพบว่าที่เบาะด้านหลังคนขับมีการดัดแปลงสภาพเป็นที่เก็บของพิเศษ โดยมีกองเสื้อผ้าเก่าที่คนขับอ้างว่าจะนำไปขายที่ตลาดนัดเสื้อผ้ามือสอง แต่พอเจ้าหน้าที่ตรวจอย่างละเอียดก็ถึงกับตกใจ เมื่อพบกล่องโฟมขนาดใหญ่จำนวน 2 ใบ บรรจุซากเสือโคร่ง น้ำหนักตัวละไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ที่ถูกชำเเหละแยกชิ้นส่วนแล้วทั้งตัว

กล่องแรกมีการหั่นแยกเฉพาะเนื้อเสือล้วนๆ ส่วนอีกกล่องพบเป็นส่วนหัวเสือ พร้อมหนัง และอวัยวะของเสือครบทุกส่วนในสภาพสมบูรณ์ และยังพบรูขนาดใหญ่ที่โคนขาเสือ ที่คาดว่าเป็นรอยของกระสุนปืนที่กลุ่มพรานล่าเสือยิงจนเสือเสียชีวิต

นอกจากนี้ยังพบถุงขนาดใหญ่อีก 1 ใบ ภายในพบชิ้นส่วนกระดูกของเสืออยู่เต็มถุงครบทุกชิ้นส่วน

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายนิพนธ์ และนายลือไทย ไปสอบสวนขยายผลอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นนายนิพนธ์ให้การรับสารภาพว่าไปรับซากเสือจากขบวนการค้าสัตว์ป่าที่ตลาดสดเทศบาลนครแม่สอด เพื่อจะนำซากเสือทั้งหมดไปส่งให้ลูกค้าตามร้านอาหารของป่าที่เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยได้รับค่าจ้าง 3,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา และเชื่อว่าต้องกระทำการเป็นขบวนการใหญ่ระดับประเทศ

ปัจจุบันเสือโคร่งเป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศ และมีราคาในตลาดมืดสูงมาก ตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้าน

ขณะที่ซากเสือที่ยึดได้นั้นกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลว่าเป็นเสือที่ถูกลักลอบฆ่าในเขตประเทศไทยหรือเป็นเสือในเขตประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อจะทำการหาวิธีป้องกันและปราบปราบกลุ่มขบวนการค้าสัตว์ป่าหายากให้หมดไป

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 19:25:50 น.
Counter : 301 Pageviews.  

รับสมัครข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจเกือบ 3,000 อัตรา สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้

กระทรวงสาธารณสุข กรมชลประทาน กรมอุทยานแห่งชาติ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่)เปิดรับสมัครงานตั้งแต่บัดนี้เพื่อบรรจุแต่งตั้ง

 

าธารณสุขรับ 1,798 อัตรา (ไม่ต้องผ่านก.พ.)

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน(ด้านอายุรเวท) และเจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน(ด้านเวชกิจฉุกเฉิน) รวม 4 ตำแหน่ง 1,798 อัตรา รับสมัครออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน - 9 ธันวาคม 2558

1.นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ 410 อัตรา

2.เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน 804 อัตรา

3.เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน (ด้านอายุรเวท) 77 อัตรา

4.เจ้าพนักงานสาธารณสุขปฏิบัติงาน (ด้านเวชกิจฉุกเฉิน) 507 อัตรา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่

https://moph.job.thai.com/201511/index.php

กรมชลประทานรับ 75 อัตรา (ต้องผ่าน ก.พ.)

ประกาศรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในสังกัดกรมชลประทาน จำนวน 10 ตำแหน่ง 75 อัตรา รับสมัครออนไลน์ ตั้งแต่วันที่  25 พฤศจิกายน - 17 ธันวาคม 2558

1.วิศวกรชลประทานปฏิบัติการ 50 อัตรา

2.วิศวกรโยธาปฏิบัติการ 7 อัตรา

3.วิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ 3 อัตรา

4.วิศวกรไฟฟ้าปฏิบัติการ 1 อัตรา

5.วิศวกรไฟฟ้าสื่อสารปฏิบัติการ 1 อัตรา

6.นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ 1 อัตรา

7.นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ3 อัตรา

8.นายช่างเครื่องเครื่องกลปฏิบัติงาน6 อัตรา

9.นายช่างไฟฟ้าปฏิบัติงาน(อิเล็กทรอนิกส์) 1 อัตรา

10.นายช่างไฟฟ้าปฏิบัติงาน(ไฟฟ้ากำลัง) 2 อัตรา

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่

//job.rid.go.th/201511/

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชรับ 79 อัตรา (ต้องผ่านก.พ.)

รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งต่างๆ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 จำนวน 79 อัตรา รับสมัครทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม

1.นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ 25 อัตรา

2.นิติกรปฏิบัติการ 14 อัตรา

3.นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ 1 อัตรา

4.นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ 1 อัตรา

5.นักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ 1 อัตรา

6.นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ 1 อัตรา

7.นักวิชาการตรวจสอบภายในปฏิบัติการ 1 อัตรา

8.นักวิชาการพัสดุปฏิบัติการ 1 อัตรา

9.นักวิชาการเผยแพร่ปฏิบัติการ 2 อัตรา

10.นักวิชาการโสตทัศนศึกษาปฏิบัติการ 1 อัตรา

11.นักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ 2 อัตรา

12.วิศวกรเครื่องกลปฏิบัติการ 1 อัตรา

13.วิศวกรโยธาปฏิบัติการ 2 อัตรา

14.เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน 1 อัตรา

15.เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีปฏิบัติงาน 2 อัตรา

16.นายช่างเครื่องกลปฏิบัติงาน 5 อัตรา

17.นายช่างสำรวจปฏิบัติงาน 18 อัตรา

รายละเอียดพร้อมใบสมัครคลิกที่นี่

//job.dnp.go.th/Main/FrmAnnounceListByYear.aspx

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลรับ 38 อัตรา

ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสอบคัดเลือกบรรจุเป็นพนักงานของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 38 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 14 - 28 พฤศจิกายน 2558

รายละเอียดคลิกที่นี่   https://glo.job.thai.com/

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

ประกาศรับสมัครบุคลากรเพื่อปฏิบัติงานในสังกัดต่างๆ จำนวน 164 อัตรา รับสมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 16 - 22 พฤศจิกายน 2558

1.พนักงานบริหารงานทั่วไป ระดับ 5 จำนวน 14 อัตรา

2.พนักงานบริหารงานทั่วไป ระดับ 4 จำนวน  36 อัตรา

3.พนักงานตรวจสอบ ระดับ 4 จำนวน 1 อัตรา

4.พนักงานระบบคอมพิวเตอร์ ระดับ 4 จำนวน 3 อัตรา

5.พนักงานโปรแกรมเมอร์ ระดับ 4 จำนวน 2 อัตรา

6.พนักงานประชาสัมพันธ์ ระดับ 4 จำนวน 2 อัตรา

7.วิศวกร ระดับ 5 จำนวน 5 อัตรา

8.วิศวกร ระดับ 4 จำนวน 59 อัตรา

9.เศรษฐกร ระดับ 5 จำนวน 1 อัตรา

10.สถาปนิก ระดับ 4 จำนวน 1 อัตรา

11.พนักงานทรัพยากรบุคคล ระดับ 5 จำนวน 1 อัตรา

12.พนักงานทรัพยากรบุคคล ระดับ 4 จำนวน 9 อัตรา

13.พนักงานบริหารพัสดุ ระดับ 4 จำนวน 5 อัตรา

14.พนักงานบัญชี ระดับ 4 จำนวน 2 อัตรา

15.พนักงานการเงิน ระดับ 4 จำนวน 3 อัตรา

16.นิติกร ระดับ 4 จำนวน 10  อัตรา

17.พนักงานอาชีวอนามัยฯ ระดับ 4 จำนวน 3 อัตรา

18.พนักงานกู้ภัย 7 อัตรา

 รายละเอียดการสมัครคลิกที่นี่

//mrta.thaijobjob.com/

บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่) เปิดรับสมัครพนักงานจำนวนกว่า 400 อัตรา

สมัครและสัมภาษณ์รู้ผลทันที พร้อมเริ่มงานเดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์ 2559

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร:

1. เจ้าหน้าที่ประจำสถานี จำนวน 300 อัตรา

-เพศชาย/หญิง  อายุ 22-30 ปี  วุฒิ ม.6 ปวช. ปวส. ปริญญาตรี ทุกสาขา

- เพศชายสูง 165 ซม. เพศหญิงสูง 160 ซม ขึ้นไป

- ชอบงานบริการและชอบช่วยเหลือ และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้

- มีทักษะในการใช้เครื่องแคชเชียร์ จะพิจารณาเป็นพิเศษ

- สามารถทำงานเป็นกะได้

2. เจ้าหน้าที่ควบคุมรถ จำนวน 100 อัตรา

- เพศชาย/หญิง วุฒิ ปวส.-ปริญญาตรี ทุกสาขา

- อายุ 24-34 ปี หากมีประสบการณ์ในการทำงานด้านควบคุมเครื่องจักร,การบริการ จะพิจารณาเป็นพิเศษ

- สามารถขับรถยนต์เกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติได้และต้องมีใบอนุญาตขับขี่

- สามารถทำงานเป็นกะได้

- สายตาไม่บอดสี และสุขภาพแข็งแรง

ติดต่อด้วยตัวเองพร้อมเอกสารการสมัครงาน

1. สำเนาวุฒิการศึกษา

2. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชน 2 ชุด

3. รูปถ่าย 1 นิ้ว 1 รูป

4. เพศชายต้องมีเอกสารราชการทหาร (สด.8,สด.43)

ติดต่อสอบถามรายละเอียด โทร. 02-3542000 ต่อ 3101-7

บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 189 ถ.พระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

สมัครได้ที่ //recruitment.bangkokmetro.co.th

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 15:47:46 น.
Counter : 645 Pageviews.  

ว่าด้วยเรื่องการใช้คลื่นวิทยุ 1 ปณ. FM 98.5

30 ต.ค. 58

My opinion abt radio frequency FM 98.5 which owned by NBTC office and now gone controversial again and once again esp when a regulator owns spectrum itself for commercial acts without a proper regulation. Sad but true. More to explain.

กรณีเครือสปริงนิวส์แถลงว่าจะทำวิทยุ FM98.5 ซึ่งคือวิทยุ 1 ปณ. ของ สำนักงาน กสทช. งานนี้ยืนยันว่าในบอร์ด กสท. ไม่ทราบเรื่องมาก่อน จะทำบันทึกถาม สำนักงาน เพราะ ที่ผ่านมาช่วงรอคืนคลื่นมาจัดสรรใหม่ รายอื่นๆ เช่น ThaiPBS เคยขอใช้ วิทยุ 1 ปณ. มาหลายครั้งแต่ไม่เคยได้ใช้

ในฐานะบอร์ด กสท.ที่กำกับเรื่องนี้ ขอให้ทางช่อง Springnews และ สำนักงาน กสทช. ชี้แจงเรื่องการใช้คลื่นวิทยุ 1 ปณ. FM 98.5 ให้สังคมเกิดความชัดเจน ถ้าผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลรายหนึ่งรายใด ได้สิทธิ์มาทำวิทยุ 1 ปณ. (98.5) โดยไม่ได้ผ่านการแข่งขันเสรีเป็นธรรม กสทช. จะโดนครหาว่าเลือกปฏิบัติ

แม้ สำนักงาน กสทช. ยังไม่ได้คืนคลื่นความถี่วิทยุมาให้ กสท. จัดสรรใหม่ แต่ระหว่างนี้ ก็ต้องระวังเรื่องการใช้คลื่นความถี่ โดยเฉพาะกับภาคเอกชน กฎหมายระบุชัดว่า หน่วยงานรัฐที่ถือครองคลื่นความถี่ ต้องประกอบกิจการด้วยตนเอง ขอบอกว่า ถ้าจริง เรื่องนี้ เสี่ยงข้อกฎหมายมาก ฝากทุกฝ่ายช่วยดู โดยเฉพาะหน่วยงานอย่าง กสทช. ที่กำกับดูแลการใช้คลื่นความถี่ตามกฎหมาย บนฐานการแข่งขันเสรีเป็นธรรม ต้องไม่พลาดเรื่องนี้

กลับไปจะทำบันทึกให้ สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เพราะกระทบกับการทำหน้าที่ของบอร์ด กสท. อีกทั้ง อุตสาหกรรมทีวีดิจิตอลและวิทยุ การให้เอกชนมาเช่าช่วงวิทยุ 1 ปณ. ส่วนตัวก็ไม่เคยเห็นด้วยอยู่แล้ว แต่กรณีนี้เป็นผู้รับใบอนุญาตทีวีดิจิตอลด้วย ยิ่งถ้าเพื่อต่อยอดธุรกิจ จะยิ่งตอกย้ำปัญหาของ กสทช. ในการกำกับดูแลอย่างเป็นธรรม

จุดยืนดิฉันเรื่องวิทยุ 1ปณ. คือ สำนักงานควรคืนคลื่นความถี่นี้ทั้งหมดนำร่องเป็นแบยอย่างหน่วยงานรัฐ เพราะไม่ได้ประกอบกิจการด้วยตนเอง แต่ถ้าจะยังไม่คืนคลื่น ควรทำเองหรือถ้าให้คนอื่นทำเพื่อ ประโยชน์สาธารณะ ถ้าให้เอกชนบางรายมาเช่าเวลา ไม่เกินร้อยละ 40 ตามกฎหมาย แต่ ไม่ใช่ยกให้เอกชนเอาไปบริหาร และควรเปิดให้ประมูลแข่งขันแบบเปิดเผยโปร่งใส รายได้เข้ารัฐเป็นแบบอย่างหน่วยงานรัฐอื่นๆ

ฝากทางช่อง @SpringNews_TV ชี้แจงด้วยว่า ได้สิทธิ์บริหารคลื่นวิทยุ 1 ปณ. 98.5 ของ สำนักงานกสทช. ไปทำ ‘สถานีข่าวจริง สปริงนิวส์’ ได้อย่างไร เพราะบอร์ด กสท. ไม่เคยทราบเรื่องนี้ ที่สำคัญการเปลี่ยนแปลงผังรายการคลื่น FM 98.5 สำนักงาน เสนอขอความเห็นชอบจากบอร์ด กสท. หรือยัง

เรื่องคลื่น FM 98.5 สร้างความสับสนต่ออุตสาหกรรม และเกิดความกังขาต่อบอร์ด กสท. คงต้องขอให้ทางเครือ @SpringNews_TV และ @TakornNBTC ช่วยชี้แจงด่วนค่ะ

ถ้ามีการปรับผังรายการ+ การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นเช่า ล้วนต้องเสนอบอร์ด กสท. ถ้าแถลงว่าจะออนแอร์ 1 พ.ย. นี้ ทำไมบอร์ด กสท. จึงยังไม่ทราบ #98.5 ถ้า สำนักงาน มองข้ามอำนาจของบอร์ด กสท.ในเรื่องนี้ แล้วต่อไปจะมีสถานีไหนเขาจะยอมให้ กสท./กสทช. กำกับดูแลตามกฎ กติกา เมื่อ กสทช. ไม่เดินตามเอง

FM 98.5 1 ปณ.เป็นของ สำนักงาน กสทช. ถ้า @SpringNews_TV มาเช่าเวลา40%จริง ก็ไม่มีอำนาจบริหาร แล้วใช้ชื่อ ‘สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ’ ได้อย่างไร ถ้า @SpringNews_TV มามีอำนาจบริหาร FM 98.5 สถานี 1 ปณ. ก็จะขัดกฎหมาย เพราะคลื่นนี้เป็นของ สำนักงานกสทช. จึงต้องประกอบกิจการด้วยตนเองเท่านั้น

ถ้า สำนักงาน กสทช.แค่ ‘ว่าจ้าง’ ทาง @SpringNews_TV ผลิตรายการให้ FM 98.5 ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะจะเจอประเด็นเลือกปฏิบัติ ว่าทำไมต้องเป็นข่าวช่องนี้

สรุป สำนักงานกสทช.ควรชี้แจงว่า ให้ทีม @SpringNews_TV เข้ามาบริหาร/เช่าเวลา/จ้างผลิตรายการ หรือทำอะไรแน่ แล้ว กสท. เคยเห็นชอบผังรายการหรือยัง ถ้า สำนักงาน กสทช. ไม่เดินตามกฎหมายโดยประกอบกิจการวิทยุ 1 ปณ. FM 98.5 ด้วยตนเอง วิทยุของรัฐอีกห้าร้อยกว่าสถานี ก็คงไม่มีใครเดินตามกฎแน่ๆ

กสทช. ต้องมารื้อระบบเช่าช่วงสัมปทาน ในคลื่นของรัฐ เปลี่ยนเป็นระบบใบอนุญาต แข่งขันโปร่งใส เป็นธรรม นำร่องให้คนอื่นๆเดินตามกฎ กติกา มารยาท แม้ตาม กม. การที่ สำนักงาน กสทช. ให้ผู้อื่นมาเช่าเวลานั้นทำได้ ในฐานะผู้รับใบอนุญาตเหมือนหน่วยงานรัฐอื่นๆ แต่ต้องแจ้งการปรับผัง การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นเช่า ให้บอร์ด กสท. เห็นชอบด้วย

แต่มันก็เป็น conflict of interest เพราะ สำนักงาน กสทช. ใส่หมวก 2 ใบ คือในฐานะผู้รับใบอนุญาตคลื่น 1 ปณ. และ ผู้กำกับการอนุญาต จริงๆควรคืนคลื่นตามเจตนารมณ์ และโดยมารยาท ไม่ควรให้สิทธิ์ผู้รับใบอนุญาตรายหนึ่งรายใด มาใช้คลื่นไปทำธุรกิจ โดยไม่มีกระบวนการที่แข่งขัน เปิดเผย โปร่งใส ถ้าทำเพื่อบริการสาธารณะยังพอว่า

ทีวีดิจิตอลทุกช่อง เวลาปรับผังนิดหน่อยยังต้องเสนอ กสท. ให้เห็นชอบ กรณีนี้บอร์ด กสท. ยังไม่เคยเห็นวาระเสนอปรับผังมา ถ้า ‘สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ’ จะออนแอร์ผ่านคลื่นวิทยุ 1 ปณ. ของ สนง กสทช.จริงๆ ขอดูการปรับผังรายการใหม่ที่ยื่นขอความเห็นชอบจากบอร์ด กสท. ได้ไหม

เพราะสำนักงานต้องเสนอบอร์ด กสท. เพื่อ ดูว่าการเช่าเวลาคลื่น FM 98.5 ตามผังรายการใหม่ เกินร้อยละ 40 ของประกาศเช่าเวลาหรือไม่ ถ้าเกินจะขัดกฎ อีกทั้งรูปแบบการบริหารสถานี 1 ปณ. ผู้จัดการสถานียังต้องเป็นคนใน สำนักงาน กสทช. ตัวแทนทาง ‘สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ’ จะมาบริหารคลื่นไม่ได้ ขัดกฎ

ความเจ็บปวดก็คือ ถ้า สำนักงาน กสทช. ยังไม่พร้อมจะคืนคลื่น 1 ปณ. ให้บอร์ดจัดสรรใหม่ แล้ว เราจะไปคาดหวังให้ TOT เขาคืนคลื่น 900 MHz ได้อย่างไร เรื่องการปฏิรูปคลื่นความถี่ของรัฐ เพื่อเข้าสู่ระบบใหม่ เป็นภารกิจสำคัญตามแผนแม่บท กสทช.  กรณีวิทยุ 1 ปณ. ดิฉันพูดมาตลอด แต่ไม่มีใครฟังเลย เศร้าใจ

ข่าวเรื่องนี้ทำเอาเครียดมาก ประชุมอยู่ตุรกีไม่มีสมาธิเลย ฝากท่าน @TakornNBTC ช่วยเคลียร์ให้มันชัดเจน ถูกต้อง เพราะเคสนี้ส่งผลระยะยาว เรื่องวิทยุ1 ปณ. เคยพูดกับ สำนักงาน หลายครั้งแล้วว่าช่วยทำให้มันชัดเจน ไม่คลุมเครือ ไม่กระทบงานกำกับดูแลวิทยุ-ทีวีของบอร์ด กสท. แม้การตัดสินใจของ สำนักงาน จะทำไปด้วยความปรารถนาดีในการทำงานร่วมกับเอกชนบางราย แต่มันกระทบงานกำกับดูแลของบอร์ด กสท.ทั้งอุตสาหกรรม

แล้วยิ่งเรื่อง 1 ปณ.มาผูกโยงกับปัญหาของช่องทีวีดิจิตอลอีก มันยิ่งทำให้อุตสาหกรรมและสังคมสับสน ยิ่งกระทบต่องานของ กสท./กสทช. ปัญหาของ กสทช.เราก็มากพออยู่แล้ว วาระก็เหลือไม่ถึง 2 ปี เราควรมาช่วยกันลดปัญหาที่ไม่ควรมี แล้ว เดินหน้าทำตามแผนแม่บทกันดีกว่าค่ะ @TakornNBTC

ความกังวลลึกๆ กระทบจากวิทยุ 1 ปณ.คือ กลัวว่า กสท./กสทช. จะไม่สามารถเรียกคืนคลื่นวิทยุจากหน่วยงานรัฐอื่นๆได้ แล้วการเช่าช่วงยังคงอยู่ตลอดไป จุดยืนเรื่องนี้ ดิฉันขอสู้เต็มที่ เท่าที่มีกำลัง ทั้งในบอร์ด และ นอกห้องประชุม

#ปฏิรูปสื่อของรัฐ #คืนคลื่น #วิทยุ #แข่งขันเสรีเป็นธรรม

ทุกครั้งที่มีประเด็นของวิทยุ 1 ปณ. ทำเอาเครียดทุกที แต่แล้วสุดท้ายเราก็ต้องทำใจสงบไปเอง เงียบๆ เพราะพูดไปก็ไม่มีใครฟัง ปัญหาก็อยู่เหมือนเดิม แม้จะรู้ว่า คลื่นความถี่เป็นของมีค่า ใครๆก็อยากครอบครองด้วยวิธีใดก็ได้ แต่เราก็ควรเดินตามกฎ กติกา มารยาท ที่สังคมยอมรับร่วมกัน

ส่วนผังรายกาวิทยุ 1 ปณ. FM 98.5 ในวันที่ 1พ.ย.นี้ ก็ฝากสังคมช่วยมอนิเตอร์ว่าเป็นไปตามกฎ กติกาของ กสทช. ไหม ถ้าไม่ จะให้ สำนักงานตรวจสอบ (เฮ้อ)

อะไรจะลำบากใจเท่าเรื่องนี้ : ถ้า บอร์ด กสท. มีคำสั่งให้ สำนักงานกสทช. ตรวจสอบการใช้คลื่นและผังรายการวิทยุ 1ปณ. FM98.5 ที่เป็นของ สำนักงาน กสทช.เอง

เวที ABU ที่ตุรกี เขาก็ถกกันประเด็นเรื่องศึกแย่งชิง คลื่นความถี่ ตั้งใจจะเล่าให้ทราบ แต่วันนี้ไม่มีสมาธิแล้ว เครียด

ขอไว้เก็บตกวันหลังค่ะ ….

ดิฉันยังอยู่ที่ตุรกีเป็นคืนที่สาม ในการประชุม ABU 2015 ไว้มาสรุปผลการประชุมให้ทราบค่ะ

ที่มา supinya




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 11:24:17 น.
Counter : 306 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.