หนุ่มไทยหลอกไทยในสหรัฐกว่า 300 คนจัดหาใบทำงานให้แต่กลับยื่นขอลี้ภัยอพยพ-โดนรวบ
หนุ่มไทยในโรด ไอส์แลนด์หลอกเพื่อนคนไทย 300 รายรับจัดหาบัตรทำงาน,ใบขับขี่,ใบโซเชียลเรียกเก็บรายละ 2,000-2,500 ดอลลาร์ แต่กลับไปยื่นแอพพลายขอเป็นผู้ลี้ภัยอพยพ อิมมิเกรชั่นงงคนไทยขอลี้ภัยปีละไม่ถึง 20 รายถูกจับและยื่นฟ้องเรียบร้อย รายงานข่าวจากเมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรด ไอส์แลนด์ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2016 คณะลูกขุนรัฐบาลกลางตัดสินให้นำตัวหนุ่มไทยขึ้นฟ้องร้องได้ หลังจากเขาทำหน้าที่เป็นผู้ยื่นแอพพลายให้คนไทยกว่า 300 คนเป็นผู้ลี้ภัยอพยพโดยที่คนไทยเหล่านั้นไม่ทราบมาก่อน รายงานข่าวเปิดเผยว่าหนุ่มไทยผู้นี้ชื่อนายนิมนต์ นาแพง (Nimon Naphaeng) อายุ 34 ปีอาศัยอยู่เมืองเวคฟิลด์ รัฐโรด ไอส์แลนด์ ต้องข้อหาทั้งหมด 26 ข้อหา ประกอบด้วยการฉ้อโกงวีซ่า,ส่งไปรษณีย์หลอกลวง,การขโมยชื่อผู้อื่นและการฟอกเงินระหว่างประเทศ ทั้งนี้เรื่องเกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานของสหรัฐร่วมกันลงมือสอบสวนประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐ(ICE) กระทรวงความมั่นคงภายใน ด้วยความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการพลเมืองและคนเข้าเมือง รัฐนิวเจอร์ซีและเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐโรด ไอส์แลนด์ เจ้าหน้าที่ยังยึดเงิน 279,550 จากนายนิมนต์ โดยเชื่อว่าเงินจำนวนนี้ได้มาจากการเรียกเก็บกับผู้ตกเป็นเหยื่อ จากข้อมูลที่อัยการเสนอต่อศาลระบุว่าระหว่างเดือนมกราคม 2014 ถึงธันวาคม 2015 นายนิมนต์ได้จัดทำโฆษณาลงในอินเทอร์เน็ตและออกใบปลิวแจกจ่ายไปตามสถานที่ธุรกิจต่างๆ โดยอ้างว่าจะสามารถช่วยจัดหาบัตรทำงาน ( Employment Authorization Document =EAD card หรือที่เรียกว่า Work permit) ให้แก่คนไทยได้ ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะได้สิทธิประโยชน์อื่นๆตามมาหากมีคุณสมบัติครบอาทิเช่นใบโซเชียล เซเคียวริตี้ (บัตรประกันสังคม),ใบขับขี่และความช่วยเหลือทางการเงินต่าง ๆจากรัฐบาลสหรัฐ จากข้อที่นำไปฟ้องร้องได้ (indictment)ที่ชี้ขาดโดยคณะลูกขุน ยังระบุว่านายนิมนต์กระทำโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ยื่นแอพพลาย โดยผู้มอบชื่อและรายละเอียดส่วนบุคคลให้กับนายนิมนต์นั้นเพราะเชื่อว่าเขาจะยื่นแอพพลายขอบัตร EAD ให้ได้ แต่แทนที่จะทำเช่นนั้นเขากลับนำไปยื่นขอลี้ภัยอพยพ (file asylum)แทน อีกทั้งเจ้าของชื่อเหล่านี้ก็ไม่ทราบว่านายนิมนต์จะยื่นขอลี้ภัย ทั้งนี้การที่จะมีคุณสมบัติยื่นขอลี้ภัยในสหรัฐได้นั้น ผู้ยื่นจะต้องแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าหากพวกเขากลับไปยังประเทศเดิมของตนจะถูกลงโทษหรือหวั่นเกรงว่าจะถูกลงโทษอันมาจากกรณีเชื้อชาติ,ศาสนา,สัญชาติ,เป็นสมาชิกของกลุ่มสังคม(เช่นเกย์,เลสเบียน) หรือเป็นกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง นอกจากนี้ผู้ยื่นขอลี้ภัยอพยพจะต้องลงชื่อและสาบานว่าข้อมูลที่ยื่นต่อเจ้าหน้าที่จะต้องเป็นจริงและถูกต้อง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าตามสถิติทั่วประเทศสหรัฐนั้น บุคคลที่มีสัญชาติไทยจะยื่นขอลี้ภัยอพยพในสหรัฐปีละน้อยกว่า 20 คน จากข้อมูลที่เสนอต่อศาลนั้นพบว่าการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เริ่มจากเดือนมกราคม 2015 หลังจากเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นเห็นผิดสังเกตุว่าคนไทยได้ยื่นขอลี้ภัยมากผิดปกติ อีกทั้งจากการตรวจสอบ 260 รายยังพบว่าผู้ยื่นขอลี้ภัยเหล่านี้มีสถานที่พักและหรือที่ทำงานเป็นแห่งเดียวกับจำเลยคือนายนิมนต์ นายนิมนต์ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2015 และเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ หลังจากทราบว่านายนิมนต์เตรียมหลบหนีออกจากสหรัฐ ขณะเดียวกัน นางธุวดารา โกลด์แมน เจ้าหน้าที่คนไทยที่อยู่ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย(Asian Americans Advancing Justice - Los Angeles)เปิดเผยว่ามีคนไทยหลายคนตกเป็นเหยื่อของนายนิมนต์และติดต่อมายังหน่วยงานของเธอให้ช่วยเหลือ ขณะนี้สำนักงานได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอัยการสูงสุดไปแล้วและประสานกับเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง นางธุวดาราเปิดเผยว่าวิธีการของนายนิมนต์ก็คือส่งใบปลิวโฆษณาไปตามร้านอาหารไทยในเมืองใหญ่ๆว่าเขาสามารถขอใบอนุญาตทำงาน (work permit)ให้ได้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะยื่นขอลี้ภัยและไม่บอกว่าจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างหลังจากอิมมิเกรชั่นปฏิเสธ เค้ามีการคิดค่าบริการ 2,000 - 2,500 เหรียญต่อคน ผู้ยื่นไม่ได้เป็นทนายหรือ BIA accredited representative มีผู้หลงเชื่อใช้บริการจำนวนมาก ขณะนี้ทางศูนย์ได้ทยอยให้คำแนะนำไปบ้างบางส่วนแล้วนางธุวดารากล่าว นอกจากนี้ทีมทนายที่ศูนย์กำลังร่างบทความทั่วไปเพื่อเตือนภัยพี่น้องชาวไทยให้ระวังมิจฉาชีพ หลังจากทนายเขียนบทความเสร็จก็จะนำออกเผยแพร่คาดว่าจะเป็นสัปดาห์หน้า ที่มา thaitribune
Create Date : 28 มกราคม 2559 | | |
Last Update : 28 มกราคม 2559 22:06:44 น. |
Counter : 309 Pageviews. |
| |
|
|
|