ไทย-ญี่ปุ่นไปโลดพัฒนาระบบราง-ดาวเทียมสำรวจโลก-อาเบะเร่งเปิดตลาดมะม่วง 2 สายพันธุ์ให้ไทย

นายกรัฐมนตรีไทยพบนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเป็นครั้งที่ 6 ช่วงประชุมสุดยอดอาเซียน ญี่ปุ่นร่วมลงทุนในนิติบุคคลเฉพาะกิจ เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ขอบคุณเร่งรัดเปิดตลาดมะม่วง 2 สายพันธุ์ ส่ง "สมคิด"โรดโชว์เขตคลัสเตอร์แหลมฉบังและมาบตาพุด ตั้งกลไกหารือระดับสูงด้านเศรษฐกิจ ยินดีที่ไทยสนใจ TPP

 

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หารือข้อราชการกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 27 ณ โรงแรมเรเนซองส์ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ภายหลังการหารือ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ คือ การพบปะระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับนายอาเบะ นับเป็นครั้งที่ 6 ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นพัฒนาก้าวหน้าในหลายเรื่อง ได้แก่ เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ไทยยินดีที่ญี่ปุ่นจะเข้ามาร่วมลงทุนในนิติบุคคลเฉพาะกิจ Special Propose Vehicle อย่างเต็มตัว และทั้งสองฝ่ายพร้อมเดินหน้าทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยไทยได้ย้ำว่าโครงการนี้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทยกับญี่ปุ่นจะเป็นส่วนสำคัญช่วยผลักดันการเจริญเติบโตในภูมิภาค

ผู้นำทั้งสองเห็นว่า ไทยกับญี่ปุ่นยังสามารถร่วมมือกันอีกหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบรางในเขตเมือง ดาวเทียมสํารวจโลก รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ส่วนเรื่องสินค้าเกษตร นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี อาเบะที่ช่วยเร่งรัดการเปิดตลาดมะม่วง 2 สายพันธุ์ให้ โดยในส่วนของไทย นายกรัฐมนตรีรับที่จะช่วยติดตามเรื่องผ่อนปรนมาตรการนําเข้าเนื้อวัวและส้มจากญี่ปุ่นเช่นกัน

นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี (ระหว่างวันที่ 25 – 28 พ.ย.) เพื่อชี้แจงนักลงทุนญี่ปุ่นเกี่ยวกับนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษในรูปแบบคลัสเตอร์ (Super Clusters) ซึ่งจะมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และมุ่งเน้นพัฒนาในพื้นที่อุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่มีศักยภาพ และมีนักลงทุนญี่ปุ่นลงทุนอยู่มาก เช่น แหลมฉบังและมาบตาพุด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่าในการเยือนญี่ปุ่นของรองนายกรัฐมนตรี จะทำให้ไทยและญี่ปุ่นสามารถร่วมมือที่ตอบสนองผลประโยชน์ร่วมกันได้ ทราบว่า จะมีการตั้งกลไกหารือระดับสูงด้านเศรษฐกิจและขอสนับสนุนให้มีการหารือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง

นายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวยินดีที่ทราบว่าจะมีการจัดการประชุมหารือด้านเศรษฐกิจระดับสูงระหว่างไทย-ญี่ปุ่นด้วย เพื่อารือพูดคุยด้านเศรษฐกิจและการถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้สูงขึ้น นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังยินดีที่ไทย แสดงความสนใจในเรื่องกรอบความร่วมมือ TPP และอยากให้ไทยมีส่วนร่วม เพราะเป็นกรอบการค้าที่มีมาตรฐานสูง จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของภูมิภาค

สำหรับความร่วมมือในระดับภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย - ญี่ปุ่น จะยิ่งทวีความสําคัญ และเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาภูมิภาค หลังการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในปลายปีนี้ โดยในส่วนของไทยพร้อมจะร่วมมือกับญี่ปุ่นในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน.

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2558 3:41:33 น.
Counter : 308 Pageviews.  

รัสเซียโจมตีไอซิสในซีเรียตลอด 24 ชั่วโมงตัดท่อน้ำเลี้ยง-คูเวตจับกลุ่มค้าอาวุธนำจากยูเครนส่งผ่านตุรกี

รัสเซียเปิดฉากโจมตีกลุ่มไอซิสตลอด 24 ชั่วโมงหลังพบว่าระเบิดเครื่องบิน เผยตั้งแต่ปฏิบัติสังหารแล้วกว่า 1,300 ราย คูเวตจับกลุ่มค้าอาวุธให้ไอซิสในซีเรียได้เป็นอาวุธจากยูเครนส่งเข้าซีเรียผ่านตุรกี

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอนว่าตั้งแต่รัสเซียปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอซิสและกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆในซีเรียวันที่ 30 กันยายนเป็นต้นมานั้นสังหารผุ้คนไปแล้วกว่า 1,300 ราย

ทั้งนี้กลุ่มเฝ้ามองสิทธิมนุษยชนในซีเรีย( the Syrian Observatory for Human Rights) มีสำนักงานอยู่ในกรุงลอนดอนเป็นผู้บันทึกรายงานนี้ โดยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 1,331 ราย แยกเป็นกลุ่มไอซิส 381 ราย,อีก 547 รายเป็นกลุ่มก่อการร้ายอื่นเช่นกลุ่มอัล-นุสราที่เป็นแขนงหนึ่งของกลุ่มอัลกออิดะห์และยังมีทหารของกลุ่มกบฎอีกหลายกลุ่ม

การโจมตีครั้งนี้ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 403 รายในจำนวนนี้เป็นเด็ก 97 ราย

ก่อหน้านี้ทางกลุ่มก็เปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมพบว่าจำนวนผู้ถูกสังหารจากการโจมตีของรัสเซียกว่า 600 คน

ขณะเดียวกันกรณีสหรัฐนำกลุ่มพันธมิตรโจมตีในซีเรียตั้งแต่เดือนกันยายน 2014 นั้นมีผู้ถูกสังหารทั้หงมด 3,649 ราย ในจำนวนนี้ 6 % คิดเป็นพลเรือน ขณะที่ปลายเดือนตุลาคมรายงานเดียวกันนี้ระบุว่ากรณีสหรัฐนำโจมตีมีผู้เสียชีวิต 3,276 รายแยกเป็นสมาชิกกลุ่มอัล-นุสรา 147 คนและสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอื่น ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 226 คน  

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมอสโควเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนว่านับเป็นวันที่ 3 ที่รัสเวียโจมตีติดต่อกันอย่างหนักทั้งจากเครื่องบินทิ้งระเบิดและการยิงขีปนาวุธจากเรือรบในทะเลเมดิเตอเรเนียน

ทั้งนี้ยุทธวิธีของรัสเซียด้วยการยิงขีปนาวุธ(cruise missiles) 12 ลูกเข้าสู่เป้าหมายของกลุ่มไอซิสบริเวณเมืองอิดลิบและเมืองอะเลปโป้ ขีปนาวุธเข้าเป้าหมายอาคารและกองบัญชาการของกลุ่มไอซิส

ขณะที่เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-22 ถล่มเข้าสู่ 6 เป้าหมายเป็นโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของกลุ่มไอซิสในเขตเมืองรักกาและเมือง Deir Ezzor

คำแถลงของรัสเวียยังระบุว่าเครื่องบินรบต่างๆที่ขึ้นจากสนามบินของรัฐบาลซีเรียและเครื่องบินรบของรัสเซียร่วมกันถล่ม 138 จุดในวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายนวันเดียวตลอด 24 ชั่วโมงและทั่วประเทศที่กลุ่มไอซิสตั้งมั่นอยู่

ทั้งนี้รัสเซียกระหน่ำหรือจัดหนักหลังจากกลถ่มไอซิสประกาศว่าได้วางระเบิดจเครื่องบินโดยสารของรัสเซียสายเมโทรเจ็ทตกลงในคาบสมุทรไซนายในอิยิปต์เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม

ทางด้านไอกอร์ คิลมอฟ(Igor Klimov)โฆษกกองกำลังอวกาศของรัสเซียก็แถลงผ่านสำนักข่าวอิทาร์-ทาสส์ยืนยันว่าเครื่องบินรบของรัสเซียจากฐานทัพ Hmeimim ของซีเรียขึ้นบินทิ้งระเบิดตลอด 24 ชั่วโมงทั้งกลางวันกลางคืนตลอด 3 วันที่ผ่านมา

ทางด้านสำนักข่าวเอพี รายงานเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของประเทศคูเวตสามารถจับกุมกลุ่มค้าอาวุธให้กับกลุ่มไอซิสได้ 6 คนและอีก 4 คนหลบหนีไปได้  โดยอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยของคูเวต

แกนนำของกลุ่มคือนายโอสมา คายัต(Osama Khayat)วัย 45 ปีเป็นชาวเลบานอนยอมเปิดเผยข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่ากลุ่มเข้าไปร่วมในฐานะพ่อค้าอาวุธเป็นตัวแทนของหัวหน้ากลุ่มไอซิสในซีเรีย

การติดต่อซื้ออาวุธต่างๆไปยังยูเครน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง FN-6 อันเป็นเครื่องยิงขีปนาวุธต่อต้านทางอากาศแบบประทับบ่า จากนั้นอาวุธจะส่งตรงไปยังตุรกีเพื่อนำเข้าซีเรีย

ในระหว่างถูกสอบปากคำนายคายัตยอมรับว่าเงินซื้ออาวุธส่งผ่านธนาคารในตุรกี พร้อมกับยอมรับว่าทางกลุ่มได้มีการระดมนักรบใหม่ๆผ่านออนไลน์ของไอซิสด้วย

นอกจากชาวเลบานอนแล้วเจ้าหน้าที่คูเวตยังจับกถุมชาววีเรีย 3 คน,ชาวอียิปต์ 1 คน,ชาวคูวเต ส่วนอีก 4 คนที่หลบหนีไปได้เป็นชาวซีเรีย 2 คนและชาวออสเตรเลียที่มีเชื้อสายเลบานอนอีก 2 คน โดยทั้งหมดหลบหนีออกจากคูเวตไปได้

รายงานข่าวเปิดเผยว่ากลุ่มไอซิสมีรายได้จากการขายน้ำมันดิบที่อยู่ในเขตยึดครองของตนโดยมีรายได้ตกเดือนละประมาณ 40-50 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นเป้าหมายหนึ่งที่รัสเซียโจมตีขณะนี้มีการโจมตีรถบรรทุกน้ำมันทุกคันในซขตยึดครองของกลุ่มไอซิสเพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มด้วย

Russian Fighter Jets Strike ISIL-Contolled Oil Facilities, Crude Smuggling Fleet

TEHRAN (FNA)- Footage released by the Russian Ministry of Defence shows Russian fighter jets conducting airstrikes against oil facilities controlled by the ISIL Takfiri terrorist group in Syria as well as hundreds of tankers that the terrorist group uses for smuggling and selling crude to international buyers through a neighboring country. [VIDEO]

//english.farsnews.com/player.aspx?nn=13940828000713

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2558 18:02:51 น.
Counter : 355 Pageviews.  

กระทรวงศึกษาออกเกณฑ์ใหม่ บังคับอาจารย์ปริญญาตรีต้องผ่านทดสอบภาษาอังกฤษ

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการออกเกณฑ์ใหม่ ให้อาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาตรี ต้องผ่านทดสอบความสามารถทางภาษาอังกฤษ เปิดทางเลือกให้ผู้เรียนปริญญาตรีลงเรียนบางวิชาในระดับปริญญาโทได้

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกฎกระทรวงศึกษาธิการเรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรีพ.ศ. 2558  ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2548 ได้ประกาศใช้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วจึงมีความจําเป็นต้องมีการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าวสําหรับการผลิตบัณฑิตระดับอุดมศึกษาที่เหมาะสมกับพลวัตของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

โดยอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546

สำหรับเกณฑ์ใหม่นี้ ได้กำหนดให้อาจารย์ประจำสถาบันอุดมศึกษารับเข้าใหม่ จะต้องมีคะแนนทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เรื่อง มาตรฐานความสามารถภาษาอังกฤษของอาจารย์ประจำ

นอกจากนี้ สาระสำคัญดังกล่าวได้แบ่งหลักสูตรออกเป็น กลุ่ม คือ

1) หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาการ ที่แบ่งเป็น 2 แบบ คือ 1) หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาการ ที่มุ่งผลิตบัณฑิตให้มีความรอบรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ เน้นความรู้และทักษะด้านวิชาการ สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงได้อย่างสร้างสรรค์  2) หลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้าทางวิชาการ ซึ่งเป็นหลักสูตรปริญญาตรีสำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ มุ่งเน้นผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถระดับสูง โดยใช้หลักสูตรปกติที่เปิดสอนอยู่แล้ว ให้รองรับศักยภาพของผู้เรียน โดยกำหนดให้ผู้เรียนได้ศึกษาบางรายวิชาในระดับบัณฑิตศึกษาที่เปิดสอนอยู่แล้ว และสนับสนุนให้ผู้เรียนได้ทำวิจัยที่ลุ่มลึกทางวิชาการ

2) หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาชีพหรือปฏิบัติการ ที่แบ่งเป็น แบบ คือ 1หลักสูตรปริญญาตรีทางวิชาชีพหรือปฏิบัติการ ที่มุ่งผลิตบัณฑิตให้มีความรอบรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เน้นความรู้ สมรรถนะ และทักษะด้านวิชาชีพตามข้อกำหนดของมาตรฐานวิชาชีพ  2) หลักสูตรปริญญาตรีแบบก้าวหน้าทางวิชาชีพหรือปฏิบัติการ ซึ่งเป็นหลักสูตรปริญญาตรีสำหรับผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ มุ่งเน้นผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ สมรถนะทางวิชาชีพหรือปฏิบัติการขั้นสูง โดยใช้หลักสูตรปกติที่เปิดสอนอยู่แล้ว ให้รองรับศักยภาพของผู้เรียน โดยกำหนดให้ผู้เรียนได้ศึกษาบางรายวิชาในระดับบัณฑิตศึกษาที่เปิดสอนอยู่แล้ว และทำวิจัยที่ลุ่มลึกหรือได้รับการฝึกปฏิบัติขั้นสูงในหน่วยงาน องค์กร หรือสถานประกอบการ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2558 17:58:28 น.
Counter : 568 Pageviews.  

“มีชัย”ย้ำรับฟังทุกความเห็นไร้พิมพ์เขียวร่างรธน.

เปิดสัมมนารับฟังความเห็น “มีชัย”ยอมรับ กรธ.มีเวลาทำงานน้อย ชี้ระบบการศึกษา–การบังคับใช้ ก.ม.ทำประเทศไม่เดินหน้า ต้องเร่งแก้ 2 เรื่องนี้ วอนเอ็นจีโอ. อย่าเรียกร้อง กฎหมายหลายเรื่อง เพราะไม่สร้างประโยชน์ เปรียบเหมือนโซ่ตรวน พร้อมยืนยันไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน2558 ที่รัฐสภา  คณะอนุกรรมการรับฟังและสรุปความคิดเห็น ที่มีผู้เสนอแนะในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า จัดสัมมนาเรื่องการรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มเฉพาะต่อร่างรัฐธรรมนูญ โดยมีกลุ่มตัวแทนจากภาคประชาชนเข้าร่วมจำนวน 7 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มปฏิรูปด้านการศึกษา กลุ่มการค้าเสรี กลุ่มคุ้มครองผู้บริโภค กลุ่มสิทธิสตรี กลุ่มสื่อสารมวลชน กลุ่มทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย

              นายธิติพันธ์ เชื้อบุญชัย ประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็น กล่าวเปิดงานว่า ตามบทบัญญัติมาตรา 39/1 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 พ.ศ.2558 กำหนดให้ กรธ.รับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อประกอบการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุนี้ กรธ.จึงมีมติตั้งคณะอนุกรรมการรับฟังและสรุปความคิดเห็นที่มีผู้เสนอแนะขึ้นมา โดยให้มีอำนาจหน้าที่พิจารณาและดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พรรคการเมือง องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และประชาชน

               สำหรับเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังความเห็นของกลุ่มเฉพาะที่มีต่อร่างรัฐธรรมนูญ รวมทั้งส่งเสริมโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ และเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของในร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้โดยหวังว่า การสัมมนาจะเป็นการจุดประกายการรับฟังความเห็นของประชาชน ต่อการเสนอความเห็นการร่างรัฐธรรมนูญในภายหน้า

              ขณะที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.กล่าวปาฐกถาว่า กรธ.ที่ตั้งขึ้นมา จำนวน 21 คน มาด้วยกระดาษเปล่า มีคนถามว่ามีโผหรือพิมพ์เขียวหรือไม่ เราก็นึกภาวนาว่าถ้ามีก็ดี เราก็จะได้ทำงานน้อยไม่ต้องไปคิดอะไร แต่ปรากฎว่าก็ให้กระดาษเปล่า พร้อมกับกรอบจำนวน 5 ข้อ คือ 1.ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นที่ยอมรับ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศไทยได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้เป็นที่ยอมรับนับถือของสากล 2.กำหนดให้มีกลไกในการปฏิรูปที่มีประสิทธิภาพ ให้เวลามา 6 เดือน กับคน 21 คน เราก็นั่งฟังสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้คิดอะไรไปแล้วบ้างในเวลา 1 ปีที่ผ่านมา

3.กำหนดให้มีมาตรการไม่ให้การเมืองใช้เงินหลวงไปอ่อยเหยื่อประชาชนเพื่อสร้างความชอบธรรมหรือหาประโยชน์ส่วนตน 4.กำหนดมาตรการป้องกันทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยสิ่งที่เราดีใจคือผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่าทุกคนเห็นดีเห็นงามว่าการประพฤติมิชอบจะปล่อยทิ้งไว้ในบ้านเมืองไม่ได้ เพราะการทุจริตมันเปลี่ยนรูปแบบสลับซับซ้อนยากจนคนทั่วไปจะรับได้ มารู้อีกทีเมื่อตอนเงินหมดไปแล้วจำนวนมหาศาล และ 5.สร้างกลไกให้มีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งไม่ยาก แต่ในทางปฏิบัติจะเกิดผลจริงจังในการมีส่วนร่วมแบบมีความรับผิดชอบได้อย่างไร

                นายมีชัย กล่าวว่า ตอนที่เริ่มร่างรัฐธรรมนูญนั้น หลายฝ่ายก็แสดงความเห็นว่ารัฐธรรมนูญต้องสั้น กะทัดรัด ไม่มีรายละเอียดมาก แต่ทุกฝ่ายก็พยายามเสนอว่า กรธ.ต้องใส่เรื่องนี้เรื่องนั้น ซึ่งถ้าใส่ทั้งหมด รัฐธรรมนูญก็คงจะหนามาก ดังนั้น กรธ.ต้องคิดว่าจะใส่อะไรลงไปจึงจะทำให้ทุกฝ่ายพอใจ ไม่หนักใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ง่ายอีกเช่นกัน เมื่อเราจะปฏิรูปประเทศต้องมาคิดว่าประเทศมีปัญหาอะไร เกิดจากอะไร จึงจะปฏิรูปถูก เพราะถ้าไม่รู้ปัญหา ก็จะไม่สามารถเขียน รธน.ป้องกันได้ แล้วทาง กรธ.ก็พบว่ากลไกทางการเมืองที่ผ่านมา ไม่เอื้อให้กับการตรวจสอบ และสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

             นายมีชัย ยอมรับว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าทำไมประเทศไทยต้องมาคิดของใหม่ ทำไมไม่ตามแบบเขา ซึ่งขอตอบว่า ปัญหาประเทศไทยนั้นไม่มีที่ไหนแล้วในโลก ในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนที่ตัดงบประมาณจังหวัด เพียงเพราะจังหวัดนั้นไม่เลือกพรรคนั้นๆ ดังนั้นการแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ต้องแก้โดยวิธีที่ไม่เหมือนใคร ทั้งนี้ กรธ.ทั้ง 21 คน ไม่มีความสามารถที่จะรู้ใจประชาชน หรือรู้วิธีแก้ปัญหาทั้งหมดทุกฝ่าย

              ดังนั้น การศึกษาและกลไกของตำรวจคือสิ่งที่ทำให้ประเทศเดินไปไม่ได้ ถ้ากฎหมายที่ออกมาแล้วไม่มีการบังคับใช้หรือบังคับตามใจตนหรือเจ้านาย ตามใจผู้มีอิทธิพล มันก็ไม่เกิดความสงบเรียบร้อย ที่ผ่านมากลุ่มเอ็นจีโอเรียกร้องกฎหมายนั้นกฎหมายนี้ แต่รู้หรือไม่ว่ากฎหมายนั้นไม่เคยสร้างประโยชน์แก่สังคม เป็นเพียงเครื่องผูกมัดคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ยิ่งมีกฎหมายมากเท่าใด ถ้าการบังคับทางกฎหมายไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายนั้นจะเป็นเพียงโซ่ตรวน ไม่ได้ช่วยสร้างสังคมให้ดีขึ้น เราจึงคิดว่าถ้าปฏิรูป 2 เรื่องนี้ไม่ได้ บ้านเมืองไม่ไปไหนแน่ รัฐธรรมนูญไม่มีทางสำเร็จ

             "เหตุผลที่ กรธ.ต้องรับฟังความคิดเห็น เพราะความคิดเห็นที่หลากหลายเราคงไม่ได้ลอกไปหรือรับไปเขียนทั้งหมด แต่ความคิดเห็นที่เสนอมานั้นจะจุดประกายความคิดของ กรธ.ให้ต่อยอดได้ บางครั้งเจ้าตัวอาจไม่รู้ว่าสิ่งที่เขียนหรือเสนอมานั้น เราไม่ได้เอามาทั้งหมด แต่เป็นคุณูปการมหาศาลสำหรับ กรธ.ท่านแสดงความคิดเห็นมาได้แต่อย่าคิดว่าเราจะเอาไปทั้งหมด เรารับฟังโดยจะเอาประกายที่เกิดขึ้นจากความคิดเห็นของท่านไปเขียนในรูปแบบของรัฐธรรมนูญ เพราะเมื่อกำหนดให้รัฐธรรมนูญต้องสั้น กระชับ กระทัดรัด ไม่เยิ่นเย้อ เราก็ต้องสกัดว่าสิ่งใดพอจะอยู่ในรัฐธรรมนูญได้บ้างตามที่สติปัญญาของเราจะเอื้อให้ได้" ประธาน กรธ.กล่าวและว่า

          ความคิดเห็นประชาชนนอกเหนือไปจากการมีส่วนร่วม การช่วยกันทำ ว่ามันคือรัฐธรรมนูญของเราของทุกคนที่จะใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศ ความคิดเห็นนั้นจะช่วยนำไปสู่จุดที่เกิดประโยชน์ประสิทธิภาพในการพัฒนาบ้านเมืองอย่างสูงสุดในอนาคต กรธ.มีระยะเวลาทำงานเพียง 6 เดือน ไม่สามารถจัดรับฟังความเห็นอย่างทั่วถึงได้ แต่ว่า กรธ.จะทำเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย

            “ขอให้มั่นใจว่า กรธ.ไม่มีฝักใฝ่ในพรรคการเมืองใด ไม่ได้คิดว่าพรรคใดได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ เรามองเฉพาะกลไกที่เราวางจะเป็นกลไกที่เอื้อต่อประชาชนอย่างแท้จริง เคารพสิทธิประชาชน ให้ประชาชนมีข้อมูล แล้วเมื่อสิ่งที่เราทำนั้นสำเร็จ ประชาชนจะเลือกพรรคใด กรธ.ไม่เกี่ยวข้อง เพราะระบอบประชาธิปไตยเราจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องยอมรับ กรธ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ไม่ได้คิดเอาใจช่วยพรรคใดโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม อยากขอร้องเวลาที่เสนอแนะกระบวนการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ขอให้วางพรรคการเมืองทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วมาตัวเปล่า คิดว่าบ้านเมืองจะดีได้อย่างไรด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญ จากนั้นเราจะได้ชื่อว่าทำงานโดยมุ่งประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนรวม

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2558 17:55:50 น.
Counter : 274 Pageviews.  

กทม.วิจัยวัคซีนป้องกัน 'ไข้เลือดออก' พบยอดผู้ป่วย 1.6 หมื่นคน

กทม.วิจัยวัคซีนป้องกัน 'ไข้เลือดออก' พบยอดผู้ป่วย 1.6 หมื่นคน เสียชีวิตที่เขตบึงกุ่ม 1 ราย คาดปี 59 เสี่ยงระบาด 6 เขต หนองจอก-บางกะปิ-บางเขน-ดุสิต-พระนคร-บางรัก

 

 นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ในฐานะรองโฆษกกทม. กล่าวถึงผลการประชุมคณะผู้บริหารกทม. ครั้งที่ 33/2558 ว่า สำนักอนามัยกทม. ได้รายงานสถานการณ์ไข้เลือดออกในกรุงเทพฯ เพื่อชี้แจงสถานการณ์และการแก้ไขภาวะระบาดที่เกิดขึ้น เพื่อลดอัตราป่วยและพื้นที่เสี่ยงโรคไข้เลือดออกให้น้อยลง ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมทั่วประเทศจำนวน 107,564 ราย คิดเป็นอัตราป่วยสะสม 165.17 รายต่อประชากรแสนคน ส่วนผู้ป่วยสะสมกรุงเทพฯ จำนวน 16,633 ราย หรือมีอัตราป่วยเป็นลำดับที่ 18 ของทั้งประเทศ และเป็นลำดับที่ 3 เมื่อเทียบกับ 6 จังหวัดปริมณฑล โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ในพื้นที่เขตบึงกุ่มเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่มีอัตราป่วยตายน้อยกว่าเมื่อเทียบทั่วประเทศ เนื่องจากมีการเฝ้าระวังและดูแลรักษาในระดับปฐมภูมิ อีกทั้งมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว และยังมีการจัดอาสาสมัครลงพื้นที่ให้ความรู้และเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงให้ความรู้ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ตลอดทั้งปี

 นางเบญทราย กล่าวต่อว่า ส่วนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคไข้เลือดออกพบว่า การระบาดของโรคไข้เลือดออกมักเกิดขึ้นในลักษณะ 1 ปี เว้น 1 ปี โดยในช่วงปี 2557 มีรายงานการป่วยด้วยไข้เลือดออกน้อย ขณะที่ปี 2558 พบว่ามีการระบาดรุนแรง เนื่องจากฤดูฝนนานกว่าปกติ อีกทั้งพบว่าสายพันธุ์ไวรัสแดงกี (dengue) ที่พบมาก เริ่มเปลี่ยนจาก dengue serotype 3 มาเป็น dengue serotype 4 ซึ่งทำให้ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อดังกล่าวมาก่อน นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าวงจรชีวิตยุงบางส่วนสั้นลง ระยะที่เป็นไข่ ลูกน้ำ ตัวโม่ง จนกระทั่งเป็นยุงลาย ใช้เวลาไม่ถึง 10 วัน ขณะที่ในปี 2559 มีการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงโรคไข้เลือดออกที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย เขตหนองจอก เขตบางกะปิ เขตบางเขน เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตบางรัก ซึ่งเป็นการประเมินจากอัตราป่วยย้อนหลัง 5 ปี พื้นที่ป่วยซ้ำซาก จำนวนประชาชน และลักษณะของพื้นที่ แต่กทม.ได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้เลือดออกล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง ปีละ 4 ครั้ง ในเดือนก.พ. พ.ค. ก.ย. พ.ย. 

 นางเบญทราย กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ กทม.ได้ดำเนินการวิจัยด้านการระบาดวิทยาของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเดงกีในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือระหว่างสำนักอนามัย สำนักการแพทย์ กทม. และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ฝ่ายสหรัฐ ซึ่งเริ่มการศึกษาในปี 2558 เพื่อศึกษาระบาดวิทยาของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสเดงกีในกรุงเทพฯ อีกทั้งยังได้วิจัยวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก เพื่อลดความรุนแรงของไข้เลือดออกในกรุงเทพฯด้วย อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ได้กำชับการป้องกันปัญหาโรคไข้เลือดออกให้ดีที่สุด โดยเตรียมพร้อมอุปกรณ์และบุคลากรให้เพียงพอในการดำเนินการทุกด้าน และโอกาสที่กทม. จะเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนรุ่นใหม่ ระหว่างวันที่ 18-21 พ.ย. 58 ซึ่งจะมีผู้นำระดับโลกและเยาวชนคนรุ่นใหม่จากทั่วโลกเข้าร่วมการประชุม ดังนั้นขอให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ รวมถึงดูแลพื้นที่โดยรอบสถานที่จัดงานอย่างรอบคอบ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2558 20:48:59 น.
Counter : 356 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.