ศึกษาคดีทุจริต-คดีหมิ่นประมาท-คนไทยและสังคมไทยต้องรอ“ศาลฎีกา”

คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 1.นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด อดีตพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (บมจ.อสมท) , 2. บริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดย น.ส.อังคนา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บจก.ไร่ส้ม , 3.นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวและ 4. น.ส.มณฑา ธีระเดช เจ้าหน้าที่ บจก.ไร่ส้ม ร่วมกันเป็นจำเลย ที่ 1-4 ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิด

คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องว่าช่วงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 -28 เมษายน 2549 นางพิชชาภาจัดทำคิวโฆษณารวมในรายการ“คุยคุ้ยข่าว”ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลา เพื่อเรียกเก็บเงินจากบริษัทไร่ส้ม 17 ครั้ง ทำให้ อสมท. เสียหาย 138 ล้านบาทเศษ และยังเรียกรับเงินกว่า 600,000 บาทจากนายสรยุทธและพวกเป็นการตอบแทน

พิพากษาดังนี้

จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การ มาตรา 6, 8, 11

จำเลยที่ 2-4 มีความผิดฐานสนับสนุนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การฯ มาตรา 6, 8, 11

การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 6 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษสูงสุด รวม 6 กระทง ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ

จำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 30 ปี ปรับจำเลยที่ 2 กระทงละ 2 หมื่นบาท รวมปรับ 1.2 แสนบาท

จำคุกจำเลยที่ 3 และ 4 กระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวมจำคุกจำเลยที่ 3 และ 4 คนละ 20 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 20 ปี จำคุกจำเลยที่ 3และ 4 คนละ 13 ปี 4 เดือน และ

ปรับจำเลยที่ 2 เป็นเงิน 8 หมื่นบาท

ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำเลยที่ 1, 3 และ 4

ต่อมาทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัวพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 2 ล้านบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวสู้คดีระหว่างอุทธรณ์ ศาลอาญาพิเคราะห์คำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งให้พวกจำเลยประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์ โดยตีราคาประกันคนละ 2 ล้านบาท และกำหนดเงื่อนไขห้ามพวกจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล รวมทั้งให้พวกจำเลยมารายงานตัวต่อศาลทุก 30 วัน

คดีนี้เป็นเรื่องของการ “ฉ้อราษฎร์บังหลวง”โดยชัดเจนและศาลพิพากษาแล้วว่าจำเลยมีความผิด โดยเฉพาะนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักอ่านข่าวชื่อดังนั้นสังคมคาดหวังว่าเขาจะต้องระงับการออกอากาศในรายการต่างๆที่จัดทำอยู่ แต่เมื่อระบบยุติธรรมเปิดโอกาสให้เขาสามารถสู้คดีได้ถึงศาลฎีกา เขาจึงต้องรอไปจนถึงศาลฎีกา กรณีของนายสรยุทธจึงไม่น่าแปลกใจในสังคมที่ดีอย่างสังคมไทย มีระบบยุติธรรมดำเนินไปตามขั้นตอน แต่ทว่าบางคนในสังคมมักจะเป็นคน“หน้าด้าน”ต้องรอไปจนถึงศาลฎีกา มีตัวอย่างหลายคดีที่ต้องต่อสู้ไปจนถึงศาลฎีกา ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าผลจะออกมาอย่างไรถือเป็นการ“ซื้อเวลา”มากกว่า เช่น

1.คดีที่นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีตส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 จนกระทั่งวันที่ 24 กรกฎาคม 2558 ศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีหมิ่นประมาท หมายเลขดำ อ.1886/2553 สรุปก็คือฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสองคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงการลงโทษนั้นเหมาะสมแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน

2.เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2558 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำที่ อ.10182/45 และคดีแดง ที่ 3579/49 ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หรือ เอ๋ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จำเลยที่ 1 ในฐานความผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นผู้มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือกระทำการโดยเจตนาขัดขวางไม่เป็นไปตามกฎหมาย และ นายปิติชาติ ไตรสุรัตน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการจำเลยที่ 2 ในฐานความผิดเดียวกัน และปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ถือเป็นการนัดหมายในชั้นศาลฎีกาครั้งที่ 6 หลังจาก 5 ครั้ง ก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 1 และ 2 ผลัดกันขอเลื่อนรับฟังคำพิพากษา

คดีนี้เกิดจากการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลนครสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2542 ได้มีการจับภาพชายปริศนานำบัตรเลือกตั้งใส่ในหีบบัตร กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2545 อัยการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ยื่นฟ้องนายชนม์สัวสดิ์ หัวหน้ากลุ่มปากน้ำ 2000 และผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลสมุทรปราการ เป็นจำเลยที่ 1 และนายปิติชาติ ปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการในสมัยนั้น เป็นจำเลยที่ 2

การพิจารณาของศาลชั้นต้น ตัดสินให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 6 ปี โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาในชั้นศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดจริง และให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และให้จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายชนม์สวัสดิ์ เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายชนม์สวัสดิ์ส่งตัวไปยังเรือนจำ

3. คดีรื้อเบียร์บาร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2546 กลุ่มชายฉกรรจ์หลายร้อยคนพร้อมรถแบกโฮบุกทำร้ายร้านบาร์เบียร์ บริเวณสุขุมวิทสแควร์ ซอยสุขุมวิท 10 แขวงและเขตคลองเตย กทม. จนล่าสุดศาลฎีกาพิพากษาเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2559 หรือใช้เวลากว่า 12 ปีก่อนที่จะส่งนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย อดีตผู้บริหารบริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์สตาร์และพรรคพวกเข้าจำคุกได้   

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาให้จำคุกจำเลย 66 คนๆ ละ 5 ปี ขณะที่จำเลย 66 คนได้ฎีกาสู้คดี   

คำพิพากษาศาลฎีกาให้จำคุกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ,พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ ,พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร เป็นเวลา 2 ปี ส่วนจำเลยอื่นศาลลงโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี 15 วัน ถึง 4 ปี

เราเห็นว่าระบบยุติธรรมได้ให้ความยุติธรรมในการต่อสู้คดีเสมอ ไม่มีคำว่า 2 มาตรฐานเพราะมีการนำพยานหลักฐานขึ้นมาต่อสู้หักล้างกันในศาลทั้งอัยการโจทก์และทนายจำเลย โดยมีองค์คณะผู้พิพากษาทำหน้าที่เป็นกรรมการกลาง เราเชื่อว่านายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ไม่น่าจะแตกต่างไปจาก 3 คดีที่ยกมาเป็นตัวอย่างให้ได้เห็น กล่าวคือหนีไม่พ้นกฎหมาย แต่จะเป็นเวลาใดนั้นก็จะต้องรอ“ศาลฎีกา”

ที่มา thaitribune



Create Date : 01 มีนาคม 2559
Last Update : 1 มีนาคม 2559 13:43:27 น. 0 comments
Counter : 317 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.