เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2559 ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สดร.เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ประชาชนสังเกตเห็นลำแสงสีขาวพาดผ่านท้องฟ้าเมืองไทย ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในช่วงเช้าของวันที่ 2 มกราคม 2559 ที่คาดว่าเป็นขยะอวกาศจากชิ้นส่วนจรวด SL-23 ที่ดีดตัวออกมาในขณะที่ส่งดาวเทียม Elektro-L2 ของประเทศรัสเซีย หลังจากนั้นประชาชนก็ได้แชร์ภาพถ่ายหรือคลิปลำแสงสีขาวที่พาดผ่านท้องฟ้าในเวลาและสถานที่ต่างๆกัน และตั้งคำถามว่า “มันคืออะไร” “ทำไมช่วงนี้ผ่านประเทศไทยบ่อย” “เป็นจรวดรัสเซียหรือไม่” ขอเรียนชี้แจงว่าเมฆสีขาวเป็นทางยาวเหนือฟ้าในทางวิชาการเรียกว่า คอนเทรล (Contrail) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “เมฆหางเครื่องบิน” เป็นเมฆที่เกิดจากความร้อนของเครื่องบินไอพ่น เมื่อเครื่องบินไอพ่นบินในระดับสูง ไอน้ำจากความร้อนที่พ่นออกมาจากเครื่องยนต์ ปะทะกับอากาศเย็นซึ่งอยู่ภายนอก เกิดการควบแน่นเป็นหยดน้ำ เราจึงมองเห็นควันเมฆสีขาวถูกพ่นออกมาทางท้ายของเครื่องยนต์เป็นทางยาว

ดร. ศรัณย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยมีสภาพอากาศที่หนาวเย็น ท้องฟ้าใส ทำให้เรามีโอกาสเห็นเมฆหางเครื่องบินกันได้บ่อยๆ เมฆหางเครื่องบินจัดเป็นเมฆชั้นสูง เกิดที่ระดับความสูงมากกว่า 16,500 ฟุต ซึ่งเป็นระดับที่เครื่องบินพาณิชย์เกือบทั้งหมดบิน ประชาชนจึงสามารถสังเกตเห็นเมฆหางเครื่องบินได้ง่าย

     ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ลูกไฟเหนือฟ้าเมืองไทย 2 ครั้งเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา สร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับปรากฏการณ์บนท้องฟ้าให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก ประกอบกับการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้คนไทยสนใจที่จะสังเกตท้องฟ้าและความเป็นไปของธรรมชาติรอบตัวมากยิ่งขึ้น นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะปลูกฝังเยาวชนให้มีกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์รู้จักสังเกต ตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบ อันจะเป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ซึ่งเชื่อมั่นว่า “วิทยาศาสตร์มีคำตอบ”

ที่มา thaitribune

Create Date : 05 มกราคม 2559
Last Update : 5 มกราคม 2559 10:07:28 น.		0 comments
Counter : 275 Pageviews.
Share Tweet