ม.สงขลานครินทร์ แนะเกษตรกรกู้วิกฤตยางพารา ยึดหลักเกษตรศาสตร์ของพระราชาควบคู่เกษตรปรัชญาเศรษฐกิจพอเพี

คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แนะเกษตรกรกู้วิกฤตยางพารา ยึดหลักเกษตรศาสตร์ของพระราชาควบคู่เกษตรปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพรเะจ้าอยู่หัวเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

 

ผศ.ทวีศักดิ์ นิยมบัณฑิต คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แนะนำเกษตรกรชาวสวนยางใช้รูปแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรตามศาสตร์ของพระราชาในพื้นที่ 30 ไร่ ให้แบ่งเป็น 3 ส่วน ดังนี้

ส่วนที่ 1 ปลูกยางพารา 16 ไร่ โดยส่งเสริมให้ยางพันธุ์ดี คือ พันธุ์ RRIT 408 พัฒนาโดยสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ซึ่งให้ผลผลิต กรีดวันเว้นวัน และทำยางแผ่นดิบขาย จะสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรกว่าสองหมื่นบาทต่อเดือน (คิดจากราคายางกิโลกรัมละ 40 บาท) ส่วนนี้ถือเป็นเงินออม

คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ แนะนำว่า การปลูกยางให้ใช้ยางต้นตอพันธุ์พื้นเมือง เพื่อเป็นตอในการผลิตกล้ายางพันธุ์ดี ทั้งนี้เนื่องจากยางพื้นเมืองมีระบบรากแข็งแรง ต้านทานการหักล้มเมื่อโดนลมแรง ต้านทานโรค และระบบรากสามารถดูดหาอาหารได้ดี และใช้ยางพันธุ์ RRIT 408 เป็นพันธุ์ยอด เนื่องจากเป็นพันธุ์ยางที่ดูแลง่าย เจริญเติบโตเร็ว ต้านทานโรค ให้ผลผลิตสูงถึง 352 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี ซึ่งสูงกว่ายางพาราพันธุ์ RRIM 600 ที่เกษตรกรนิยมปลูกอยู่ในปัจจุบันถึงสองเท่า และพันธุ์ยางพื้นเมืองยังมีความต้านทานต่อโรครากขาวซึ่งระบาดหนักในสวนยางในช่วงฝนตกชุก และยังไม่มีทางรักษาได้

“คาดว่าในปลายปีนี้ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะนำต้นยางพาราพันธุ์RRIT 408 มาเพาะชำโดยใช้ต้นตอพื้นเมืองมาขยายพันธุ์ สามารถจำหน่ายให้เกษตรกรที่สนใจไปปลูกได้สะดวก โดยเรามีทีมงานวิจัยที่ศึกษาวิจัยด้านนี้มาหลายสิบปี”

ส่วนที่ 2 ปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ทรัพย์ ม.อ. 1 จำนวน 13 ไร่ ซึ่งให้ผลผลิต 5 ตันต่อไร่ ราคากิโลกรัมละ 4 บาท สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกๆ 15 วัน สามารถทำรายได้ให้เกษตรกรกว่าสองหมื่นบาทต่อเดือน (คิดจากราคาปาล์มทะลายดิบกิโลกรัมละ 4 บาท)เงินที่ได้จากการจำหน่ายส่วนนี้ถือเป็นเงินเดือน

ส่วนที่ 3 ทำเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง 1 ไร่ ประกอบด้วยเลี้ยงวัวโดยใช้ใบปาล์มน้ำมันที่ได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิต นำมูลวัวไปหมักทำน้ำเขียวเพื่อผลิตแพลงก์ตอนใช้เป็นอาหารในการเลี้ยงปลานิล เมื่อปลานิลอายุ 80 วัน มีการขยายพันธุ์ ให้ปล่อยปลาหมอหรือปลาช่อนซึ่งกินปลานิลขนาดเล็กลงไปเพื่อควบคุมปริมาณปลาในบ่อ และปลาหมอกับปลาช่อนสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง

ร่วมกับการเลี้ยงไก่พื้นเมือง คอกวัวสร้างให้พื้นมีความลาดเทเพื่อให้มูลวัวไหลลงไปเองได้ ปลูกกล้วยไว้เป็นแนวกั้น ปลูกผักโดยใช้มูลวัว มูลไก่เป็นปุ๋ย สามารถเก็บผักกินเองหรือนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ได้อีกทาง เงินที่ได้จากการจำหน่ายส่วนนี้ถือเป็นเงินรายวัน

ที่มา thaitribune




Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2559 17:57:56 น. 0 comments
Counter : 264 Pageviews.

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.