เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นโจทก์ฟ้อง นายการุณ หรือ เก่ง โหสกุล อดีต ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 12 ดอนเมือง กทม. พรรคไทยรักไทย เป็นจำเลย เรื่องให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เขตเลือกตั้งที่ 12 จำนวน 5,369,108.32 บาท

จากกรณีที่ กกต. โจทก์ได้จัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2554 โดยโจทก์ได้ประกาศผลการเลือกตั้งให้ นายการุณ จำเลย ซึ่งเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. แบบแบ่งเขต พรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตเลือกตั้งที่ 12

ต่อมา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ในเขตเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นคำร้องว่า จำเลยได้ปราศรัยใส่ร้ายนายแทนคุณด้วยข้อความเท็จ เพื่อให้ประชาชนงดเว้นการลงคะแนนให้นายแทนคุณ และพรรคประชาธิปัตย์ ส่งผลให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดย กกต. โจทก์สอบถามแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำการดังกล่าวจริง จึงยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งขอให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลย

ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 5 ปี (ให้ใบแดง) และให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 12 ใหม่ โจทก์จึงจัดการเลือกตั้งใหม่และประกาศผลให้นายแทนคุณชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ส. กทม. แบ่งเขตเลือกตั้งที่ 12 โดยโจทก์ใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งใหม่เป็นเงินทั้งสิ้น5,201,313 บาท และขอให้จำเลยชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 5,369,108.32 บาท

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550มาตรา 113 บัญญัติว่า “ในกรณีที่ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งเพิกถอน สิทธิการเลือกตั้ง ส.ส. ผู้ใดเป็นเหตุให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ให้ผู้ถูกเพิกถอนการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งใหม่นั้นด้วย” จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งใหม่ให้แก่โจทก์จำนวน 5,369,108.32 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากเงินต้น 5,201,313 บาท จนกว่าจะชำระเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2559 ศาลแพ่งก็ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายการุณ หรือ เก่ง โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย เรื่องกระทำละเมิดจากการกล่าวปราศรัยโจมตี ให้ร้าย นายแทนคุณ โจทก์ ต่อหน้าประชาชนจำนวนมาก ด้วยข้อความอันเป็นเท็จที่เขตเลือกตั้งดอนเมือง ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ นายการุณ จำเลยชดใช้เงิน 1 ล้านบาทให้นายแทนคุณ

ทางด้าน นายการุณ กล่าวว่า ตนไม่ได้เดินทางไปศาลแพ่ง เนื่องจากไม่ทราบว่ามีคำพิพากษาในวันนี้ และจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่

ประวัติของเก่ง การุณ

การุณ โหสกุล มีชื่อเล่นว่า "เก่ง" เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2510 ที่อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ จังหวัดยโสธร)

การุณเคยเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตดอนเมือง สังกัดพรรคชาติไทยและลาออกไปสมัครเข้าพรรคไทยรักไทย ทำให้ทางพรรคชาติไทยส่ง นางสาวจณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ ลงสมัคร ส.ส.แทน และน.ส.จณิสตาได้รับการเลือกตั้ง

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 การุณได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในเขต 5 กรุงเทพมหานคร (บางเขน,สายไหม และดอนเมือง) สังกัดพรรคพลังประชาชน ต่อมาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคพลังประชาชน การุณจึงย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย โดยลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 สามารถเอาชนะ แทนคุณ จิตต์อิสระ จากพรรคประชาธิปัตย์ไปได้ ต่อมาจึงได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร

ในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ถูกมติเสียงข้างมากของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบแดงและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เนื่องจากการหาเสียงในการเลือกตั้งที่ผ่านมา การุณมีพฤติกรรมใส่ร้ายแทนคุณหลายต่อหลายครั้งและเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ศาลฎีกาฯเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่

คดีความ

เลี่ยงภาษีสินค้านำเข้า

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 ได้ยืนฟ้องต่อศาลชั้นต้นว่า การุณซึ่งเป็นพนักงานบริษัท เอฟไพร ออริทิเฟรทา จำกัด ได้ร่วมกับบริษัทเอฟไพร ฯ และห้างหุ้นส่วนจำกัดไทยจูนาฮา ลักลอบนำจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมพร้อมอุปกรณ์จำนวน 91 หีบห่อ ราคา 7,156,688 บาท เข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อจะส่งออกไปยังประเทศโปแลนด์ โดยหลบเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากรจำนวน 406,825 บาท

ต่อมาวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2596 มาตรา 27 ให้ปรับเป็นเงินจำนวน 30,254,052 บาท ต่อมาการุณจึงยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษา

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ศาลอาญารัชดานัดอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ แต่การุณไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ดังนั้นศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาไปเป็นวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2548 พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ออกหมายจับ

ต่อมาการุณเดินทางมารายงานตัวหลังศาลออกหมายจับไปแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และการุณถูกนำตัวไปควบคุมที่ห้องขัง หลังจากนั้นญาติของการุณได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินย่านดอนเมืองราคาประเมิน4,800,000 บาท ขอประกันตัวออกไป

ทะเลาะวิวาทในสภา

เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2551 ที่อาคารรัฐสภาได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง ผศ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์ ถูกการุณทำร้ายร่างกายโดยการกระทืบ และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ศาลจังหวัดดุสิตพิพากษาการุณให้จำคุก 1 ปี และปรับ 1,000 บาท ฐานทำร้ายร่างกาย และปรับ 10,000 บาท ฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี

ต่อมาในปี 2556 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องนายการุณในคดีนี้

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ที่อาคารรัฐสภาได้มีการประชุมร่วมรัฐสภา นางสาวรสนา โตสิตระกูล สมาชิกสภาวุฒิสภา ถูกนายการุณข่มขู่ทำร้ายร่างกาย ด้วยถ้อยคำเดี๋ยวจะมาเตะ ส.ว.

ทะเลาะวิวาทนอกสภา

การุณมีคดีความเรื่องการยกพวกไปรุมทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้อื่นหลายครั้ง แม้กระทั่งภายในพื้นที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงการทำร้ายร่างกายอดีตภรรยาด้วยการจิกผมและตบหน้าอย่างอุกอาจกลางสถานที่สาธารณะเช่นท่าอากาศยานกรุงเทพ

พ.ศ. 2548 นางสมศรี ด่าน ทีมงานหาเสียงพรรคชาติไทย ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง

พ.ศ. 2549 ทำร้ายร่างกายนายเจริญ สารไทสง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัทอุดมสุข จำกัด ขณะปฏิบัติหน้าที่

พ.ศ. 2550 ทำร้ายเจ้าพนักงานตำรวจในขณะปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายการุณ 4ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เสียทรัพย์ และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน  

พ.ศ. 2556 คดีข่มขู่นายแทนคุณ จิตต์อิสระโดย การุณกล่าวว่า คุณอย่าให้ผมจะต้องเถื่อนกับคุณ

ที่มา thaitribune

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2559 10:46:01 น.		0 comments
Counter : 241 Pageviews.
Share Tweet