สสส.พัฒนาคลินิกเลิกบุหรี่เป็นเครือข่ายคลินิกฟ้าใสเตรียมขยายให้ครบ 400 แห่งปี 2559

สสส.เล็งพัฒนาคุณภาพ “คลินิกเลิกบุหรี่”ร่วมเป็นเครือข่าย “คลินิกฟ้าใส” จัดอบรมบุคลากรพร้อมสนับสนุนเครื่องมือ ตั้งเป้าสิ้นปี 2559 ขยายคลินิกฟ้าใสจาก 340 แห่ง เป็น 400 แห่งทั่วประเทศ

 

ผศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา รองผู้จัดการโครงการพัฒนาบุคลากรแกนนำและโครงข่ายบริการเลิกเสพยาสูบระดับชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การลดปริมาณผู้สูบบุหรี่นั้น ปัจจัยสำคัญ คือ การบำบัดผู้ติดบุหรี่ให้สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลหลายแห่งมีการเปิดคลินิกให้บริการบำบัดและเลิกบุหรี่ขึ้น แต่คลินิกและบุคลากรอาจยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่มากนัก ทำให้การดำเนินงานยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ที่ผ่านมา จึงมีการจัดทำโครงการเครือข่ายคลินิกฟ้าใส ที่จะเข้าไปช่วยพัฒนาคุณภาพและระบบบริการเลิกบุหรี่ให้แก่คลินิกในโรงพยาบาล

ขณะนี้สามารถสร้างเครือข่ายคลินิกฟ้าใสช่วยให้บริการบำบัดและเลิกบุหรี่ได้แล้วประมาณ 340 แห่งทั่วประเทศ โดยปลายปี 2559 นี้ ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนเครือข่ายคลินิกฟ้าใสอีกประมาณ 60 แห่ง รวมเป็น 400 แห่งทั่วประเทศ

ผศ.นพ.สุทัศน์ กล่าวว่า กระบวนการพัฒนาคลินิกเลิกบุหรี่ให้เป็นเครือข่ายคลินิกฟ้าใสจะมีการดำเนินการ 3 ขั้นตอน คือ

1. เปิดรับสมัครคลินิกเลิกบุหรี่ที่สนใจเข้าร่วมโครงการเครือข่ายคลินิกฟ้าใส โดยจะมีการออกภาคสนามเพื่อกระตุ้นความสนใจ ซึ่งขณะนี้พบว่ามีคลินิกเลิกบุหรี่จำนวนมากให้ความสนใจที่จะเข้าร่วม

2. พัฒนาคุณภาพการให้บริการเลิกบุหรี่ ซึ่งตรงนี้เครือข่ายคลินิกฟ้าใสจะช่วยพัฒนาคุณภาพบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถเชิงลึกในการให้บริการให้คำแนะนำการบำบัดและเลิกบุหรี่ โดยมีการฝึกทักษะและทำเวิร์กชอปว่าหากมีคนไข้เข้ามาลักษณะเช่นนี้จะให้คำแนะนำอย่างไร จากนั้นจึงให้กลับไปปฏิบัติงาน และสนับสนุนเครื่องมือในการทำงานด้วย เช่น เครื่องวัดคาร์บอนมอนอกไซด์ในลมหายใจ ซึ่งจะช่วยบอกได้ว่าผู้เข้ารับบริการเลิกบุหรี่นั้นสามารถเลิกบุหรี่ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากโรงพยาบาลบางแห่งไม่ได้มีการจัดหาไว้ให้ และ

3. การตรวจการดำเนินงานภายในคลินิกว่าเป็นอย่างไร พร้อมให้คำแนะนำหากมีข้อต้องปรับปรุง เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น

 “การมีคลินิกให้บริการเลิกบุหรี่จำนวนมากๆ นั้น ถือเป็นเรื่องดี เพราะช่วยให้ผู้ที่อยากเลิกบุหรี่เข้าถึงบริการได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การจะขยายเครือข่ายคลินิกฟ้าใสให้มีจำนวนมาก ๆ นั้น อาจยังทำได้ไม่รวดเร็วนัก เพราะการดำเนินงานของเครือข่ายฯ คือการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของคลินิกเลิกบุหรี่ จึงมองว่าค่อย ๆ เพิ่มจำนวนคลินิกเลิกบุหรี่ที่มีคุณภาพเข้ามาในเครือข่ายอย่างมั่นคงจะดีกว่าเพิ่มจำนวนโดยที่ไม่มีคุณภาพ” ผศ.นพ.สุทัศน์ กล่าว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2559 13:03:55 น.
Counter : 209 Pageviews.  

รมช.กลาโหมอุดมเดชอธิษฐานวันมาฆบูชาให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาลร่วมมือกันเดินหน้าประเทศไทย

รมช.กลาโหม“อุดมเดช”นำกำลังพลปฏิบัติธรรม สวดมนต์ เวียนเทียนวันมาฆบูชา อธิษฐานให้ประชาชนเข้าใจรัฐบาล ร่วมมือทำให้ประเทศเดินหน้า โล่ง สตง.ตรวจสอบการสร้างอุทยานราชภักดิ์ไม่พบทุจริต ยินดีให้ ป.ป.ท.สอบซ้ำ

 

ที่วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร กทม.เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2559 พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในกิจกรรมปฏิบัติธรรมสวดมนต์และเวียนเทียนเนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี 2559 เพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมให้กำลังพลของกระทรวงกลาโหมได้บำเพ็ญกุศลสืบทอดประเพณีที่ดีงามทางพุทธศาสนา และระลึกถึงพระคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ โดยมีข้าราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ภายหลังจากพิธีพล.อ.อุดมเดชให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม มอบหมายให้ตนมาเป็นตัวแทนปฏิบัติกิจทางศาสนาร่วมกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เนื่องในวันมาฆบูชา เนื่องจาก พล.อ.ประวิตรติดภารกิจจะเดินทางไปต่างประเทศ กิจกรรมดังกล่าวนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ข้าราชการทุกเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาร่วมทำบุญกับประชาชนในพื้นที่เหมือนกับทุกจังหวัดที่ได้ดำเนินการในตอนนี้ตามนโยบายของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าได้อธิษฐานขอพรสิ่งใด พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ขอให้ประชาชนทุกคนมีความเข้าใจรัฐบาล และร่วมมือทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศของเรามีความสงบ กระทรวงกลาโหมมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยโดยได้รับความร่วมมือจากทุกเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนจึงอยากขอความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องประชาชนทุกคนได้เข้าใจและเห็นความตั้งใจของรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มุ่งมั่นอย่างเต็มที่

“จากที่ผ่านมาทั้งหมดเราทุกคนต่างก็ได้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความตั้งใจ พวกเราก็จะทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงาน ทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ และทำทุกอย่างให้เกิดความสงบเป็นไปตามขั้นตอนของโรดแม็ป”พล.อ.อุดมเดชกล่าว

พล.อ.อุดมเดช ในฐานะประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าที่ผ่านมาคณะกรรมการตรวจสอบชุดต่างๆ ทั้งในส่วนของกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ได้ยืนยันถึงการดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วว่าถูกต้องตามขั้นตอนและไม่มีการทุจริตใดๆ ทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีตามที่ได้ระบุไว้

อีกทั้งที่สำคัญคือผู้ใหญ่ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ได้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งขอชี้แจงว่าเอกสารส่วนใหญ่ในการดำเนินโครงการอยู่ที่กองทัพบก ตนไม่ได้นำติดตัวออกมาด้วย แต่ในส่วนของตนก็พร้อมที่จะให้ข้อคิดเห็นต่างๆ ในเรื่องของเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการในปีที่ผ่านมาที่มีตนเป็นผบ.ทบ. พร้อมให้ข้อมูลทุกอย่างที่เรามีอยู่ และสามารถไปตรวจสอบที่กองทัพบกได้

“เป็นเรื่องที่น่ายินดีและสบายใจตามที่ผู้ใหญ่ของ สตง.ได้ตรวจสอบแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความถูกต้องทุกขั้นตอน ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะมีปัญหา แต่ในขณะนี้ก็ยังมีบางส่วน เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ต้องการจะตรวจสอบเพิ่มเติม ผมก็พยายามอยากให้เข้าใจว่าทุกอย่างทาง 3 หน่วยหลัก ได้ตรวจสอบไปแล้วก็น่าจะเพียงพอ เพื่อให้อุทยานราชภักดิ์เดินหน้าต่อไปได้” รมช.กลาโหมกล่าว

พล.อ.อุมเดชชี้แจงว่าขณะนี้ดำเนินการเสร็จเพียงขั้นที่ 1 คือการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์และลานที่จะใช้ประกอบพิธีต่างๆ ส่วนที่ยังค้างอยู่ คือ การสร้างแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และพระราชประวัติของพระมหากษัตริย์ของแต่ละสมัย ทุกอย่างประชาชนก็ได้รับทราบแล้วว่าโปร่งใส ไม่มีการทุจริต และดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะให้มีการดำเนินการต่อไป หวังว่าอุทยานราชภักดิ์จะเป็นจุดหนึ่งที่สามารถรวมจิตใจให้คนไทยเกิดความรักสามัคคีและเกิดความมั่นคงต่อชาติ ที่สำคัญทุกคนต้องช่วยกันรักษาไว้และทำนุบำรุงต่อไป เพื่อให้มีสถานที่หลักในการระลึกถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของเรา

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2559 12:18:06 น.
Counter : 231 Pageviews.  

ฟีฟ่าสั่งแบน“บังยี”เพิ่ม 3 เดือนปรับกว่า 1 แสนบาทฐานยังเข้ายุ่งกิจการฟุตบอล

สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ สั่งแบน "วรวีร์ มะกูดี" ห้ามยุ่งฟุตบอลต่ออีก 90 วัน ปรับกว่า 1 แสนบาท ให้มีผลตั้งแต่ 22 กุมภาพันธ์ 2016

สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ประกาศแบน “บังยี”หรือนายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลไทยแลนด์เพิ่มอีก 3 เดือนอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ฟีฟ่าก็ห้ามบังยียุ่งเกี่ยวกับวงการลูกหนัง เป็นเวลา 45 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2016  โดยคำสั่งเดิมยังไม่ครบ 45 วัน ก็ประกาศลงโทษนายวรวีร์เพิ่มอีก 3 เดือนโดยมีผลตั้งแตวันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2016 เป็นต้นไป

คำแถลงของฟีฟ่าระบุว่านายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (เอฟเอที) และอดีตบอร์ดบริหารของฟีฟ่า ที่ถูกลงโทษจากคณะกรรมาการด้านวินัยของฟีฟ่า จาการฝ่าฝืนคำสั่งในกระบวนการตรวจสอบของคณะกรรมด้านจริยธรรม เมื่อเดือนตุลาคมปี 2015 คณะกรรมการด้านจริยธรรม สั่งแบนนายวรวีร์ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลเป็นเวลา 90 วัน

ต่อมาคณะกรรมการด้านวินัยพบว่า นายวรวีร์ ยังคงเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของสมาคมฟุตบอลไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ตามกฎด้านวินัยข้อ 64 ของฟีฟ่า ดังนั้นจึงมีคำสั่งแบนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติ เพิ่มอีก 3 เดือน พร้อมทั้งปรับเงิน 3,000 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 108,000 บาท) ซึ่งต้องจ่ายค่าปรับภายในเวลา 30 วัน พร้อมทั้งจะมีคำเตือนต่อไป

คำสั่งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2016 ส่วนวันที่พ้นโทษจะกำหนดต่อไป

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2559 11:23:11 น.
Counter : 237 Pageviews.  

จับตาวาระ กสท. ถกการขอปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่ MMDS ของ อสมท.

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) วันอังคารที่ 23 ก.พ. 59 มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ การพิจารณาระเบียบวาระ 4.14 การประชุม กสท. ครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 59 เรื่องการให้บริการโทรทัศน์บอกรับเป็นสมาชิกระบบ MMDS  หรือ การขอปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ MMDS ของบริษัท อสมท. จำกัด(มหาชน)ของคณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานและความจำเป็นในการใช้คลื่นความถี่ และวาระการขอปรับปรุงการใช้ย่านความถี่ 2536 -  2690 MHz ทั้งนี้ นางสาวสุภิญญา กล่าวว่า ประเด็นเรื่องสิทธิของ อสมท.ในคลื่น 2600 MHz  เป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่ในแง่มุมทางกฎหมายที่ กสท. จะต้องถกกันอีกรอบ ความเห็นส่วนตัวมองว่า ถ้ากรรมการตัดสินให้ อสมท.มีสิทธิถือครองคลื่นอยู่อาจจะส่งผลต่อสิทธิและความจำเป็นคลื่นรัฐอื่นๆอีกก็ได้ ตนมองว่า กสทช.ควรจะนำคลื่นที่สิ้นสุดลงแล้วมาจัดสรรใหม่ ถ้าเราให้สิทธิของ อสมท. ในการประกอบกิจการต่อได้โดยการปรับเทคโนโลยี จาก MMDS เป็น BWA จะมีประเด็นทั้งเรื่องของกฎหมายและอาจกระทบการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม เพราะเป็นการสนับสนุนเอกชนรายหนึ่งรายใดเข้าสู่ตลาดโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการขออนุญาต หรือขอประมูล อาจจะมีปัญหาเหมือนฝั่งโทรคม กรณี BFKT ก็ได้ ส่วนการอ้างสิทธิตั้งแต่ดั้งเดิมสมัย กบถ. จะเป็นการลดทอนอำนาจของ กสทช. เอง เพราะว่า กบถ.ในสมัยนั้นไม่ได้เป็นองค์กรที่จะสามารถทำหน้าที่ออกใบอนุญาตให้ได้ และถ้า กสทช.จะออกใบอนุญาตประกอบกิจการ ก็ควรเป็นไปตามเงื่อนไขปัจจุบัน ที่สำคัญ อสมท. เป็นผู้รับใบอนุญาตโครงข่ายดิจิตอลทีวีภาคพื้นดินในปัจจุบันอยู่แล้ว อาจจะเข้าข่ายผู้มีอำนาจเหนือในตลาด ถ้าได้รับสิทธิเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายคลื่น 2600 MHz ต่อไปอีกโดยที่ไม่มีการประมูล เรื่องนี้จึงควรต้องถกกันอย่างละเอียดเพราะจะมีผลต่อทั้งอุตสาหกรรม

ในการประชุมครั้งที่5/58 ตนได้สงวนความเห็นการพิจารณาวาระนี้ เพราะเห็นว่าสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พิจารณารายละเอียดการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ รวมทั้งเหตุแห่งความจำเป็นในการถือครองคลื่นความถี่ ตามมาตรา 82 และ 83 แห่งพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 ซึ่งกรณีสัญญาร่วมดำเนินกิจการให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิก ระหว่าง บริษัท อสมทฯ กับ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) กรณีสัญญาร่วมดำเนินกิจการให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกทางสาย ระหว่าง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท ทรู วิชั่นส์ เคเบิล จำกัด (มหาชน) ตามที่ประชุม กสท. วันที่ 22 ก.ย. 57 มีมติเอกฉันท์เห็นชอบข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และให้เสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นในการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พิจารณาประกอบการตรวจสอบความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่และกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนในการถือครองคลื่นความถี่ต่อไป ทั้งนี้ระยะเวลาของสัญญาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 57

รวมทั้ง กรณีความชอบด้วยกฎหมายของสัญญาทางธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกบนคลื่นความถี่ MMDS ระหว่าง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ที่ประชุม กสท. วันที่ 10 ก.พ. 57 ได้มีมติเอกฉันท์เห็นชอบข้อเสนอของคณะอนุกรรมการพิจารณาความจำเป็นในการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สาระสำคัญระบุว่า สัญญาที่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ให้ บริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ใช้คลื่นความถี่ในระบบ MMDS เพื่อให้บริการโทรทัศน์บนเทคโนโลยีแบบบรอดแบนด์ไร้สาย (BWA) เป็นการให้บริการโทรทัศน์ประเภทอื่นนอกเหนือจากได้รับอนุญาตอยู่เดิม จึงเป็นการประกอบกิจการขึ้นมาใหม่ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. ตามกฎหมาย

นอกจากนี้ วันอังคาร 23 ก.พ. เวลา 13.30 น. ศาลปกครองได้นัด กสท. ฐานะผู้ถูกฟ้องคดีไปให้ถ้อยคำต่อศาล ตามที่บริษัทไทยทีวี จำกัด ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินและกำหนดมาตรการหรือวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวในระหว่างพิจารณาคดี โดยขอให้ศาลห้ามมิให้ผู้ถูกฟ้องคดีดำเนินการใดๆ หรือมีคำสั่งระงับมิให้ผู้ถูกฟ้องบังคับตามหนังสือค้ำประกันเอากับธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 59 กสท. มีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอลทีวี ช่อง MVTV Famliy(LOCA) และช่องไทยทีวี รวมทั้งให้บริษัทชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่เหลือพร้อมทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมเพิ่ม ภายใน 30 วัน มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ส่วนวาระอื่นๆน่าจับตา ได้แก่ ข้อหารือกรณีพิพาทการระงับหรือบอกเลิกสัญญาเช่าให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ดิจิตอลทีวี ของบริษัท อสมท. จำกัด(มหาชน)  วาระกรณี บ.ซีทีเอช เคเบิลทีวี แจ้งยุติการให้บริการช่องรายการทางกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียม PSI และกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ดาวเทียม Sun Box วาระคู่มือการจัดและผลิตรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับคนพิการวาระการขอรับการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 จังหวัดสตูล ในระบบแอนะล็อกจำนวน 1 ความถี่ เพื่อทดแทนความถี่เดิมตามมติที่ประชุม JTC ไทย –  มาเลเซีย โทรทัศน์

ที่มา supinya




 

Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2559 11:07:00 น.
Counter : 392 Pageviews.  

กรมการค้าภายในเปิดรับสมัครสอบเข้ารับราชการ 11 อัตรารับสมัคร 23 ก.พ.-15 มีนาคม 2559

กรมการค้าภายในเปิดรับสมัครสอบเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 11 อัตรา รับสมัครทางไปรษณีย์ ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2559

 

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัครสอบ

ตำแหน่ง เจ้าพนักงานชั่งตวงวัดปฏิบัติงาน

อัตราเงินเดือน 11,500 - 12,650 บาท

จำนวนตำแหน่งว่าง 11 อัตรา

คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง

1) ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในสาขาวิชาเครื่องกล สาขาวิชาไฟฟ้ากำลัง สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ หรือสาขาวิชาเครื่องมือวัดและควบคุม

2) เป็นผู้สอบผ่านความรู้ความสามารถทั่วไป ของสำนักงาน ก.พ. ระดับไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทั้งนี้หากผู้ใดใช้หนังสือรับรองผลการสอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป ของสำนักงาน ก.พ. ในระดับที่สูงกว่าวุฒิที่สมัครสอบ ให้แนบสำเนาปริญญาบัตรของวุฒิที่ใช้ในการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป มาด้วย

การรับสมัครสอบ

ให้ผู้ประสงค์จะสมัครสอบยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ได้ที่ กลุ่มการเจ้าหน้าที่ กรมการค้าภายใน เลขที่ 563 ถนนนนทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2559 โดยจะถือวันที่ที่ทำการไปราณีย์ต้นทางประทับตรารับฝากเป็นวันรับสมัคร

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2559 21:03:18 น.
Counter : 253 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.