นายกฯสั่งยกเครื่องการบินทั้งระบบหลัง FAA ลดเกรดเหลือ category 2-ศบปพ.เร่งแก้ไขให้พ้นธงแดงของ ICAO
FAA สหรัฐอเมริกาลดระดับระบบการบินของไทยจาก category 1 เหลือ 2 หลังมาตรวจสอบ 26-28 ตุลาคม เหตุยังวิตกการบินไม่ผ่านมาตรฐาน นายกรัฐมนตรีชี้เป็นโอกาสดีให้ยกเครื่องทั้งระบบ กำชับทุกหน่วยเดินหน้าเต็มสูบแต่จะไม่ตั้งเงื่อนเวลาบีบคนทำงาน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2558 พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ FAA (Federal Aviation Administration) ประกาศลดระดับมาตรฐานการบินพลเรือนไทยจาก category 1 เป็น category 2 ซึ่งหมายถึงอยู่ในบัญชีเฝ้ามองและห้ามเครื่องบินของไทยบินตรงเข้าสหรัฐอเมริกา รวมทั้งขยายเส้นทางการบินเพิ่มว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลเข้าใจและยอมรับผลการพิจารณา เแม้ที่ผ่านมาประเทศไทยจะพยายามปรับปรุงในหลายเรื่องเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานทั้งขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และของ FAA แต่ต้องยอมรับความจริงว่า บางประเด็นไม่สามารถดำเนินการได้ทัน อาทิ การจัดหาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ทำหน้าที่ออกใบอนุญาตนักบินพานิชย์ให้ตรงตามแบบของเครื่องบิน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา เชื่อว่า การประกาศของ FAA ครั้งนี้จะยังไม่ส่งผลกระทบใด ต่ออุตสาหกรรมการบินพลเรือนของไทย เพราะปัจจุบัน สายการบินของไทยไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังสหรัฐอเมริกาแล้ว หลังจากที่การบินไทยได้ยกเลิกเที่ยวบินตรงไปยัง LA.เมื่อประมาณสองเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามการประกาศของ FAA อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของการบินพลเรือนไทยและอาจทำให้บางประเทศออกมาตรการหรือกำหนดเงื่อนไขต่อการบินพลเรือนของไทยในอนาคตพลตรีสรรเสริญกล่าว โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นว่าสถานการณ์นี้ถือเป็นจังหวะและโอกาสอันสำคัญ ที่จะยกเครื่องการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนทั้งระบบ เพื่อสร้างมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับ สร้างความเชื่อมั่นให้กับการบินของประเทศไทย และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ผู้โดยสารทุกคน พลตรีสรรเสริญเปิดเผยว่าเรื่องนี้นายกรัฐมนตรี รับทราบแนวโน้มของผลการประเมินมาระยะหนึ่งแล้ว และได้สั่งการให้รวบรวมข้อสังเกตและพิจารณาของทั้ง ICAO และ FAA เข้าไว้ด้วยกันและให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการแก้ไขไปพร้อมกันทุกประเด็น รวมทั้งให้หน่วยงานทุกภาคส่วนทำงานอย่างจริงจัง ให้ถือเป็นภารกิจสำคัญของชาติที่จะต้องตั้งใจแก้ไขให้ลุล่วง ท่านนายกฯต้องการให้ทุกอย่างเรียบร้อยโดยเร็ว แต่ก็จะไม่ตั้งเงื่อนไขเวลามาเป็นตัวกดดันคนทำงาน เพราะการตั้งเงื่อนเวลาที่ไม่อาจเป็นไปได้จริงก็ไม่ต่างอะไรกับการหลอกตัวเอง สู้เอาพลังนั้นมาทำงานอย่างจริงจังตรงไปตรงมาจะดีกว่าพลตรีสรรเสริญกล่าว พลตรีสรรเสริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาปัญหามาตรฐานการบินพลเรือนของไทยถูกปล่อยปละละเลยมานาน ผลัดวันประกันพรุ่งในการแก้ไขมาโดยตลอด จนอาจทำให้ประเทศไทยสูญเสียศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการบินและการขนส่งทางอากาศลำดับต้นๆของภูมิภาคเอเชียในอนาคต แต่รัฐบาลจะพยายามทุกวิถีทางที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อให้ประเทศไทยรักษาความสามารถในการแข่งขันนี้เอาไว้ต่อไป FAA ประเมินผล 26-28 ตุลาคม เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 องค์กรบริหารการบินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration หรือFAA) ได้ประกาศลดระดับประเทศไทยจาก category 1 เป็น category 2 หลังจากที่ FAA ได้ส่งคณะมาเยือนไทย เมื่อวันที่ 26-28 ตุลาคม 2558 เนื่องจากเห็นว่า ผลการทำงานของกรมการบินพลเรือนไทย เพื่อแก้ไขข้อห่วงกังวลของFAA เกี่ยวกับการยกระดับมาตรฐานการบินพลเรือนไทย ยังไม่เป็นที่พอใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.อ.อ.ปรีชา ประดับมุข เลขานุการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน (ศบปพ.) กล่าวว่า การตัดสินใจของFAA ในครั้งนี้ มาจากการพิจารณาผลการทำงานของกรมการบินพลเรือนของไทย ระหว่างเดือน ก.ค.2558 จนถึงสิ้นเดือน ต.ค. 2558 ซึ่งไทยสามารถดำเนินการให้คืบหน้าเป็นไปตามมาตรฐานของ FAA ได้แล้วหลายประเด็น แต่ยังมีบางประเด็นที่ FAA ยังคงยืนยันให้ไทยต้องทำให้เสร็จสมบูรณ์ ทั้งนี้ FAA เข้าใจว่าหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการดำเนินการอย่างเหมาะสม เช่น การตรวจสอบใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ออกใหม่ (ATPL Re-check) การตรวจสอบผู้ตรวจสอบภาคอากาศใหม่ (DCP Recheck) เป็นต้น สำหรับผลกระทบจากการลดระดับไทยเป็น category 2 ในครั้งนี้ พล.อ.อ.ปรีชา กล่าวว่า รายได้ที่เอกชนไทยจะเสียไปนั้น จะถูกกระทบบ้างเพราะสายการบินของไทย ที่ปัจจุบันทำ code share กับสายการบินอื่นที่บินเข้าสหรัฐฯ จะไม่สามารถใช้เครื่องบินของสายการบินของไทยได้ แต่ผลกระทบนี้ไม่น่าจะมากนัก เพราะขณะนี้ไม่มีสายการบินของไทยที่บินเข้าสหรัฐฯ โดยตรง แต่แน่นอนว่าอาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ไทย โดยเฉพาะมาตรฐานการทำงานของกรมการบินพลเรือนไทย พล.อ.อ.ปรีชา กล่าวว่าขอยืนยันว่า รัฐบาลไทยไม่เคยนิ่งนอนใจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็กำลังรีบแก้ไขปัญหา และจะเดินหน้าในการทำงานร่วมกับ FAA ต่อไป โดยแจ้งผลการทำงานของไทยให้ทราบเป็นระยะ เพื่อให้เห็นความคืบหน้าของไทย จนเป็นที่พอใจโดยเร็วที่สุด ที่สำคัญไทยยังคงเร่งเดินหน้าแก้ไขข้อบกพร่องที่มีอยู่ เพื่อให้ ICAO ประกาศถอนธงแดงของไทยโดยเร็ว เพราะเชื่อว่าเมื่อ ICAO ยอมรับมาตรฐานการบินพลเรือนของไทยได้ ก็จะส่งผลบวกต่อการตัดสินใจทั้งของฝั่งสหรัฐฯ คือ FAAและฝั่งสหภาพยุโรปเช่นกันพล.อ.อ.ปรีชากล่าว ที่มา thaitribune
Create Date : 02 ธันวาคม 2558 | | |
Last Update : 2 ธันวาคม 2558 14:05:43 น. |
Counter : 299 Pageviews. |
| |
|
|
|