ดีเอสไอเตรียมเรียก“โอ๊ค พานทองแท้”สอบปากคำพัวพัน 9.9 พันล้านธ.กรุงไทยปล่อยกู้กฤษฎดามหานคร

ดีเอสไอทำหนังสือถึงเลขาฯ ก.ล.ต.สาวเส้นทางเงินคดีฟอกเงินแบงก์กรุงไทย พบมีเงินออกไปจองซื้อหุ้นบริษัทท่าอากาศยานไทย “ลูกโอ๊ค”พานทองแท้ มีหนาวพบชื่อเอี่ยวเส้นทางเงินกู้ 9.9 พันล้าน ปล่อยให้เครือกฤษดามหานคร เตรียมเรียกตัวสอบ

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนในคดีฟอกเงินธนาคารกรุงไทย ว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอสอบปากคำการจองซื้อหุ้นสำคัญเพิ่มของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. 2547 เนื่องจากพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าว พบว่า มีจำนวนเงินที่นำออกไปซื้อหุ้นเพิ่ม ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการประสานขอเข้าให้ปากคำแก่พนักงานสืบสวนสอบสวน

พ.ต.ท.สมบูรณ์ เปิดเผยว่าคณะทำงานได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

1.กรณีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้บริษัท อาร์เคโปรเฟสชั่นแนล จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 500 ล้านบาท จะเชิญบุคคลเข้ามาให้ปากคำจำนวน 32 คน ในส่วนนี้ไม่มีเครือข่ายนักการเมือง แต่เป็นบุคคลที่ปรากฏหลักฐานว่ารับเงินจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์

2.กรณีธนาคากรุงไทปล่อยกู้บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (เครือกฤษดามหานคร) 9.9 พันล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะมีชื่อของเครือข่ายการเมือง อาทิ นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค ลูกชาย ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี เพื่อตรวจสอบดูว่ามีการนำเงินทั้งสองจำนวนนี้ออกไปให้ใครบ้าง และจะเรียกผู้ที่ปรากฏรายชื่อเข้ามาสอบปากคำต่อไป

สำหรับในกลุ่ม 500 ล้านบาทนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งข้อมูลมายังตนบ้างแล้ว ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ ตนจะทำหนังสือเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในจำนวนเงินดังกล่าว 32 คน มาสอบปากคำ ทั้งนี้ การสอบปากคำดังกล่าว เบื้องต้นเป็นการสอบปากคำในฐานะพยาน

พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า สำหรับชื่อนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่านายพานทองแท้มีชื่อเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินของกลุ่ม 9,900 ล้านบาท แต่เพราะขณะนี้พนักงานสอบสวนกลุ่มดังกล่าวยังไม่ได้ส่งข้อมูลมายังตน จึงยังไม่ได้มีการเรียกนายพานทองแท้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ คาดว่า หากพนักงานสอบสวนส่งข้อมูลการตรวจสอบมาให้ตนแล้ว จึงจะทำการเรียกในภายหลังต่อไป

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2558    
Last Update : 2 ธันวาคม 2558 11:40:45 น.
Counter : 356 Pageviews.  

IMF รับเงินหยวนของจีนเข้าเป็น 1 ใน 5 ตระกร้าเงิน-ธปท.เผยไทยได้ประโยชน์ทำสวอปค่าเงินแล้ว 70 พันล้านหย

IMF รับเงินหยวนของจีนเข้าสู่ตะกร้าเงินถือเป็นทุนสำรองได้เหมือนอีก 4 สกุล ธปท.เผยไทยได้ประโยชน์ทั้งการค้าและการลงทุน เผยสวอปเงินหยวนแล้ว 70 พันล้านหยวนหรือ 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีนให้ธนาคาร ICBC ในไทยทำหน้าที่เป็น Clearing Bank

 

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(The International Monetary Fund)กล่าวว่าการตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการรวมเอาเศรษฐกิจของจีนเข้าสู่ระบบการเงินของโลก

เงินหยวนหรือเรียกเป็นทางการว่า เหรินหมินบี้ จะเข้าร่วมอยู่ในตะกร้าเงินของไอเอ็มเอฟนับเป็นสกุลที่ 5 หลังจากก่อนหน้านี้มีเงินสกุลดอลลาร์ของสหรัฐ,เงินเยนญี่ปุ่น,เงินยูโรและเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษ ที่ไอเอ็มเอฟใช้เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

นางลาการ์ดยอมรับว่าการยอมรับของไอเอ็มเอฟครั้งนี้เพราะเมื่อปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จีนได้มีความก้าวหน้าในการปฏิรูประบบการเงินของตน อีกทั้งเมื่อปีที่แล้วจีนได้เรียกร้องให้ไอเอ็มเอฟนำเงินของตนเข้าไปอยู่ใน Special Drawing Rights

นางลาการ์ดกล่าวว่าการยอมรับเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเงินนั้นไอเอ็มเอฟมีความหวังว่าจะช่วยจีนให้เปิดตวเองเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของโลกมากขึ้น  รวมทั้งจะช่วยให้เกิดความเติบโตและมีเสถียรภาพไม่เพียงแต่เศรษบกิจจีนเท่านั้นแต่ยังหมายถึงระบบเศรษฐกิจโลกทั้งมวล

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจีนประกาศว่าการที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆยอมรับที่จะให้เงินสกุลหยวนเข้าสู่ตลาดเงินของโลกนั้นจะทำให้เงินหยวนใช้เป็นเงินตราอีกสกุลหนึ่งในการแลกเปลี่ยนและการค้าระหว่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ประเทศสมาชิกของ IMF สามารถกู้ยืมเงิน Special Drawing Rights เพื่อนำไปใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นโดยกองทุนจะเข้าไปช่วยเมื่อประเทศสมาชิกเกิดวิกฤติทางการเงินอาทิเช่นประเทศกรีซมีปัยหาทางเศรษฐกิจก็สามารถขอกู้ SDR ได้   

สำหรับ Special drawing rights (XDR หรือ SDR) เป็นเงินทุนสำรองที่  IMF เป็นผู้ถือไว้ จะมีการทบทวนทุก 5 ปี จากครั้งล่าสุดปี 2010 พบว่าเงินดอลลาร์สหรัฐ  U.S. dollars ($) 41.9%, เงินยูโร (€) 37.4%, เงินปอนด์สเตอร์ลิง  (£)11.3%, และเงินเยนญี่ปุ่น  (¥) 9.4%  เมื่อ IMF ตัดสินใจนำเงินหยวน (¥) เข้าสู่ตะกร้าก็คิดเป็น 10.92%  

การนำเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเงินไอเอ็มเอฟมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559

ทางด้านนายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การที่คณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) การเพิ่มเงินสกุลหยวนของจีนเข้าเป็น 1 ใน 5 เงินสกุลหลักของโลกที่จะประกอบขึ้นมาเป็น SDR (Special Drawing Rights) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 เป็นการยืนยันบทบาทของจีนและของเงินหยวนในเวทีการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ทำให้มีการใช้อย่างแพร่หลายและเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง

ส่วนผลกระทบที่มีต่อตลาดเงินของโลกอาจจะไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว นักลงทุนอาจมีการปรับสัดส่วนการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงตามสกุล SDR แต่คาดว่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

“หากมองในภาพรวมต่อเศรษฐกิจไทย คาดว่าไทยจะได้รับประโยชน์ในเชิงการค้าและการลงทุนจากการที่จะมีการใช้เงินหยวนอย่างแพร่หลายขึ้นในระยะต่อไป เพราะจากนี้ไปความสนใจในการใช้เงินหยวนเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ และเพื่อการลงทุน จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามความสะดวกคล่องตัวที่จะเพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายการควบคุมด้านเงินทุนของทางการจีน และความคุ้นเคยของผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ” รองผู้ว่าการฯธปท. กล่าว

นายเมธี กล่าวว่าในส่วนของ ธปท. ได้เริ่มทยอยลงทุนในพันธบัตรสกุลเงินหยวนมาตั้งแต่ปี 2553 เพื่อกระจายความเสี่ยงในการบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการใช้เงินหยวนเป็นทางเลือกในการชำระเงินสำหรับการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและจีนมาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดธปท.ได้ทำสวอปค่าเงิน ข้อตกลง BSA (Bilateral Swap Arrangement) กับจีนในวงเงิน 70 พันล้านหยวน หรือประมาณ 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจในการเข้าถึงสภาพคล่องเงินหยวนหากเป็นที่ต้องการของระบบการเงินไทย

ในส่วนของทางการจีน ได้แต่งตั้งธนาคาร ICBC (Industrial and Commercial Bank of China (Thai)) เป็นธนาคารเพื่อการชำระดุลเงินหยวน (Clearing Bank) ในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนการบริหารสภาพคล่องเงินหยวนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า สกุลเงินหยวนมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดการเงินโลก ล่าสุดมีการใช้เงินหยวนทำธุรกรรมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าเงินยูโรและเยน ภายในเวลาไม่กี่ปี ซึ่งไม่เพียงเกิดจากการค้าข้ามพรมแดนจากจีนเท่านั้น แต่ยังมีความนิยมใช้เงินหยวนนอกตลาดจีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น ในฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์

สำหรับประเทศไทยยังมีศักยภาพในการทำธุรกรรมเงินหยวนเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปัจจุบันการค้าระหว่างไทย-จีน มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 6.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่มีการใช้เงินหยวนไม่ถึง 1% ธนาคารกรุงเทพจึงจะผลักดันให้ลูกค้าที่ทำการค้ากับจีนหันมาเสนอราคาเป็นสกุลเงินหยวน เพราะสามารถลดต้นทุนการสวอปเงินสกุลที่ 3 และเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจมีกำไรเพิ่มขึ้น

ทางด้านหนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย กล่าวว่า การชำระเงินหยวนในไทยมีทิศทางเพิ่มขึ้น หลังมีการตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวน โดยปี 2557เติบโตประมาณ 13% หรืออยู่ที่ 5,570 ล้านเหรียญสหรัฐ มีการชำระเงินผ่านยูเนียนเพย์ 1.56 หมื่นล้านหยวน เพิ่มขึ้น 10%

แต่ระบบการชำระเงินระหว่างกันยังต้องพัฒนาอีกมาก เนื่องจากมี นักท่องเที่ยวจีนที่ไม่สามารถใช้บัตรยูเนียนเพย์ในไทยได้อย่างแพร่หลาย ใช้ได้เพียงโรงแรมหรือห้างขนาดใหญ่เท่านั้น

สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคาร ICBC วันที่ 1 ธันวาคม 2558 โดย 1 หยวนแลกได้ 5.21 บาท

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 02 ธันวาคม 2558    
Last Update : 2 ธันวาคม 2558 10:58:07 น.
Counter : 480 Pageviews.  

คนไทยรักในหลวงขึ้นบิลบอร์ดขนาดใหญ่ใน Thai Town Hollywood ถวายพระพร-เฉลิมพระเกียรติ 88 พรรษา

คนไทยรักในหลวงขึ้นป้ายสูงหราบน Hollywood Boulevard ใจกลางไทยทาวน์ แอล.เอ. สหรัฐอเมริกาถวายพระพร-เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในวโรกาส 88 พรรษาปิดแสดงถึงสิ้นธันวาคม เผยวันที่ 11 ธันวาคมยังมีกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ” Bike for Dad อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวจากแอล.เอ. รัฐแคลิฟอร์เนียรายงานว่า เนื่องในวโรกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2558 และเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติให้คนอเมริกัน,คนไทยและคนทั่วโลกได้รับทราบกันอย่างกว้างขวางว่าประชาชนคนไทยไม่ว่าจะอยู่ไหนได้แสดงความลงรักภักดีต่อพระประมุขของพวกเขา

จากการดำริริเริ่มจากกลุ่มคนไทยรักชาติ-รักในหลวง ในนครลอสแองเจลิส  โดยความร่วมมือของสภาสตรีไทย แห่งแคลิฟอร์เนียภาคใต้ สถานกงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิสและพ่อค้าประชาชนที่รักในหลวง จึงได้ร่วมมือพร้อมใจกันติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ 14 ฟุต  X 48 ฟุต เป็นบิลบอร์ดหรือเค๊าท์เอ้าท์บน Hollywood Boulevard ตัดกับ Normandie Avenue ในย่านไทยทาวน์ นครลอส แองเจลิส  โดยเจ้าหน้าที่บริษัทอเมริกันมาติดตั้งดำเนินการเมื่อเช้าเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน นี้ระหว่างเวลา 09.15-09.30 น.

สำหรับข้อความบนป้ายเขียนไว้ว่า

Long Live His Majesty,

King Bhumibol Adulyadej of Thailand

On the Auspicious Occasion of His Majesty, the King's 88th Birthday.

December 5, 2015

ทรงพระเจริญ

ป้ายขนาดใหญ่ถวายพระพรและเทิดพระเกียรตินี้จะติดตั้งไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ปีนี้ 

รายละเอียดสามารถตรวจสอบได้ที่:สถานกงสุลใหญ่ นครลอสแองเจลิส โทรศัพท์ 323.962.9574, อีเมล์ info@ThaiConsulateLA.org

ประธานสภาสตรีไทยฯ นางกิริยา หิรัญพลกุล โทร. 323-363-8898

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2558    
Last Update : 1 ธันวาคม 2558 19:41:08 น.
Counter : 281 Pageviews.  

กรธ.วาง 17 กฎเหล็กห้ามสมัครส.ส.สกัดผู้ฉ้อโกงไม่ให้มาโกงซ้ำ

กรธ.วางกฎเหล็ก 17 ข้อคุณสมบัติต้องห้ามมิให้สมัคร ส.ส. ทั้งบุคคลเคยถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง ถูกสั่งพ้นจากราชการ ทุจริตต่อหน้าที่ ร่ำรวยผิดปกติ หมดสิทธิ์เข้าสู่การเมือง พร้อมให้ศาลฎีกาชี้ขาดนักการเมืองถูกถอดถอน

 

ที่รัฐสภา วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558  นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1. การสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะเป็นอำนาจของศาล 2. ถ้าเกิดกรณีที่มีการยุบพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ผู้บริหารจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ใช่สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นของใหม่ในรัฐธรรมนูญ จึงยังไม่เคยมีใครถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน

“การถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะมีผลให้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้ แต่มีเวลาจำกัด เช่น 5 ปี แต่การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะสมัครไม่ได้ตลอดชีวิต แต่มีสิทธิไปลงคะแนนได้W

ขณะที่ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญว่า ในการประชุม กรธ.เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้พิจารณาการกำหนดลักษณะและคุณสมบัติต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ซึ่งเบื้องต้นมีรายละเอียด 17 ข้อ ได้แก่

1.ติดยาเสพติดให้โทษ

2.เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

3.เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตามมาตรา...

4.ถูกหรือเคยถูกสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง

5.ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

6.เคยได้รับโทษจำคุก โดยพ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

7.เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ

8.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

9.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

10.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำการอันทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม

11.ต้องหรือเคยต้องคำวินิจฉัยหรือคำพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา หรือศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้พ้นจากตำแหน่ง

12.เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง

13.เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น

14.เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดแล้วไม่เกิน 2 ปี

15.เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้า หน้าที่อื่นของรัฐ

16.เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและ

17.อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

นายชาติชาย กล่าวว่า ส่วนการพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ในกรณีที่พรรคการเมืองมีมติ 3 ใน 4 ให้พ้นจากสมาชิกพรรค สามารถให้ ส.ส.คนดังกล่าวลาออกจากพรรค แล้วไปหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน นอกจากนี้ กรณีนักการเมืองที่ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถอดถอนโดยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะไม่มีกระบวนการ "ถอดถอน" แต่จะใช้คำว่า "พ้นจากตำแหน่ง" แทน ดังนั้น นักการเมืองที่เคยถูกสนช.ถอดถอน หากจะไปสมัคร ส.ส.ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบคุณสมบัติ หาก กกต.วินิจฉัยว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน ก็มีสิทธิ์ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดให้มีผลเป็นที่สิ้นสุด

“ส่วนการไปยกร่างรัฐธรรมนูญนอกสถานที่ของ กรธ.ระหว่างวันที่ 11-17 มกราคม2559 นั้นได้ข้อสรุปแล้วคือ ที่โรงแรมอิมพีเรียลเลควิว แอนด์ กอล์ฟคลับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี”

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการรวบรวมความเห็นเรื่องการปฏิรูปว่า รัฐบาลจะรอให้ สปท.รวบรวมความคิดเห็นก่อน คาดว่าจะเป็นช่วงวันที่ 9-10 ธันวาคมนี้ จากนั้นรัฐบาลจะเอามาดูและจะบอกว่ามีอะไรบ้างที่ควรเพิ่มเติม ถ้าตรงกันแล้วก็จบไป โดยคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทั้ง 3 ฝ่ายประกอบด้วย รัฐบาล, สปท.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะร่วมกันนำข้อมูลมาดูว่าใครจะรับเรื่องอะไรไปทำ รัฐบาลก็เตรียมของรัฐบาลในส่วนที่จะปฏิรูป ไม่ต้องส่งไปให้เขา สำหรับการปฏิรูปอย่าไปคิดว่าต้องเสร็จ ที่สำคัญคือต้องเริ่ม เพราะอาจจะติดขัดติดปัญหาเรื่องทัศนคติของคนที่จะได้รับผลกระทบ การออกกฎหมาย เงิน และคนที่มีความรู้ที่จะมานั่งทำเรื่องอย่างนี้ ดังนั้น การปฏิรูปสามารถฝันได้เยอะ แต่ถามว่าใครจะเป็นคนทำซึ่งสุดท้ายเราต้องทำกันเอง อาจใช้เวลาอยู่บ้าง

“ สำหรับข้อเสนอแนะการร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลจะส่งให้ กรธ.นั้น คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ม.ค.59 ภายหลังจากที่ได้ฟังความเห็นจาก กรธ.ทั้งหมดแล้ว และเมื่อเห็นภาพรวมทั้งหมดว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ดีและควรแก้เสียใหม่ก็ค่อยเสนอแนะไป ขณะนี้ใครฝันอะไรก็บอกเขาไป ส่วนความในใจของรัฐบาลที่มีอยู่ เช่นเรื่องที่เกี่ยวกับภาระการบริหารราชการแผ่นดินทุกสมัย ไม่ใช่เรื่องการเมือง เลือกตั้งแบบไหน เพราะการเป็นรัฐบาลมีภาระมีอุปสรรค เช่นมาตรา 190 เดิมที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการทำสนธิสัญญา”

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กรธ. มีแนวคิดกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงสมัคร ส.ส.ต้องไม่เคยถูกปลดออก ไล่ออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำต่อการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ แม้จะได้รับการล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินก็ตามว่า

 

“ส่วนตัวเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในยุคแห่งการปฏิรูปการเมืองต้องเน้นสร้างมาตรฐานทางจริยธรรม คุณธรรมให้สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด กรธ.มีอำนาจในการร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นนี้หากผ่านการทำประชามติจาก ประชาชน ก็สามารถนำมาดำเนินการปรับใช้ได้ทันที โดยไม่มีผลย้อนหลัง เพราะเป็นการกำหนดลงในคุณสมบัติของผู้สมัคร เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา มีนักการเมืองบางส่วนที่ขาดจริยธรรม เข้ามาเบียดเบียนทั้งงบประมาณแผ่นดิน เบียดเบียนความก้าวหน้าของชาติ ซึ่งน่าจะกำหนดให้มีผลบังคับใช้ทั้งนักการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่น อดีตที่เพิ่งผ่านมามีสภาผีดิบ ที่ทำตามคำสั่งนายทุนเจ้าของพรรคคนทางไกล โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติ”

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2558    
Last Update : 1 ธันวาคม 2558 19:00:44 น.
Counter : 293 Pageviews.  

นักวิจัยหนุนรัฐบาลทั่วโลกขึ้นภาษียาสูบเพิ่ม 3 เท่า ลดคนตายจากบุหรี่ 200 ล้านคน ลดคนสูบได้ 1 ใน 3

นักวิจัยต่างชาติ เสนอรัฐบาลทั่วโลกขึ้นภาษียาสูบ 3 เท่า ช่วยได้ชัยชนะ 3 เด้ง ลดคนสูบได้ 1 ใน 3 ลดคนตายได้ 200 ล้านราย รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1 แสนล้านดอลลาร์ “หมอประกิต” วอนรัฐบาลขึ้นภาษียาสูบตามมติที่ประชุมยูเอ็น

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ที่โรงแรมเดอะสุโกศล ศ.ประบาท จหา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสุขภาพโลก มหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา กล่าวในงานเสวนาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์การควบคุมปัญหาจากการสูบบุหรี่ด้วยนโยบายภาษีบุหรี่ และนโยบายการบำบัดผู้ติดบุหรี่ด้วยยาในประเทศไทย จัดโดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบุหรี่ ร่วมกับ เครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรมในการควบคุมการบริโภคยาสูบ ว่า การขึ้นภาษีบุหรี่เป็นมาตรการเดียวที่มีประสิทธิผลมากที่สุด ซึ่งการขึ้นภาษีบุหรี่เพิ่มขึ้น 3 เท่าจะช่วยลดคนสูบบุหรี่ได้ถึง 1 ใน 3 ถือเป็นชัยชนะ 3 เด้ง คือ

1. การลดอัตราการสูบบุหรี่และช่วยยับยั้งวัยรุ่นที่จะเริ่มผู้สูบรายใหม่

2. ลดจำนวนการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอด และโรคอื่นๆ ที่มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ได้ถึง 200 ล้านราย และ

3. เพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล จาก 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี เป็น 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนเงินมหาศาลที่สามารถนำมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการด้านสุขภาพให้ดีขึ้น

“มาตรการการขึ้นภาษีบุหรี่ใช้ได้ผลกับทุกประเทศที่แม้แต่ประเทศที่ร่ำรวย เช่น ฝรั่งเศส สามารถลดการบริโภคบุหรี่จากปี 1990 - 2005 ได้ถึงครึ่งหนึ่ง โดยการขึ้นภาษีให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การขึ้นภาษีที่คิดตามน้ำหนักต่อมวนของบุหรี่ จะช่วยลดช่องว่างของราคาบุหรี่ ทำให้ผู้สูบบุหรี่เลิกบุหรี่ได้มากกว่าที่จะเปลี่ยนไปสูบบุหรี่ที่มีราคาถูกกว่าด้วย ซึ่งหมายถึงการหลีกเลี่ยงการเสียชีวิตก่อนเวลาโดยไม่จำเป็นขณะที่ในประเทศจีนและอินเดีย มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่มากถึง 1 ล้านคนต่อปี เกือบครึ่งหนึ่งมีอายุต่ำกว่า 70 ปี การขึ้นราคาบุหรี่เป็น 2 เท่า จะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตในประเทศจีนและประเทศอินเดียที่มีอายุต่ำกว่า 70 ปีได้มากกว่า 300,000 รายต่อปี” ศ.จหา กล่าว 

ศ.จหา กล่าวต่อว่า สถิติทั่วโลกพบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของวัยรุ่นชาย และ 1 ใน 10 ของวัยรุ่นหญิงจะสูบบุหรี่ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา หากพวกเขายังคงสูบต่อไป เกือบครึ่งหนึ่งของคนหนุ่มสาวจะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ แต่หากเลิกสูบบุหรี่ก่อนอายุ 40 ปี จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ได้ถึงร้อยละ 90 แต่ก็มีจำนวนน้อยที่คิดจะเลิกสูบ ขณะที่อุตสาหกรรมบุหรี่ทั่วโลกทำกำไรได้ปีละประมาณ 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคิดเป็นกำไรประมาณ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่หนึ่งคน

ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องหามาตรการยับยั้งผู้ริเริ่มจะสูบบุหรี่และช่วยการเลิกบุหรี่ ซึ่งมาตรการภาษีบุหรี่เป็นคานงัดที่มีพลังมหาศาล ซึ่งรัฐบาลทุกประเทศสามารถเริ่มได้โดยการขึ้นภาษีบุหรี่ให้สูงกว่าอัตราเงินเฟ้ออย่างสม่ำเสมอ และขึ้นภาษีขึ้นอีกเป็นครั้งคราวในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า รัฐบาลควรเร่งรัดการดำเนินการตามอนุสัญญาควบคุมยาสูบโดยเฉพาะการขึ้นภาษียาสูบ เพื่อนำสังคมไทยเข้าสู่โรดแมป การพัฒนาที่ยั่งยืนตามข้อตกลงที่ที่ประชุมยูเอ็นเห็นชอบไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยใน 17 วาระการพัฒนาที่ยั่งยืนมีถึง 9 วาระที่การบรรลุเป้าหมายต้องทำให้การสูบบุหรี่ลดลง เช่น การขจัดความยากจนและความหิวโหย การส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน การทำให้สุขภาพดี การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ การขึ้นภาษียาสูบครั้งสุดท้ายผ่านไปกว่า 3 ปีแล้ว และยอดจำหน่ายบุหรี่ซิกาแรตในปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 2,191 ล้านซอง จาก 2,003 ล้านซองในปี 2557 และการสำรวจปีที่แล้วมีนักสูบหน้าใหม่เพิ่มขึ้น 2 แสนคน โดยหนึ่งแสนคนมีอายุต่ำกว่า 17 ปี ทั้งนี้ผลการขึ้นภาษี 6 ครั้ง ระหว่าง ปี 2536 - 2549 ที่ทำให้จำนวนผู้สูบบุหรี่ลดลง 4 ล้านคน ร้อยละ 60 ของการลดลงเป็นผลจากการขึ้นภาษีบุหรี่

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2558    
Last Update : 1 ธันวาคม 2558 14:26:57 น.
Counter : 288 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.