กรธ.วาง 17 กฎเหล็กห้ามสมัครส.ส.สกัดผู้ฉ้อโกงไม่ให้มาโกงซ้ำ
กรธ.วางกฎเหล็ก 17 ข้อคุณสมบัติต้องห้ามมิให้สมัคร ส.ส. ทั้งบุคคลเคยถูกเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง ถูกสั่งพ้นจากราชการ ทุจริตต่อหน้าที่ ร่ำรวยผิดปกติ หมดสิทธิ์เข้าสู่การเมือง พร้อมให้ศาลฎีกาชี้ขาดนักการเมืองถูกถอดถอน ที่รัฐสภา วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1. การสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะเป็นอำนาจของศาล 2. ถ้าเกิดกรณีที่มีการยุบพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ผู้บริหารจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ใช่สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นของใหม่ในรัฐธรรมนูญ จึงยังไม่เคยมีใครถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน การถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะมีผลให้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ได้ แต่มีเวลาจำกัด เช่น 5 ปี แต่การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะสมัครไม่ได้ตลอดชีวิต แต่มีสิทธิไปลงคะแนนได้W ขณะที่ นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญว่า ในการประชุม กรธ.เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้พิจารณาการกำหนดลักษณะและคุณสมบัติต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ซึ่งเบื้องต้นมีรายละเอียด 17 ข้อ ได้แก่ 1.ติดยาเสพติดให้โทษ 2.เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 3.เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ตามมาตรา... 4.ถูกหรือเคยถูกสั่งเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง 5.ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 6.เคยได้รับโทษจำคุก โดยพ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 7.เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 8.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ 9.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตหรือประพฤติมิชอบ 10.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำการอันทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม 11.ต้องหรือเคยต้องคำวินิจฉัยหรือคำพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา หรือศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้พ้นจากตำแหน่ง 12.เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง 13.เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 14.เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดแล้วไม่เกิน 2 ปี 15.เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้า หน้าที่อื่นของรัฐ 16.เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและ 17.อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายชาติชาย กล่าวว่า ส่วนการพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ในกรณีที่พรรคการเมืองมีมติ 3 ใน 4 ให้พ้นจากสมาชิกพรรค สามารถให้ ส.ส.คนดังกล่าวลาออกจากพรรค แล้วไปหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน นอกจากนี้ กรณีนักการเมืองที่ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถอดถอนโดยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะไม่มีกระบวนการ "ถอดถอน" แต่จะใช้คำว่า "พ้นจากตำแหน่ง" แทน ดังนั้น นักการเมืองที่เคยถูกสนช.ถอดถอน หากจะไปสมัคร ส.ส.ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบคุณสมบัติ หาก กกต.วินิจฉัยว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน ก็มีสิทธิ์ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดให้มีผลเป็นที่สิ้นสุด ส่วนการไปยกร่างรัฐธรรมนูญนอกสถานที่ของ กรธ.ระหว่างวันที่ 11-17 มกราคม2559 นั้นได้ข้อสรุปแล้วคือ ที่โรงแรมอิมพีเรียลเลควิว แอนด์ กอล์ฟคลับ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการรวบรวมความเห็นเรื่องการปฏิรูปว่า รัฐบาลจะรอให้ สปท.รวบรวมความคิดเห็นก่อน คาดว่าจะเป็นช่วงวันที่ 9-10 ธันวาคมนี้ จากนั้นรัฐบาลจะเอามาดูและจะบอกว่ามีอะไรบ้างที่ควรเพิ่มเติม ถ้าตรงกันแล้วก็จบไป โดยคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทั้ง 3 ฝ่ายประกอบด้วย รัฐบาล, สปท.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะร่วมกันนำข้อมูลมาดูว่าใครจะรับเรื่องอะไรไปทำ รัฐบาลก็เตรียมของรัฐบาลในส่วนที่จะปฏิรูป ไม่ต้องส่งไปให้เขา สำหรับการปฏิรูปอย่าไปคิดว่าต้องเสร็จ ที่สำคัญคือต้องเริ่ม เพราะอาจจะติดขัดติดปัญหาเรื่องทัศนคติของคนที่จะได้รับผลกระทบ การออกกฎหมาย เงิน และคนที่มีความรู้ที่จะมานั่งทำเรื่องอย่างนี้ ดังนั้น การปฏิรูปสามารถฝันได้เยอะ แต่ถามว่าใครจะเป็นคนทำซึ่งสุดท้ายเราต้องทำกันเอง อาจใช้เวลาอยู่บ้าง สำหรับข้อเสนอแนะการร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลจะส่งให้ กรธ.นั้น คาดว่าจะเป็นช่วงเดือน ม.ค.59 ภายหลังจากที่ได้ฟังความเห็นจาก กรธ.ทั้งหมดแล้ว และเมื่อเห็นภาพรวมทั้งหมดว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ดีและควรแก้เสียใหม่ก็ค่อยเสนอแนะไป ขณะนี้ใครฝันอะไรก็บอกเขาไป ส่วนความในใจของรัฐบาลที่มีอยู่ เช่นเรื่องที่เกี่ยวกับภาระการบริหารราชการแผ่นดินทุกสมัย ไม่ใช่เรื่องการเมือง เลือกตั้งแบบไหน เพราะการเป็นรัฐบาลมีภาระมีอุปสรรค เช่นมาตรา 190 เดิมที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการทำสนธิสัญญา นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กรธ. มีแนวคิดกำหนดคุณสมบัติของผู้ลงสมัคร ส.ส.ต้องไม่เคยถูกปลดออก ไล่ออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำต่อการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ แม้จะได้รับการล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินก็ตามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในยุคแห่งการปฏิรูปการเมืองต้องเน้นสร้างมาตรฐานทางจริยธรรม คุณธรรมให้สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด กรธ.มีอำนาจในการร่างรัฐธรรมนูญและประเด็นนี้หากผ่านการทำประชามติจาก ประชาชน ก็สามารถนำมาดำเนินการปรับใช้ได้ทันที โดยไม่มีผลย้อนหลัง เพราะเป็นการกำหนดลงในคุณสมบัติของผู้สมัคร เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา มีนักการเมืองบางส่วนที่ขาดจริยธรรม เข้ามาเบียดเบียนทั้งงบประมาณแผ่นดิน เบียดเบียนความก้าวหน้าของชาติ ซึ่งน่าจะกำหนดให้มีผลบังคับใช้ทั้งนักการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่น อดีตที่เพิ่งผ่านมามีสภาผีดิบ ที่ทำตามคำสั่งนายทุนเจ้าของพรรคคนทางไกล โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของชาติ ที่มา thaitribune
Create Date : 01 ธันวาคม 2558 | | |
Last Update : 1 ธันวาคม 2558 19:00:44 น. |
Counter : 293 Pageviews. |
| |
|
|
|