|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
16 มิถุนายน 2563
|
|
|
|
เจดีย์ล้านนาตอน 6 ... เจดีย์ทรงปราสาทยอดเจดีย์ และ เจดีย์อื่น ๆ
-@-เจดีย์ทรงเจดีย์ทรงปราสาทยอดเจดีย์-@-
เป็นกลุ่มที่นิยมสร้างมากที่สุดในล้านนา
มีลักษณะสำคัญคือ
มีปราสาท - ประดิษฐานพระพุทธรูป
ด้านบน - ยอดเป็นเจดีย์
วิหารเปรียบเหมือนกุฏิของพระพุทธรูป
จึงเข้าไปภายในเพื่อไหว้พระพุทธรูปซึ่งเป็นสัญญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้าได้
ในพุกามจะสร้างวิหารเป็นรูปจตุรมุข มีแกนกลางรับน้ำหนักหอสูงตรงกลางวิหาร
ทั้งสี่ด้านของแกนกลางประดิษฐานพระพุทธ - อดีตพุทธ
เริ่มจากทิศตะวันออก วนขวา คือพระ กกุสันธะ โกนาคม กัสสปะ สมณโคดม
ภายในมีทางเดินประทักษิณ เจาะช่องหน้าต่างให้คงามสว่างแก่ทางเดิน
หลังคาเป็นหลังคาลาดซ้อนชั้นลดหลั่นกันสามชั้น
ที่มุมหลังคาประดับสถูปิกะ
ส่วนล้านนานำแบบวิหารพุกามมาสร้างเป็นเจดีย์
เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม มีแกนกลางรับน้ำหนักของเจดีย์ที่อยู่ข้างบน
ดังนำมาสร้างเจดีย์ที่วัดนี้ ที่บอกว่าเป็นศิลปะพุกาม
- เจดีย์วัดเกาะกลาง อำเภอป่าซาง ลำพูน -
สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นราวต้นพุทธศตวรรษ ที่ 19
เป็นเจดีย์ทรงปราสาท เพราะเรือนธาตุมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป - ศิลปะพุกาม
ตรงกลางเจดีย์มีแกนกลางรับน้ำหนักยอดเจดีย์ - ศิลปะพุกาม
อาจเดินเข้าไปภายในได้ - ศิลปะพุกาม
หรืออาจเป็นซุ้มพระ มีมุกยื่นออกมา - จตุรมุข - ศิลปะพุกาม
เหนือขึ้นไปมาลาดเป็นหลังคาซ้อนชั้น เป็นฐานเพื่อวางเจดีย์ไว้ด้านบน - ศิลปะพุกาม
ฐานเขียงกลม 3 ชั้น
ฐานปัทม์ยืดต้วสูง มีบันไดขึ้นไปยังลานประทักษิณ มีมุกทั้งสี่ทิศ
เรือนธาตุมีซุ้มประตูเข้าไปได้ ... น่าจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานรอบแกนกลางสี่ทิศ ...
แกนกลางนั้นใช้รับน้ำหนักส่วนยอดเจดีย์ด้านบน
เหนือหลังคาเรือนธาตุ มีร่องรอยของวงแหวนซ้อนลดหลั่นกันเป็นเจดีย์ที่หักหายไป
และอีกเจดีย์ในวัดเกาะกลาง
- เจดีย์ที่วัดเชียงมั่น -
เป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอดระฆังล้านนา
ฐานเขียงสี่เหลี่ยม สองชั้น - ประดับช้างล้อม คติลังกาคือช้างแบกจักรวาล
ฐานบัวยืดสูงเป็นเรือนธาตุประดิษฐานพระพุทธรูป - ทรงปราสาท
ถัดไปเป็นหลังคาลดหลั่นกันสามชั้น
บัวถลาแปดเหลี่ยม - นิยมตั้งแต่สมัยพญาแก้ว
องค์ระฆัง
บัลลังก์ยกเก็จ - ล้านนา : ลังกาจะเป็นสี่เหลี่ยมเท่านั้นไม่ยกเก็จ
ปล้องไฉน ปลี ลูกแก้ว
- วัดเจดีย์หลวง เมือง เชียงใหม่ -
พระเจ้าติโลกปรากฎโปรดให้หมื่นด้ามพร้าคตสร้างเจดีย์ครอบเจดีย์ที่มีมาแต่เดิมในสมัยพญาแสนเมืองมา
เป็นเจดีย์ยอดเดียว บรรจุพระธาตุที่พระธรรมคัมภีร์นำมาจากลังกา
ถ้ายอดไม่หักลงจากแผ่นดินไหว จะสูง 80 เมตร หุ้มทองจังโก
ทรงระฆังน่าจะคล้ายวัดเชียงมั่น เพราะเห็นฐานบัวถาเป็นรูปแปดเหลี่ยม
การเรียงอิฐซุ้มโค้งที่เห็นที่ใต้ทางลาดด้านทิศเหนือของเจดีย์ ซ้ายมือในรูป
จะพบในสมัยพระเจ้าติโลก
เป็นช่องปากอุโมงค์เข้าภายในเจดีย์ - เมื่อก่อนเขาเล่ากันว่าเป็นอุโมงค์ต่อไปถึงถ้ำเชียงดาว
แบบล้านนา ในเชียงใหม่
จังหวัดอื่น
ผสมผสานแบบมีบัลลังก์ และปัทมบาท
ปัทมบาทคือดอกบัวที่กั้นระหว่างปล้องไฉน และปลี
แบบพุกาม คือไม่มีบัลลังก์ ปล้องไฉนจะสวมเข้ากับองค์ระฆัง และมีปัทมบาท
ปลีสั้น ๆ แบบพุกาม คือ ยอดเจดีย์ที่เป็นรูปบัวตูม
- เจดีย์เชียงยัน และ เจดีย์วัดป่าสัก เชียงแสน เชียงราย -
เจดีย์เชียงยัน - คณะศรีเชียงยัน ซึ่งครูบาศรีวิชัยเคยถูกกักบริเวณอยู่ที่นี่
อยู่นอกกำแพงด้านทิศเหนือของวัดพระธาตุหริภุญไชย
หรือเรียกว่า เจดีย์แม่ครัว - แม่ครัวช่วยกันออกเงินสร้าง
ตอนขุดค้นพบฐานเจดีย์ที่อยู่ในสมัยล้านนาแล้ว
ฐานสี่เหลี่ยม ลูกแก้วอกไก่คู่ ซุ้มจระนำสี่ด้าน
เหนือเรือนธาตุมีสถูปิกะ หรือ สถูปสี่องค์ที่มุม - เจดีย์ห้ายอด หรือ ปัญจรัตน
ตรงกลางเป็นฐานแปดเหลี่ยม มีลายลูกกรง - รั้วล้อมองค์สถูป
บัวปากระฆังเป็นพุ่มขนาดใหญ่
องค์ระฆังเป็นรูปหม้อดอก - ปูรณฆฏ - คาดรัดอก มีดอกประจำยามเป็นดอกไม้ทิศ
ยอดเป็นหม้อดอกซ้อนกันไปเรื่อย ๆ - อิทธิพลมอญโบราณ
- เจดีย์วัดป่าสัก เชียงแสน เชียงราย -
ฐาน ประดับพระพุทธรูป 3 องค์ ขนาบด้วยเทวดา
วงโค้งของซุ้มไม่ใช่พุกาม แต่เป็นแบบเปอร์เซีย - ผ่านทางอยุธยาเมื่อ?
บัวฟันยักษ์ - พบได้ตามปราสาทหิน
องค์ระฆังเป็นหม้อดอกประดับดอกไม้ทิศลายดอกประจำยามเหมือนกัน
เหนือองค์ระฆังไปเป็นหม้อปูรณฆฏ และดอกบัวซ้อนชั้น
ซุ้มเพกา หรือ เครก ประดับซุ้มแก้ว แบบพุกาม
ซึ่งอาจส่งต่อมาจากการที่พุกามไปบูรณะโพธิมหาวิหารที่พุทธคยา แล้วเราได้ไปเห็นมา
เกียรติมุขยอดซุ้ม หลังบายนนิยมมาก
เศียรนาค - มาดูชัด ๆ แล้วคิดถึงเขมรโบราณ
ยักษ์แบก >> ทวารวดี หรือ มอญโบราณมีคนแคระแบก
-@-เจดีย์ทรงปราสาทแปดเหลี่ยม-@-
วัดจามเทวี อนิมิสเจดีย์ที่วัดมหาโพธารามหรือวัดเจ็ดยอด และวัดอินทขิลสะดือเมือง
เจดีย์แบบวัดจามเทวี
ฐานเขียงแปดเหลี่ยม เรือนธาตุยืดขึ้นประดิษฐานพระพุทธรูปในซุ้มเครก
หลังคาซ้อน 3 ชั้น ท้องไม้เป็นรูปสี่เหลี่ยม ชั้นบนสุดเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรุป
รับองค์ระฆัง
- อนิมิสเจดีย์ที่วัดมหาโพธาราม -
ไม่ได้สร้างในสมัยพระเจ้าติโลก น่าจะสร้างภายหลัง
เพราะสร้างทับกำแพงแก้ว หรือ เวทิกาของวิหารเจ็ดยอด
ซุ้มหน้านางซ้อนชั้นมีปั้นลม - ล้านนา
-@- เจดีย์ปล่อง -@-
ปล่อง หรือป่อง หมายถึงช่องหน้าต่าง
เป็นเจดีย์ 7 ชั้น - อาจเป็นเจดีย์ทรงหอปราสาทหรือถะแบบจีน แต่ถะจีนจะมี 5, 8, 11 ชั้น ไม่ใช่เจ็ดชั้น
จากจารึกอักษรฝักขาม ระบุการสร้างเจดีย์วัดตะโปทารามว่าสร้างขึ้น จ.ศ. 854 คือ พ.ศ. 2035
ในรัชกาลของพญายอดเชียงราย
ว่า
พระยาอรรคราชภูมิบาลหมายถึงพญายอดเชียงรายได้ขึ้นครองเชียงใหม่ พระนางอะตะปาเทวีอัครมเหสี ได้ขอพระราชทานอนุญาตจากพระสวามีเพื่อสร้างวัดตะโปทาราม
พระนางได้อาราธนาพระสงฆ์ประมาณร้อยรูปมาชุมนุม พร้อมด้วยเสนาอำมาตย์ข้าราชการ
เพื่อประดิษฐานแก้วสามประการไว้ ณ วัดแห่งนี้
พิธีมีการอุทิศที่ดิน เงิน ทองคำ และข้าพระจำนวนมาก
การหาคำตอบถึงที่มาของรูปแบบ ยังไม่ทราบแน่
อาจารย์บางท่านก็คิดถึงสิ่งที่เป็นไปได้ ... เพราะการสร้างเจดีย์ต้องมีการอิงคัมภีร์ในศาสนา
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าใช้ระบบจักรวาลมาตีความ อาจตีความได้ว่า
7 ชั้น คือเขาพระสุเมรุ - สัตตบริภัณฑ์ 7 ลูก ล้อมเป็นวงกลม
เขาลูกข้างล่างจะสูงเป็นครึ่งหนึ่งของลูกข้างบน
หากมองด้านข้างจะเห็นเขาวงกลมซ้อนกัน 7 ลูก เขาลูกเตี้ยอยู่นอก เขาลูกสูงอยู่ใน
ตรงกลางสูงที่สุดที่เป็นยอดเจดีย์คือเขาพระสุเมรุ - เจดีย์จุฬามณี
วัดร่ำเปิง
วัดเชียงโฉม
วัดพวกหงษ์
แต่ เจดีย์วัดกู่เต้า มี 5 ชั้น ซุ้มแก้วประดิษฐานพระพุทธรูป
เราคิดว่า น่าจะเป็นเจดีย์ทรงกลม เป็นรูปหม้อดอก ปูรณฆฏซ้อนชั้น
รับเจดีย์แปดเหลี่ยม
ไม่มีบัลลังก์แบบพม่า
-@- เก็บตก -@-
เจดีย์กู่ม้า ลำพูน ทรงลอมฟางเหมือนเจดีย์ชาวปยู ในอาณาจักรศรีเกษตร - ก่อนพุกาม
ปิดท้ายด้วย
-@-วัดมหาโพธาราม หรือวัดเจ็ดยอด -@-
น่าจะเป็นมหาวิหารยอดเจดีย์ มีเวทิกาหรือรั้วล้อมรอบ
เป็นวิหารเพราะเข้าไปไหว้พระข้างในได้
หลังคาประดิษฐานเจดีย์ 7 ยอด
องค์ใหญ่สุดเป็นตรงกลางเป็น โพธิบัลลังก์ - ตรัสรู้
รอบ ๆ มี
อนิมิสเจดีย์ - ทิศอิสานหรือ ตะวันออกเฉียงเหนือ - ยืนจ้องดูต้นมหาโพธิ์เจ็ดวัน
รัตนจงกรมเจดีย์ - อยู่กึ่งกลางระหว่างอนิมิสกับโพธิบัลลังก์ - เดินจงกรมเจ็ดวัน
รัตนฆรเจดีย์ - ทิศพายัพหรือ ตะวันตกเฉียงเหนือของโพธิบัลลังก์ พิจารณาพระอภิธรรม (ธรรมอันยิ่งใหญ๋) - เกิดฉัพรังสี คือมีเกตุมาลา
อชปาลนิโครธ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ซึ่งเป็นที่พักของคนเลี้ยงแกะ - ธิดาพญามารมายั่ว
มุจลินท์ ฝนตกลงมาเป็นเวลา 7 วัน - นาคปรก
ราชายตนเจดีย์ - พระอินทร์เอาแปรงฟันมาให้ เทวดาจตุโลกบาลเอาบาตรมาถวาย พ่อค้าเอาของมาถวาย - ข้าว น้ำผึ้ง เสวยวิมุตติสุขตลอด 7 วัน
เช่นเดียวกับที่
เจดีย์วัดเจ็ดยอด เมือง เชียงราย
ประวัติศาสตร์คือการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
จารึกก็เป็นการเขียนประวัติศาสตร์ตอนนั้นลงบนหลักศิลา บันทึกเป็นจดหมายเหตุ ฯลฯ
สถาปัตยกรรมและศิลปกรรมในกรอบของคัมภีร์ทางศาสนา
เป็นก็เป็นการเขียนประวัติศาสตร์ลงบนศิลปะ
ดังนั้นที่ว่า
ผู้ชนะจึงเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์ จึงไม่ใช่อีกต่อไป
รายการโทรทัศน์ที่บางคนมีสัมผัสพิเศษ
ว่าใครเป็นใครในอดีตไม่สอดคล้องกับศิลปะวัตถุ และสถาปัตย์กรรม จึงไม่ใช่อีกต่อไป
อยู่แค่ว่าจะเราจะเลือกที่จะเชื่อสิ่งที่งมงาย หาข้อพิสูจน์ไม่ได้อีกต่อไปหรือเปล่า
แต่คนที่ทราบก็ควรต้องเผยแพร่ สิ่งที่รู้สิ่งที่เห็นใหม่ ๆ ออกไป
ไม่งั้นเราก็คงกลับไปอยู่ที่เทือกเขาอัลไตเหมือนเดิม
Create Date : 16 มิถุนายน 2563 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2563 8:29:52 น. |
|
17 comments
|
Counter : 2673 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณตะลีกีปัส, คุณhaiku, คุณThe Kop Civil, คุณวลีลักษณา, คุณmultiple, คุณnonnoiGiwGiw, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณSleepless Sea, คุณสองแผ่นดิน, คุณหอมกร, คุณKavanich96, คุณnewyorknurse, คุณผู้ชายในสายลมหนาว, คุณSai Eeuu, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณSweet_pills, คุณธนูคือลุงแอ็ด |
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 19 มิถุนายน 2563 เวลา:9:20:16 น. |
|
|
|
โดย: วลีลักษณา วันที่: 19 มิถุนายน 2563 เวลา:13:23:44 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 19 มิถุนายน 2563 เวลา:22:28:48 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 20 มิถุนายน 2563 เวลา:3:31:59 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 20 มิถุนายน 2563 เวลา:5:17:59 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 21 มิถุนายน 2563 เวลา:18:25:05 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 21 มิถุนายน 2563 เวลา:18:28:27 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 23 มิถุนายน 2563 เวลา:14:31:00 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 24 มิถุนายน 2563 เวลา:0:10:29 น. |
|
|
|
| |
|
|
tuk-tuk@korat |
|
|
|
|
|
ได้ชมเจดีย์แบบต่างๆ สวยงาม
เก็บไว้ศึกษารูปแบบได้ภายหลังค่ะ
มีหลายวัด เคยไปมาแล้ว
แต่ไม่ได้ดูลึกซึ้งขนาดนี้ เพราะไม่เคยได้ศึกษาหรือรู้จักมาก่อน
ถ้ามีโอกาสไปวัดเหล่านี้อีก
คงได้บล็อคของคุณตุ๊กเป็นคู่มือค่ะ