tuk...tuk more than one or cannot run
 
พฤษภาคม 2567
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
10 พฤษภาคม 2567

อุทัยธานี - วัดอุโบสถาราม หรือ อุโปสถาราม


เดิมชื่อวัดโบสถ์มโนรมย์ สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น






ตั้งอยู่ บนเกาะเทโพ ริมแม่น้ำสะแกกรังฝั่งตะวันออก

ตรงข้ามกับตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี

มีสะพานข้ามแม่น้ำสะแกกรัง จากตลาดสดเทศบาลไปยังวัดอุโปสถาราม










วิหาร ตั้งคู่กับอุโบสถ ด้านหลังมีเจดีย์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันที่ยกสูงขึ้น






หอประชุมอุทัยพุทธสภา เป็นศาลาทรงไทย ใช้เป็นหอสวดมนต์

หน้าบันประดับลวดลายปูนปั้น






วิหาร

ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือ

หน้าบันรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ

หน้าบันปีกนก ด้านซ้ายเป็นยักษ์ชื่อสุริยาภพ กายสีแดงฉานดังแสงอาทิตย์

ด้านขวาเป็นยักษ์ชื่ออินทรชิต กายสีเขียว

มีฤทธิ์มากรบชนะพระอินทร์จึงเปลี่ยนชื่อเป็นอินทรชิต แปลว่าผู้ชนะพระอินทร์






จิตรกรรมฝาผนังด้านนอก 

ภาพงานถวายพระเพลิงและวิถีชีวิตชาวบ้านที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา 






ชาวบ้านทำอาหาร พระกลับจากงานบุญ ชาวบ้านฟังเทศน์






งานถวายพระเพลิง มีปี่พาทย์มอญบรรเลง







มีภาพมณฑปแปดเหลี่ยมด้านหลังวิหาร






การเดินทางด้วยเกวียน ช้าง เรือ






ชาวบ้าน ร้าน ตลาด สะพานข้ามไปยังวัด






มี คนต่างชาติ แต่งตัวสวย ถือร่ม มีคนจีนไว้เปีย มีควาย






ภาพบนตำข้าวใต้ถุนบ้าน ภาพล่างหาบคอนสิ่งของ ไปขายตลาดมั้ง






ภายในวิหาร

พระประธานภายในพระวิหารเป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ

พระพุทธรูปองค์อื่นใส่จีวรลายดอก ซึ่งนิยมในสมัยรัตนโกสินทร์

พระพุทธบาทจำลอง






จิตรกรรมฝาผนัง

ตรงข้ามพระประธานเป็นรูปพระมาลัย ไปสักการะพระจุฬามณีบนสวรรค์

และน่าจะแสดงธรรมด้วยเพราะเหล่าเทพพนมมือรับฟัง

พระมาลัย คือ พระอรหันตสาวกในพระพุทธศาสนาในคัมภีร์พระมาลัยสูตร

เป็นพระอรหันต์ชาวลังกาชื่อ พระมาลัยเทวเถระ อยู่บ้านกัมโพช แคว้นโลหะชนบท

เป็นพระอรหันต์มีฤทธิ์ สามารถไปยังนรกและสวรรค์

และนำสิ่งที่พบมาเทศนาแก่มนุษย์ เพื่อให้เชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษ

เป็นรูปพระภิกษุ ครองจีวรห่มเฉียง มือซ้ายถือตาลปัตรหรือพัด ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการแสดงธรรม






ชายตัดฟืน ถวายดอกบัวแก่พระมาลัยเถระพระมาลัย

จึงนำไปบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์






พระสงฆ์ด้านบนของผนัง เป็นพระอสีติมหาสาวก

คือ พระมหาสาวกแปดสิบรูปผู้ยิ่งใหญ่ - นับดูจะพบว่ามีพระสงฆ์ 80 รูป

พัดยศที่คั่นระหว่างมหาสาวก

ชั้นบนเป็นพัดยศทรงดอกพุดตาน และ ทรงเปลวเพลิง

ชั้นล่างเป็นพัดยศทรงหน้านาง

เขียนบนพื้นสีม่วงมีดอกไม้ร่วง








พระอสุภกรรมฐาน 10

อสุภแปลว่าไม่งาม ไม่ดี

เป็นกรรมฐานที่มุ่งค้นคว้าหาความจริงจากวัตถุที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต

ให้มองสิ่งต่างๆ ไปตามสภาพความเป็นจริง ตัดอวิชชาและมิจฉาทิฏฐิ

โดยมองซากศพในสภาพต่าง กำหนดเป็นอารมณ์กรรมฐาน 10 อย่างคือ

อุทธุมาตกะ ซากศพทีพองขึ้นอืด - รูปร่าง

วินีลกะ ซากศพที่เขียวคล้ำ มีสีแดง เขียว ขาว ปะปนกันไป - ผิวพรรณ

วิปุพพกะ ซากศพที่มีน้ำเหลือง น้ำหนองไหลเยิ้ม - เครื่องหอมก็ต้านไม่ได้

วิจฉิททกะ ซากศพที่ขาดกลางตัว - ภายในมีแต่สิ่งโสโครก

วิกขายิตกะ ซากศพที่ถูกสัตว์กัดกิน เว้าแหว่ง สำหรับมีความกำหนัดยินดีในกล้ามเนื้อ - สำคัญแค่สัตว์กัดกิน

วิกขิตตกะ ซากศพที่มีมือ เท้า ศีรษะขาดหายไป กำหนัดยินดีในลีลา อิริยาบถ - ในที่สุดก็ขาดออกเป็นท่อนเล็กท่อนน้อย

หตวิกขิตตกะ ซากศพที่ถูกบั่นเป็นท่อนๆ มีความกำหนัดยินดีในข้อต่อครบ 32

โลหิตกะ ซากศพที่ถูกประหารมีเลือดไหลนอง กำหนัดยินดีในร่างกายที่ตกแต่งด้วยเครื่องประดับ ตายแล้วสิ่งโสโครกก็ออกมาประดับ

ปุฬุวกะ ซากศพที่เน่าเฟะคลาคล่ำด้วยตัวหนอน - ถ้าร่างกายนี้เป็นของเราจริง เจ้าของร่างคงไม่ปล่อยให้หนอนกัดกินเป็นอาหารได้

อัฏฐิกะ ซากศพที่เหลือแต่โครงกระดูก - กระดูกและฟันนี้ต้องหลุดถอนเป็นธรรมดา






อุโบสถ

หน้าบันรูปพระพุทธรูปปางสมาธิ ในซุ้มหน้ากาล






เสมา






ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย 5 องค์ (ถ้าเป็นแถวสวรรคโลกต้องบอกว่าพระพุทธรูปห้าพี่น้อง)

มีจิตรกรรมฝาผนัง เป็นฝีมือช่างสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

ด้านหลังพระประธาน พระพุทธประวัติตอนมารผจญ

ขวามือของพระประธานมารเข้า - พญามารยกทัพไพร่พลเพื่อขัดขวางการบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า

แม่พระธรณีบีบน้ำจากมวยผม ยักษ์ มารตกน้ำป๋อมแป๋ม

ซ้ายมือของพระประธานมารออก - พญามารถือดอกบัวพนมมือสักการะพระพุทธเจ้า






ตรงข้ามพระประธาน

ภาพบนเป็นรูปตอนเสด็จไปโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ และภาพเสด็จปรินิพพาน

ภาพล่าง พระพุทธเจ้าและพระสาวกเสด็จฉันอาหารที่?






ผนังด้านข้าง ด้านบน เทพชุมนุม

ด้านล่างพระพุทธประวัติ












เจดีย์

ทิศเหนือ เป็นเจดีย์แปดเหลี่ยม - อิทธิพลอยุธยา

ฐานเขียงแปดเหลี่ยมซ้อนสามชั้น

ฐานปัทม์แปดเหลี่ยม 3 ชั้น มีท้องไม้แคบ ๆ ลูกแก้วอกไก่ 2 เส้น

รับองค์ระฆังแปดเหลี่ยม บัลลังก์แปดเหลี่ยม

ก้านฉัตร บัวฝาละมี ปล้องไฉน บัวรองปลี - กลม

ปลีต้น บัวลูกแก้ว ปลียอด เม็ดน้ำค้าง






เจดีย์องค์กลางเป็นเจดีย์เหลี่ยม ย่อมุมไม้สิบสอง

ฐานเขียงสี่เหลี่ยม ฐานสิงห์ 3 ชั้นยกเก็ด ชั้นที่สองยืดสูงขึ้นเป็นเรือนธาตุ

มีซุ้มพระเจ้าสี่ด้าน หลังคาซุ้มประดับสถูป

ถัดไปเป็น บัวกลุ่ม บัวเชิงบาตร รับองค์ระฆังบัวเหลี่ยม

บัลลังก์ บัวถลา บัวกลุ่มเถา

ปลีต้น บัวลูกแก้ว ปลียอด เม็ดน้ำค้าง






องค์ทิศใต้เป็นเจดีย์ระฆังกลม

ฐานเขียง ฐานปัทม์ บัวปากระฆัง รับองค์ระฆังกลม มีลวดรัด

บัลลังก์ ก้านฉัตร มีเสาหาน บัวฝาละมี

ส่วนยอดผสมผสาน มีทั้งปล้องไฉน และบัวกลุ่มเถา

ปลีต้น บัวลูกแก้ว ปลียอด เม็ดน้ำค้าง






มณฑปแปดเหลี่ยม

สร้างโดยหลวงพิทักษ์ภาษา (บุญเรือน พิทักษ์อรรณพ)

เพื่อถวายพระสุนทรมุนี (จัน) หรือ พระครูอุไททิศธรรมเจ้าอาวาสวัดอุโปสถารามในขณะนั้นเพื่อให้ท่านจำพรรษา

แล้วเสร็จ พ.ศ. 2442 ซึ่งพระครูอุไททิศธรรมได้มรณภาพลงเสียก่อน

มณฑปแห่งนี้จึงถูกใช้เป็นที่ทำศพ บรรจุอัฐิธาตุพร้อมข้าวของเครื่องใช้ของท่านแทน

ด้านนอกอาคารประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางถวายเนตร

ประดับลายปูนปั้นพรรณพฤกษาและสัตว์

รูปนี้ พ.ศ. 2562






รูปนี้ พ.ศ. 2553






ปิดท้ายด้วย ชาวแพแม่น้ำสะแกกรัง
















Create Date : 10 พฤษภาคม 2567
Last Update : 10 พฤษภาคม 2567 13:52:03 น. 5 comments
Counter : 415 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณปัญญา Dh, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณทนายอ้วน, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณหอมกร, คุณSweet_pills, คุณmultiple, คุณผู้ชายในสายลมหนาว


 
อยากไปเที่ยวอุทัยฯมากครับ พยายามชวนคนข้างๆไปหลายที


ถ้าไม่ขี้เกียจจนไปได้แค่จังหวัดใกล้ๆ เช้าไป เย็นกลับ ก็เลยไปพิษณุโลกทุกทีเลยครับ อิอิ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 พฤษภาคม 2567 เวลา:20:54:32 น.  

 
ยินดีต้อนรับเที่ยวอุทัยธานีครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 10 พฤษภาคม 2567 เวลา:23:10:27 น.  

 
มาตามไปเที่ยวค่ะพี่ตุ๊ก
ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้วค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 11 พฤษภาคม 2567 เวลา:16:39:45 น.  

 
ขอบคุณพี่ตุ๊กที่พาเที่ยวนะคะ

จิตรกรรมฝาผนังด้านนอกและด้านในงดงามมากค่ะ
ภาพแม่น้ำสะแกกรังสวยสงบค่ะพี่ตุ๊ก




โดย: Sweet_pills วันที่: 12 พฤษภาคม 2567 เวลา:0:52:43 น.  

 
เมนท์ในกระทู้แล้ว

ไปดูนกกัน


โดย: ผู้ชายในสายลมหนาว วันที่: 13 พฤษภาคม 2567 เวลา:16:53:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tuk-tuk@korat
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 149 คน [?]




งานหลักคืองานอดิเรก

10 บล็อกล่าสุด


People Are Crazy - Billy Currington ... ตะพาบ 355 "3 in 1"


นครสวรรค์ - สถานีรถไฟปากน้ำโพ, พาสาน และ ร้านโชกุน


The last farewell - Roger Whittaker ... ความหมาย


เชียงใหม่ - ครัวดรีมทีม ตำบลสันทรายน้อย อำเภอสันทราย


Hit the road Jack! - Ray Charles ... ความหมาย


Believe & If I Could Turn Back Time - Cher ... หลักกิโลเมตรที่ 354


เชียงใหม่ - วัดเมืองลัง ตำบลป่าตัน อำเภอเมือง


Tequila Sunrise - Eagles ... ตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 353


สิงห์บุรี - โบราณสถานวัดหน้าพระธาตุ อำเภอเมือง


Peace Train - Cat Stevens ... ตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 352


















ของแต่งบล็อกจาก
ป้าเก๋า "ชมพร"
คุณญามี่
คุณ Rainfall in August
ขอบคุณค่ะ

[Add tuk-tuk@korat's blog to your web]