|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
8 กันยายน 2567
|
|
|
|
เที่ยวเพชรบูรณ์แบบ tuk-tuk@korat
เพชรบูรณ์เป็นเส้นทางผ่านประจำระหว่างนครราชสีมา - เชียงใหม่
เป็นเมืองที่มีพื้นที่ยาวไปตามแม่น้ำป่าสัก
ด้านเหนือจะเป็นเทือกเขาแยกเพชรบูรณ์ออกจากจังหวัดพิษณุโลก เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ
ด้านใต้มีคลอง และสันเขาเตี้ย ๆ แยกเพชรบูรณ์ออกจาก จังหวัดลพบุรี นครสวรรค์ และพิจิตร
* อำเภอศรีเทพ *
- อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
ชื่อศรีเทพมาจากพระวินิจฉัยของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
เป็นบริเวณที่พบหลุมศพมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์
ร่องรอยของเมืองโบราณมีคูน้ำคันดินล้อมรอบ
มีสถาปัตยกรรม และโบราณวัตถุในวัฒนธรรมทวารวดี ถึงศิลปะแบบเขมร
- แท่นขุดเจาะน้ำมันในอำเภอศรีเทพ
* อำเภอหล่มเก่า *
ผู้คนส่วนใหญ่ในอำเภอหล่มเก่า มีเชื้อสายจากลาว
จึงมีวัฒนธรรม ภาษาพูด อาหาร เจดีย์ พระพุทธรูป ศิลปะ เป็นแบบลาว
มีร่องรอยเมืองราด ที่วัดเก่าแก่ 2 วัด ตามเรื่องเล่าว่า วัดตาลเดิมคือวังหลวง, วัดหินกลิ้งคือวังหลังของพ่อขุนผาเมือง - ไม่ได้ไป
- วัดตาล -
วิหารหลวงพ่อใหญ่วัดตาล หลวงพ่อใหญ่ศิลปะลาว
จิตรกรรมฝาผนังเป็นประวัติเมืองราดจากร่างทรง และประวัติวัดตาล
มีศาลเจ้าแม่เข็มทอง ชายาของพ่อขุนผาเมืองที่เป็นคนไทย
- พระธาตุปู่เถร -
ตั้งอยู่ในในโรงเรียนวังบาล ต.วังบาล อ.หล่มเก่า
เป็นธาตุของปู่เถรที่เป็นที่เคารพนับถือหลังของชาวบ้าน เรียกว่าพระธาตุปู่เถร
เป็นเจดีย์ศิลปะลาว ทรงปราสาทสองชั้น มีซุ้มพระเจ้าทั้งสี่ด้าน หน้าบันซุ้มชั้นล่างรูปราหูอมจันทร์
ประดับลายปูนปั้นลูกมะหวด
องค์ระฆังบัวเหลี่ยม แบบพระธาตุพนม
- วัดศรีมงคล -
ตั้งอยู่ที่บ้านนาทราย หล่มเก่า เพชรบูรณ์
มีอุโบสถเก่า เป็นแบบไทย พระธาตุเจดีย์ทรงปราสาทหลังโบสถ์ ศิลปะลาว
อ.เสมือน เกษามูล ได้กรุณาเล่าให้ฟังว่า
อุโบสถ สร้างขั้นในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย ถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
โดยใช้ช้างชักลากไม้มาจากบนเขา บานประตูถากด้วยขวาน
ปูนทำจากหินปูนบดและเผาไฟ ผสม ? ฟังไม่ทัน
ทำด้วยเครื่องมือง่าย ๆ จึงจะเห็นได้ว่าปูนที่ฉาบไม่เรียบ
ภาพจิตรกรรมที่พระอุโบสถ สมัยปลายอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์
เขียนโดยชาวลาวซึ่งเป็นขี้ทูด (เป็นโรคเรื้อน)ใช้เวลาเขียนสามปีเศษ
หน้าบันภาพตรงกลางเป็นรูปพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระมารดาบนสวรรค์ ล่างซ้ายเป็นภาพมารผจญ พระธรณีบีบมวยผม ล่างขวา ทรงโปรดปัญจวัคคีย์
ภายใน พระประธาน ศิลปลาว จิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปทศชาติชาดก
พระอุโบสถเคยถูกไฟไหม้สองครั้ง จนเครื่องหลังคาเสียหาย หลังจากมีสุภาพสตรีเข้าไป ตั้งแต่นั้นมาจึงห้ามสุภาพสตรีเข้า
ศาลาการเปรียญ มีจิตรกรรมฝาผนังก่อนปี พ.ศ. 2500 รูปพระพุทธประวัติ ธรรมมาส
- ภูทับเบิก -
ทับเบิกอยู่ทางตะวันตกของ ภูหลวงเขาด้านซ้าย และ ภูกระดึงเขาด้านขวา
ภาพเมื่อปี 2551 ตอนนั้นยังคงสภาพเป็นภูกระหล่ำอยู่
* อำเภอหล่มสัก *
เป็นอำเภอที่ตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5
ที่ลุ่มน้ำป่าสักเพื่อสะดวกในการเดินทางทางทิศใต้ของเมืองหล่มเดิม
จึงเรียกเมืองลุ่ม หรือ เมืองหล่มเดิม มีชื่อว่าว่า หล่มเก่า และเมืองลุ่ม หรือเมืองหล่มใหม่ว่า หล่มสัก
มีร่องรอยที่เชื่อว่าเป็นเมืองราดของพ่อขุนผาเมือง ดังนี้
- วัดโพนชัย -
ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านหวาย อำเภอหล่มสัก
เล่าว่า
เมื่อพระนางสิขรเทวีเสด็จประทับที่เมืองราดได้นำพระพุทธรูปมาด้วย
พระนางสิขรเทวีทรงโกรธพ่อขุนผาเมือง จึงเผาเมืองราด และตายในกองเพลิง
พระพุทธรูปที่มีศิลปะเขมร ตกน้ำป่าสักสูญหาย
ที่วัดนี้พบข้าวสารดำปนกับดินรอบเจดีย์ (รูปข้าวสารดำอยู่ในเรื่องหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย)
จึงเชื่อว่าที่นี่เป็นคลังเก็บข้าว และคิดว่าเจดีย์เป็นของพระนางสิขรเทวี
แต่ เจดีย์เป็นทรงปราสาทสองชั้น องค์ระฆังบัวเหลี่ยม ศิลปะลาวแบบพระธาตุพนม
เราคิดเองนะว่าอาจไม่เข้ากันในเรื่องของเวลา
- อนุสรณ์สถานพ่อขุนผาเมือง ที่บ้านหวาย -
- วัดดงเมือง นครเดิด -
เมืองนครเดิด เป็นเมืองโบราณ
จากแหล่งขุดค้นทางโบราณคดี พบว่ามีคนอาศัยอยู่ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ ผ่านทวารวดี สุโขทัย แล้วถูกทิ้งร้าง
มีชื่อปรากฎอยู่ใน
ตำนานแม่นางผมหอม เมืองเพชบูรณ์ ... วัดช้างเผือก ตำบลในเมือง เพชรบูรณ์
ตำนานเมืองนครเดิด ว่าสร้างขึ้นในสมัยที่ขอมมีอิทธิพลครอบครองดินแดนบริเวณนี้
รอบ ๆ บริเวณมีเศษอิฐเก่าตกอยู่ทั่วไป เล่าว่าใครเอาออกไปก็ต้องเอากลับมาคืนที่วัด
ลักษณะเป็นอิฐสมัยทวาราวดี คืออิฐทีหมากสุกที่ผสมดินและแกลบ มีข้าวเมล็ดสั้นกลม ... ชุมชนที่กินข้าว
เมื่อหลวงพ่อท่านขุดลงไป ลึกราว 1.5 เมตร เพื่อทำฐานรากของหอระฆัง
ท่านได้พบแนวกำแพงเดิมที่ทำด้วยอิฐทอดจากฐานหอระฆัง ลงไปทางทิศใต้
และที่บริเวณนี้ได้ขุดพบพระพุทธรูปศิลปะขอม และสุโขทัย
- วัดไพรสณฑ์ศักดาราม -
สร้างเมื่อพ.ศ. 2382 โดยพระสุริยวงศาชนสงครามภักดีวิริยกรมพาหะ (คง) เจ้าเมืองหล่มสัก
เจ้าเมืองจะรับเข้าข้าราชการต้องประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาต่อหน้าหลวงพ่อ
พระประธานศิลปะลาว เจดีย์ทรงปราสาทสี่เหลี่ยมรับองค๋ระฆังบัวเหลี่ยมแบบพระธาตุพนม
วันนั้นเดินเข้าไปหาหลวงพ่อ
ท่านถามว่ามาทำไม ตอบว่าอยากไหว้พระในวิหารเก่า ท่านก็เมตตาเปิดให้
ท่านว่านึกว่าเรามาเปิดวิกลิเกที่หน้าวัดแล้วไม่มีอะไรทานจะมาขอข้าววัดทาน
ท่านว่าเป็นลิเกตกงานมาจาก จังหวัดไหนจำไม่ได้ มาขอตั้งเวทีแสดงที่หน้าวัด
ถ้าท่านอ่านแล้วรู้สึกอย่างไร ตอนนั้นเราก็รู้สึกแบบนั้น
- วัดศรีวิชัย -
ธาตุทรงบัวเหลี่ยม ศิลปะลาว
- วัดศรีษะเกตุ หรือวัดบ้านโสก -
สร้างขึ้นเป็นวัดประมาณ พ.ศ. 2388
อุโบสถหลังเก่าได้รับการบูรณะมาแล้วเมื่อ พ.ศ. 2500
และได้มีการวาดภาพบนฝาผนังด้านนอกตัวโบสถ์เพิ่มเติม พระประธาน ปูนปั้นฝีมือชาวบ้าน
- ศาลหลักเมืองนครบาล -
ตั้งอยู่ปากทางเข้าสนามบินเพชรบูรณ์
สมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามเคยจะย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพมาเพชรบูรณ์
โดยอ้างกับญี่ปุ่นว่ารัฐบาลต้องการจะสร้างเมืองหลวงใหม่เพื่ออพยพหลบภัยทางอากาศ
เพราะในสงครามโลกครั้งที่สองกรุงเทพฯ ถูกโจมตีอย่างหนัก
และกองทัพญี่ปุ่นได้เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยมากมาย
- บนเส้นทาง ทล. 12 ทางตะวันออกของหล่มสัก ไปยังอำเภอน้ำหนาวและจังหวัดขอนแก่นขอนแก่น
มี สะพานผาเมือง หรือสะพานห้วยตอง
เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กมีตอม่อที่สูงที่สุดในประเทศ
เชื่อมภาคกลางและภาคอิสาน
ตอนช่วงมี ผกค.(ราว 2519-2526) จึงต้องมีทหารมาเฝ้าตอม่อ เพราะกลัวถูกระเบิด
และ
ผาแดง
เป็นหินทรายแดง มีชั้นหินวางตัวเกือบขนานกับแนวระนาบเรียงลดหลั่นกันเป็นชั้น เกิดเป็นหน้าผา
เนื่องจากการยกตัวของเปลือกโลก ที่สัมพันธ์กับรอยเลื่อนเพชรบูรณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง
* อำเภอน้ำหนาว *
- อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
- บนเส้นทางหล่มเก่า - น้ำหนาว
นอกจากภูเขาสวย ๆ แล้วยังมีทางขึ้นภูกระดึงอีกเส้นทางหนึ่งคือทางวังกวาง
* อำเภอเขาค้อ *
- พระตำหนักเขาค้อ -
เป็นพระตำหนักที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
- อนุสาวรีย์ผู้เสียสละ -
บันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์การต่อสู้ระหว่างรัฐบาล กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ช่วง พ.ศ. 2511-2525
- อ่างเก็บน้ำรัตนัย - ตำบล เขาค้อ อำเภอเขาค้อ เพชรบูรณ์
เป็นโครงการชลประทานขนาดเล็กตามพระราชดำริ
เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของอำเภอเขาค้อ
ทิวเขาที่เห็นเป็นทิวเขาเพชรบูรณ์ แบ่งเพชรบูรณ์ กับ พิษณุโลกออกจากกัน
- เจดีย์กาญจนาภิเษก -
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา
ชาวเพชรบูรณ์สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ในวโรกาสทรงครองราชย์ 50 ปี เมื่อ พ.ศ. 2539
-วัดผาซ่อนแก้ว -
มหาวิหารพระพุทธเจ้า 5 องค์ ในภัทรกัป
คือพระกกุสันธ พระโกนาคมน พระกัสสป พระโคตม พระโพธิสัตว์เมตไตรย
ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
เจดีย์ประด้บด้วบเครื่องเบญจรงค์ เครื่องประดับ ลูกปัด ลูกแก้ว กระเบื้องสี
และมีจุดชมวิว
* อำเภอเมือง *
- พิพิธภัณฑ์เมืองเพชรบูรณ์ หรือหอเพชบุระ -
เป็นจวนเก่าของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์
จัดแสดงบุคคลสำคัญของเมืองเพชรบูรณ์
- หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย -
ตั้งอยู่ในศาลากลางหลังเก่า
เพ็ชรบูรณ์อินทราชัยเป็นพระนามของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย
พระราชโอรสอันดับที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภายในจัดแสดง
ความเป็นมาของเพชรบูรณ์
ตำนานหัวเมืองต่าง ๆ โบราณสถาน และวัตถุโบราณที่พบในเพชรบูรณ์
- ศาลหลักเมืองเพชรบูรณ์ -
สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ.2443 โดยท่านเจ้าเมืองสมัยนั้น คือ หลวงนิกรเกียรติคุณ
นำเสาแท่งหินทราย ปลายป้านโค้งมน จากวัดมหาธาตุมา
ปักเป็นเสาหลักเมือง ณ ที่ป้อมกำแพงเมืองโบราณของเมืองเพชรบูรณ์ ด้านหน้าศาลากลาง
มีจารึกอักษรทั้ง 4 ด้าน ใน 2 ยุคคือ
ครั้งแรกจารึกในด้านที่ 1 เป็นอักษรขอมโบราณ ภาษาสันสกฤต จารึกเมื่อมหาศักราช 943 ตรงกับพุทธศักราช 1564
เป็นข้อความการสรรเสริญพระศิวะในศาสนาพราหมณ์
จารึกครั้งที่ 2 จารึกใหม่ใน 3 ด้านที่เหลือ เป็นอักษรขอม ภาษาไทย บาลีและเขมร เมื่อจุลศักราช 878 ตรงกับพุทธศักราช 2059
ให้ช่วยกันสืบสานพระพุทธศาสนาให้ได้ 5000 ปี
แต่ก่อนมาอยู่ที่วัดมหาธาตุยังคลุมเครือ เพราะวัดมหาธาตุนั้นสร้าง พ.ศ. 1926 หลังจารึกนี้
- แนวกำแพงเมือง -
เพชรบูรณ์ มีการสร้างกำแพงสองสมัย
สมัยสุโขทัย มีแนวคูน้ำคันดิน มีวัดมหาธาตุเป็นศูนย์กลาง
สมัยอยุธยา สันนิษฐานว่าสมัยขุนหลวงนารายณ์ มีแนวกำแพงอิฐ มีหัวลูกศรที่มุมทั้งสี่มีสี่ป้อมปืน สี่ประตู
เรื่องราวกำแพง จัดแสดงที่ หอนิทรรศน์กำแพงเมืองเพชรบูรณ์ อยู่ตรงข้ามการประปาส่วนภูมิภาค เพชรบูรณ์
- วัดมหาธาตุ เมืองเพชรบูรณ์ -
มีพระเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พ.ศ. 1926 ตรงกับสมัยพระมหาธรรมราชที่ 2 แห่งกรุงสุโขทัย
เมื่อ พ.ศ.2510 ได้ทำการบูรณะและได้ขุดพบลานทองจารึกในพระเจดีย์องค์ใหญ่ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หลังพระอุโบสถ
พบโบราณวัตถุที่บรรจุเจดีย์ ได้แก่พระเครื่อง พระบูชา เป็นรูปช้าง รูปหมู ในท้องหมูมีลานทองจาลึกอยู่ 3 แผ่น ทำให้ทราบว่า
เมืองเพชบูรณ มาจากคำว่า เพช หรือ พืช + บุระ คือเมือง
มีพระพุทธรูปเก่าแก่สององค์คือ หลวงพ่องาม และหลวงพ่อเพชรมีชัย
มีเจดีย์ปรางค์ศิลปะอยุธยาตอนปลาย
ฐานเจดีย์ศิลาแลง
ใบเสมาสกัดจากหินทรายทั้งแท่ง
วัดมหาธาตุต่อมากลายเป็นวัดร้าง
จนถึงปี พ.ศ.2447 สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
มีรับสั่งให้พระยาเพชรรัตน์ (เฟื่อง) เจ้าเมืองเพชรบูรณ์
เกณฑ์คนมาบูรณะวัดมหาธาตุครั้งใหญ่
- วัดพระแก้ว -
มีพระปรางค์กลีบมะเฟืองที่วัดพระแก้ว ในภาพตอนเราไปยังไม่ได้บูรณะ
เป็นศิลปะอยุธยาตอนปลายถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
คือปรางค์องค์เล็ก ทรงสูงชลูด ไม่มีห้องคูหา ซุ้มแคบ ยอดคล้ายฝักข้าวโพด ขนาดเล็ก
เมื่อมีการถากถางพื้นที่เพื่อพัฒนาวัดพระแก้ว
ได้พบประประธานเก่า อยู่ลึกลงในหลุมประมาณ 2 เมตร บริเวณซากอุโบสถเก่า
กรมศิลปกรได้ตรวจสอบพบว่าเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นผสมเปลือกหอยสมัยสุโขทัยอายุประมาณ 700 ปี
- คุ้งน้ำหลังวัดโบสถ์ชนะมาร -
มีชาวเมืองออกหาปลาในแม่น้ำป่าสัก และในวันนั้นได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดคือ
ตั้งแต่เช้ายันบ่ายไม่มีใครจับปลาได้สักตัว จึงมานั่งปรับทุกข์ริมตลิ่งบริเวณ วังมะขามแฟบ
จากนั้นสายน้ำที่ไหลเชี่ยวได้หยุดนิ่ง มีพรายน้ำค่อย ๆ ผุดขึ้นมา จนกลายเป็นวังน้ำวนขนาดใหญ่
มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งลอย ขึ้นมาเหนือน้ำ แสดงอาการดำผุดดำว่ายอย่างน่าอัศจรรย์
ชาวบ้านจึงลงไปอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดไตรภูมิ
คือพระพุทธมหาธรรมราชา ศิลปะเขมร เชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปของพระนางสิขรเทวี
- วัดไตรภูมิ -
ตั้งอยู่กลางเมืองเพชรบูรณ์ ภายในกำแพงเมืองรูปสี่เหลี่ยม - อยุธยา มีพระอุโบสถเก่า เจดีย์แบบอยุธยา
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชาองค์จริง ที่พบที่คุ้งน้ำหลังวัดโบสถ์ชนะมาร
มณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาธรรมราชาจำลอง
- พระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติ -
จังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกับประชาชนได้จัดสร้างพระพุทธมหาธรรมราชาเฉลิมพระเกียรติขึ้น
เป็นพระพุทธรูปเนื้อโลหะทองเหลือง ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์
ยอดพระเกตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
หน้าตัก 11.984 เมตร มีความหมายว่า 1 หมายถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงเป็นพระมหากษัตริย์เอก หนึ่งในดวงใจของชนชาวไทย 1 หมายถึง พระพุทธมหาธรรมราชา ซึ่งมีเพียงองค์เดียวในโลก 9 หมายถึง รัชกาลที่ 9 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ 84 หมายถึง วโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา
ภายในประดิษฐาน
รูปหล่อของเกจิอาจารย์
พระพุทธรูปที่เป็นที่นับถือจำลอง เช่น หลวงพ่อใหญ่วัดตาล (หล่มสัก) หลวงพ่อบึงสามพัน (อ.หนองไผ่) พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธโสธร
และพระบรมสารีริกธาตุ
-วัดภูเขาดิน -
สมัยก่อนนิยมใช้การสัญจรทางน้ำทางเรือเป็นหลัก
ชาวบ้านทางตอนใต้ของตัวเมืองเพชรบูรณ์จะพายเรือมาตามลำคลองมีขึ้นฝั่งที่ศาลาท่าน้ำหลังวัดภูเขาดิน
จึงเรียกคลองนี้ว่า คลองศาลาชุมชนนี้เรียกบ้านคลองศาลา
หลวงพ่อขอมพระเขมรได้นำชาวบ้านสร้างวัดที่ดินเดิมเป็นป่าพงติดกับคลองศาลา
ต่อมาอาจารย์คูนเจ้าอาวาสได้ชักชวนพุทธศาสนิกชนขุดดินมาถมเป็นเนินสูงเพื่อสร้างมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง
และได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดภูเขาดิน
มีอุโบสถไม้ พระประธานปูนปั้น ปางมารวิชัย
-วัดช้างเผือก ตำบลในเมือง อำเภอเมือง เพชรบูรณ์ -
ตำนานว่ามีพระธิดา ที่มีเส้นผมมีกลิ่นหอมและมีโฉมงาม นามว่า แม่นางผมหอม
เจ้าเมืองนครเดิด (หล่มสัก) อยากได้ผู้มีบุญบารมีมาเป็นคู่ครองของพระธิดา
จึงทำการขุดหลุมขวากและประกาศว่าหากผู้ใดโดดลงไปในหลุมขวากแล้วไม่ตาย
จะมาเป็นคู่ครองกับแม่นางผมหอมและครองบ้านครองเมืองสืบทอดจากตนเองต่อไป
แต่ไม่มีใครกล้าที่จะโดดลงไปในหลุมขวากนั้น
ต่อมามีคนเมืองบน (เมืองบน - อยู่ที่สูงหรือบนเขา , เมืองลุ่ม - อยู่ในที่ลุ่ม)
เป็นชาวป่าชาวเขาสกปรก อัปลักษณ์ พลัดตกลงไปในหลุมขวาก แล้วไม่ตาย
เจ้าเมืองนครเดิดจึงต้องยกแม่นางผมหอมให้เป็นภรรยาแก่ชายชาวบนนั้น
แม่นางผมหอมจึงกระโดดแม่น้ำป่าสักฆ่าตัวตาย
เจ้าเมืองนครเดิดพาไพร่พลติดตามหาร่างแม่นางผมหอมตามแม่น้ำป่าสัก
ก็ได้พบศพแม่นางมาติดหลักลี่ ... ลี่ภาษาลาวแปลว่าซ่อน - ซ่อนไม่ให้ปลาเห็นคือที่ดักปลา ...
ภายหลังสร้างเป็นวัดชื่อวัดศพ เปลี่ยนเป็นวัดโพธิ์เย็น
เมื่อนำศพกลับมาถึงค่ายที่พักไพร่พล ก็พบว่าช้างเผือกที่นำมาด้วยนั้นล้ม
จึงนำศพของแม่นางผมหอมและซากของช้างเผือกไปฝัง
สร้างเจดีย์ไว้ให้ทั้งแม่นางผมหอม 1 องค์ คือเจดีย์ใจร้าย
เพราะแม่นางผมหอมนั้นเสียชีวิตด้วยความคับข้องหมองใจ
วิญญาณจึงดุมักลงโทษคนที่ทำไม่ดีไม่ถูกใจให้มีอันเป็นไป
และช้างเผือกอีก 1 องค์ คือเจดีย์ใจดี
เพราะช้างเผือกเป็นสัตว์มงคล มักให้คนที่มาบน
ในบริเวณนั้น ชื่อวัดช้างเผือก
ในวัดมีพระพุทธรูปปางปราบพญาชมพูบดี
สร้างขึ้นมาพร้อม ๆ กับวัด ราวสมัยสุโขทัยเป็นราชธานี
เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบ
- อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง -
ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3 บ้านป่าแดง ตำบลป่าเลา อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
เดิมบริเวณห้วยป่าแดงแห่งนี้เคย เคยเป็นที่ตั้งของโรงเรียน เตรียม ทบ. รุ่นป่าแดง 86
ซึ่งตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ย้ายนักเรียนเตรียม ทบ. ขึ้นรถไฟมาลงที่ตะพานหินแล้วเดินเท้ามาถึงมายัง ป่าแดงเพชรบูรณ์
มาพักชั่วคราวที่วัดทุ่งแจ้ง และสร้างโรงเรียนขึ้นริมห้วยป่าแดง
โดยสร้างบนที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง นั่นคือบริเวณป่าช้า
พ.ศ. 2512 ได้สร้างเป็นอ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดงขึ้น
- วัดช้างเผือก ตำบลวังชมภู อำเภอเมือง เพชรบูรณ์ -
สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
พบซากของโบสถ์เก่า พระพุทธรูปเก่า และรูปปั้นช้างเผือก
เป็นที่เก็บสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อทบ วาจาสิทธิ์ แห่งวัดพระพุทธบาทชนแดน
* อำเภอชนแดน *
-วัดพระพุทธบาทชนแดน (หลวงพ่อทบ)
หรือชื่อวัดพระพุทธบาทเขาน้อย เพราะตั้งอยู่บนเขาน้อย
ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง - อุทเทสิกเจดีย์
เป็นที่จำพรรษา และในช่วงบั้นปลายของหลวงพ่อทบท่านได้สั่งเสียไว้ว่า
หากจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิตแล้ว ก็ให้กลับมาพัฒนาวัดช้างเผือก อย่าปล่อยให้ร้าง
จึงได้นำสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงพ่อทบไปไว้ที่วัดช้างเผือกวังชมภู
วัดที่ท่านได้บวชเป็นสามเณรแต่แรก
* อำเภอหนองไผ่ *
- วัดบ้านโภชน์ -
บ้านโภชน์ เป็นแหล่งปลูกข้าวโพดพันธุ์ดี ... ทางการตั้งชื่อจากข้าวโพด ให้เป็นบ้านโภชน์
- ขอแนะนำพะแนงเนื้อเป็นร้านข้าวแกงไม่มีชื่อร้าน
อยู่ตรงยูเทอร์นขาขึ้น ก่อนถึงวัดบ้านโภชน์ พิกัด https://maps.app.goo.gl/CGBTssyYTMtxr2Nk7
แม้ข้าวสวยจะแข็งไม่อร่อย แต่สามารถลืมไปได้เพราะพะแนงเนื้ออร่อยมาก
-วัดโพธิ์เจดีย์ลอย -
มีต้นโพธิ์ โบสถ์เก่า และ เจดีย์ลอย
เล่าว่าเดิมเป็นวัดร้างที่ก่อสร้างค้างไว้ ชาวบ้านจึงร่วมกันก่อสร้างเจดีย์
แต่ขณะกำลังขนปูนทรายอิฐ ก็เกิด ฟ้ามืดมิดไปสามวันสามคืน
แล้วเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อฟ้าปกติก็เห็นองค์พระเจดีย์ลอยอยู่เหนือพื้นดิน กลองเพล กลิ้งลอดได้
ต่อมามีดิน หิน ทราย ทับถมกันฐานเจดีย์ตื้นเขินแค่พอแม่ไก่เข้าไปฟักไข่ได้
ภายในฐานเจดีย์มีเงินทองอยู่มากมาย ชาวบ้านที่ขัดสนอาศัยยืมไปใช้ได้ แต่เมื่อมีก็ต้องนำไปคืนไว้ที่เดิม
แต่มีคนเบี้ยว ไม่คืนเจดีย์เลยทรุดลง ดังที่เห็นในปัจจุบัน
เมื่อถึงวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ปรากฎองค์พระเจดีย์
ชาวบ้านจะทำบุญตักบาตร สมโภชน์ สรงน้ำองค์พระเจดีย์ เปลี่ยนผ้าสามสี
-วัดคงสมโภชน์ -
โบสถ์มหาอุตม์ เป็นโบสถ์ที่มีทางเข้าออกทางเดียว ไม่มีประตูหน้าต่าง
โดยชุมชนใดที่มีอาจารย์ที่เป็นผู้มีเวทมนต์คาถา จะสร้างขึ้น เพื่อทำพืธีกรรม หรือถ่ายทอดวิชา ไม่ให้คาถารั่วไหลออกไป
วิหารหลวงพ่อบึงสามพัน
ประดิษฐานหลวงพ่อบึงสามพันองค์จริง ในตู้ลูกกรงด้านหลังหลวงพ่อจำลอง
เป็นพระพุทธรูปสำริด ปางสมาธิ ที่ติดยอของคุณยายมอญ คนบ้านโภชน์ ขณะไปหาปลาที่บึงสามพัน
ได้อธิษฐานขอนำพระพุทธรูปขึ้นมา และจะนำไปประดิษฐานที่บ้านโภชน์ ซึ่งมีสองวัด คือโพธิ์วัดเจดีย์ลอย กับวัดโพธิ์
แต่เมื่อถึงวัดโพธิ์แคร่ที่ต่างพระพุทธรูปหลวงพ่อยอก็หักลง
และต่อแคร่ใหม่ก็หักอีก จึงให้ท่านประดิษฐานที่วัดโพธิ์ คือวัดคงสมโภชน์ในปัจจุบัน
* อำเภอบึงสามพัน *
เป็นอำเภอที่อยู่ทางใต้ของอำเภอหนองไผ่
เดิมเรียกบริเวณนี้ว่าซับสมอทอด จากการที่มีต้นสมอใหญ่ขึ้นอยู่ริมคลองเอนลงไปในคลองคลองนี้ไหลงลงไปที่บึงสามพัน
บึงสามพันมาจากบึงนี้มีจระเข้มาก ประมาณว่าไม่ต่ำกว่าสามพันตัว
ซึ่งนายเย้า เจริญสุข แห่งฟารม์จระเข้สมุทรปราการ เคยมีอาชีพจับจระเข้ที่บึงแห่งนี้
- วัดบึงสามพันล่าง -
มีมณฑปหลวงพ่อบึงสามพันจำลอง ที่บริเวณคุณยายมอญยกยอ
* อำเภอวิเชียรบุรี *
-วัดวิเชียรบำรุงหรือวัดท่าน้ำ -
ประดิษฐานพระพุทธไสยยาสน์วิเชียรบุรีศรัรัตนมิ่งมงคล
อยู่กลางแจ้งหันพระพักตร์ไปทางทิศเหนือ
ภายในองค์พระเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญ (ไหปลาร้า)
สุดท้าย บนเส้นทางสายหล่มสัก - พิษณุโลก มีวิวสวย ๆ
อ่างเก็บน้ำที่เห็นคืออ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชุน
Create Date : 08 กันยายน 2567 |
Last Update : 8 กันยายน 2567 14:41:38 น. |
|
13 comments
|
Counter : 261 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณปัญญา Dh, คุณmultiple, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณSweet_pills, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณkae+aoe, คุณThe Kop Civil, คุณnewyorknurse, คุณดอยสะเก็ด |
โดย: multiple วันที่: 8 กันยายน 2567 เวลา:19:04:51 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 กันยายน 2567 เวลา:21:11:40 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 8 กันยายน 2567 เวลา:21:41:42 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 8 กันยายน 2567 เวลา:23:21:26 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 9 กันยายน 2567 เวลา:9:00:04 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:4:32:59 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:4:52:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:13:00:23 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:21:20:05 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 10 กันยายน 2567 เวลา:23:39:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2567 เวลา:4:57:39 น. |
|
|
|
| |
|
BlogGang Popular Award#20
|
|
tuk-tuk@korat |
|
|
|
|
|
เดี๋ยว อาจารย์เต๊ะ มาอ่านอีกทีนะครับ