เบาหวาน(น้ำตาลในเลือดสูง)เพิ่มเสี่ยงมะเร็ง
. การศึกษาใหม่ รวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเกือบ 400,000 คนพบว่า คนที่เป็นเบาหวานมีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าคนที่ไม่เป็น = 10% . มะเร็งที่พบเพิ่มขึ้นในผู้ชายที่เป็นเบาหวานได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่-ตับอ่อน-ไส้ตรง-กระเพาะปัสสาวะ-ไต-ต่อมลูกหมาก . มะเร็งที่พบเพิ่มขึ้นมากที่สุด พบมากขึ้น 4 เท่าในผู้ชายที่เป็นเบาหวาน คือ มะเร็งตับอ่อน . ตับอ่อนเป็นอวัยวะที่อยู่ด้านหลังช่องท้อง ซึ่งมีประสาทรับรู้ความรู้สึกน้อยกว่าอวัยวะที่อยู่ในช่องท้อง ทำให้ไม่ค่อยมีอาการ หรือมีอาการไม่ชัดเจน เช่น อืดท้อง แน่นท้อง ฯลฯ ในระยะแรก . อาการมักจะปรากฏชัดหลังโรคลุกลามไปมากแล้ว . มะเร็งที่พบเพิ่มขึ้นในผู้หญิงที่เป็นเบาหวานได้แก่ มะเร็งเต้านม-เม็ดเลือดขาว-เยื่อบุมดลูก โดยชนิดที่พบเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ มะเร็งเม็ดเลือดขาว . การศึกษาอีกรายงานหนึ่งพบว่า คนไข้เบาหวานที่เป็นมะเร็งมีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่เป็น . กลไกที่ทำให้เบาหวานเพิ่มเสี่ยงมะเร็งยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ระดับน้ำตาลที่สูงขึ้นอาจเป็น "น้ำเลี้ยง" ชั้นดี ส่งกำลังบำรุงให้เซลล์มะเร็ง . กลไกอื่นๆ ที่อาจเป็นไปได้ คือ เบาหวานทำให้ระบบภูมิต้านทานโรคอ่อนแอลง ต่อสู้ต้านทานเซลล์มะเร็งได้น้อยลง . ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า วิธีที่ดีสำหรับตอนนี้ คือ หาทางป้องกันเบาหวานได้แก่ [ CDC ] . (1). ควบคุมอาหารร่วมกับออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ เพื่อป้องกันน้ำหนักเกิน-อ้วน . (2). ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ อย่างน้อยเทียบเท่าเดินเร็ว 30 นาที/วัน (ทำเป็นช่วงๆ นำเวลามาสะสมให้ครบแบบบัญชีสะสมทรัพย์ เช่น ก่อนอาหาร 3 มื้อๆ ละ 10 นาที = 30 นาที, เดิน 5 นาทีทุกชั่วโมง 8 ยก = 40 นาที ฯลฯ และขึ้นลงบันไดตามโอกาส สะสมเวลาให้ได้ 4 นาที/วัน . การเดินเร็วที่ดีที่สุดควรสวมรองเท้าวิ่งหรือรองเท้าผ้าใบ งอข้อศอกเล็กน้อย (คล้ายการวิ่ง), เดินให้เร็วจนพูดได้ 3-4 คำ ไม่เต็มประโยคก็เหนื่อย พูดต่อไม่ได้ . หรือฝึกนับก้าวให้ได้อย่างน้อย 60 ก้าว/นาทีจนแข็งแรง แล้วเพิ่มความเร็วไปทีละสิบ เช่น 70 ก้าว/นาที, 80 ก้าว/นาที ฯลฯ โดยระดับที่ดีมาก คือ 100-120 ก้าว/นาที . ถ้าปั่นจักรยานอยู่กับที่ก็ใช้หลักการนี้ได้เช่นกัน โดยนับเป็นรอบ/นาที . (3). ไม่นั่งนิ่งๆ นาน เช่น ดู TV, ใช้คอมฯ เกิน 1-2 ชั่วโมง/ครั้ง, วิธีที่ดี คือ ลุกขึ้นเดินไปเดินมา ขึ้นลงบันไดสัก 1 ชั้น ฯลฯ สลับ . (4). ออกแรง-ออกกำลังง่ายๆ บ่อยๆ เช่น ขึ้นลงบันไดแทนใช้ลิฟต์ ล้างรถ ถูพื้น ล้างจาน ล้างแก้ว ฯลฯ . (5). ลดอาหารประเภท "หวาน-มัน-เค็ม" โดยเฉพาะอาหารทอด จะเป็นแหล่งน้ำมันที่มองไม่เห็นจำนวนมาก . เพิ่มอาหารกลุ่มผัก เน้นผักที่กินง่าย เช่น แตงกวา มะเขือเทศ ฯลฯ ถั่วที่ไม่ผ่านการทอด โดยเฉพาะถั่วฝักสด เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว ฯลฯ ผลไม้ที่ไม่หวานจัดทั้งผล เช่น มะละกอ ส้มโอ ส้ม แอปเปิ้ล กล้วยที่ไม่สุกจัด . (6). ตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือด-เบาหวานเป็นประจำ เนื่องจากถ้ารีบปรับเปลี่ยนแบบแผนการใช้ชีวิต (lifestyle) ตั้งแต่เริ่มเป็นภาวะก่อนเบาหวาน จะป้องกันโรคได้ดีกว่าปรับเปลี่ยนหลังเป็นเบาหวาน . (7). นอนให้พอเป็นประจำ . ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
Free TextEditor
Create Date : 13 พฤษภาคม 2554 |
|
35 comments |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2554 13:56:56 น. |
Counter : 20185 Pageviews. |
|
 |
|
ตอนนี้เบาหวาน ก็น่ากลัวกว่ามะเร็งสิเนี่ย
เพราะถ้าไม่ระวังเบาหวาน มะเร็งก็มาหาเราได้ง่ายขึ้น
แง่ว!!!