
เดสิเดอริอุส อีราสมุส เมื่อ พ.ศ. 2066
เขียนโดยHans Holbein the Younger

Erasmus by Holbein
เดสิเดอริอุส อีราสมุส รอตเตอโรดามุส (Desiderius Erasmus Roterodamus บางครั้งรู้จักกันในนาม เดสิเดอริอุส อีราสมุส แห่งรอตเตอร์ดาม - 27 ตุลาคม, พ.ศ. 2009 / พ.ศ. 2012 - 12 กรกฎาคม, พ.ศ. 2079) ตรงกับระหว่างรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ กับรัชสมัยของสมเด็จพระไชยราชาธิราช)
นักมนุษยนิยม (humanist) และนักเทววิทยา (theologian) ชาวดัตช์ ชื่อในแบบผู้รอบรู้คือ เดสิเดอริอุส อีราสมุส รอตเตอโรดามุส นี้ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ส่วนคือ: คำนามในภาษาละติน desiderium
("ปรารถนา" หรือ "ความอยาก" ซึ่งเป็นชื่อละตินใหม่แท้); คำคุณศัพท์ภาษากรีก εράσμιος (erasmios) หมายถึง "การเป็นที่รักใคร่", และเมื่ออยู่ในรูปของ Erasmus, ก็จะเป็นชื่อของ เซนต์อีราสมุส (saint| St. Erasmus|saint); และส่วนที่สามเป็นคุณศัพท์ในภาษาละตินของชื่อเมืองรอตเตอร์ดัม (Roterodamus = "of Rotterdam").
เดสิเดอริอุส อีราสมุส เป็นผู้คงแก่เรียนยุคคลาสสิก เป็นผู้แต่งหนังสือด้วยภาษาละตินแท้ และเป็นผู้ชื่นชอบในฉายาที่มีผู้ให้ว่า เจ้าชายแห่งนักมนุษยนิยม (Prince of the Humanists) มนุษยนิยมเรนาซองส์ได้รับความสนใจ และมีการเรียนรู้กันมากในการศึกษาภาษาโบราณ ด้วยการใช้เทคนิคของมนุษยนิยม
อีรามุสได้จัดเตรียมคัมภีร์ไบเบิลใหม่ฉบับภาษาละตินแท้ และภาษากรีกซึ่งได้ทำให้เกิดคำถาม ที่ทรงอิทธิพลต่อมาในรอตเตอร์ดาม
อีราสมุสยังได้เขียนหนังสืออีกหลายเล่มได้แก่เรื่อง การสดุดีคนโง่ ( The Praise of Folly), "คู่มืออัศวินคริสเตียน" ( Handbook of a Christian Knight), "ความเป็นพลเมืองของเด็ก (On Civility in Children), "โคเปีย: พื้นฐานของสไตล์อันล้นเหลือ ( Copia: Foundations of the Abundant Style) เป็นต้น
ความคิดของอีราสมุส ปูทางให้แก่การปฏิรูปของมาร์ติน ลูเธอร์ในตอนต้นคริสต์ศตวรรษ ที่ 15 (ประมาณหลัง พ.ศ. 1950)
อีราสมุสมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ ผู้คงแก่เรียนในช่วงนั้นเอาจริงเอาจังกับความเชื่อ และการปฏิบัติที่เคร่งครัดในคริสต์ศาสนา การวิพากษ์วิจารณ์ของอีราสมุสจึงไม่ต้องตรงกับอำนาจของพระสันตปาปา และได้ทำให้เกิดระบบเทววิทยาแนวใหม่ขึ้น
อีราสมุสถูกจัดไว้ในกลุ่มปฏิรูปที่วิพากษ์วิจารณ์ความเชื่อ และแนวปฏิบัติทางศาสนา ที่เป็นอยู่ในระยะนั้นอย่างต่อเนื่อง แต่อีราสมุสเองยังคงปฏิบัติศาสนานิกายแคทอลิกอยู่ แต่เป็นอย่างปัญญาชนและอยู่ใต้อำนาจพระสันตปาปาตลอดชีวิต
การนับถือและปฏิบัติทางแคทอลิกของอีราสมุส เป็นไปในแบบเสรีซึ่งทำให้พวกปฏิรูปโปรเตสแตนท์หลายคนต่อต้าน เพราะยังเชื่อในลัทธิเทวลิขิต ( Predestination) มากกว่า ทางสายกลางนี้ นอกจากค่อนข้างเป็นที่น่าผิดหวังแล้วยังทำความเดือดดาลให้แก่ผู้นำการปฏิรูป เช่น มาร์ติน ลูเทอร์ และผู้จงรักภักดีอย่างแรงกล้าต่อองค์พระสันตปาปาอีกด้วย
ชีวประวัติโดยสรุป
อีราสมุสเกิดในนครรอตเตอร์ดาม ประเทศเนธอร์แลนด์ หลังจากอาศัยอยู่ที่โบสถ์ออกัสตินแห่งหนึ่งเป็นเวลา 6 ปีก็ได้เป็นเลขานุการส่วนตัวของ บิชอบแห่งแคมบราอิ และบวชเป็นพระเมื่อ พ.ศ. 2035
ต่อมาอีราสมุสจึงได้ย้ายไปอยู่ปารีส มีอาชีพเป็นครูและย้ายไปอยู่ลอนดอนในปี พ.ศ. 2041 โดยดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์สาขาศาสนศาสตร์ (Divinity) และกรีกที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์
และที่นี่เองที่อีราสมุสได้เขียนหนังสือประเภทเสียดสีเรื่อง การสดุดีคนโง่ (พ.ศ. 2052) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2057 เป็นต้นมา อีราสมุสย้ายที่อยู่อาศัยไปมา ระหว่างเมืองบาเซิลและลอนดอน
ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลูเวียน (ในเบลเยียม พ.ศ. 2060-2064) ในช่วงนี้ อีราสมุสได้ผลิตผลงานเขียนที่มีชื่อเสียงอีกหลายเล่ม
ในบั้นปลายชีวิต อีราสมุสได้เขียนหนังสืออีกหลายเล่ม และเข้าไปเกี่ยวข้องกับความคิดที่ขัดแย้งทางศาสนาค่อนข้างมาก แต่ก็ได้รับการยกย่อง และมีความสุขมากในชีวิตท่ามกลางเพื่อนแท้ทางความคิด ที่เป็นฝ่ายโปรเทสแตนท์
อีราสมุสถึงแก่กรรมเมื่ออายุประมาณ 70 ปี ที่เมืองบาเซิล
งานบางชิ้น
Colloquia, which appeared at intervals from 1518 on
Apophthegmatum opus
Adagia
Copia: Foundations of the Abundant Style
In Praise of Folly
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์วุธวาร เปรมปรีดิ์มานรมณีย์นะคะ
Create Date :16 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update :16 กุมภาพันธ์ 2554 12:21:41 น.
Counter : Pageviews.
Comments :0
- Comment