ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
ทอย (21)

รถคันเก่าของโฮมแทบจะเป็นเพียงคันเดียวที่แล่นอย่างอ้างว้างไปตามท้องถนนของมหานครในค่ำคืนอันเงียบงันนี้ นานๆ ทีจึงจะมีรถวิ่งสวน หรือติดตามมาห่างๆ สักช่วงหนึ่งก่อนที่จะเลี้ยวหายไป มันเป็นการจราจรในแบบที่โฮมไม่เคยพบมาก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ด้วย แต่มันก็ไม่ใช่สาเหตุเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอยู่ในตอนนี้ อีกส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างผู้โดยสารทั้งสองที่นั่งร่วมอยู่ด้วยบนเบาะทางด้านหลัง

ทอย กับ สโนว ที่ต่างคนต่างพยายามนั่งให้ตัวเองเบียดแนบชิดอยู่กับประตูรถคนละด้าน สายตาของทั้งสองนั้นเอาแต่จับจ้องมองดูเงาของเมืองที่แล่นผ่านไปราวกับว่ากำลังมีสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกิดขึ้นข้างนอกนั้นตลอดเวลา ที่ว่างแคบๆ ระหว่างคนทั้งคู่คล้ายมีกำแพงที่มองไม่เห็นกั้นกลางอยู่

'ฉันไม่น่าเสนอเรื่องการจูบนั้นออกไปเลย'

แต่ภายในใจลึกๆ โฮมก็ยังคงเชื่อมั่นว่า การจูบนั้นจะต้องมีส่วนในการช่วยให้มือสังหารหนุ่มสามารถกลับมาจากสถานที่ที่เขายืนยันว่าเป็นโลกแห่งความฝันที่เหมือนจริงอย่างที่สุด ความฝันชนิดที่ผู้ซึ่งติดอยู่ภายในนั้นจะไม่มีทางรู้ตัวเองได้เลยเป็นแน่ มันเป็นคำอธิบายถึงการที่ร่างของทอยจางลงจนเกือบจะหายไปอย่างแปลกประหลาด และโดยทั่วไปแล้วโฮมก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า จะมีใครหายเข้าไปติดอยู่ภายในความฝันของตัวเองได้เช่นนี้

'เอาล่ะ ตอนนี้ฉันรู้อะไรเพิ่มขึ้นแล้วบ้าง'

กระบวนการทางความคิดของโฮมเริ่มต้นขึ้นตามความเคยชิน เขาทบทวนถึงสิ่งต่างๆ มากมายที่ได้พูดคุยกับเอดิสัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพวกมันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคดีนี้เลย 'อาจยกเว้นเพียงเจ้าสิ่งนี้' เขาปล่อยมือซ้ายจากพวงมาลัยมาตบเบาๆ ที่กระเป๋าเสื้อโคท สัมผัสได้ถึงน้ำหนักที่ยืนยันว่ากุญแจเมืองดอกนั้นยังคงนอนสงบนิ่งอยู่ภายใน ยิ่งภายหลังจากที่ได้เผชิญพบกับเหตุการณ์ประหลาดในครั้งนี้ ความเชื่อมั่นที่เขามีต่อสิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอย่างช่วยไม่ได้

'เบื้องหลังประตูบานนั้นคือเป้าหมายถัดไปของฉัน' โฮมคิดว่าเขาจะต้องได้พบฟรอสถูกขังอยู่ภายในห้องลับนั้นแน่ และบางที ในสถานการณ์เช่นนี้ ฟรอสอาจจะมีข้อมูลอะไรที่อยากบอกกับเขาเพิ่มเติมก็เป็นได้ 'หรือถ้าเกิดไม่ใช่ฟรอส' ซึ่งเขาคิดว่ามีความเป็นไปได้น้อยมาก ก็จะต้องเป็นใครบางคนที่มีข้อมูลสำคัญบางอย่าง

'พักเรื่องกุญแจเอาไว้ก่อน ถึงตอนนี้เรามีคนที่หายตัวไปอย่างลึกลับเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนแล้ว' หรืออย่างน้อยหลักฐานเท่าที่มีอยู่ก็ทำให้เขาเชื่ออย่างนั้น ทนายความที่มีชื่อว่า เอฟ เค สไตน์ 'หรือที่รู้จักกันในนามของ ตัวประหลาด'

มันเป็นข้อมูลที่มีความน่าสนใจ เพราะว่าสไตน์นั้นแทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ในครั้งนี้เลย 'จนกระทั่งเขาเข้ามารับทำคดีให้กับ อดีต มือสังหารคนนี้' เขาเหลือบตาขึ้นมองเด็กหนุ่มผ่านกระจกส่องหลังแวบหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ 'ซึ่งก็เกือบจะถูกทำให้หายตัวไปอย่างลึกลับด้วยอีกคน'

แต่โฮมยังคิดหาความเชื่อมโยงของเป้าหมายในการจู่โจมทั้งหมดนี้ไม่ออก

'แล้วเรื่องที่ทอยเล่าออกมานั้นมันจะเป็นความจริงหรือไม่' โลกในความฝันที่ทอยอ้างถึง ซึ่งก็ไม่มีใครอื่นอีกที่จะสามารถยืนยันได้ 'แต่ถ้าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง' มันก็จะอธิบายถึงวิธีการที่สามารถทำให้คุณครอสหายตัวไปอย่างลึกลับได้ 'ที่สโนวเล่าว่าเธอได้เห็นคุณครอสฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะทำงานในตอนบ่ายเป็นครั้งสุดท้าย บางที...'

ภาพภายในจินตนาการ โฮมมองเห็นร่างของคุณครอสที่นั่งฟุบอยู่หลังโต๊ะไม้เก่าแก่ตัวโตนั้นขยับอย่างกระสับกระส่ายราวกับกำลังตกอยู่ในห้วงของฝันร้าย ก่อนที่ร่างกายของชายชราจะค่อยๆ จางลงจนหายไป ราวกับทั้งหมดนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ส่วนผู้ต้องสงสัยที่ยืนอยู่ด้านข้าง ในมือถือไม้ขีดที่จุดไว้ ก็คือเด็กสาวขายไม้ขีดไฟในชุดเสื้อคลุมสีแดงคนนั้น

'ซึ่งเธอเป็นใครก็ไม่รู้'

โฮมอาจบอกให้ผู้เชี่ยวชาญที่กองบังคับการช่วยวาดภาพใบหน้าของเธอขึ้นมาได้ แต่ถึงจะแจกจ่ายมันไปจนทั่วเมืองเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะมีประโยชน์อะไรหรือไม่ เด็กสาวคนนั้นจะต้องเป็นหนึ่งใน คนเก่าแก่ อย่างไม่ต้องสงสัย และต้องเป็นคนเก่าแก่ที่ไม่เคยมีใครเคยรู้จักมาก่อน

'ไม่ใช่สิ ควรจะเป็นว่า ไม่มีใครจดจำเธอได้อีกแล้วมากกว่า'

คนเก่าแก่ นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นคนแก่เสมอไป เพียงแต่พวกเขาอยู่มานาน นานมาก ในยุคสมัยหนึ่ง เขา หรือเธออาจมีรูปลักษณ์ภายนอกอย่างหนึ่ง และถูกเปลี่ยนแปลงไปตามความเชื่อของผู้คนในแต่ละช่วงเวลา บางทีอาจคล้ายกับแฟชั่นเสื้อผ้าของเหล่าสุภาพสตรีทั้งหลายที่สั้น ยาว เว้าแหว่ง วนเวียนเปลี่ยนไปไม่เคยหยุด แต่ที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าคนเก่าแก่ทุกคนจะสามารถอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

มีคนเก่าแก่จำนวนมากที่ได้ถูกลืม และเลือนหายไปตลอดกาล 'เอ่อ บางทีมันอาจจะไม่ใช่ ตลอดกาล อย่างที่เราเข้าใจก็เป็นได้'

ได้เคยมีการปรึกษากันถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากกลุ่มบุคคลที่มีความสามารถพิเศษพวกนี้ ความเป็นไปได้ที่จะจัดทำทะเบียนประวัติของพวกเขาทั้งหมดด้วยเหตุผลเพื่อเกียรติยศ หรืออะไรที่ดีดีตามแต่จะยกขึ้นมาอ้าง แต่นอกจากสงครามกับผีดูดเลือดที่ก็ไม่อาจนับเป็นคนเก่าแก่ที่แท้จริงได้แล้ว ก็ยังไม่เคยมีการบันทึกถึงเรื่องพวกนี้เลย พวกเขาเพียงอยู่กันอย่างเงียบๆ ทำหน้าที่ของตนไป ไม่เคยจงใจสร้างปัญหา หรืออย่างน้อยก็ไม่เคยมีใครรู้ว่าพวกเขาได้ทำอย่างนั้น ในที่สุด การพูดคุยทั้งหมดนั้นก็ไม่ก่อให้เกิดสิ่งใด เพราะไม่มีใครคิดจริงจังกับมันมากนัก

'แล้วทำไมจึงมาเริ่มเอาในตอนนี้ กับคนเก่าแก่พวกเดียวกัน กับคนซึ่งเป็นที่รู้จัก และจดจำได้มากที่สุดเสียด้วย' พอเวลาเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้มาถึง เมื่อไม่มีของขวัญเหมือนกับที่เคยมี ทุกคนก็จะได้รู้ความจริงที่ว่า คุณซานต้า ครอส นั้นได้หายตัวไปเสียแล้ว 'ก็แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เด็กสาวขายไม้ขีดไฟคนนั้นจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องทั้งหมดนี้' ซึ่งยังไม่รวมถึงการที่เธอลงมือจัดการกับอีกสองคนที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย

'จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังสรุปอะไรไม่ได้ทั้งนั้น' โฮมย้ำกับตัวเอง

“เอ่อ...” เสียงของทอยดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ และเขาคิดว่ามันดังเกินกว่าที่ต้องการ “ผมมีข้อสงสัยบางอย่างที่ต้องการถามสารวัตรครับ” สโนวที่นั่งเถียงกับเสียงเล็กๆ ทั้งเจ็ดในตัวของเธอมาตลอดทาง ยังคงทำท่ามองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ก็ตั้งใจฟังอย่างเต็มที่

“สารวัตรมาช่วยผมได้อย่างไร ผมไม่คิดว่ารถที่แค่แล่นผ่านจะสามารถพบเห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตรอกมืดๆ แคบๆ นั้นได้ครับ”

โฮมเองก็รู้เหมือนกันว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลย คำตอบนั้นมีอยู่เพียงหนึ่งเดียว ซึ่งก็คือเขาต้องรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่เขาจะรู้ได้อย่างไร

“ผมได้รับข่าวมา” โฮมตอบอย่างมั่นใจ และมันเป็นความจริง แต่ก็เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

“ข่าวจากใครครับ” ทอยยังถามต่อ

“ก็จากแหล่งข่าว...ลับ และเชื่อถือได้ของผมเอง” 'กลับมาแล้วหรือโฮม' นอกจากคำทักทายที่สนิทสนมนั้น ในขณะที่โฮมยังลังเล ยังรู้สึกหยิ่งเกินกว่าที่จะเอ่ยปากถามในสิ่งที่สงสัย เสียงจากหญิงสูงวัยใจดี และอ่อนโยนซึ่งดังขึ้นที่ข้างหู บนเส้นทางที่มีหลายทางเลือก แต่เขากลับเลือกที่จะขับรถย้อนกลับมาขึ้นสะพานลอนดอนอีกครั้งก็พูดต่อ 'รีบไปที่ตรอกเล็กๆ ข้างร้านของเล่นซีเอฟ คุณทอยกำลังตกอยู่ในอันตราย เด็กสาวคนหนึ่งกำลังจะจัดการกับเขา' “ผมคงเปิดเผยตัวตนของแหล่งข่าวให้คุณรู้ไม่ได้ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย”

ทอยเงียบไปครู่หนึ่ง “คงไม่ใช่แหล่งข่าวจากใต้สะพานอีกแล้วใช่ไหมครับ สารวัตรโฮม”

โฮมรู้สึกได้ถึงสายตาที่แหลมคมของเขาซึ่งจ้องตรงมาจากทางด้านหลัง 'จะหัวไวเกินไปแล้ว'

“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรนะ คุณทอย แต่เป็นเพราะข่าวนี้ที่ทำให้ผมมาถึงได้ทันเวลา...” โฮมพูดเรื่อยๆ เหมือนไม่ได้จริงจัง และทอยรู้ว่าประโยคที่โฮมแกล้งละเอาไว้นั้นควรจะเป็น 'ทันเวลา...ก่อนที่เด็กสาวชุดแดงคนนั้นจะจัดการกับคุณ และผมเป็นคนที่ช่วยชีวิตคุณเอาไว้' ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับสิ่งที่โฮมคิดจะพูดมากที่สุด แต่เขาก็ไม่ยอมรับพวกมันทั้งหมด เขาได้รับความช่วยเหลือในบางส่วนก็จริง แต่เขามั่นใจว่าได้หลบหนีออกมาจากโลกแห่งความฝันนั้นด้วยตัวเอง

'เอ่อ ที่จริงก็ด้วยความช่วยเหลือจากใครบางคนที่ฉันไม่รู้จัก' หรือบางทีอาจจะรู้

“แล้วทำไมคุณต้องจับฉันมาด้วย” สโนวที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้นบ้าง เธอหันมาสบตากับทอยเข้าอย่างไม่ตั้งใจ หัวใจพลันเต้นรัวตึกตักไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่จะรีบหันกลับไปมองออกนอกหน้าต่าง ทำท่าทางเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น 'ก็บอกเขาไปเลยว่า ฉันรักเธอ' เสียงเดิมนั้นดังขึ้นข้างในก่อนใครทั้งหมด 'แต่เขาอายุอ่อนกว่าตั้งหลายปีนะ' เสียงหนึ่งแย้ง 'อายุเป็นเพียงตัวเลข' อีกเสียงร้องออกมาเป็นทำนองเพลง 'แต่ก็เป็นตัวเลขที่สำคัญนะ' อีกเลียงเล็กๆ ว่า 'พอได้แล้ว มันก็แค่อุบัติเหตุเท่านั้นเอง' มันเป็นเสียงของเธอ หรืออย่างน้อยเธอก็เข้าใจอย่างนั้น

“คุณสโนว ผมบอกคุณไปแล้วนะครับว่า นี่ไม่ใช่การจับกุม” โฮมหักพวงมาลัยเลี้ยวรถช้าๆ ตอนนี้จุดหมายปลายทางอยู่ห่างออกไปไม่ไกลแล้ว “แต่เป็นเพราะผมไม่แน่ใจในความปลอดภัยของคุณ จึงจำเป็นต้องเชิญ ต้องขอความร่วมมือให้มาด้วยกันก่อนครับ” แต่นั่นเป็นเหตุผลเพียงส่วนเดียวเท่านั้น

ร่างของทอยเอียงไปหาสโนวตามการเลี้ยวของรถโดยไม่ตั้งใจ แต่เขายั้งตัวเองเอาไว้ได้ทันท่วงที 'นี่ฉันเป็นอะไรไป' สมดุลของร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่เขาเคยมีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนพื้น ขอบกำแพง บนยอดตึก หรือแม้แต่บนเส้นเชือก แต่ตอนนี้ดูเหมือนหลายสิ่งในตัวเขาจะควบคุมได้ยากขึ้นทุกที 'ดูเหมือนความสามารถพวกนั้นจะจางหายไปหมดแล้ว' และเขาไม่แน่ใจว่าควรจะดีใจ หรือเสียใจกันแน่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ อย่างที่เขาเคยต้องการ

'แล้วนี่ฉันเป็นอะไรไป' ทอยยังคงไม่เข้าใจความรู้สึกพิลึกๆ อีกอย่างที่เกิดขึ้นในใจของเขาเวลาที่อยู่ใกล้กับสโนว 'แล้วทำไมคุณสโนวต้องทำท่าทางแบบนั้น แล้วทำไมฉันเองก็ต้องทำท่าทีแปลกๆ กับเธอเหมือนกัน' เขาเติบโตขึ้นภายในแวดล้อมอันอบอุ่นของครอบครัวมือสังหาร และหน้าที่การงานที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำให้เขาคุ้นเคยกับการเข้าสังคมมากนัก โดยเฉพาะกับสังคมของผู้หญิง

รถของโฮมค่อยๆ เคลื่อนมาจนหยุดลงตรงหน้าตึกนคราภิวัฒน์ ซึ่งทอยเงยหน้ามองดูเงาของยอดตึกสูงที่ตัดกับท้องฟ้ายามราตรีด้วยความประหลาดใจ 'ดูเหมือนวันนี้ฉันต้องวนเวียนอยู่กับมันหลายครั้งเหลือเกิน' ซึ่งก็เป็นความจริง แต่ในวันอื่นๆ กับสิ่งอื่นๆ เองก็อาจเป็นเช่นนี้ด้วยเช่นกัน เพียงแต่เขาไม่ได้ใส่ใจเท่านั้น และมันเป็นตึกที่ใหญ่โต มันย่อมมีแรงดึงดูดในตัวเอง แทบทุกสิ่งภายในเมืองนี้ต่างก็หมุนไปรอบตัวมันทั้งนั้น

“เชิญครับ” โฮมอ้อมมาเปิดประตูรถให้สโนว ก่อนที่จะเดินนำทั้งสองไปที่ด้านข้าง ไม่ใช่ประตูหน้าอันโอ่โถงของตึกซึ่งในช่วงเวลานี้ของทุกวันได้ถูกปิดลงแล้ว ประตูบานเล็กเรียบๆ ที่ถึงแม้จะไม่ได้กลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อมเหมือนกับประตูสำนักงานร้านของเล่น แต่ก็พบเห็นได้ยากหากไม่ได้ตั้งใจมองหา

“เชิญครับ” โฮมเปิดมันออกโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจ สโนวเดินนำเข้าไปก่อน ตามด้วยทอย ปิดท้ายด้วยโฮม และเสียงประตูปิดที่ดังเกินความจำเป็น โฮมออกเดินนำทางทั้งสองไปตามทางเดินแคบๆ ที่มีเพียงดวงไฟเล็กๆ บนเพดานในระยะห่างๆ พอให้มองเห็นทางที่เดินไปเท่านั้น ก่อนที่จะเลี้ยวอย่างไม่คาดคิด และทอยก็ได้พบเจอกับบันไดแคบๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมๆ หนึ่งจากห้องโถงนั้นอีกครั้ง ชายที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่พบเห็นได้ทั่วไปคนเดิมยังคงนั่งอยู่ในเก้าอี้ตัวเล็กๆ ตัวเดิม 'ไม่ ไม่ใช่คนเดิม' เพียงแต่ด้วยการแต่งกาย รูปร่าง กับทรงผมที่เหมือนกันจึงทำให้แยกแยะได้ยาก

ชายคนนี้รีบลุกขึ้นทันทีเมื่อได้เห็นคนที่เดินเข้ามา “สารวัตรโฮม พวกเรากำลังตามหาตัวคุณอยู่ มีเรื่องวุ่นวายใหญ่โตเกิดขึ้นแล้ว เอ่อ อีกแล้วครับ” โฮมแปลกใจ แต่คิดว่าตนเองอาจจะยังไม่มีเวลาให้กับเรื่องใหม่นี้ “กำลังทั้งหมดที่ออกเวรไปแล้วต่างถูกเรียกตัวกลับเข้ามา ทุกคนกำลังรอคำสั่งจากคุณอยู่...” เสียงของเขาเบาลง เมื่อรู้ตัวว่าโฮมยังมีผู้ติดตามมาด้วย โดยเฉพาะเมื่อสายตาของเขามาหยุดลงที่สโนว ซึ่งทำให้เธอต้องขยับมาซ่อนอยู่ด้านหลังทอยอย่างไม่ตั้งใจ

'ท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่' ใช่มันมีแต่เรื่องใหญ่ทั้งนั้น แล้วข้อมูลบางอย่างในคำพูดนั้นก็สะกิดโฮมเข้าอย่างจัง

“ใครเป็นคนออกคำสั่งให้เรียกรวมกำลังนี้” เขาไม่ได้เป็นคนสั่งแน่ และคิดว่าตัวเองรู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว 'มีอีกไม่กี่คนที่สามารถทำได้ และหนึ่งในนั้นก็คือ'

“ท่านผู้ว่าครับ เป็นคำสั่งเร่งด่วนจากท่านผู้ว่าลินคอนครับ สารวัตร” โฮมได้ยินคำตอบของตนจากปากของชายผู้นี้

“เอาล่ะ ผมรับทราบแล้ว” และโฮมยังไม่รู้เลยว่าเรื่องร้ายแรงที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้คืออะไร แต่เขาก็ไม่คิดจะถาม การแสดงให้เห็นว่าเขาไม่รู้อะไรนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ช่วยให้ดูดีในสายตาของผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลาย 'ฉันคงต้องไปถามลินคอนเองว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่'

เพียงแต่ก่อนหน้านั้น โฮมคิดว่าเขาคงจำเป็นต้องแวะไปทำธุระเล็กน้อยบางอย่างเสียก่อน “พวกคุณรีบตามมา” เขาหันไปบอกกับทั้งสอง และมือข้างหนึ่งก็ยกขึ้นมาแตะที่กระเป๋าของเสื้อโคทโดยไม่ตั้งใจ มันสัมผัสได้ถึงน้ำหนักของสิ่งเล็กๆ ที่อยู่ในนั้น 'มันยังอยู่ดี' นั่นเป็นความคิดที่เขาไม่รู้ว่าตัวเองคิด


Create Date : 08 ธันวาคม 2556
Last Update : 8 ธันวาคม 2556 11:11:09 น. 0 comments
Counter : 591 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.