|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ทอย (36)
ทั้งสโนว และทอยต่างเดินขยับเข้ามาใกล้คุณนายวิกเซ่นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ข้างหน้านี้เป็นเมืองอย่างนั้นหรือ เธอถามเพื่อพยายามเปลี่ยนเรื่อง
ขอเรียกเป็นหมู่บ้านน่าจะใกล้เคียงกว่า ในน้ำเสียงของนางยังคงมีความสงสัยบางอย่างซ่อนอยู่ นางประเมินข้อมูลจากรูปแบบของกลิ่น ปริมาณ และอีกหลายอย่างที่ผสมปนเปกันล่องลอยอยู่ในอากาศ 'แต่เจ้ากลิ่นนี้มันอะไรกัน' มันมีกลิ่นบางอย่างที่เข้มข้นซึ่งนางควรจะรู้จักเป็นอย่างดี แต่ไม่ว่าอย่างไรกลับนึกไม่ออก คล้ายกับกลิ่นที่ว่านี้กำลังพยายามเล่นซ่อนหากับระบบประสาทของนาง
มันอาจเป็นความคิดไม่ค่อยดีนักที่จะเข้าไปในชุมชน จำได้ไหมที่ฉันบอกว่าเราไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอะไรก็ตามในความฝันนี้ เธอยังคงตอกย้ำความคิดเดิมของตน
แต่กลิ่นที่ฉันตามมา มันก็มาจากที่นั่น หญิงสาวทั้งสองหันมาจ้องหน้ากัน 'เธอมั่นใจ' เธอไม่ได้ถาม 'ฉันมั่นใจ' นางก็ไม่ได้ตอบ แต่คำพูดเหล่านั้นต่างสะท้อนตอบโต้กันอยู่ในแววตาของหญิงสาว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่ทั้งสองเคยมีระหว่างกัน ไม่ว่ามันจะเป็นความรู้สึกที่เข้มข้นแบบใด ความรัก หรือความแค้น มันก็ได้ผูกโยงเป็นความสัมพันธ์ระหว่างกันขึ้น
ถ้าอย่างนั้นเราก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ น้ำเสียงของเธออ่อนลง
เอ่อ ว่าแต่สุสานพวกนี้มันมีบางอย่างที่ไม่ค่อยปกตินะครับ เขายังคงติดนิสัยที่จะต้องคอยสำรวจสภาพรอบตัวทุกครั้งเมื่อเข้าสู่สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้
หลุมศพหลายหลุมมีร่องรอยคล้ายถูกขุดทำลาย คุณนายวิกเซ่นเป็นเพียงคนเดียวที่เดินเข้าไปสำรวจดูพวกมันอย่างใกล้ชิด และนางก็พอจะรู้คำตอบว่ามันน่าจะเกิดอะไรขึ้น
หมู่บ้านแห่งนี้อาจถูกรบกวนจากผีดูดเลือด นางสรุปจากสิ่งที่ได้พบเห็น
หมุดไม้ที่ถูกตอกเพื่อตรึงร่างของผู้ตายเอาไว้กับผืนแผ่นดิน ขาท่อนล่างที่ถูกหักออกก่อนนำมาวางไขว้กันไว้เป็นเครื่องหมายกากบาทที่บริเวณหน้าอกเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ตายลุกขึ้นเดินไปมา และในบางครั้งก็เป็นการตัดส่วนศีรษะของศพออกแล้วนำไปวางไว้ที่ปลายเท้าเพื่อไม่ให้ศพที่พยายามจะลุกขึ้นมาหามันเจอ
เมื่อเกิดโรคระบาด ปศุสัตว์ที่เลี้ยงไว้ล้มตายลงโดยไม่รู้สาเหตุ หรือเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้นภายในหมู่บ้าน ใครบางคนอาจเริ่มสงสัยในสิ่งชั่วร้าย หลุมศพต้องสงสัยจะถูกขุด และในบางครั้ง ศพบางศพอาจเน่าเปื่อยช้ากว่าที่ควรจะเป็น และเมื่อเนื้อเยื่อต่างๆ หดตัวลงตามขบวนการเน่าเปื่อยในธรรมชาติ ผม หนวดเครา เล็บ หรือแม้แต่ฟัน โดยเฉพาะเขี้ยวอาจดูเหมือนงอกยาวขึ้นได้อย่างน่ากลัว
เรื่องราวของสิ่งชั่วร้ายที่เข้ารบกวนหมู่บ้าน เรื่องของศพเดินได้จึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมไปกับพิธีกรรมต่างๆ เพื่อใช้ในการทำลายพวกมัน
...ช่วย...ด้วย... เสียงที่เยียบเย็นลอยแว่วมาในสายลม ซึ่งทอยลงความเห็นในทันทีว่ามันมีความผิดปกติบางอย่าง
...เธอเป็นใคร... นั่นเป็นเสียงของเด็กที่อยู่ในช่วงวัยที่ยังไม่อาจแยกแยะได้ว่าเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงกันแน่
...อย่ายุ่งกับเธอ... นั่นเป็นเสียงของเด็กผู้ชายอย่างไม่ต้องสงสัย และที่ดังติดตามมาคือเสียงร้องด้วยความตกใจ
อย่าไป... สโนวพยายามจะห้าม แต่ทั้งสองคนกลับรีบพุ่งตัวออกไปตามทิศทางของเสียงเหล่านั้นทันที เธอได้แต่บ่นกับตัวเองในขณะที่ต้องติดตามไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถูกร่างที่ดูคล้ายกับเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งจับแขนข้างซ้ายเพื่อดึงเธอให้เข้าไปภายสู่แนวต้นไม้ชายป่า ในขณะที่เด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งกำลังพยายามยื้อยุดด้วยการดึงแขนขวาของเด็กหญิงเอาไว้อย่างสุดกำลัง
เด็กชายตัดสินใจปล่อยมือของเขาข้างหนึ่งเพื่อล้วงหยิบบางสิ่งออกมา ในนามแห่งโซว ผู้เฝ้ามอง ผู้ส่องสว่าง และ และ...ข้าขอสั่งให้แกปลดปล่อยน้องของข้าเดี๋ยวนี้ เสียงของเขาสั่น มันอาจเป็นเพราะความตกใจ ความกลัว ความโกรธ หรือทั้งหมดนั้นรวมเข้าด้วยกันก็เป็นได้
สิ่งที่เขาพยายามทำดูเหมือนจะไม่ส่งผลใดๆ นอกจากทำให้แรงที่ใช้ดึงร่างของเด็กหญิงเอาไว้ลดลง และหลุดมือไปในที่สุด
พี่จ๋า เด็กหญิงกรีดร้อง
ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ เด็กชายที่เสียหลักล้มลงไป รีบลุกขึ้นเพื่อวิ่งตามไปพร้อมกับยกชูสิ่งที่อยู่ในมือขึ้นสู่ท้องฟ้าจนสุดแขน บางทีอาจดีกว่านั้นถ้าเขาพยายามวิ่งไปในท่วงท่าปกติ
คนที่ลงมือได้รวดเร็วที่สุดยังคงเป็นคุณนายวิกเซ่นอยู่เช่นเดิม และครั้งนี้นางก็ลงมืออย่างเต็มที่เพราะนางรู้ว่าร่างที่คล้ายกับเด็กหญิงนั้นไม่ใช่อย่างที่เห็น นางได้กลิ่นที่มืดหม่นอย่างชัดเจน กลิ่นที่คอยรบกวนประสาทการดมกลิ่นของนางตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาสู่โลกความฝันนี้
มันคือกลิ่นของผีดูดเลือด แต่ก็มีบางอย่างที่ต่างออกไปด้วยเช่นกัน 'บางทีอาจเป็นเพราะที่นี่เป็นอีกความฝันหนึ่ง' นางบอกกับตัวเองอย่างนั้น
นางเตะเข้าไปที่ศีรษะเล็กๆ นั้นเต็มแรง ซึ่งหันมาจ้องมองดูนางตั้งแต่แรกแล้ว แต่ร่างนั้นกลับไม่ยอมหลบ ราวกับไม่คิดว่าการโจมตีนี้จะทำอะไรได้ และดูเหมือนร่างนั้นจะคิดผิด เพราะมันไม่ใช่การจู่โจมธรรมดา แต่เป็นการจู่โจมของมนุษย์หมาป่า การจู่โจมของคนเก่าแก่ หรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกัน
ปล่อยเด็กเดี๋ยวนี้เจ้าผีดูดเลือด
ร่างของเด็กหญิงที่เนื้อตัวมอมแมมซึ่งปกคลุมด้วยความมืดแปลกๆ กระเด็นออกไปตามแรงเตะ แต่ก็คล้ายลอยออกไปอย่างจงใจ ก่อนจะหายเข้าไปในแนวป่าพร้อมด้วยดวงตาที่แสดงความเศร้าออกมาอย่างไม่ปิดบัง ในขณะที่เด็กชายก็รีบวิ่งเข้าไปกอดร่างของน้องสาวเอาไว้แน่นราวกับจะชดเชยความผิดของตนเมื่อครู่ที่ปล่อยให้น้องหลุดมือไป
ในตอนนั้นเองที่มีผู้ชายอีกสามคนโผล่เข้ามาในท่ามกลางความวุ่นวาย พวกเขาต่างมีอาวุธ อันได้แก่ คราด และเคียวที่ติดอยู่กับด้ามไม้ยาวซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเกษตร ทั้งหมดต่างแต่งกายราวกับหลุดออกมาจากหนังสือประวัติศาสตร์เช่นเดียวกันกับสองคนแรกที่ได้พบ
ปล่อยเด็ก อย่ายุ่งกับพวกเขา คนหนึ่งตะโกนบอก พร้อมกับจี้ส่วนคมของอาวุธไปที่ร่างของสโนว ในขณะที่อีกคนก็จี้ไปที่ทอย
อย่าทำร้ายพวกเขา สโนวรีบร้องบอก ทั้งสามคนต่างเข้าใจไปว่าเป็นการขอข้องพวกเขา ซึ่งทำให้คุณนายวิกเซ่นยังคงไม่เคลื่อนไหวอะไร
ทิ้งอาวุธ อีกคนหนึ่งร้องบอก และเมื่อเห็นทอยยังคงยืนนิ่งก็รีบบอกซ้ำอีก แก ทิ้งอาวุธเดี๋ยวนี้ เขาจึงพึ่งนึกออกว่าตนเองยังคงมีดาบที่ยึดมาทั้งสองเล่มนั้นอยู่กับตัว จึงค่อยๆ วางพวกมันลงบนพื้นอย่างช้าๆ และดึงสายตาของทั้งสามให้มองมาที่พวกมัน คุณนายวิกเซ่นคิดว่ามีโอกาสที่จะลงมือได้อีกครั้ง แต่ก็เห็นสายตาห้ามปรามของสโนว
มันเป็นพวกโจรสี่สิบ คนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อได้เห็นดาบสีดำ พร้อมกับแสดงความหวาดกลัวอย่างไม่ปิดบัง รีบปล่อยพวกมันไปดีกว่า เขาเสนอ
ไม่ จำที่นายอำเภอบอกไม่ได้หรือไง ครั้งนี้เราจะสู้กับพวกมัน คนที่หนุ่มแน่นมีร่างกายกำยำจากการทำงานหนักพูดอย่างไม่กลัวเกรง พวกมันทำร้ายได้แม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ขี้ขลาดสิ้นดี อีกคนว่าพร้อมกับถ่มน้ำลายลงพื้น
พวกเจ้าเป็นอะไรกันหรือเปล่า คนหนุ่มที่ดูเป็นผู้นำเอ่ยถาม แล้วออกมาทำอะไรกันแถวนี้ แม่ของพวกเจ้าไม่ได้สั่งห้ามหรืออย่างไร
พวกเขาไม่ได้ทำ แต่มันมี... เด็กหญิงพยายามอธิบาย แต่พี่ชายกลับรีบบอกให้เธอเงียบ
ที่จริงแล้วพวกข้า ออกมาหาเก็บผักป่า ก่อน ก่อนจะถูกพวกมันหลอกล่อให้มาแถวนี้ น้องสาวมองดูพี่ชายของตนด้วยดวงตาเบิกโต
ทั้งสามคนนั้นต่างไม่ได้สงสัย หรือคิดจะซักถามให้กระจ่างเลยว่าพวกเด็กๆ ถูกหลอกล่อมาด้วยวิธีการเช่นใด
เราจะคุมตัวพวกมันไปให้นายอำเภอเป็นคนตัดสิน
ชายหนุ่มตัดสินใจในที่สุด พวกเขามีเชือกเส้นยาวติดตัวมาด้วย และทั้งหมดต่างก็ถูกผูกโยงติดกันที่ข้อมือทั้งสองซึ่งถูกไขว้เอาไว้ทางด้านหลัง คุณนายวิกเซ่นพยายามเก็บความโกรธของตนเอาไว้อย่างเต็มที่ การถูกผูกด้วยเชือกเช่นนี้นับเป็นสิ่งที่นางเกลียดเป็นที่สุด เพราะมันเชื่อมโยงกลับไปถึงความทรงจำที่โหดร้ายในอดีต อันประกอบไปด้วย สุนัขล่าสัตว์ นายพราน กองไฟ เลือด น้ำตา กลิ่นของเนื้อที่กำลังถูกย่าง กับเสียงหัวเราะอันน่าสะอิดสะเอียนพวกนั้น
ใจเย็นไว้ วูฟ สโนวกระซิบอย่างเข้าใจ
เซพ เธอจะต้องชดใช้ นางตอบด้วยเสียงลอดไรฟัน ราวกับเป็นเสียงขู่ของสัตว์ป่า
เดินไปเงียบๆ อย่าคุยกัน ด้ามไม้ของคราดถูกเหวี่ยงมาใส่นางที่ช่วงลำตัว แต่นางก็ยังสามารถหมุนตัวพร้อมกับคว้ามันไว้ได้อย่างมั่นคง ถึงแม้ว่าแขนทั้งสองจะถูกมัดไขว้กันไว้ด้านหลังก็ตาม สายตาของนางทำให้เจ้าของคราดนั้นรู้สึกว่าขนที่หลังคอของตนลุกตั้งชันขึ้น ก่อนที่นางจะยอมปล่อยมือพร้อมกับละสายตาไปทางอื่น
เท้าข้างหนึ่งของนางเหยียบลงในแอ่งน้ำเล็กๆ และนางก็เห็นวงคลื่นกับน้ำที่กระเด็นไปรอบๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับมัน
ทอยถูกความสนใจของเด็กชายดึงดูดเอาไว้ มันแสดงความแค้นเคืองออกมาอย่างไม่ปิดบัง เขาไม่ได้เป็นคนแปลกหน้ากับสายตาแบบนั้น แต่เขาไม่เคยไปทำอะไรให้เด็กคนนี้มาก่อน เขาจึงรู้สึกสงสัยเหลือเกินว่าเป็นเพราะอะไร
พ่อของเจ้านั่นโดนพวกของเจ้าฆ่าตายในการปล้นครั้งที่แล้ว ชายหนุ่มกำยำซึ่งเป็นคนเดินปิดท้ายขบวนบอกพร้อมกับดึงมีดสั้นที่มีด้ามพันไว้ด้วยหนังสัตว์ออกมาให้เขาเห็นบางส่วน ถ้าข้าให้มีดเล่มนี้กับเขา แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เจ้าอยากรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มพูด
แต่ข้าจะไม่ทำ ชายหนุ่มซุกมีดเก็บไว้ตามเดิม
ในขณะที่ขบวนของทั้งหมดเคลื่อนที่ห่างออกไป เงาของบางสิ่งก็ปรากฎขึ้นที่บริเวณชายป่า ในความมืดที่ผิดปกติ ความมืดที่กัดกินแสงสว่างที่อยู่โดยรอบ แต่ครั้งนี้มีถึงสอง ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่ง เป็นหญิงใบหน้างดงามในชุดสกปรกมอมแมม กับเด็กหญิงคนเมื่อครู่
แม่บอกเจ้าแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับเด็กมนุษย์พวกนั้น นางบอกพร้อมกับยกมือขึ้นลูบศีรษะของเด็กหญิงอย่างเอ็นดู
ข้าก็แค่อยากเล่นกับพวกเขาเท่านั้น...ข้าเหงาเหลือเกิน
ว่าแต่หญิงคนนั้นเป็นใคร หรือเป็นตัวอะไรกันแน่ นางสงสัย ไม่ควรจะมีใครสามารถโจมตีใส่ร่างของ ผู้ไม่ยอมจากไป แบบนั้นได้ 'จริงๆ แล้วก็ทั้งสามคนนั่นแหละ' พวกเขามีบางอย่างที่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม เธอได้พูดบางสิ่งที่น่าสนใจออกมาด้วย
เด็กหญิงเงยหน้ามองมารดา เรื่องอะไรหรือจ๊ะแม่
ก็ชื่อที่หญิงคนนั้นใช้เรียกเราอย่างไรล่ะ นางขยับปากอย่างช้าๆ คล้ายกับกำลังลิ้มรสของคำๆ นี้ ผี ดูด เลือด มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ทรงพลัง และน่าหวาดหวั่นมากกว่า ผู้ไม่ยอมจากไป ศพเดินได้ ผีดิบ หรือชื่ออื่นๆ มากนัก มันจะประทับลงในจิตใจของผู้คนได้ดีกว่า และการดื่มกินเลือดนั้นก็จะยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้มากขึ้นได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เราไม่ได้ดูดเลือดเสียหน่อย เด็กหญิงว่า
นั่นก็ไม่เห็นยากอะไรเลย นางยิ้มพร้อมกับเขี้ยวทั้งสี่ที่งอกยาวขึ้นตามความต้องการของนาง เราก็จะเริ่มนับแต่บัดนี้ เราจะเป็น ผีดูดเลือด เสื้อผ้ารุ่งริ่งบนร่างของนางค่อยๆ เปลี่ยนไปตามความคิด กลายเป็นสีดำ คล้ายกับผืนหนังบางๆ เป็นพังผืดของสัตว์ที่บินร่อนไปในยามราตรี
เราจะสร้างความหวาดกลัว ให้มันประทับลงในหัวใจของมนุษย์ทุกคน พวกเราจะทวีจำนวนเพิ่มขึ้น เราจะใช้ชีวิต ใช้เลือดของมนุษย์พวกนี้เพื่อเป็นพลังงาน และเราจะคงอยู่ไปตลอดกาล นางเริ่มส่งเสียงหัวเราะ ซึ่งมันฟังดูชั่วร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ และความมืดรอบตัวนางก็ยิ่งมืดดำลงกว่าเดิม
เด็กหญิงไม่แน่ใจ เธอไม่ค่อยชอบความคิดนี้ของมารดามากนัก ถ้าเป็นไปได้เด็กหญิงก็ยังอยากเล่นกับเด็กมนุษย์พวกนั้น บ้าง และพวกมนุษย์เองก็ไม่ได้เลวร้ายไปหมดทุกคน บางทีมันอาจมีวิธีที่ดีกว่านี้ แต่เขี้ยวของเธอก็งอกยาวออกมา และชุดเสื้อผ้าก็เปลี่ยนกลายเป็นสีดำเช่นกัน
เรากลับไปจัดการกับเจ้าสองคนนั้นกันเถอะ นางบอก
จัดการอะไรจ๊ะ เด็กหญิงยังคงมีคำถาม
ก็จัดการดูดเลือดพวกมันน่ะสิ นางตอบพร้อมกับกลืนร่างหายเข้าไปในความมืดของป่า เด็กหญิงมองไปตามทิศทางที่ตั้งของหมู่บ้าน ทิศทางที่ขบวนเมื่อครู่มุ่งหน้าไป เธอมีความสงสัย แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาของเธอ เธอจึงต้องหายร่างติดตามมารดาไปในที่สุด
Create Date : 10 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2557 16:30:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 527 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|