ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
4 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ทอย (5)

“คุณทอย คุณบอกว่าตั้งแต่กลับมาถึงในตอนสาย คุณก็อยู่ที่นี่มาตลอดเลยใช่ไหม”

โฮมใช้มือซ้ายจดตัวอักษรยุกยิกลงบนสมุดบันทึกเล่มเล็กในมือขวา สลับกับการจ้องตรงมาที่เขา ซึ่งคงจะเป็นการเฝ้าดูกิริยาอาการต่างๆ ที่เขาอาจเผลอแสดงออกมาในระหว่างการพูดคุย อาการที่จะฟ้องได้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีบางสิ่งปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้

“ใช่ครับ” เขาตอบ พร้อมกับตัดสินใจถามกลับไป “มีอะไรเกิดขึ้นหรือครับ ผมตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีอะไรกันแน่”

ปากกาในมือของโฮมหยุดกึก

“ยังก่อน คุณทอย ยังก่อน คุณยังไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ผมแค่สอบถามเรื่องทั่วไป และผมจะเป็นคนตัดสินเองว่าจะบอกอะไรกับคุณได้บ้าง”

ทั้งคู่จ้องตากัน เขาไม่ใช่คนแปลกหน้ากับตำรวจ เพราะในอาชีพเก่าบางครั้งเขาก็มีโอกาสต้องพบเจอกับพวกเหล่านี้บ้าง เพียงแต่ตำรวจอย่างโฮมนี้ เป็นแบบที่เขาไม่ค่อยอยากพบเจอมากที่สุด

คุณนายวิกเซ่นที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตั้งแต่ก่อนหน้า ขยับตัวอย่างอึดอัด เม้มปากแน่น ทำท่าหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง และในที่สุดนางก็เอ่ยปากออกมา

“คุณทอย อยู่ที่นี่ตลอดเวลาจริงๆ ค่ะ สารวัตรโฮม”

นางออกปากช่วยพูดยืนยันให้กับทอย พร้อมเผยรอยยิ้มอย่างตื่นๆ เขานึกไม่ถึงว่านางจะทำแบบนี้ ไม่นึกมาก่อนเลยจริงๆ พลันมีความอบอุ่นแปลกๆ แล่นขึ้นมาสู่หัวใจของเขา

ที่เขาเลือกมาเช่าห้องอยู่ที่นี่เพราะมันมีราคาถูก และผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน ซึ่งตัวคุณวิกเซ่นเองน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดในเรื่องนี้ เขาเคยคิดว่านางไม่สนใจเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น นอกจากค่าเช่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

“คุณนายวิกเซ่นครับ” เสียงของโฮมทุ้มนุ่ม แต่แววตาของเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น “ผมเข้าใจว่าคุณพักอยู่ที่ชั้นล่างนี้ ภายในห้องพักของคุณใช่ไหมครับ”

“...ค่ะ แต่ว่า...” นางยังพยายามที่จะยิ้ม

“ในขณะที่คุณทอยบอกว่าตัวเองนอนหลับอยู่ในห้องบนชั้นสอง” ดวงตาของโฮมที่จ้องมาหรี่เล็กลง

“...ค่ะ” ถึงตอนนี้เริ่มมีความไม่แน่ใจอยู่ในน้ำเสียงของคุณวิกเซ่นมากยิ่งขึ้น จนนางไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดจะช่วยผู้เช่าของตนต่อได้อีก

“ดังนั้น คุณจึงไม่อาจยืนยันว่า ได้เห็นคุณทอย อยู่ หรือ ไม่อยู่ ภายในห้องด้วยตาของคุณเอง ใช่ไหมครับ”

“เอ่อ...” รอยยิ้มหายไปแล้ว

'ฉันยังคงได้กลิ่นของเขาจากข้างบนนั้นอยู่ตลอด' มันเป็นกลิ่นพิซซ่า กลิ่นสบู่ที่เขาใช้ประจำ กลิ่นเหงื่อ และกลิ่นจางๆ ของสิ่งที่นางคุ้นเคย กลิ่นที่นางใช้ในการจดจำตัวเขาตั้งแต่การพบกันในครั้งแรก กลิ่นที่บางครั้งทำให้เลือดในกายไหลเวียนเร็วขึ้นอย่างตื่นเต้น กลิ่นที่นางปรารถนาจะได้ลิ้มรสทุกครั้งเมื่อถึงคืนวันพระจันทร์เต็มดวง

มันคือกลิ่นเลือด แต่ไม่ใช่เลือดสดๆ และมันเป็นส่วนหนึ่งในกลิ่นกายของเขาเลยทีเดียว

นางอยากจะพูดออกไปตามที่คิด แต่ก็รู้ดีว่ากฎหมายของมหานครไม่รับรองเรื่องนี้ และไม่แน่ว่าเรื่องของกลิ่นเลือดอาจจะยิ่งทำให้เขาน่าสงสัยขึ้นกว่าเดิมหรือไม่

“เอาล่ะครับ” โฮมเก็บสมุดบันทึกกับปากกาของเขา “เมื่อไม่อาจยืนยันสถานที่อยู่ของคุณได้ ผมก็จำเป็นจะต้องเชิญคุณไปที่สถานีตำรวจด้วยกัน วันนี้คงต้องขอรบกวนเวลาคุณมากหน่อย”

แต่ท่าทางของโฮมไม่ได้เสียใจเหมือนกับที่เขาพูดออกมาเลย

“ผมถูกจับด้วยข้อหาอะไรครับ”

“คุณทอย” โฮมทำท่าทางรำคาญเต็มที “ผมขอบอกคุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณยังไม่ใช่ผู้ต้องหา ผมแค่ขอความร่วมมือเท่านั้น และ” เขาเน้นเสียง “ผมจะเป็นคนที่ตัดสินเองว่า จะบอกอะไรกับคุณได้บ้าง”

“แต่ว่า...” คุณวิกเซ่นรวบรวมความกล้าทั้งหมดลองพยายามอีกสักครั้ง

โฮมยิ้มเยียบเย็น

“คุณนายวิกเซ่นครับ ไม่ทราบว่าเมื่อคืนวันเพ็ญที่ผ่านมา คุณอยู่ที่ไหนหรือครับ”

คุณวิกเซ่นรีบปิดปาก พยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด ซึ่งหมายความว่ามันจะยิ่งดูไม่ปกติ และนางพลันรู้สึกว่าการวิ่งด้วยขาทั้งสี่ข้างนั้นบางทีอาจง่ายกว่าการยืนด้วยสองขานิ่งๆ และไม่รู้ว่าจะเอาแขนที่มีอยู่ไปไว้ที่ไหน

“เอ่อ ฉัน เอ่อ...”

“มีคนเห็นว่าคุณออกไป เดินเล่น อยู่ใกล้ๆ กับฟาร์มของคุณแมคโดนัลที่อีกฟากของเมือง ใช่หรือเปล่าครับ”

“เอ่อ เปล่า...เปล่า ค่ะ”

“คืนนั้นเกิดเหตุเล็กน้อยขึ้นกับไก่สองสามตัวที่ฟาร์ม แต่คุณแมคโดนัลก็ได้มาแจ้ง และขอให้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ผมคิดว่าบางทีคุณนายอาจจะรู้อะไรในเรื่องนี้บ้าง”

“ฉัน...ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วค่ะ” นางยอมแพ้ในที่สุด

“ดีครับคุณนาย” โฮมยกมือขึ้นแตะขอบหมวกของเขา “ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องขอตัวกลับเสียที” พร้อมกับหันมาทางเขา “เชิญครับคุณทอย”

ทอยรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ผมขอใช้ สิทธิ โทรศัพท์ก่อนครับ”

เขาไม่แน่ใจว่าถ้าไปถึงสถานีตำรวจแล้วสารวัตรโฮมคนนี้จะใช้ลูกเล่นอะไรกับเขาอีกบ้าง ตั้งแต่เริ่มเขาก็พยายามคาดเดาว่าอาจเกิดเรื่องอะไรขึ้น ซึ่งเขาไม่ชอบสิ่งที่ตนคิดขึ้นมาได้แม้แต่อย่างเดียว

โฮมได้ยินที่เขาเน้นคำว่า สิทธิ นั้นอย่างชัดเจน “เชิญเลย ตอนนี้คุณยังไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย ผมเพียงแค่ต้องการสอบถามบางอย่างเพิ่มเติมเท่านั้นเอง”

เขารู้สึกว่าน้ำเสียงของโฮมฟังดูอ่อนลงกว่าเดิม แต่เขายังไม่คิดจะหลงกล

“ผมขอใช้โทรศัพท์หน่อยนะครับ อ้อ นี่เป็นค่าโทรศัพท์ครับคุณนาย” เขาหยิบเงินออกมายื่นส่งให้คุณวิกเซ่นจำนวนหนึ่ง แต่นางปฏิเสธที่จะรับเอาไว้

“ไม่เป็นไร ใช้ได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ”

เขาพึมพำคำขอบคุณเบาๆ พร้อมกับเดินไปที่โต๊ะเตี้ยตรงมุมห้องซึ่งมีโทรศัพท์เครื่องสีเทาวางอยู่ ยกหูขึ้น พร้อมกับใช้นิ้วหมุนตัวเลขอย่างช้าๆ แสดงว่าคงไม่ค่อยคุ้นเคยกับหมายเลขนี้สักเท่าไร

“สวัสดีครับ คุณสไตน์ ผมทอยนะครับ...ครับ ผมมีเรื่องต้องขอรบกวน...”

โฮมได้ยินเพียงแค่นั้น ก่อนที่ทอยจะพูดคุยด้วยเสียงที่เบาลง แต่แค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้โฮมรู้สึกถึงความยุ่งยากที่กำลังจะติดตามมา

โฮมไม่เคยชอบผู้คนที่อาศัยอยู่ในมหานครแห่งนี้เลย วิถีของเมืองใหญ่ทำให้คนเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำความผิดมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่พาสุนัขของตนออกไปถ่ายมูลในที่สาธารณะแล้วไม่เก็บกวาด ไม่ส่งคืนของที่เก็บได้ให้กับเจ้าหน้าที่ จากเรื่องเล็กเล็กน้อยน้อยเรื่อยไปจนถึงความผิดที่มืดดำมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ลักเล็กขโมยน้อย ทำร้ายร่างกาย ดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อที่จะรอดชีวิตอยู่ภายในเมืองแห่งนี้ไปได้อีกสักวัน

มหานครคือสถานที่หล่อเลี้ยงอาชญากรรมทั้งมวลให้เติบใหญ่ขึ้น

คนที่โทรศัพท์ไปหาคนอื่นนอกจากสมาชิกภายในครอบครัวของตน และยังพูดคุยด้วยลักษณะเหมือนกับการเจรจาธุรกิจเมื่อต้องเดินทางไปสถานีตำรวจ เป็นบุคคลประเภทที่สารวัตรโฮมจัดอันดับความเกลียดให้อยู่ในลำดับต้นๆ เสมอ

“เอ้า นี่เสื้อโคทของเธอ” คุณวิกเซ่นหยิบมันออกมาเตรียมไว้ และยังช่วยใส่ให้เขาด้วย เสื้อโคทสีดำสนิทที่เขานำลงมาแขวนเก็บไว้ในตู้ข้างประตูตามที่คุณวิกเซ่นเคยบอกไว้ว่า 'ถ้าอากาศหนาวขึ้นมาเมื่อไร จะได้หยิบใช้ได้ทันที'

“ขอบคุณครับ” ซึ่งเขาหมายรวมถึงเรื่องความพยายามของนางด้วย

โฮมเปิดประตูแล้วเดินนำออกไปก่อน ทอยจึงเดินตามออกไปพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ตอนนี้มันมืดครึ้มยิ่งกว่าที่เขาจำได้ก่อนจะเผลอหลับไปเสียอีก หิมะที่โปรยปรายลงมาเพิ่มจำนวนมากขึ้น จนตอนนี้เริ่มมีสีขาวจับอยู่ตามที่ต่างๆ ให้เห็นบ้างแล้ว ลมหายใจของเขาพวยพุ่งออกมาเป็นควันสีขาวจางๆ

“เชิญทางนี้” โฮมเปิดประตูด้านหลังของรถตำรวจที่จอดอยู่ตรงหน้าอาคารให้เขา “ระวังศีรษะด้วย” ก่อนที่โฮมจะขึ้นไปนั่งข้างคนขับ แล้วรถตำรวจก็เคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ เพราะถนนที่กลายเป็นโคลนจากหิมะบางส่วนที่ละลายปนเข้ากับฝุ่นบนผิวถนนนั้นลื่นมากทีเดียว

บรรยากาศภายในรถตำรวจชวนให้รู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย ช่องระหว่างที่นั่งด้านหน้ากับด้านหลังมีแผ่นพลาสติกใสชนิดทนทานสูงกั้นเอาไว้ ถึงแม้ว่าช่องเล็กๆ ที่เปิดปิดได้นั้นจะถูกเปิดทิ้งเอาไว้ก็ตาม

“นี่คือ คุณวสันต์ เธอเป็นผู้ช่วยของผม”

โฮมแนะนำผู้ที่กำลังขับรถ หญิงสาวคนนี้มีรูปร่างแบบบาง สวมแว่น และไม่ยอมละสายตาจากถนนตรงหน้า ท่าทางนั้นตั้งใจในสิ่งที่กำลังจดจ่ออยู่จนเกินความจำเป็น

“สวัสดีครับ” ทอยทักทายตามมารยาท

“สวัสดี แต่ อย่าพึ่งรบกวนฉันในตอนนี้” นั่นคือคำตอบของวสันต์

แล้วความเงียบก็เข้ามาเยือนอีกครั้ง

“เอ่อ...เราพอจะพูดคุยรายละเอียดเพิ่มขึ้นในนี้ได้ไหมครับ” ทอยลองหยั่งเชิงดูอีกครั้ง

“รออีกสักครู่ ให้ถึงสถานีก่อนจะดีกว่า” โฮมตอบ

“ถ้าอย่างนั้น เราพอจะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของคุณนายวิกเซ่นเมื่อครู่ได้ไหมครับ”

โฮมหันกลับมามองเขาด้วยความแปลกใจ

“ได้สิ คุณทอย คุณอยากรู้เรื่องอะไรหรือ”

“คุณนาย...ไปทำอะไรอย่างที่คุณว่ามาจริงหรือเปล่าครับ”

“เรื่องนั้นผมไม่รู้หรอก”

“แต่สารวัตรบอกกับคุณนายไปว่า...”

“ผมบอกคุณนายวิกเซ่นเรื่องไก่ของคุณแมคโดนัล ผมบอกคุณนายวิกเซ่นถึงเรื่องที่...คุณ...โทรล บอกว่าเห็นเธออยู่แถวนั้นในคืนเดือนเพ็ญที่ผ่านมา ผมบอกแค่นั้นเท่านั้น”

“คุณ...โทรล คุณคงไม่ได้หมายถึง” คิ้วของเขาค่อยๆ ขมวดเข้าหากันเมื่อพูดชื่อนั้นออกมา

“ผมหมายถึงโทรลเดียวกันนั่นแหละ ฟาร์มของคุณแมคโดนัลอยู่ที่อีกฝั่งของแม่น้ำ อินแซน อยู่ติดกันกับสะพานลอนดอนพอดี แต่ต้องข้ามฝั่งไปก่อน”

“คุณจะบอกว่าโทรลที่อยู่ใต้สะพานลอนดอนเป็นพยานของคุณอย่างนั้นหรือ” เขาคิดว่ามันอาจเป็นเพียงการล้อเล่นก็เป็นได้

“ผมไม่ได้พูดอย่างนั้น มันไม่มีพยาน ไม่มีคดีอะไรทั้งนั้น”

'คุณข่มขู่เธอ' แต่ทอยไม่ได้พูดออกไป

มีสิ่งมีชีวิตประหลาดที่เรียกว่าโทรลอาศัยอยู่ใต้สะพานลอนดอน บางคนบอกว่ามันมีสองตัวและอยู่คนละฝั่ง บางคนเชื่อว่ามันเป็นตัวเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่าข้ามไปมาได้อย่างไร ไม่เคยมีใครรู้ว่าโทรลนั้นมีหน้าตาเป็นเช่นไรกันแน่ บ่อยครั้งที่คนที่เดิน หรือนั่งรถข้ามสะพานจะได้ยินเสียงของมันดังมาจากข้างใต้ในความมืดมิด

บางคนบอกว่ามันพูดจาแสนไพเราะ

บางคนบอกว่ามันด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย

บางคนว่ามันอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดที่สุด และรู้ไปหมดทุกเรื่อง

บางคนก็ว่ามันโง่ และไม่รู้อะไรเลย

แต่ทุกคนต่างรู้ว่าห้ามไปโต้เถียงกับมันเข้าอย่างเด็ดขาด เพราะเสียงของมันจะยิ่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจทำให้รู้สึกปวดหูไปหลายวัน ยิ่งเราป้อนมันด้วยคำพูดมากเท่าไร มันก็จะยิ่งใช้คำเหล่านั้นให้ย้อนกลับมาโต้ตอบตัวคนพูดเอง

ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การอดใจไม่ตอบโต้มันกลับไปนั้นช่างทำได้ยากเย็นเหลือเกิน

แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่เคยแน่ใจในการมีตัวตนอยู่ของโทรลนี้ พวกเขาคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นแค่เด็กเล็กๆ ที่ซุกซนแอบแกล้งทำเสียงอยู่ที่ใต้สะพานก็เป็นได้

“ฉันเป็นคนที่คุยกับเขาเอง” เสียงของวสันต์ดังขึ้น แต่เธอยังคงมองตรงไปข้างหน้าอย่างตั้งใจ “สารวัตรโฮมย้ำอยู่เสมอว่าหลักฐานทุกชิ้นล้วนมีคุณค่าในตัวของมันเอง จึงไม่ควรมองข้าม ไม่ว่ามันจะดูเหมือนเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม”

เขาเองก็คิดว่ามันเป็นคำแนะนำที่ดี แต่ไม่ควรมีตำรวจแบบนี้มากจนเกินไป และไม่ลืมที่เธอเรียกโทรลว่า เขา ด้วย

“แถมโทรลยังรู้เรื่องแปลกๆ มากมายเกี่ยวกับมหานครแห่งนี้ด้วย”

“เอาล่ะ วสันต์พอได้แล้ว” โฮมขัดขึ้น “ผมแค่อยากให้คุณนายวิกเซ่นหยุดเท่านั้นเอง” โฮมว่า ซึ่งฟังดูเหมือนเป็นคำแก้ตัวมากกว่า

ทอยนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง มองดูวิวของเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ อาคารเหล่านั้นค่อยๆ ไต่สูงขึ้น และสูงขึ้น สิ่งก่อสร้างที่สะท้อนถึงความต้องการอันเก่าแก่ของมนุษย์ที่แหงนหน้ามองขึ้นไปสู่ฟากฟ้า สรวงสวรรค์ หรือจะให้ถูกต้องก็คืออวกาศอันกว้างใหญ่นั่นเอง

แล้วคิ้วของเขาก็ค่อยๆ ขมวดเข้าหากัน “สารวัตรพอจะบอกอีกทีได้ไหมว่า พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกันแน่” เพราะเขามั่นใจแล้วว่า มันไม่น่าจะใช่เส้นทางไปสถานีตำรวจอย่างที่โฮมบอกไว้ในตอนแรก

“พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยัง กองบังคับการตำรวจ คุณทอย” โฮมตอบยิ้มๆ

'ไม่ใช่สถานีตำรวจ แต่เป็นกองบังคับการอย่างนั้นหรือ' ดูเหมือนเขาจะโดนลูกเล่นของสารวัตรโฮมคนนี้เข้าให้แล้ว ถึงตอนนี้เขาจึงยิ่งมั่นใจว่า บางทีสิ่งที่เขากังวลอยู่อาจเป็นจริงก็เป็นได้ รถตำรวจวิ่งลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดลงหน้าอาคารสูงซึ่งทอยพึ่งคิดถึงมันเมื่อตอนสายก่อนที่จะหลับไปนี้เอง

ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงกองบังคับการตำรวจแห่งมหานคร ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสี่ของอาคารนคราภิวัฒน์อันเป็นตึกที่สูงที่สุดในเมืองอันวุ่นวายแห่งนี้


Create Date : 04 สิงหาคม 2556
Last Update : 4 สิงหาคม 2556 9:33:25 น. 1 comments
Counter : 507 Pageviews.

 
สวัสดีค่า แวะมาหาทอยค่ะ ^^

คุณนายวิกเซ่นเป็นคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจดีอ่ะคะ
แปลกๆ ลึกลับยิ่งกว่าทอยอีก



โดย: lovereason วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:0:03:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.