ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
18 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
ทอย (37)

ทอยรู้สึกคุ้นหน้านายอำเภอหนวดเรียวผู้นี้ขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะเคยพบเจอกันมาก่อน 'เป็นอย่างนั้นแน่หรือ' แม้แต่หมู่บ้านแห่งนี้ที่ราวกับเป็นแบบจำลองของการใช้ชีวิตในอดีต ก็ยังให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อเดินพ้นออกจากสุสาน จุดที่พวกเขาถูกจับกุมไปเพียงไม่ไกลนัก ทั้งหมดก็ออกมาสู่บริเวณยอดเนินที่ทำให้พวกเขาได้พบเห็นสภาพโดยรวมของหมู่บ้านแห่งนี้เป็นครั้งแรก มันตั้งอยู่ริมแม่น้ำสายใหญ่ที่งดงามสายหนึ่ง บ้านเรือนนั้นกระจายกันอยู่ห่างๆ โดยถูกคั่นไว้ด้วยเรือกสวนไร่นา และคอกสัตว์ อันเป็นพื้นที่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตทั้งหมด ตัวบ้านนั้นสร้างขึ้นจากไม้ หิน ดิน มีเพียงชั้นเดียว และขนาดไม่ใหญ่โตนัก ริมฝั่งทางฟากนี้ของแม่น้ำกระจายเต็มไปด้วยพื้นที่สำหรับเพาะปลูกซึ่งคงจะถูกน้ำท่วมในทุกฤดูน้ำหลาก สายน้ำจะพัดพาเอาความอุดมสมบูรณ์มาตกตะกอนลงสู่ผืนดินดำเหล่านี้ ก่อนที่จะถูกพลิกเปลี่ยนด้วยหยาดเหงื่อแรงกายให้กลายเป็นผลผลิตทางการเกษตรนานาชนิด ที่จะหล่อเลี้ยงทั้งผู้คน และหมู่บ้านให้เติบโตขึ้น

ในช่วงที่แคบของลำน้ำ เขาได้เห็นการโยงเชือก และแพขนาดใหญ่ซึ่งคงเป็นวิธีการที่ชาวบ้านแถบนี้ใช้ในการไปยังฝั่งตรงข้าม ที่ยังคงรกร้างแต่ก็อุดมสมบูรณ์อย่างไม่ต้องสงสัย จากร่องรอยที่เห็นมันพึ่งจะถูกบุกเบิกได้เพียงไม่นาน แต่เขาก็คาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามันจะต้องถูกแทนที่ด้วยสะพาน และหมู่บ้านก็จะยืดขยายไปยังฝั่งตรงข้ามในที่สุด

จากหมู่บ้านจะขยายกลายเป็นเมือง และจากเมืองกลายเป็นอะไรที่ใหญ่กว่านั้น

“เจ้าเป็นพวกโจรสี่สิบใช่ไหม แล้ว อาลี หัวหน้าของพวกเจ้ามีแผนจะทำอะไรกันแน่” นายอำเภอผู้มีใบหน้ารูปเหลี่ยมถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ภายในที่ทำการของนายอำเภอ ซึ่งครั้งหนึ่งคงเคยเป็นโรงนามาก่อน มีเพียง ทอย นายอำเภอ กับชายหนุ่มคนที่เคยอยู่ในกลุ่มที่จับตัวเขามาเท่านั้น ส่วนคุณนายวิกเซ่น กับสโนวได้ถูกแยกไปไว้อีกที่หนึ่ง

ทอยไม่แน่ใจว่าทั้งหมดนี้จะเป็นการแยกเพื่อสอบสวนหรือไม่ “ผมไม่ได้เป็นโจร ไม่ว่าจะสี่สิบหรือเท่าไรก็ตาม ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

“โกหก มันมีดาบดำตั้งสองเล่ม แถมมันยัง...”

“เงียบ ทอม ข้ากำลังสอบสวนอยู่”

“แต่ว่า” ชายหนุ่มร่างกำยำที่ถูกเรียกว่าทอมยังคงไม่ยอมหยุดง่ายๆ “ถ้าเจ้ายังไม่ยอมเงียบ ข้าคงต้องขอให้เจ้าออกไปรอข้างนอกก่อน” คำพูดของนายอำเภอนั้นฟังดูเป็นคำสั่งมากกว่าคำขอร้อง จนทอมต้องยอมปิดปากลง

“ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าเป็นใคร มาทำอะไรแถวนี้” นายอำเภอถามพร้อมกับจ้องตาเขา

“ผมชื่อทอย ส่วนผู้หญิงอีกสองคนคือคุณวิกเซ่น กับคุณสโนว พวกเราเดินทางมาจากเมืองที่ห่างไกล และไม่ได้เป็นพวกโจรสี่สิบหรือโจรอะไรทั้งนั้น” เขามีเวลาคิดเตรียมคำตอบเหล่านี้เอาไว้ในใจตั้งแต่ตอนที่ถูกจับแล้ว

นายอำเภอดูเหมือนจะให้ความสนใจกับเสื้อผ้า สำเนียง คำพูดของทั้งสามคนมาตั้งแต่ต้น การที่ทอยตอบออกไปว่าเดินทางมาจากถิ่นอันห่างไกลนั้น หากเป็นความจริงก็จะอธิบายเรื่องเหล่านี้ได้ 'แต่กลุ่มโจรสี่สิบนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการใช้แผนอันสลับซับซ้อน อีกทั้งสมาชิกก็รวบรวมมาจากหลากหลายถิ่นฐาน' เขาจึงไม่อาจเชื่อถือคำพูดเหล่านี้ได้โดยง่าย

“แล้วดาบดำสองเล่มนี้ เจ้าจะว่าอย่างไร” นายอำเภอชี้มือไปที่ดาบทั้งสองเล่มซึ่งถูกวางไว้ตรงมุมห้อง ห่างออกไปหลายก้าว ทอยยังคงถูกมัดมือทั้งสองเอาไว้ทางด้านหลัง ในขณะที่นายอำเภอนั้นมีดาบเล่มหนึ่งอยู่ข้างกาย

“พวกเราได้พบกับชายน่าสงสัยสองคนที่ชายป่านอกหมู่บ้าน เกิดการต่อสู้กันขึ้น แล้วผมก็ยึดดาบของทั้งคู่ไว้ บางทีพวกเขาอาจเป็นโจรที่ว่า ตอนที่จากมาพวกเขายังคงมีลมหายใจอยู่”

“เจอใครอีกไหม” ครั้งนี้นายอำเภอหันไปถามทอม

“ไม่มีใครทั้งนั้น แต่...มีร่องรอยของสองคนที่ถูกอ้างเหลืออยู่” ที่ทอมไม่ชอบที่สุดก็คือ พวกของเขาไม่พบร่องรอยการเดินทางมาของทั้งสามคนนี้เลย พวกเขาเหมือนกับโผล่ขึ้นมาเฉยๆ หรือไม่ก็ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า 'แต่มันเป็นไปไม่ได้' บางทีโจรทั้งห้าคนนี้อาจมาด้วยกัน ก่อนที่อีกสองคนจะหายเข้าไปในป่าเพื่อทำตามแผนบางอย่าง และสามคนนี้เองก็คงต้องมีแผนชั่วร้ายด้วยเช่นเดียวกัน

“...แล้วพวกเจ้ามาทำอะไรแถวนี้” นายอำเภอยังคงจ้องเขาไม่วางตา คงพยายามมองหาอาการผิดปกติของคนที่พูดโกหก ซึ่งก็เป็นหลักการเดียวกันกับเครื่องจับเท็จ ที่ทำงานด้วยการใช้กลุ่มคำถาม บวกกับการเฝ้าดูสัญญาณต่างๆ ของร่างกายที่ผู้ต้องสงสัยส่งออกมา เพื่อใช้ตัดสินโดยพิจารณาจากการที่ผู้ตอบนั้นมีอาการตอบสนองต่อคำตอบของตนเองอย่างไรบ้าง

'ซึ่งมันจะไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงเมื่อคนผู้นั้นเป็นนักโกหกตัวยง ที่เชื่อถือในคำโกหกของตนเองอย่างเต็มที่' ไม่ต่างจากวิธีการตัดสินคนด้วยแววตา ท่าทาง การจับมือ หรืออะไรพวกนั้น เพราะนักต้มตุ๋นที่ดีทุกคนต่างสามารถแสดงออกมาว่าเป็นคนสุจริตได้อย่างแนบเนียนยิ่งกว่าสุจริตชนตัวจริงเสียอีก

“พวกเรามาตามหาคน”

“ใคร”

“คุณซานต้า...ซานต้า ครอส” ทอยตอบพร้อมกับรอคอยอย่างสนใจว่าชื่อนี้จะทำให้เกิดการตอบสนองจากนายอำเภอในโลกแห่งความฝันผู้นี้อย่างไรบ้าง

“ไม่เคยได้ยินมาก่อน” ดูเหมือนชื่อที่ทรงพลังนี้จะไม่มีผลอะไรกับนายอำเภอในความฝันนี้ทั้งสิ้น เขาหันไปหาทอมที่รีบส่ายหน้าเช่นกัน “คงไม่ได้เป็นคนแถวนี้ และช่วงนี้ก็ไม่มีใครผ่านเข้ามาใกล้หมู่บ้านบ่อยนัก อย่างน้อยก็เท่าที่ข้ารู้”

'คุณครอสอาจมาถึงที่นี่นานแล้ว' มันเป็นไปได้ แต่ทอยไม่คิดจะบอกออกไป เพราะมันจะต้องการคำอธิบายที่เหลือเชื่อ และทำให้เรื่องราวของพวกเขาทั้งหมดนี้น่าสงสัยขึ้นมาทันที

“ครอสคนที่ว่านี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร” นายอำเภอถามต่อ

“คุณครอสเป็นชายสูงอายุที่ยังคงแข็งแรง รูปร่างท้วม ไว้หนวดเคราขาว และชอบใส่ชุดสีแดง” ทอยมั่นใจว่าคุณครอสคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนักไม่ว่าจะอยู่ในสถานที่แห่งใด แม้แต่ในโลกความฝันก็ตาม

“ไม่ ข้าไม่เคยเจอใครแบบนั้นแน่ แล้วพวกเจ้าเป็นอะไรกับเขา”

“คุณครอสเป็นญาติผู้ใหญ่ของพวกเรา” เขาพยายามวางสีหน้าให้เป็นปกติ

“แล้วพวกเจ้าทั้งสามคนเป็นอะไรกัน”

“พวกเราเป็นญาติห่างห่าง”

“เจ้าแน่ใจ” นายอำเภอถามซ้ำ ครั้งนี้ทอยคงแสดงอาการผิดปกติบางอย่างออกมาให้เห็น

“...ที่จริงแล้วพวกเราเป็นเพียงคนรู้จักกัน แต่คงสะดวกกว่าถ้าจะบอกใครๆ ว่าเป็นญาติ” เขายอมรับ และการมีเรื่องให้ถูกจับได้เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก็จะยิ่งช่วยทำให้เรื่องราวทั้งหมดฟังดูสมจริงยิ่งขึ้นอีกด้วย

“เอาล่ะ อย่างไรก็ตาม เราต้องขอคุมตัวพวกเจ้าทั้งหมดเอาไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัยของหมู่บ้าน”

“แต่...แล้วเรื่องที่พวกมันทำร้ายฮานกับเกรทล่ะ” ทอมรีบท้วง

“เจ้าก็รู้เรื่องของเด็กฮานนั่น เกรทก็ช่วยยืนยันแล้วว่าพวกเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วย แต่เป็น...ผีดิบพวกนั้น” นายอำเภอถอนหายใจ “เรื่องราวมันชักจะวุ่นวายไปกันใหญ่แล้ว”

ทันใดนั้นประตูก็ถูกทุบปึงปังด้วยความรีบร้อน ก่อนที่จะมีชาวบ้านอีกคนหนึ่งเข้ามาพร้อมด้วยใบหน้าซีดเผือด ทั้งสามคนแยกไปยืนคุยกันเบาๆ ในมุมที่เก็บดาบดำเอาไว้อย่างเคร่งเครียดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายนายอำเภอจะสั่งงานให้กับชายผู้มาใหม่นั้น

“พาเขาไปรวมกับอีกสองคน แล้วเฝ้าไว้ให้ดี” ก่อนที่นายอำเภอกับทอมจะรีบร้อนจากไปในอีกทิศทางหนึ่ง

“เกิดอะไรขึ้นครับ” ทอยลองถามกับผู้มาใหม่

“ไม่ใช่เรื่องอะไรของเจ้า” เขาตอบเพียงแค่นั้น

สำนักงานนายอำเภอที่เดินจากมานั้นเป็นเพียงโรงนาเก่าๆ ที่ไม่มีทั้งป้ายแสดง ไม่มีแม้แต่ห้องคุมขัง ราวกับเป็นสถานที่ที่ไม่มีความสำคัญอะไร ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะในหมู่บ้านแบบนี้คงไม่ค่อยมีเรื่องอะไรให้นายอำเภอต้องทำมากนัก 'จนกระทั่งถึงตอนนี้'

ทอยพลันเกิดความคิดบางอย่างขึ้น

“นายอำเภอคนนั้นชื่ออะไรนะครับ”

ชายคนที่ถูกถามทำเป็นเงียบไม่สนใจในตอนแรก แต่สุดท้ายก็ยอมตอบออกมา “แฟรง” นั่นไม่ใช่ชื่อที่ทอยคาดเอาไว้ 'แฟรง แฟรง แฟรง ไม่ใช่อย่างที่คิด'

ชายคนนั้นพาเขามายังอาคารอีกหลังหนึ่งซึ่งแตกต่างไปจากสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ภายในหมู่บ้านแห่งนี้อย่างเห็นได้ชัด มันเป็นอาคารที่ดูแข็งแรงมั่นคงเพราะมีการใช้เหล็กมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้าง มีบานประตูที่ทำด้วยไม้เนื้อแข็งผสมกับแผ่นเหล็กที่ไม่อาจทุบทำลายได้โดยง่าย เสียงของโลหะปะทะกับโลหะดังเป็นจังหวะออกมาจากภายในนั้นบอกให้รู้ว่าที่นี่คือสถานที่ใด

ทุกหมู่บ้านในอดีตต่างนับว่ามันเป็นสถานที่ที่สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะตั้งแต่เครื่องใช้ในครัวเรือนไปจนถึงอุปกรณ์ในการทำเกษตรกรรมล้วนต่างต้องพึ่งพาสถานที่แห่งนี้ทั้งสิ้น ความสำคัญที่ว่านี้ยังรวมไปถึงตัวของช่างตีเหล็กเองด้วย

“สวัสดี เฒ่าเฮฟ” ผู้ที่ถูกทักเงยหน้าขึ้นจากงานของตน ก่อนใช้คีมด้ามยาวคีบชิ้นงานที่ยังคงร้อนแดงจุ่มลงในถังน้ำ มันส่งเสียงดัง 'ฉู่' พร้อมกับส่งไอน้ำให้ลอยฟุ้งขึ้นมา ชายชราที่มีร่างหยาบหนา เปลือยท่อนบนพร้อมกับเม็ดเหงื่อพราววางค้อนคู่มือของตนลงอย่างเป็นระเบียบ หยิบผ้าขึ้นปาดเช็ดเหงื่อบนใบหน้าก่อนลุกเดินกะเผลกเข้ามาหา

“ว่าไง”

“นายอำเภอให้เอามาฝากไว้อีกคน”

“โรงช่างของข้าไม่ใช่ห้องขังเสียหน่อย” ชายชรามีท่าทีไม่ค่อยพอใจ

“ก็มีแต่ที่นี่เท่านั้น ที่พอจะใช้ขังใครได้ แถมยังมีโซ่ไว้ใช้ล่ามอีกมากมายด้วย” ภายในโรงตีเหล็กแห่งนี้มีโซ่หลากหลายขนาดแขวนอยู่อย่างที่ว่า บางส่วนคงมีไว้ใช้ทำงานช่าง แต่บางส่วนก็คงมีไว้ขาย หรือนำไปใช้กับงานประเภทอื่นๆ

“ข้าไม่ล่ามใครทั้งนั้น” ชายชราพูดอย่างชัดเจน

“แต่นายอำเภอสั่งให้ล่ามแล้วค่อยขังพวกมันเอาไว้”

“ที่นี่เป็นโรงช่างของข้า กฎของข้า ถ้าเจ้าแฟรงนั่นมีปัญหา ก็ให้มันมาคุยกับข้าเอง” ท่าทีของชายชราก็คงคล้ายกับค้อนที่เขาใช้งานอยู่เป็นประจำ

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว เฒ่าเฮฟ แค่อย่าให้พวกมันหนีไปได้ก็พอ ไม่อย่างนั้นได้เดือดร้อนกันทั้งหมู่บ้านแน่” ดูเหมือนชายคนนี้คงไม่อยากจะเอาตัวเข้าไปขวางทางค้อนที่ไม่ได้เล็งมาที่ตน พร้อมกับรีบจากไปทันที

“เจ้าหนุ่ม เข้าไป” ชายชราเดินกะเผลกมาเปิดประตูที่ดูแข็งแรงบานหนึ่งให้เขา ซึ่งในนั้นมีคุณนายวิกเซ่น กับสโนว รออยู่ก่อนแล้ว

“อยู่กันเงียบๆ ล่ะ ข้าจะทำงานต่อ” ชายชราบอกพร้อมกับปิดประตู และลั่นกลอนเหล็กจากข้างนอก ภายในเป็นห้องที่ก่อขึ้นด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ทั้งหมด ไม่มีหน้าต่าง มีแต่ช่องเปิดเล็กๆ แคบๆ ทำจากแท่งเหล็กที่พอให้อากาศถ่ายเทได้ เขาเดาไม่ถูกว่าก่อนหน้านี้มันจะเคยใช้ทำอะไรมาก่อน

“ทอย คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” สโนวทักมาจากในเงามืด หญิงสาวทั้งสองต่างอยู่กันคนละมุม โดยระหว่างกลางนั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศชวนอึดอัด

“นายอำเภอแค่สอบถามผมเท่านั้น ไม่ได้ทำอะไร ผมรู้สึกคุ้นหน้าเขาอยู่บ้าง แต่ก็นึกไม่ออก ที่สำคัญ ดูเหมือนจะไม่มีใครแถวนี้เคยเจอคุณครอสมาก่อน ไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ”

“แล้วพวกคุณล่ะครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” ทั้งคู่ต่างขยับเข้ามา และทำให้เขาได้พบเห็นร่องรอยฟกช้ำเล็กน้อยบนใบหน้า ครั้งแรกเขาคิดว่าพวกเธออาจถูกทำร้าย แต่เขาก็นึกถึงสิ่งที่ชายชราบอกเมื่อครู่ตอนที่ปิดประตู 'อยู่กันเงียบๆ ล่ะ' กับท่าทีมึนตึงของทั้งสองที่มีต่อกันมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้

“ไม่มีอะไร เราสองคน พวกเราก็แค่...ปรับความเข้าใจกันเล็กน้อยเท่านั้น” สโนวว่า และคุณนายวิกเซ่นก็เออออตามนั้น

เขาไม่คิดเลยว่าทั้งคู่จะลงไม้ลงมือกันถึงขั้นนี้ แต่ก็ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงด้วยดีแล้ว 'อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับต้องเลือดตกยางออกกัน'

“เอาล่ะ มาสรุปกันว่าตอนนี้สถานการณ์ของพวกเราเป็นอย่างไรบ้าง” คุณนายวิกเซ่นเป็นฝ่ายเริ่ม “หลังจากที่คุณสโนวไวท์แสนดีของพวกเรายินยอมให้ถูกจับตัวมาขังไว้แบบนี้”

“นั่นก็เป็นเพราะมีใครบางคนบอกว่า เป้าหมายของเราอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้น่ะสิ ฉันจึงคิดว่านี่เป็นวิธีการที่จะเข้ามาได้อย่างง่ายดายที่สุดแล้ว”

“คนที่ว่านั้นก็อยู่ใกล้ๆ นี้เอง น่าจะเป็นตัวนายอำเภอที่คุณทอยได้เจอนั่นแหละ”

“ซึ่งดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น”

ทั้งสองต่างพูดตอบโต้โดยไม่ยอมมองหน้ากัน ทอยทำได้แค่เพียงปิดปากลง เหลือบตามองเพดาน พร้อมกับภาวนาให้พายุในห้องขังชั่วคราวแห่งนี้รีบสงบลงโดยเร็ว


Create Date : 18 พฤษภาคม 2557
Last Update : 18 พฤษภาคม 2557 20:48:30 น. 0 comments
Counter : 518 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.