ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2556
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 สิงหาคม 2556
 
All Blogs
 
ทอย (8)

“คุณครอสหายตัวไปจากห้องทำงานของเขาในช่วงบ่ายวันนี้” โฮมพูดออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “ภายในห้องไม่มีร่องรอยผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าคุณครอสหายไปไหน”

ทอยกับสไตน์รอว่าโฮมจะบอกข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ และเมื่อสารวัตรไม่ว่าอะไรอีก ทั้งคู่จึงหันมามองหน้ากัน สายตานั้นบ่งบอกว่าทั้งสองกำลังคิดอะไร

“บางที คุณครอสอาจจะแค่หลบออกไปทำธุระส่วนตัวก็เป็นได้” ทอยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะคาดว่ามันน่าจะมีเรื่องที่ตื่นเต้นมากกว่านี้ อย่างเช่นการพบรอยจุดเปื้อนบนกำแพง กองของเหลวสีแดงคล้ำ เศษชิ้นส่วนของบางสิ่ง หรืออาจจะเป็นจดหมายเรียกค่าไถ่อะไรพวกนั้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

“ผมเองก็คิดเหมือนกับพวกคุณนั่นแหละ” โฮมตอบอย่างอึดอัด “แต่คุณฟรอสไม่ได้คิดแบบนั้น เขายืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่มีทางเลยที่คุณครอสจะหายตัวไปในช่วงเวลาที่ทางร้านกำลังวุ่นวายโดยไม่บอกใคร โดยเฉพาะเมื่อใกล้จะถึงคืนแห่งของขวัญแบบนี้ด้วย”

โฮมมองหน้าทั้งสองคนสลับไปมา “พวกคุณเข้าใจใช่ไหม ในคืนแห่งของขวัญ คุณครอสจะมีงานยุ่งมาก เกี่ยวกับของขวัญอะไรพวกนั้น” เขาพูดพร้อมกับยกแขนทั้งสองขึ้น ชูนิ้วชี้กับนิ้วกลาง แล้วงอมันขึ้นๆ ลงๆ ไปพร้อมกัน

ทั้งคู่ต่างพยักหน้า และเข้าใจในท่าทีของโฮมเมื่อต้องพูดถึงเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องแปลก ทุกคนต่างรู้ว่าคุณครอส ก็คือซานต้า ครอส ผู้ที่นำของขวัญไปแจกให้กับเด็กดีทุกคนในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง ในคืนแห่งของขวัญ คืนที่เด็กๆ ทุกคนทั่วโลกต่างเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ รอดูว่าพวกเขาจะได้รับอะไร หรืออาจจะไม่ได้รับอะไรเลย ถ้าซานต้าเกิดรู้ว่าพวกเขาได้ทำอะไรไม่ดีลงไปบ้างในปีที่ผ่านมา

สำหรับเด็กๆ แล้ว มันช่างเป็นค่ำคืนอันแสนวิเศษ ซานต้าจะขับเลื่อนหิมะที่สามารถบินร่อนไปมาในอากาศ จอดลงบนหลังคาบ้าน ก่อนมุดผ่านปล่องไฟ ย่องเข้าไปในห้องนอนของพวกเขา วางของขวัญเอาไว้ แล้วจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ 'โฮ่ โฮ่ โฮ่' อันอบอุ่น และเสียงกระพรวนเล็กๆ ดังกรุ๊งกิ๊งอันแสนคุ้นเคย

จนกระทั่งเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น และย้อนมองเหตุการณ์นี้จากมุมที่ต่างไปจากเดิม ไม่ใช่แค่จากความสูงที่เพิ่มขึ้น แต่รวมถึงบางสิ่งที่เปลี่ยนไปภายในหัวของพวกเขาด้วย

การแจกจ่ายของเล่นจำนวนมากมายมหาศาลออกไปโดยไม่มีผลกำไรนั้น ช่างขัดกับหลักการพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์อย่างยิ่ง เลื่อนหิมะก็ไม่มีส่วนประกอบใดเป็นไปตามหลักการแห่งอากาศพลศาสตร์ มันไม่มีปีก ไม่มีแรงยก แล้วจะลอยขึ้นไปในอากาศได้อย่างไร การที่ชายตัวอ้วนในชุดสีแดงจะมุดผ่านปล่องไฟเล็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วยเขม่าเพื่อเข้าไปในบ้าน ย่องเข้าไปในห้องนอนของเด็กๆ ที่กำลังหลับนั้น สุ่มเสี่ยงต่อการถูกเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงได้ไม่ยาก และยังอาจถูกแจ้งจับในข้อหาบุกรุกได้อีกด้วย

แต่ข้อสงสัยที่สำคัญที่สุด ยังคงเป็นการที่ซานต้าสามารถทำทั้งหมดนั้นเพียงลำพังภายในระยะเวลาชั่วค่ำคืนเดียว เลื่อนของเขาบรรทุกน้ำหนักได้มากเท่าไร ขนของขวัญได้เที่ยวละกี่กล่อง หากต้องใช้เวลาหลังละห้านาทีคูณด้วยจำนวนบ้านที่มีอยู่ทั้งหมด โดยยังไม่รวมเวลาในการเดินทางไปมาระหว่างหลังคาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะคำนวณอย่างไรมันก็ไม่มีทางจะเป็นไปได้เลย

ไม่มีใครแน่ใจว่าซานต้าทำอย่างนั้นได้อย่างไร ในหมู่พวกเด็กๆ มีน้อยคนนักที่จะสงสัย ส่วนพวกที่กลายเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ไม่มีใครพยายามคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง

'ของขวัญทั้งหมดนั้น เป็นพ่อแม่เอามาซ่อนไว้ให้ต่างหาก' เด็กเกเรหลายคนบอก ในขณะที่พ่อแม่บางคนกลับไม่แน่ใจว่าตนเองได้ทำอย่างนั้นจริงหรือไม่

'ซานต้ามีอยู่จริง' พ่อแม่หลายคนอาจบอกกับลูกๆ ของตนอย่างนั้น และก็เป็นพวกเขาเองที่นำของขวัญซึ่งซื้อมาจากร้านของเล่นไปซ่อนเอาไว้ในห้องนอนให้กับพวกเขา

และบางคนก็คิดว่าความสับสนทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ในคืนแห่งของขวัญอันแสนวิเศษ และพอใจกับคำอธิบายที่ไม่ได้อธิบายอะไรเลยนั้น

“ตกลงที่สารวัตรต้องมาวุ่นวายทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะคุณฟรอสอย่างนั้นหรือ” ทอยถาม เขารู้ดีว่ามีบางคนที่ถึงแม้จะไม่ได้มีตำแหน่งอะไร แต่ก็สามารถจะผลักดันสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นได้ และคุณฟรอสต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่” โฮมตอบ และรู้สึกเสียใจที่ตนรีบพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป บางทีอาจเป็นเพราะตัวเขาเองก็คิดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันก็เป็นได้

“ถ้าอย่างนั้นเป็นเพราะใครกัน” ทอยยังพยายามจะถามต่ออีก แต่คราวนี้โฮมนั่งนิ่งปิดปากสนิท

สไตน์เหลือบมองไปที่กระจกเงาบนผนังด้านในห้องสอบสวนเหมือนกับไม่ได้ตั้งใจ ภายในนั้นมีเงาของเขาที่จ้องมองกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ผมคิดว่าเราคงไม่มีอะไรจะถามสารวัตรอีกแล้วครับ” สไตน์มองจ้องโฮม เขาจ้องกลับมา และทอยมองดูทั้งสองคนพร้อมกับเริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง

'จริงด้วย ยังมีคนอยู่ข้างหลังกระจกบานนั้น ใครบางคนที่คอยผลักดันเรื่องทั้งหมดนี้' และเขาคิดว่าตนเองพอจะรู้ด้วยว่าน่าจะเป็นผู้ใด

ทอยลุกขึ้นยืน โฮมก็ลุกขึ้นด้วย และสไตน์ขยับไปเปิดประตู

“ลาก่อนครับสารวัตรโฮม” ทอยว่า และก่อนที่จะเดินออกไป เขาก็หันกลับมาหาโฮมอีกครั้ง “หวังว่าเราคงไม่ต้องพบกันอีกนะครับ”

“ผมไม่ไปส่งนะครับ คุณสไตน์คงรู้ทางดีอยู่แล้ว” โฮมยิ้มตอบ “แล้วเจอกันอีกครับ คุณทอย” มันเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่ายินดีเลยแม้แต่น้อย

#####

โฮมเดินออกจากห้องสอบสวนหลังจากที่ทั้งคู่เดินห่างออกไปแล้ว สไตน์คงจะพาทอยออกทางประตูด้านหน้าของสำนักงาน ลงไปยังห้องโถงชั้นล่างก่อนออกจากตึกนคราภิวัฒน์ไป ส่วนตัวเขาเองนั้นเดินเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง

คนที่ทำให้เขาต้องวิ่งวุ่นวายในวันนี้ไม่ใช่ฟรอส แต่เป็นผู้ว่าลินคอนต่างหาก ดูเหมือนท่านผู้ว่าจะใส่ใจกับความต้องการของฟรอสเป็นพิเศษ นอกจากนี้ลินคอนยังกังวลกับสภาพอากาศภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลันด้วย โฮมแอบรู้มาว่าเขาได้ติดต่อขอข้อมูลเรื่องนี้ไปในหลายแหล่ง

ซึ่งทั้งหมดนี้ดูไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด และมันทำให้เขายิ่งรู้สึกไม่สบายใจ

โฮมเป็นตำรวจมาเนิ่นนาน และส่วนนั้นภายในตัวเขารู้สึกได้ว่ากำลังมีบางอย่างที่เลวร้ายเกิดขึ้น และมันอยู่ที่ด้านหลังของเขานี่เอง เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เน่าเหม็นของมัน แต่ไม่สามารถหันกลับไปมองได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม เขาได้แต่รู้สึกถึงเงาของมันที่กำลังสูงขึ้น สูงขึ้นเรื่อยๆ

'และเมื่อหันกลับไปได้ มันก็จะสายเกินไปแล้ว'

โฮมไม่เคยชอบความรู้สึกแบบนี้เลย จังหวะการก้าวเดินของเขาค่อยๆ คงที่ สายตามองตรงไปข้างหน้า 'เอาล่ะ ตอนนี้ฉันรู้อะไรแล้วบ้าง' สมองของเขาเปลี่ยนเข้าสู่วิธีคิดแบบตำรวจ เขาชอบที่จะเดินไปคิดไปจนมันกลายเป็นความเคยชินอย่างหนึ่ง

หนึ่ง คุณครอสหายตัวไปโดยไม่มีใครรู้ และคืนแห่งของขวัญก็อยู่ห่างไปอีกแค่สองวันเท่านั้น 'แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่าได้มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น' บางทีสิ่งที่เลวร้ายที่สุดอาจเป็นการที่เด็กดีทั้งหลายจะไม่ได้รับของขวัญจากซานต้าในปีนี้ ซึ่งผู้ปกครอง และเงินในกระเป๋าของพวกเขาอีกเล็กน้อยคงสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

'ไม่ ไม่ ฉันต้องไม่คิดแบบนี้' แต่เขาก็คิดไปแล้ว คืนแห่งของขวัญ คืนอันแสนมหัศจรรย์ที่ความดีจะตอบแทนให้กับเด็กๆ ทุกคน เขาอาจจะเคยเชื่อ แต่ตอนนี้เขาไม่คิดแบบนั้น

การทำสิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นจะต้องได้รับของขวัญ สิ่งดีดีไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้ง และบางครั้งมันก็ถึงขั้นเลวร้ายเลยด้วยซ้ำ เขาได้เรียนรู้มันอย่างเจ็บปวดด้วยตัวเอง

สอง ฟรอสดูจะวิตกกังวลมากจนเกิดเหตุเกี่ยวกับเรื่องนี้ เห็นได้จากท่าทางการแสดงออกของฟรอสที่เขาพบเจอเข้ากับตัวเองในวันนี้ ทั้งๆ ที่ฟรอสเองน่าจะเป็นคนที่ได้รับประโยชน์จากการหายตัวไปของคุณครอสมากที่สุด ใครๆ ก็รู้ว่าตัวเอฟนั้นเล็กกว่าตัวซีเสมอมา และตอนนี้อาจเป็นเวลาที่ตัวเอฟจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม กลายเป็นอักษรตัวแรกของชื่อร้าน หรืออาจจะเหลือแค่เพียงตัวเดียวเลยก็เป็นได้

แต่เขาไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับคนเก่าแก่ทั้งสองนี้ เมื่อคิดดูให้ดีแล้วทั้งคู่ต่างมีประวัติที่ยาวนานมากจนคาดไม่ถึง บางทีพวกเขาอาจมีความหลัง ความผูกพันบางอย่าง และการใช้มุมมองของเขาไปทำความเข้าใจ ก็อาจทำให้ตัดสินฟรอสผิดไปจากที่ควรก็เป็นได้

สาม ผู้ว่าลินคอนดูจะอ่อนข้อให้ฟรอสมากจนผิดปกติ และยังกังวลกับสภาพอากาศหนาวเย็นที่เกิดขึ้นนี้มากจนเกินไป มันยังคงเป็นฤดูหนาวไปจนกว่าจะผ่านพ้นคืนแห่งของขวัญ วันแห่งการเฉลิมฉลอง ดังนั้นผู้คนคงไม่บ่นเรื่องอากาศหนาว หรือหิมะที่ตกหนักมากจนเกินไป มันไม่น่าจะกระทบกระเทือนกับฐานคะแนนเสียงของเขา

'แต่เขากลับมากดดันฉันในงานนี้' ลินคอนคือคนที่ทำให้เขาต้องวิ่งวุ่นในวันนี้

สี่ ที่เขายังไม่ยอมตัดออกไป อดีตมือสังหารทอย เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะรู้อะไรในเรื่องนี้ 'แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เกี่ยวข้องด้วย' ตรงกันข้าม โฮมกลับคิดว่าเขาคือตัวเชื่อมโยงที่สำคัญ น่าเสียดายที่เขายังไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้มันเชื่อมโยงกับเรื่องอะไร และอย่างไร

ประตูห้องธรรมดาที่ไม่มีป้าย และดูเหมือนจะถูกปิดล็อคเอาไว้อยู่เป็นประจำถูกเปิดออกมาก่อนที่โฮมจะเดินไปถึง ห้องนี้อยู่ติดกับห้องสอบสวนโดยมีกระจกที่มองทะลุด้านเดียวกั้นเอาไว้นั่นเอง แต่ด้วยการจัดวางเส้นทางเพื่อให้ผู้ที่เข้าออกห้องทั้งสองนี้จะไม่พบเจอกันโดยบังเอิญ ประตูจึงอยู่ห่างกันแบบนี้

ลินคอนก้าวออกมา และโฮมคิดว่าเขามองเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แต่กลับไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ลินคอนสวมเสื้อโคท 'แต่เขาก็สวมมันไว้ตั้งแต่ก่อนเข้าไปในห้องนั้นแล้ว' โฮมจำได้ ห้องนั้นค่อนข้างเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออากาศข้างนอกเป็นแบบนี้ และหลายคนก็เคยทำมาก่อน

ลินคอนเหลือบมองมาทางเขาก่อนรีบล้วงมือเข้าไปในเสื้อโคท หยิบบางสิ่งออกมา และทำบางอย่างกับประตูอย่างรวดเร็ว 'นั่นยิ่งดูผิดปกติมากขึ้น เขาไม่ควรมีกุญแจของห้องนั้นอยู่กับตัว'

“คุณฟรอสกลับไปแล้วหรือครับท่าน”

“ยัง สารวัตร” ลินคอนรีบยัดมือใส่ในกระเป๋าเสื้อโคท

โฮมมองไปที่ประตู ก่อนมองกลับมาที่ท่านผู้ว่า “หมายความว่าเขายังอยู่ข้างในนั้น”

“ใช่ และผมไม่ต้องการให้คุณใส่ใจกับเรื่องนี้” ลินคอนทำหน้าจริงจัง “เข้าใจไหม มันไม่เคยเกิดขึ้น”

“...ครับ”

โฮมตอบรับสั้นๆ แค่นั้น แทนที่จะเป็นคำถามยาวๆ อย่าง 'ผมอยากทราบเหตุผล' หรือ 'ผมไม่คิดว่าเรามีสิทธิที่จะทำอย่างนั้น' ถึงแม้ว่าเขาจะอยากถามมากเพียงใดก็ตาม

เขารู้อยู่เต็มอกว่ามันไม่ค่อยถูกต้อง แต่เขาก็ปล่อยให้มันเกิดขึ้น เพราะเขารู้ว่าบางครั้งมันก็เกิดขึ้น 'ใช่ การทำสิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นจะต้องได้รับของขวัญเสมอไป' แต่เขาก็รับรู้ถึงเสียงเล็กๆ เสียงที่ดื้อด้านของเด็กชายโฮม เขายังคงจดจำยามเช้าของวันแห่งการเฉลิมฉลองครั้งหนึ่ง เมื่อเด็กชายโฮมตัวน้อยนั่งแกะห่อของขวัญด้วยมืออันสั่นเทา ด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น และได้พบกับตราตำรวจเป็นครั้งแรก ดวงดาวห้าแฉกที่ส่องประกายระยิบระยับถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงพลาสติกทาสีก็ตาม

เด็กชายโฮมยืดอกและติดมันอย่างภาคภูมิใจ

“เรื่องคุณครอสเป็นอย่างไรบ้าง ได้เบาะแสอะไรเพิ่มหรือไม่” ลินคอนถามต่อ

“ยังเลยครับ และผมไม่คิดว่ามือสังหารของเราจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” โฮมพยายามปัดเรื่องในหัวนั้นทิ้งไป “ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดกำลังออกตามหาจากทุกทางครับ ผมคิดว่าน่าจะพบตัวคุณครอสในไม่ช้า”

ลินคอนพยักหน้าแต่ดูไม่ค่อยจะเชื่อคำพูดของโฮมนัก ดูเหมือนเขาจะมีบางสิ่งอยู่ภายในใจ

“เอาล่ะ รีบกลับไปทำงานของคุณได้แล้ว ผมเองก็ยังมีงานอื่นอีก...อ้อ ประกาศงดใช้ห้องนี้อย่างไม่มีกำหนดด้วย” ลินคอนพูดพร้อมกับเดินออกไปทันที

“ท่านครับ จะให้ผมส่งใครมาเฝ้า หรือต้องทำอะไรหรือเปล่าครับ” โฮมถามไล่หลัง

“คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น” ลินคอนตอบโดยไม่หันกลับมา เขาไม่หยุดเดินด้วยซ้ำ “ผมจัดการเอง”

โฮมรออยู่จนกระทั่งแน่ใจว่าลินคอนเดินไปไกลแล้ว เขาจึงเอื้อมมือไปเปิดประตู และมันถูกล็อคเอาไว้อย่างที่คิด เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตน และหยิบกุญแจออกมาดอกหนึ่ง กุญแจที่เขาไม่ควรมีอยู่ในครอบครอง เขาลองใช้มันและไม่สำเร็จดังคาด

เขาล้วงมือเข้าไปในอีกกระเป๋าหนึ่ง หยิบซองผ้าที่มีแท่งโลหะเล็กๆ ซึ่งมีส่วนปลายเป็นรูปร่างแปลกๆ แตกต่างกันจำนวนหนึ่ง มองซ้าย มองขวา ก่อนเริ่มลงมือใช้พวกมันอย่างคล่องแคล่ว มันเป็นเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาได้เรียนรู้มาจากการทำงาน ซึ่งช่วยได้ในยามจำเป็น

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ถึงตอนนี้เขาจึงเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว เพราะไม่ว่าจะพยายามอย่างไรตัวล็อคก็ไม่ยอมขยับให้เขาอย่างที่ควรจะเป็น จนในที่สุดเขาก็ต้องตัดใจยอมแพ้ 'ยังมีงานอื่นที่ต้องทำอีก' เขาเดินจากไปในที่สุด

บางทีถ้าโฮมไม่มัวแต่สนใจกับตัวล็อคพวกนั้น เขาอาจรู้สึกได้ว่าประตูทั้งบานกำลังค่อยๆ เย็นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นได้

#####

คุณฟรอสนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม บนโต๊ะตรงหน้าวางไว้ด้วยสโนวบอลที่เขาแสนจะเกลียดชัง และถึงแม้ว่ามันจะถูกตั้งทิ้งเอาไว้นานแล้ว แต่หิมะภายในลูกแก้วกลับดูเหมือนยังคงตกลงมาอย่างสม่ำเสมอ มหานครจำลองเบื้องล่างจึงค่อยๆ ถูกปกคลุมด้วยสีขาวสะอาดตาที่หนาขึ้นเรื่อยๆ

เขาหรี่ตามองที่ตรงส่วนฐาน ภายใต้แสงสลัวรางภายในห้อง มองดูตัวอักษร ซี เอฟ แบบโบราณที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว และถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ตัวเอฟก็ยังเล็กกว่าตัวซีเช่นกัน

ภายในห้องสุมเต็มไปด้วยความหนาว เต็มไปด้วยฤดูแห่งการรอคอย ความเย็นที่จะแช่แข็งทุกสิ่ง และทำให้ทุกชีวิตต้องหยุดนิ่งลง


Create Date : 25 สิงหาคม 2556
Last Update : 25 สิงหาคม 2556 12:58:43 น. 3 comments
Counter : 715 Pageviews.

 
เดี๋ยวไปอ่านที่กระทู้ค่า ^^


โดย: lovereason วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:23:38:01 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ

อ่านจากถนนนักเขียนแล้ว

สนุกมากค่ะ


โดย: ~My Birthday is on April 14~ วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:23:52:24 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันครับผม


โดย: zoi วันที่: 30 สิงหาคม 2556 เวลา:7:20:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.