ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
18 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
ทอย (19)

“พ่อหนุ่มช่วยห่อของขวัญให้ด้วยนะจ๊ะ”

“...ค ครับ” ทอยกระพริบตาตื่นขึ้นจากฝันกลางวัน ความฝันที่เหมือนจริงแต่กลับจางหายไปอย่างรวดเร็วราวกับทรายในกำมือ ซึ่งสุดท้ายถึงแม้จะไม่อาจไขว่คว้าสิ่งใดไว้ได้ แต่ก็จะหลงเหลือเม็ดทรายเปื้อนติดอยู่ในมือทุกครั้ง มันเป็นความฝันที่สมจริง หรือว่าความเป็นจริงที่เราเข้าใจนี้ ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงความฝันอีกชนิดหนึ่งเท่านั้น

'ฉันฝันถึงเรื่องอะไรกันนะ' ความฝันทั้งหมดนั้นหายไปแล้ว

เขารับสินค้าจากลูกค้าที่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นหญิงชรา แต่เมื่อมองดูให้ดีจึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ยังคงมีความงดงามจนแม้แต่เวลาก็ไม่อาจทำสิ่งใดกับตัวเธอได้มากนัก ยกเว้นเพียงแววตาคู่นั้นที่ย้ำเตือนให้รู้ว่าเธอได้ผ่านพบกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตมาแล้วมากมายนัก 'แต่ทำไมใบหน้า ไม่ใช่สิ แววตาของเธอถึงได้รู้สึกคุ้นตาเหลือเกิน'

“เชิญทางนี้เลยครับ”

เขาเดินลัดเลาะผ่านชั้นวางสินค้าที่เรียงรายซับซ้อนราวกับเป็นเขาวงกตเล็กๆ ได้อย่างชำนาญ เพราะเขาต้องเดินผ่านพวกมัน จัดพวกมัน ย้ายพวกมัน มาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง กี่เดือน กี่ปี การเป็นพนักงานขายโดยเฉพาะในแผนกของเล่นนี้นับเป็นงานที่เขารัก งานที่เขาใฝ่ฝัน และเขาตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่ในทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที

เขาพาเธอมายังมุมห่อของขวัญซึ่งจะถูกตั้งขึ้นเสมอในช่วงเวลานี้ของทุกปี ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ช่วงเวลาแห่งความสุขสนุกสนาน ช่วงเวลาที่แม้แต่คนซึ่งไม่มีความสุขต่างก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะลืมความทุกข์ของตนไปแม้ได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามก็ตามที

มุมที่ว่านี้ประกอบไปด้วยโต๊ะยาวตัวหนึ่งซึ่งมีอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ สำหรับการห่อของขวัญวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ด้านหลังเป็นตู้ที่มีกระดาษห่อของขวัญซึ่งมีสีสัน และลวดลายต่างๆ ให้เลือกมากมาย ที่ข้างโต๊ะยังมีกล่องกระดาษใบใหญ่ใส่โบว์ที่ทำจากริบบิ้นสีต่างๆ ซึ่งถึงแม้จะไม่งดงามเท่ากับที่มีจัดเอาไว้ขายต่างหาก แต่ก็นับว่าดูดีทีเดียว ทุกอย่างมีอยู่อย่างครบถ้วน จะขาดไปก็เพียงตัวพนักงานห่อของขวัญเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน

'กรุณารอสักครู่นะครับ ผมจะไปตามพนักงานห่อของขวัญมาให้' เขาคิดที่จะพูดออกไปแบบนั้น แต่เมื่อหันมาสบตากับเธอ เขากลับพูดออกไปว่า “เชิญเลือกกระดาษกับโบว์ที่ต้องการได้เลยครับ ผมจะห่อให้เอง” เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตนเองจึงพูดออกไปแบบนั้น 'ก็ฉันห่อของขวัญไม่เป็น...หรือว่าจะเป็น' เขาขยับเข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะยาวพร้อมกับเกิดความรู้สึกไม่แน่ใจ เขาวงกตที่เกิดจากชั้นวางสินค้าที่อยู่รอบตัวคล้ายกับมีการเคลื่อนที่สับเปลี่ยนไปมา 'ไม่ มันเป็นไปไม่ได้' และพวกมันก็ไม่ได้เคลื่อนไปไหน พวกมันยังคงอยู่ในที่เดิมอย่างที่เขาจำได้ เขาซึ่งเป็นคนที่จัดพวกมันทั้งหมดเองกับมือ

“อันนี้ดูดีไหมจ๊ะ พ่อหนุ่ม” เธอวางกระดาษสีเหลืองซึ่งมีลวดลายเป็นชายทะเล เปลือกหอย ลูกบอล เก้าอี้ผ้าใบ ร่มคันใหญ่ กระป๋องพลาสติกใบเล็กกับอุปกรณ์ที่ใช้เล่นก่อกองทราย พวกมันทำให้เขาหวนนึกถึงช่วงเวลาหน้าร้อนในวัยเด็ก ความสนุกที่ผ่านไปแล้วแต่ไม่เคยลืมเลือน ปราสาททรายที่ก่อขึ้นอย่างสนุกสนาน ก่อนจะถูกคลื่นซัด หรือไม่ก็พังมันด้วยมือของตนเองก่อนที่จะต้องจากไป

กระดาษห่อของขวัญแผ่นนี้ดูเก่า เขาไม่แน่ใจว่ามันจะเคยอยู่บนตู้ที่ด้านหลังก่อนหน้านี้ 'แต่เธอจะเอามันมาจากที่ไหนได้อีก' ดังนั้นมันก็ต้องมีอยู่บนตู้อย่างไม่ต้องสงสัย

เธอยิ้ม แต่เขาเห็นว่าแววตาของเธอนั้นไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลย

“...ครับ มันสวยมากทีเดียว”

“หลานชายของฉันชอบทะเลมาก แม้แต่ตอนที่ยังเล็กมากๆ ตอนที่เขาได้เห็นทะเลเป็นครั้งแรก ฉันไม่รู้ว่าเด็กคนอื่นจะเป็นอย่างไร แต่ฉันเห็นเขาทำตาโต อ้าปาก ตบมือ พร้อมกับพยายามเรียกให้ทุกคนดูคลื่นที่ซัดเข้ามาไม่ยอมหยุดหย่อน และเขาก็ตื่นเต้นอย่างนั้นได้ทั้งวัน”

เธอบอกพร้อมกับจ้องตาเขา จนเขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา

“ถ้าใช้โบว์แบบนี้จะเข้ากันไหม”

เธอวางโบว์แบบเรียบๆ สีแดงลงบนกระดาษ และมันเองก็ดูเก่าเช่นกัน มันเป็นโบว์ที่ถูกพันขึ้นอย่างง่ายๆ ด้วยฝีมือที่ดูไม่ค่อยชำนาญ มันควรอยู่ตามบ้าน ไม่ใช่ในห้างสรรพสินค้าใหญ่โตแห่งนี้

“...ครับ มัน มันเหมือนกับมาจากห่อของขวัญที่น่าจดจำห่อหนึ่งเลยทีเดียวครับ” ไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงพูดออกไปแบบนี้ แต่เขาเชื่อว่ามันต้องเป็นความจริงอย่างไม่ต้องสงสัย

“ดีจ๊ะพ่อหนุ่ม ช่วยห่อให้สวยเลยนะ ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้ว่ามันเคยห่ออย่างไร” เธอพูดช้าๆ เน้นพวกมันทีละคำ และเช่นเดิมที่แววตาของเธอดูจริงจังจนเกินไป มันพยายามบอกเล่าเรื่องราวบางสิ่งที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เธอกำลังพูด มันเหมือนกับว่าเธอจำเป็นต้องพูดไปตามบทที่ถูกกำหนดมา แต่ด้วยอารมณ์ที่ต่างออกไป

เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองดูของเล่นซึ่งเธอเลือกมาเป็นของขวัญให้กับหลานชายคนที่ว่าอย่างเต็มตา มันเป็นชุดเครื่องมือช่างทำจากพลาสติกซึ่งมีทั้ง ค้อน คีม ไขควงหลายแบบหลากสี สำหรับใช้เล่นสร้างสิ่งของต่างๆ ขึ้นด้วยจินตนาการ

“...ตอนเด็กๆ ผมก็เคยมีของเล่นแบบนี้เหมือนกัน” เขาพูดออกไปโดยไม่ทันรู้ตัว 'ฉันเคยมีของเล่นพวกนี้จริงหรือ' เขาไม่แน่ใจ 'ฉันก็เคยไปทะเลตอนเด็กๆ เคยก่อปราสาททรายเหมือนกัน' แต่ใครๆ ก็ต้องเคยกันทั้งนั้น 'ฉันชอบทะเล ฉันนอนมองคลื่นพวกนั้นทั้งวันได้ไม่เคยเบื่อ' เด็กทุกคนต่างก็ชอบทะเลด้วยกันทั้งนั้น

เขาเริ่มสับสน แต่ก็ลงมือทำงานที่อยู่ตรงหน้า เพราะเขารักงานนี้ เขาจะทำมันให้ดีที่สุด ของเล่นชุดนี้ถูกบรรจุอยู่ภายในกล่องเรียบร้อยแล้วจึงทำให้ง่ายต่อการห่อ เขาวางมันลงบนแผ่นกระดาษ เลื่อนมันไปมาเพื่อกะหาตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องมีการตัด เขาคิดจะใช้กระดาษทั้งแผ่นห่อมัน

ภาพของกล่องของขวัญใบหนึ่งซึ่งถูกห่อด้วยกระดาษลวดลายชายหาดกับโบว์สีแดงแบบนี้ปรากฎขึ้นในห้วงของความทรงจำอย่างชัดเจน เขายังไม่แน่ใจว่ามันถูกห่อมาอย่างไร แต่เขารู้ว่ามันจะถูกแกะออกได้อย่างไร โบว์สีแดงถูกดึงออกอย่างระมัดระวัง ต่อด้วยริบบิ้น ก่อนที่นิ้วมือน้อยๆ นั้นจะค่อยๆ เลื่อนไปตามรอยต่อของกระดาษซึ่งถูกติดไว้ด้วยกระดาษกาวสองหน้าแบบบาง หัวใจดวงน้อยในทรวงอกนั้นเต้นระทึก ก่อนที่แผ่นกระดาษจะค่อยๆ ถูกคลี่กางออก

มันคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของการเป็นของขวัญ ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ได้ส่งมอบให้แก่กัน แต่เป็นช่วงเวลาที่ห่อถูกแกะออก ช่วงเวลาที่ผู้รับจะได้รับของขวัญของตนอย่างแท้จริง

กระดาษ โบว์ ริบบิ้น ทั้งหมดนั้นถูกเก็บเอาไว้นานจนกระทั่งมันหายไปในที่สุด

“มันดูดีมาก” เธอเอ่ยชมอย่างจริงใจ

ซึ่งปลุกให้เขาตื่นขึ้นจากความฝันอีกครั้ง เมื่อก้มมองดูสิ่งที่อยู่ในมือ งานของเขาเสร็จสิ้นลงแล้วโดยที่เขาไม่ทันได้รู้ตัว เขาจ้องมองมันอย่างตื่นตะลึง มันคือของขวัญกล่องนั้น กล่องที่เขาเคยได้รับในวัยเด็ก 'หรือฉันไม่เคยได้รับ' รวมถึงชุดเครื่องมือช่างของเล่นที่อยู่ในกล่องนี้ด้วย

“...มันเป็นของผม” เขาพึมพำออกมาเบาๆ

“ใช่ มันเป็นของขวัญสำหรับหลานชายตัวน้อยๆ ที่น่ารักของฉัน” ดวงตาคมของเธอที่จ้องมองมานั้นทำให้ขนที่ต้นคอของเขาลุก 'อันตราย' จิตใจของเขาตะโกนกรีดร้อง แต่เขากลับไม่เข้าใจว่าอะไรคืออันตรายที่ว่า

เขารู้สึกสับสนกับอดีตของตนขึ้นมาอย่างฉับพลัน มันคล้ายกับตัวเขาพลันถูกแยกให้เป็นสอง เด็กคนหนึ่งคือคนที่กลายมาเป็นตัวเขาในตอนนี้ แต่มันยังมีเด็กอีกคนหนึ่ง เด็กที่เติบโตขึ้นมาในสถานที่อื่น ในชีวิตแบบอื่น เป็นตัวเขาที่แตกต่างออกไป แต่ทั้งคู่นั้นต่างก็เป็นตัวเขา 'หรือไม่ใช่ตัวฉัน'

เขายืนนิ่ง มือจับห่อของขวัญเอาไว้แน่น ก่อนมองเห็นปากของเธอขยับโดยไม่มีเสียง 'รีบตื่นได้แล้ว' เขาคิดว่าเธอพยายามจะบอกเขาอย่างนั้น

#####

'เธอเข้าไปในนั้นได้อย่างไร เธอเป็นใครกันแน่'

เด็กสาวจ้องมองภาพสิ่งที่เกิดขึ้นภายในเปลวไฟของไม้ขีดอย่างตั้งใจ ร่างของทอยที่นอนแน่นิ่งอยู่ในสภาพลางเลือนแต่ยังคงไม่ยอมหายไป เปลวไฟลามเลียก้านไม้ขีดลงมาจนแทบจะถึงปลายนิ้วเรียวของเธอแล้ว ในที่สุดเธอจึงตัดสินใจจุดไม้ขีดเพิ่มอีกก้านหนึ่ง

#####

“ของขวัญห่อเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ คุณผู้หญิง” ทอยนำมันใส่ในถุงของทางห้างพร้อมกับยื่นส่งให้ บนถุงถูกพิมพ์ไว้ด้วยลวดลายสีแดง และเขียวซึ่งเข้ากันกับเทศกาล พร้อมกับมีชื่อของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อยู่ตรงกลาง ซึ่งประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษสองตัว

ซี เอฟ หรือ เซ็นทรัล เฟสติวัล นั่นเอง อักษรตัวซีนั้นต้องมีขนาดใหญ่กว่าตัวอักษรเอฟอยู่เล็กน้อยด้วยจึงจะถูกต้อง ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร

“...ขอบใจมากจ๊ะ พ่อหนุ่ม” เธอคล้ายกับยังมีบางสิ่งที่ติดค้างอยู่ภายในใจ แต่ก็ไม่อาจเอ่ยปากพูดออกมาได้ ชั่วครู่หนึ่งนั้นเธอคล้ายกับเงยหน้ามองขึ้นไปบนเพดาน หรือบางทีอาจมองขึ้นไปที่ใครบางคนซึ่งกำลังมองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ เธอถอนหายใจก่อนหันหลังเดินจากไปอย่างช้าๆ

เขายังคงยืนอยู่ที่โต๊ะยาว เก็บข้าวของทุกอย่างให้เป็นระเบียบ ก่อนจะกลับไปยุ่งวุ่นวายอยู่กับชั้นวางสินค้า กับของเล่นทั้งหมดในแผนกนี้ ในทุกย่างก้าวที่เธอเคลื่อนห่างออกไป ชั้นสินค้าต่างๆ คล้ายขยับเคลื่อนตัวไปมา พวกมันเพิ่มจำนวนมากขึ้น ซับซ้อนยิ่งขึ้น จนสุดท้ายเขาจะถูกพวกมันกลืนกินลงไปทั้งเป็น

ไม่ เขาจะไม่ตาย มันไม่ใช่แบบนั้น แต่เขาจะต้องจัดสินค้า โยกย้ายพวกมัน ดูแล และทำสิ่งต่างๆ ไปจนกระทั่งสิ่งอื่นๆ แม้แต่กาลเวลาเองก็จะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องใส่ใจอีกต่อไป

เธอพยายามที่จะขัดขืน พยายามที่จะหันหลังกลับไป แต่ก็ทำไม่ได้ 'อีกแล้ว ฉันพลาดอีกแล้ว' ดูเหมือนเหตุการณ์แบบนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องพบเจอ

#####

เด็กสาวมองดูเปลวไฟในมือพร้อมกับยิ้มอย่างมีชัย

“หยุด วางอาวุธในมือลงช้าๆ พร้อมกับถอยห่างจากตัวเขา” เสียงที่มีความเชื่อมั่นดังมาจากปากตรอกแคบๆ นี้ เงาของใครคนหนึ่งที่ในมือถือสิ่งของบางสิ่งซึ่งน่าจะเป็นอาวุธชี้ตรงมาที่เธอ

“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางอาวุธลง แล้วยอมมอบตัวแต่โดยดี” โฮมเคลื่อนตัวเข้ามาในตรอกอย่างระวัง พร้อมกับเล็งปืนไปที่ลำตัวของเด็กสาว เขาพยายามประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า และไม่จ้องมองแสงไฟตรงๆ เพราะจะทำให้ดวงตาที่ชินกับความมืดของเขาหายไป

'มีคนล้มอยู่หนึ่ง' ถึงแม้ร่างนั้นจะดูลางเลือนเกินกว่าจะเป็นไปได้ แต่ก็น่าจะเป็นมือสังหารที่ชื่อทอยคนนั้น 'รีบไปที่ตรอกเล็กๆ ข้างร้านของเล่นซีเอฟ คุณทอยกำลังตกอยู่ในอันตราย เด็กสาวคนหนึ่งกำลังจะจัดการกับเขา' นั่นคือข่าวที่เขาได้รับมา แต่เขาไม่เคยด่วนสรุปอะไรทั้งสิ้น 'มีผู้ต้องสงสัยหนึ่งคน เป็นเด็กสาว อยู่ข้างๆ คนที่ล้ม พร้อมกับเปลวไฟเล็กๆ อยู่ในมือ'

'ไม้ขีด ไม่มีใครฆ่าคนด้วยไม้ขีด' เขาคิด โดยเฉพาะเมื่อคนที่กำลังจะถูกฆ่านั้นเป็นมือสังหารอาชีพ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยสักนิด

“วางของในมือลงเดี๋ยวนี้” เขาออกคำสั่งอีกครั้ง พร้อมกับค่อยๆ เคลื่อนตัวใกล้เข้ามา

“หนูไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะคุณตำรวจ หนูก็แค่เดินผ่านมาเห็นผู้ชายแปลกๆ คนนี้นอนอยู่ หนูก็เลยเข้ามาดู แล้วในนี้มันมืดมาก หนูก็เลยต้องจุดไม้ขีดให้มันสว่างขึ้นเท่านั้นเอง” รอยยิ้มของเธอนั้นช่างน่าสงสารเหลือเกิน

ทุกอย่างฟังดูเข้าท่า ทุกอย่างฟังดูว่ามันน่าจะเป็นเช่นนั้น มันราวกับเขาจะมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่เธอเล่าออกมาเลยทีเดียว

“วางไม้ขีดในมือลงเดี๋ยวนี้” เพียงแต่ว่าเด็กสาวคนนี้ยังไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง และสำหรับเขานั่นไม่ใช่เรื่องปกติ ทำให้เขายิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม

ตอนนี้ใบหน้าของเธอที่ถูกอาบไล้ไปด้วยแสงจากเปลวไฟซึ่งเต้นส่ายไปมาอยู่บนปลายไม้ขีดนั้นไม่ได้ดูน่าสงสารอีกต่อไปแล้ว มันดูลี้ลับ น่ากลัว จนเขาชะงักไปชั่วครู่

เด็กสาวค่อยๆ วางกลักไม้ขีดในมือ พร้อมกับไม้ขีดไฟลงบนพื้นที่เปียกชื้น แต่เปลวไฟของมันก็ยังคงติดสว่างอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ในขณะที่ร่างซึ่งนอนอยู่บนพื้นนั้นแทบจะมองไม่เห็น หลงเหลือเป็นเพียงแค่รูปเงาจางๆ เท่านั้น เธอยกมือทั้งสองขึ้น แบมือออกให้เห็น พร้อมกับถอยห่างไปยังกำแพงด้านหลัง

“...หยุดอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันก็จำเป็นต้องยิงเธอ”

“หนูเป็นเพียงแค่เด็กขายไม้ขีดไฟที่ไม่มีพิษมีภัยเท่านั้น” เธอว่าพร้อมกับยังคงก้าวถอยหลัง ออกห่างจากแสงสว่าง แล้วค่อยๆ กลืนหายเข้าไปในความมืดเก่าแก่นั้น

โฮมต้องตัดสินใจลงมือในทันที เขาเหนี่ยวไก ปล่อยขดสปริงที่ถูกออกแบบมาให้มีแรงมากเป็นพิเศษดีดตัวออก ยิงใบมีดคมกริบในกระบอกไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้

เด็กสาวส่งเสียงหัวเราะออกมาจากความมืด ในขณะที่เปลวไฟจากไม้ขีดก้านนั้นยังคงส่ายเต้นรำอย่างบ้าคลั่ง


Create Date : 18 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2556 0:41:39 น. 0 comments
Counter : 639 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.