ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายเกินพิกัด...แล้วจะกลับมาเขียนเรื่องที่ค้างไว้ให้จบครับ...สักวัน
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
ทอย (38)

เสียงของโลหะปะทะโลหะดังลอดเข้ามาเป็นจังหวะ สลับกับเสียงอื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำงานของเฒ่าเฮฟ จนเกิดเป็นท่วงทำนองดนตรีอันแปลกประหลาดแต่น่าฟังขึ้น ภายในห้องขังชั่วคราวเหลือเพียงความเงียบกับบรรยากาศชวนอึดอัดที่ไม่ได้เกิดจากการที่อากาศภายในนี้ถ่ายเทได้ไม่ค่อยดีเท่านั้น

“...เอาล่ะ” สโนวที่อยู่มุมหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติมากที่สุด “ดูเหมือนว่าคุณครอสจะไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม”

“อาจจะ” คุณนายวิกเซ่นที่อยู่อีกมุมหนึ่งยังไม่ค่อยแน่ใจ “ถึงกลิ่นที่ฉันติดตามมาตั้งแต่ต้น น่าจะ เป็นกลิ่นของนายอำเภอที่ชื่อแฟรงคนนั้นก็ตาม แต่การที่ไม่มีใครที่นี่รู้จักคุณครอส ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณครอสจะไม่ได้อยู่ที่นี่จริง”

ในที่สุดทั้งสองก็หันหน้ามาคุยกัน หรืออย่างน้อยก็หันหน้าไปทางคู่สนทนาของตน

“ไม่ ยอมรับมาดีกว่าวูฟ เพราะเธอเป็นคนบอกเองว่านั่นเป็นเพียงกลิ่นเดียวที่เธอสงสัย”

“...กลิ่นประหลาดจากผีดูดเลือดแปลกๆ นั่นรบกวนจนระบบประสาทของฉันปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บางที ถ้าได้เดินไปรอบๆ หมู่บ้านนี้สักรอบก็คงดี” นางก้มหน้าลงมองพื้น “เซพ ที่เธอพูดก็ถูก คุณครอสคงไม่ได้อยู่แถวๆ นี้แน่”

“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปดี”

“ที่พวกเราต้องถูกขังเป็นเพราะความเข้าใจผิดกันเท่านั้นครับ” ทอยเสี่ยงเข้าร่วมวงสนทนาหลังจากที่นั่งเงียบมาโดยตลอด “อีกไม่นานทุกคนก็จะรู้ว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับโจรสี่สิบอะไรนั่น”

“แต่มันช้าเกินไป” เธอว่า และนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ทั้งคู่หันไปสบตากัน ดูเหมือนครั้งนี้พายุคงสงบลงอย่างแท้จริง 'หรืออย่างน้อยก็ชั่วคราว' เมื่อเขานึกทบทวนถึงท่าทีที่ทั้งคู่มีต่อกันมาตั้งแต่ต้น

“ถ้าอย่างนั้น เราก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว” เธอพูดพร้อมกับจ้องมาที่นาง ซึ่งพยักหน้ายอมรับในที่สุด แล้วนางก็เริ่มก้มมองไปรอบๆ คล้ายกับกำลังมองหาอะไรบางอย่างซึ่งเขาไม่กล้าถามว่ามันคืออะไร

“อันนี้น่าจะพอใช้ได้” นางก้มหยิบเศษหินเล็กๆ ก้อนหนึ่งขึ้นมา หินสีขาวที่ดูธรรมดาอย่างที่สุด โยนมันขึ้นลงในมือเล่นอย่างคล่องแคล่วก่อนเดินตรงไปที่กำแพงกว้างที่อยู่ด้านตรงข้ามกับบานประตูเหล็ก “อย่างน้อยเมื่อมาอยู่ในโลกความฝันแล้วฉันก็ไม่ต้องพึ่งไม้ขีดไฟนั่นอีก” ก่อนที่นางจะเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่างซึ่งเขาเข้าใจได้ในทันที

'ได้เวลาต้องไปแล้ว'

นางใช้ก่อนหินสีขาวนั้นขีดเขียนไปบนกำแพงหิน เป็นตัวเลขที่ตอนนี้เขาคิดว่าตนเองคงสามารถจดจำพวกมันพร้อมกับความหมายไปได้อีกนานแสนนาน '299,792,458' เมตรต่อวินาที ความเร็วอันคงที่ของสิ่งที่รวดเร็วที่สุดในทุกทุกโลกแห่งความเป็นจริง ความเร็วแสง

แสงสว่างที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยภายในห้องขังยิ่งมืดสลัวลงราวกับถูกตัวเลขสีขาวเหล่านั้นดูดกลืนเข้าไป

เขาเกิดคำถามบางอย่างขึ้นภายในใจและอดไม่ได้ที่จะต้องถามออกไปในตอนนี้ “เอ่อ หมู่บ้านแห่งนี้ คนพวกนี้ ที่จริงแล้วเราเดินทางย้อนกลับมาในอดีตหรือเปล่าครับ”

นางไม่ได้หันกลับมา ความตั้งใจทั้งหมดยังคงถูกถ่ายทอดไปที่ตัวเลขเหล่านั้น “ไม่ใช่ เรากำลังอยู่ในโลกของความฝัน ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคตอะไรทั้งนั้น” แต่มีความรู้สึกบางอย่าง ความลังเลเจืออยู่ในคำตอบของนาง

ตัวเลขสีขาวเหล่านั้นราวกับค่อยๆ ยุบเข้าไปในกำแพงหินเพราะแรงดึงดูดมหาศาลในตัวของพวกมันเอง ทั้งหมดค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากัน หลอมรวมจนกลายเป็นเพียงจุดสีขาว ขยายตัวออก หรือไม่ก็ดึงดูดพวกเขาเข้าไปใกล้จนรู้สึกว่าจุดสีขาวนั้นใหญ่ขึ้นทั้งๆ ที่มันยังคงมีขนาดเท่าเดิม ร่างของพวกเขาราวกับถูกยืด บิด หมุน เข้าสู่จุดที่ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าเป็นสีขาวสว่างเจิดจ้า หรือว่าเป็นสีดำมืดอันไร้สิ้นสุดกันแน่

แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่งราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แต่ตัวเลขสีขาวบนกำแพงหินเหล่านั้นได้เลือนหายไปจนหมดสิ้น และพวกเขาทั้งหมดยังคงอยู่ในที่เดิมไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนทั้งนั้น

“เกิดอะไรขึ้น” สโนวเอ่ยถามเป็นคนแรก

“...ฉันไม่...แน่ใจ เซพ” นางตอบในขณะที่ยังคงจ้องมองกำแพงหินที่ตอนนี้ว่างเปล่า ก้อนหินเล็กๆ สีขาวยังอยู่ในมือที่กำจนแน่น

“เธอจำเป็นต้องรู้ วูฟ เธอเป็นคนเดียวที่จะไม่รู้ไม่ได้”

“...ฉัน...เคยได้ยินใครบางคนพูดเอาไว้” ใครบางคนที่ถูกพูดถึงนี้ ฟังดูเหมือนจะทั้งใกล้ชิด และห่างไกลนางในเวลาเดียวกัน “ในบางเรื่องราว กับใครบางคน มันจะเกิดเป็นแรงดึงดูดที่มากมายมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ จนใครคนนั้นไม่อาจทอดทิ้ง หรือหันหลังวิ่งหนีจากไป มันจะดึงดูดพวกเขาเอาไว้ด้วยแรงอันมหาศาล จนแม้แต่แสงที่มีความเร็วสูงที่สุดก็ยังไม่อาจหลุดรอดจากหลุมมืดนี้ไปได้”

“เธอหมายความว่า...”

“ด้วยเหตุผลบางอย่าง โลกแห่งความฝันนี้ได้กลายมาเป็นหลุมดำของพวกเราไปแล้ว และถ้าเรายังไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เราก็จะไม่อาจไปจากโลกความฝันนี้ได้...เขาบอกไว้อย่างนั้น และฉันไม่เคยเชื่อ เขาเอาแต่นั่งแต่งนิยายเพ้อผันพวกนั้นไม่หยุดหย่อน และฉันคิดว่ามันก็เป็นแค่ความบ้าอีกเรื่องหนึ่งที่เขาแต่งขึ้นมาเท่านั้น ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง”

'คุณนาย' เขาเคยสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่ยังดูสาวอย่างนางจึงใช้คำนำหน้าตนเองเช่นนี้ บางที 'เขา' ที่นางกำลังพูดถึงคงเป็นเหตุผลที่ว่า ฟังดูเหมือนเขาคนนี้อาจมีอาชีพเป็นนักเขียน 'ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์หมาป่าเช่นเดียวกับเธอด้วยหรือไม่' ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูง

“บ้าจริง หมายความว่าเราจะต้องติดอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ” เธอแสดงความไม่พอใจอย่างมาก “วูฟ ลองดูอีกครั้งได้ไหม”

'มันก็จะได้ผลเหมือนเดิม' แต่สีหน้าท่าทางของเธอทำให้นางไม่ตอบออกไปอย่างนั้น นางลงมือเขียนตัวเลขลงบนกำแพงหินอีกครั้ง เหตุการณ์ประหลาดเช่นเดิมก็เกิดขึ้น และทั้งหมดยังคงติดอยู่ภายในห้องขังเช่นเดิม นางทิ้งก้อนหินในมือลงสู่พื้นเป็นเครื่องหมายของการยอมแพ้

“บ้า บ้า บ้า บ้า บ้า” สโนวกำสองมือแน่นพร้อมกับร้องตะโกนออกมา

เสียงเคาะโลหะดังติดกันถี่ๆ แข่งกับเสียงของเธอ “อีหนู เงียบหน่อย ข้าไม่มีสมาธิจะทำงานแล้ว” เสียงไม่พอใจของเฒ่าเฮฟดังลอดเข้ามาในห้องขัง
เธอหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าออกลึกยาวสองสามครั้ง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงที่กลับมาอยู่ในความควบคุมอีกครั้ง “แล้วเราต้องทำอย่างไร”

“เอ่อ...” นางคิดว่าต้องตอบอะไรบางอย่างออกไป ถึงแม้ว่าตนเองจะไม่ค่อยแน่ใจก็ตาม “มันต้องมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่นี่ และ และเราต้อง เราต้องทำอะไรบางอย่างกับมัน ที่นี่ต้องเป็นโลกความฝันของใครบางคนที่ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคุณครอสด้วย”

“ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยแน่ใจนะ”

“ใช่ ฉันไม่แน่ใจ” นางยอมรับ “ฉันไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น เหมือนที่เขาเคยบอกว่ามันเป็นเพราะแรงดึงดูดมหาศาลที่เกิดขึ้นจาก เรื่องราว ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์ถูกคลี่คลาย แรงดึงดูดของมันก็จะสลายไปด้วยเช่นกัน” พอพูดถึงตรงนี้นางก็ดูเหมือนจะมีความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง

“แต่เราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่ว่านี้มันเป็นเรื่องอะไร”

“ผมว่าผมพอจะรู้ครับ” เขาเสี่ยงพูดขึ้นอีกครั้ง “ถ้าเป็นเหตุการณ์สำคัญในตอนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องโจรสี่สิบที่กำลังจะเข้าปล้นหมู่บ้านพวกนั้น”

“แล้วคุณคิดว่าเราควรทำอย่างไร” เธอถามอย่างสนใจ

“เราก็ต้องช่วยชาวบ้าน ช่วยนายอำเภอแฟรงสู้กับพวกโจรสิครับ” เขาตอบอย่างมั่นใจ

“แล้วคุณจะแน่ใจได้อย่างไร” เธอถาม “ว่ามันจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น”

“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ” เขาเถียงด้วยความประหลาดใจ และโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวว่ามันเจือปนไปด้วยความโกรธ

“ความดีย่อมมีชัยเหนือความชั่วร้ายทั้งมวลสินะ” เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มเศร้า และด้วยเหตุผลบางประการทำให้คุณนายวิกเซ่นหันมองไปทางอื่น “ไม่ มันไม่มีอะไรแบบนั้น ฉันคิดว่านัก...ฉันหมายถึงอดีตมือสังหารอย่างคุณน่าจะเข้าใจ ทุกสิ่งเพียงแค่เกิดขึ้น ก็เท่านั้น”

“สิ่งดีดีเกิดขึ้นได้ สิ่งชั่วร้ายเองก็เช่นกัน” เธอพูดออกมาอย่างชัดเจน ราวกับมันเป็นความจริงแท้ที่ไม่อาจแปรเปลี่ยน สิ่งที่เธอเรียนรู้ สิ่งที่เธอพบเจอมาด้วยตัวเอง “มันไม่มีการต่อสู้อะไรทั้งนั้น นอกจากภายในนี้” เธอชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง “กับในนี้” ซึ่งเธอจิ้มนิ้วเรียวสวยนั้นมาที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา
เขาได้แต่เงียบ ไม่รู้ว่าจะตอบโต้คำพูดนี้ของเธออย่างไร

“แต่คุณอาจจะพูดถูกก็ได้ ว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่โจรจะเข้าปล้นหมู่บ้าน พวกเราอาจต้องทำอะไรบางอย่าง ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไป”

“แต่มันจะเสียเวลามากเกินไปหรือเปล่า” เธอหันไปถามนาง “ฉันไม่ค่อยแน่ใจเรื่องของเวลาในโลกความฝันแบบนี้”

“เมื่อความฝันจบลง มันก็จะยังคงเป็นค่ำคืนเดิม หรือไม่ก็แค่ยามเช้าเท่านั้น ไม่ว่าฝันนั้นจะสั้นหรือยาวก็ตาม” แต่ลึกๆ ลงไปแล้ว นางเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันว่าความฝันครั้งนี้ก็จะยังคงเป็นเช่นนั้น

เสียงการทำงานของเฒ่าเฮฟนั้นเงียบหายไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่มีใครรู้ตัว “เฮ้ พวกเอ็งหิวกันหรือยัง” เฒ่าเฮฟร้องถาม “หลานข้าเอาของกินมาให้ ถ้าพวกเอ็งสัญญาว่าจะไม่หนีไปไหน ก็ออกมากินด้วยกันข้างนอกนี่”

ทั้งสามหันมองหน้ากันกับข้อเสนอที่ไม่คาดคิด ก่อนที่สโนวซึ่งคิดว่าตนเองทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มจะตอบออกไป “ได้ค่ะ เราสัญญา”

“ดี” เสียงกลอนถูกขยับ ประตูเหล็กถูกผลักเปิดออก “ออกมา” เฒ่าเฮฟเดินลากขาพาทั้งหมดไปที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่ “นั่งสิ”

บนโต๊ะมีอาหารที่ถูกปรุงขึ้นอย่างง่ายๆ จากเนื้อ ปลา และผัก ส่วนใหญ่ใส่อยู่ในภาชนะที่ทำจากไม้ แต่ก็มีหม้อโลหะรูปร่างแปลกๆ กับสิ่งที่คล้ายบรรพบุรุษของ ช้อน ส้อม มีดที่ใช้ในการรับประทานอาหารวางอยู่ กับเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าคุ้นเคยพร้อมรอยยิ้มกว้างให้ทุกคน

“ใครใครก็เรียกข้าว่า เฒ่าเฮฟ ส่วนนี่ก็ เกรเทล หลานข้า หรือจะเรียกว่าเกรทก็ได้”

“สวัสดีจ๊ะ” เกรทโบกมือน้อยๆ ทักทายทุกคน เธอก็คือเด็กหญิงที่คุณนายวิกเซ่นช่วยไว้จากผีดูดเลือดนั่นเอง

“ฉันชื่อสโนว นี่...วิกเซ่น” เธอตัดสินใจที่จะตัดคำนำหน้าว่าคุณนายนั้นออก “ส่วนนี่ก็ ทอย”

“ข้ายังมีหลานอีกคน ที่พวกเจ้าก็ได้พบไปแล้วเช่นกัน แต่มันไม่ยอมมา มันมีชื่อว่าฮันเซล หรือเรียกว่าฮาน” เฒ่าเฮฟนำทั้งหมดนั่งลงที่โต๊ะ

ฮันเซลกับเกรเทล สองพี่น้องที่ออกไปเดินเล่นที่ชายป่าด้วยกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่มันทำให้ทอยหวนนึกถึงคุณยายชุดดำท่าทางแปลกๆ เจ้าของร้านอาหารที่ประดับเต็มไปด้วยขนมในซอง กับเตาอบขนาดใหญ่พิเศษ ที่เขาแวะกินพิซซ่ากับปู่แจ็ค 'ซึ่งราวกับได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อนานแสนนานมาแล้ว'

“ฮานมันก็เป็นเด็กดี พวกเจ้าคงไม่ถือโทษอะไรเด็กใช่ไหม” เฒ่าเฮฟถามก่อนตักอาหารคำโตเข้าปาก

“...พวกคุณมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าเราไม่ใช่พวกโจรสี่สิบอะไรนั่น” สโนวเอ่ยถามเมื่อพิจารณาจากการกระทำและคำพูดของเฒ่าเฮฟ

“ช่าย” เฒ่าเฮฟยอมรับก่อนกลืนอาหารลงไป “เห็นว่าเจอเจ้าโจรสองตัวนั่นแล้ว...หรืออย่างน้อยก็เป็นส่วนที่เหลือของพวกมัน”

“หมายความว่าอย่างไร” คุณนายวิกเซ่นถามอย่างสนใจ ก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “หรือพวกมันจะถูกผีดูดเลือดจัดการไปแล้ว”

“ผี ดูด เลือด” เฒ่าเฮฟลองพูดตามช้าๆ “ก็อาจเป็นได้ เจ้าจะบอกว่าศพเดินได้แปลกๆ พวกนั้นดูดกินเลือดมนุษย์เป็นอาหารอย่างนั้นใช่ไหม ข้าก็พึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก แต่ก็ตรงกับสภาพของพวกมันพอดี”

“ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยตัวพวกเราเลยหรือเปล่าคะ” สโนวถาม เพราะหากความจริงกระจ่างแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกักขังพวกเธอต่อไปอีก

ปู่กับหลานทั้งสองหันไปมองหน้ากัน และทั้งหมดรู้ได้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“พวกเจ้าคงต้องอยู่ในนี้ไปอีกสักพัก” เฒ่าเฮฟตอบอ้อมแอ้ม “แต่คืนนี้เรามีงานฉลองกลางฤดูร้อนกัน บางทีพวกเจ้าอาจได้เข้าร่วมด้วย มันเป็นงานที่สนุก พวกเจ้าจะต้องชอบ”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเอะอะดังใกล้เข้ามาทางประตูด้านหน้า เฒ่าเฮฟทำท่าบอกให้ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ ส่วนตนเองนั้นเดินลากขาไปที่ประตูซึ่งมีช่องมองให้เลื่อนเปิดออกดูได้ เขามองออกไป ก่อนหันกลับมามองที่โต๊ะ ในแววตานั้นมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะเปิดประตูออก

“มีอะไรทอม แล้วทำไมเจ้านั่นถึงได้ถูกมัดแบบนี้”

“อย่าปากมากเลยเฒ่าเฮฟ ฝากขังเจ้านี่ไว้อีกคน แล้วเราคงไม่ต้องรบกวนอะไรอีก” ร่างของชายคนหนึ่งที่ถูกมัดอย่างแน่นหนาถูกโยนผ่านประตูเข้ามา “อย่าแก้มัดมันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นทั้งแก ลูกสาว กับหลานๆ ได้เดือดร้อนหนักแน่”

“แก...” เฒ่าเฮฟอ้าปากค้างพูดได้เพียงแค่นั้น

“จำไว้ให้ดี ทำตามที่สั่งแล้วทุกอย่างจะดีเอง” ประตูถูกดึงปิดด้วยเสียงดัง ข้างนอกนั้นมีเสียงหัวเราะ ก่อนที่กลุ่มคนทั้งหมดจะพากันเคลื่อนย้ายจากไป ทิ้งไว้เพียงร่างของนายอำเภอแฟรงที่ถูกจับมัดราวกับเป็นลูกวัวตัวหนึ่ง


Create Date : 25 พฤษภาคม 2557
Last Update : 25 พฤษภาคม 2557 14:35:55 น. 0 comments
Counter : 669 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

zoi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




..........
Friends' blogs
[Add zoi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.