|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ทอย (38)
เสียงของโลหะปะทะโลหะดังลอดเข้ามาเป็นจังหวะ สลับกับเสียงอื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำงานของเฒ่าเฮฟ จนเกิดเป็นท่วงทำนองดนตรีอันแปลกประหลาดแต่น่าฟังขึ้น ภายในห้องขังชั่วคราวเหลือเพียงความเงียบกับบรรยากาศชวนอึดอัดที่ไม่ได้เกิดจากการที่อากาศภายในนี้ถ่ายเทได้ไม่ค่อยดีเท่านั้น ...เอาล่ะ สโนวที่อยู่มุมหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติมากที่สุด ดูเหมือนว่าคุณครอสจะไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม
อาจจะ คุณนายวิกเซ่นที่อยู่อีกมุมหนึ่งยังไม่ค่อยแน่ใจ ถึงกลิ่นที่ฉันติดตามมาตั้งแต่ต้น น่าจะ เป็นกลิ่นของนายอำเภอที่ชื่อแฟรงคนนั้นก็ตาม แต่การที่ไม่มีใครที่นี่รู้จักคุณครอส ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณครอสจะไม่ได้อยู่ที่นี่จริง
ในที่สุดทั้งสองก็หันหน้ามาคุยกัน หรืออย่างน้อยก็หันหน้าไปทางคู่สนทนาของตน
ไม่ ยอมรับมาดีกว่าวูฟ เพราะเธอเป็นคนบอกเองว่านั่นเป็นเพียงกลิ่นเดียวที่เธอสงสัย
...กลิ่นประหลาดจากผีดูดเลือดแปลกๆ นั่นรบกวนจนระบบประสาทของฉันปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บางที ถ้าได้เดินไปรอบๆ หมู่บ้านนี้สักรอบก็คงดี นางก้มหน้าลงมองพื้น เซพ ที่เธอพูดก็ถูก คุณครอสคงไม่ได้อยู่แถวๆ นี้แน่
แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปดี
ที่พวกเราต้องถูกขังเป็นเพราะความเข้าใจผิดกันเท่านั้นครับ ทอยเสี่ยงเข้าร่วมวงสนทนาหลังจากที่นั่งเงียบมาโดยตลอด อีกไม่นานทุกคนก็จะรู้ว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับโจรสี่สิบอะไรนั่น
แต่มันช้าเกินไป เธอว่า และนางก็พยักหน้าเห็นด้วย ทั้งคู่หันไปสบตากัน ดูเหมือนครั้งนี้พายุคงสงบลงอย่างแท้จริง 'หรืออย่างน้อยก็ชั่วคราว' เมื่อเขานึกทบทวนถึงท่าทีที่ทั้งคู่มีต่อกันมาตั้งแต่ต้น
ถ้าอย่างนั้น เราก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เธอพูดพร้อมกับจ้องมาที่นาง ซึ่งพยักหน้ายอมรับในที่สุด แล้วนางก็เริ่มก้มมองไปรอบๆ คล้ายกับกำลังมองหาอะไรบางอย่างซึ่งเขาไม่กล้าถามว่ามันคืออะไร
อันนี้น่าจะพอใช้ได้ นางก้มหยิบเศษหินเล็กๆ ก้อนหนึ่งขึ้นมา หินสีขาวที่ดูธรรมดาอย่างที่สุด โยนมันขึ้นลงในมือเล่นอย่างคล่องแคล่วก่อนเดินตรงไปที่กำแพงกว้างที่อยู่ด้านตรงข้ามกับบานประตูเหล็ก อย่างน้อยเมื่อมาอยู่ในโลกความฝันแล้วฉันก็ไม่ต้องพึ่งไม้ขีดไฟนั่นอีก ก่อนที่นางจะเริ่มลงมือทำอะไรบางอย่างซึ่งเขาเข้าใจได้ในทันที
'ได้เวลาต้องไปแล้ว'
นางใช้ก่อนหินสีขาวนั้นขีดเขียนไปบนกำแพงหิน เป็นตัวเลขที่ตอนนี้เขาคิดว่าตนเองคงสามารถจดจำพวกมันพร้อมกับความหมายไปได้อีกนานแสนนาน '299,792,458' เมตรต่อวินาที ความเร็วอันคงที่ของสิ่งที่รวดเร็วที่สุดในทุกทุกโลกแห่งความเป็นจริง ความเร็วแสง
แสงสว่างที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยภายในห้องขังยิ่งมืดสลัวลงราวกับถูกตัวเลขสีขาวเหล่านั้นดูดกลืนเข้าไป
เขาเกิดคำถามบางอย่างขึ้นภายในใจและอดไม่ได้ที่จะต้องถามออกไปในตอนนี้ เอ่อ หมู่บ้านแห่งนี้ คนพวกนี้ ที่จริงแล้วเราเดินทางย้อนกลับมาในอดีตหรือเปล่าครับ
นางไม่ได้หันกลับมา ความตั้งใจทั้งหมดยังคงถูกถ่ายทอดไปที่ตัวเลขเหล่านั้น ไม่ใช่ เรากำลังอยู่ในโลกของความฝัน ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคตอะไรทั้งนั้น แต่มีความรู้สึกบางอย่าง ความลังเลเจืออยู่ในคำตอบของนาง
ตัวเลขสีขาวเหล่านั้นราวกับค่อยๆ ยุบเข้าไปในกำแพงหินเพราะแรงดึงดูดมหาศาลในตัวของพวกมันเอง ทั้งหมดค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากัน หลอมรวมจนกลายเป็นเพียงจุดสีขาว ขยายตัวออก หรือไม่ก็ดึงดูดพวกเขาเข้าไปใกล้จนรู้สึกว่าจุดสีขาวนั้นใหญ่ขึ้นทั้งๆ ที่มันยังคงมีขนาดเท่าเดิม ร่างของพวกเขาราวกับถูกยืด บิด หมุน เข้าสู่จุดที่ตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าเป็นสีขาวสว่างเจิดจ้า หรือว่าเป็นสีดำมืดอันไร้สิ้นสุดกันแน่
แล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่งราวกับไม่เคยเกิดอะไรขึ้น แต่ตัวเลขสีขาวบนกำแพงหินเหล่านั้นได้เลือนหายไปจนหมดสิ้น และพวกเขาทั้งหมดยังคงอยู่ในที่เดิมไม่ได้เคลื่อนย้ายไปไหนทั้งนั้น
เกิดอะไรขึ้น สโนวเอ่ยถามเป็นคนแรก
...ฉันไม่...แน่ใจ เซพ นางตอบในขณะที่ยังคงจ้องมองกำแพงหินที่ตอนนี้ว่างเปล่า ก้อนหินเล็กๆ สีขาวยังอยู่ในมือที่กำจนแน่น
เธอจำเป็นต้องรู้ วูฟ เธอเป็นคนเดียวที่จะไม่รู้ไม่ได้
...ฉัน...เคยได้ยินใครบางคนพูดเอาไว้ ใครบางคนที่ถูกพูดถึงนี้ ฟังดูเหมือนจะทั้งใกล้ชิด และห่างไกลนางในเวลาเดียวกัน ในบางเรื่องราว กับใครบางคน มันจะเกิดเป็นแรงดึงดูดที่มากมายมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ จนใครคนนั้นไม่อาจทอดทิ้ง หรือหันหลังวิ่งหนีจากไป มันจะดึงดูดพวกเขาเอาไว้ด้วยแรงอันมหาศาล จนแม้แต่แสงที่มีความเร็วสูงที่สุดก็ยังไม่อาจหลุดรอดจากหลุมมืดนี้ไปได้
เธอหมายความว่า...
ด้วยเหตุผลบางอย่าง โลกแห่งความฝันนี้ได้กลายมาเป็นหลุมดำของพวกเราไปแล้ว และถ้าเรายังไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด เราก็จะไม่อาจไปจากโลกความฝันนี้ได้...เขาบอกไว้อย่างนั้น และฉันไม่เคยเชื่อ เขาเอาแต่นั่งแต่งนิยายเพ้อผันพวกนั้นไม่หยุดหย่อน และฉันคิดว่ามันก็เป็นแค่ความบ้าอีกเรื่องหนึ่งที่เขาแต่งขึ้นมาเท่านั้น ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
'คุณนาย' เขาเคยสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่ยังดูสาวอย่างนางจึงใช้คำนำหน้าตนเองเช่นนี้ บางที 'เขา' ที่นางกำลังพูดถึงคงเป็นเหตุผลที่ว่า ฟังดูเหมือนเขาคนนี้อาจมีอาชีพเป็นนักเขียน 'ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์หมาป่าเช่นเดียวกับเธอด้วยหรือไม่' ซึ่งเขาคิดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูง
บ้าจริง หมายความว่าเราจะต้องติดอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ เธอแสดงความไม่พอใจอย่างมาก วูฟ ลองดูอีกครั้งได้ไหม
'มันก็จะได้ผลเหมือนเดิม' แต่สีหน้าท่าทางของเธอทำให้นางไม่ตอบออกไปอย่างนั้น นางลงมือเขียนตัวเลขลงบนกำแพงหินอีกครั้ง เหตุการณ์ประหลาดเช่นเดิมก็เกิดขึ้น และทั้งหมดยังคงติดอยู่ภายในห้องขังเช่นเดิม นางทิ้งก้อนหินในมือลงสู่พื้นเป็นเครื่องหมายของการยอมแพ้
บ้า บ้า บ้า บ้า บ้า สโนวกำสองมือแน่นพร้อมกับร้องตะโกนออกมา
เสียงเคาะโลหะดังติดกันถี่ๆ แข่งกับเสียงของเธอ อีหนู เงียบหน่อย ข้าไม่มีสมาธิจะทำงานแล้ว เสียงไม่พอใจของเฒ่าเฮฟดังลอดเข้ามาในห้องขัง เธอหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าออกลึกยาวสองสามครั้ง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงที่กลับมาอยู่ในความควบคุมอีกครั้ง แล้วเราต้องทำอย่างไร
เอ่อ... นางคิดว่าต้องตอบอะไรบางอย่างออกไป ถึงแม้ว่าตนเองจะไม่ค่อยแน่ใจก็ตาม มันต้องมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นที่นี่ และ และเราต้อง เราต้องทำอะไรบางอย่างกับมัน ที่นี่ต้องเป็นโลกความฝันของใครบางคนที่ ที่อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคุณครอสด้วย
ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยแน่ใจนะ
ใช่ ฉันไม่แน่ใจ นางยอมรับ ฉันไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้น เหมือนที่เขาเคยบอกว่ามันเป็นเพราะแรงดึงดูดมหาศาลที่เกิดขึ้นจาก เรื่องราว ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์ถูกคลี่คลาย แรงดึงดูดของมันก็จะสลายไปด้วยเช่นกัน พอพูดถึงตรงนี้นางก็ดูเหมือนจะมีความมั่นใจกลับคืนมาอีกครั้ง
แต่เราก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่ว่านี้มันเป็นเรื่องอะไร
ผมว่าผมพอจะรู้ครับ เขาเสี่ยงพูดขึ้นอีกครั้ง ถ้าเป็นเหตุการณ์สำคัญในตอนนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องโจรสี่สิบที่กำลังจะเข้าปล้นหมู่บ้านพวกนั้น
แล้วคุณคิดว่าเราควรทำอย่างไร เธอถามอย่างสนใจ
เราก็ต้องช่วยชาวบ้าน ช่วยนายอำเภอแฟรงสู้กับพวกโจรสิครับ เขาตอบอย่างมั่นใจ
แล้วคุณจะแน่ใจได้อย่างไร เธอถาม ว่ามันจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น
มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ เขาเถียงด้วยความประหลาดใจ และโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวว่ามันเจือปนไปด้วยความโกรธ
ความดีย่อมมีชัยเหนือความชั่วร้ายทั้งมวลสินะ เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มเศร้า และด้วยเหตุผลบางประการทำให้คุณนายวิกเซ่นหันมองไปทางอื่น ไม่ มันไม่มีอะไรแบบนั้น ฉันคิดว่านัก...ฉันหมายถึงอดีตมือสังหารอย่างคุณน่าจะเข้าใจ ทุกสิ่งเพียงแค่เกิดขึ้น ก็เท่านั้น
สิ่งดีดีเกิดขึ้นได้ สิ่งชั่วร้ายเองก็เช่นกัน เธอพูดออกมาอย่างชัดเจน ราวกับมันเป็นความจริงแท้ที่ไม่อาจแปรเปลี่ยน สิ่งที่เธอเรียนรู้ สิ่งที่เธอพบเจอมาด้วยตัวเอง มันไม่มีการต่อสู้อะไรทั้งนั้น นอกจากภายในนี้ เธอชี้ไปที่ศีรษะของตนเอง กับในนี้ ซึ่งเธอจิ้มนิ้วเรียวสวยนั้นมาที่หน้าอกด้านซ้ายของเขา เขาได้แต่เงียบ ไม่รู้ว่าจะตอบโต้คำพูดนี้ของเธออย่างไร
แต่คุณอาจจะพูดถูกก็ได้ ว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่โจรจะเข้าปล้นหมู่บ้าน พวกเราอาจต้องทำอะไรบางอย่าง ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไป
แต่มันจะเสียเวลามากเกินไปหรือเปล่า เธอหันไปถามนาง ฉันไม่ค่อยแน่ใจเรื่องของเวลาในโลกความฝันแบบนี้
เมื่อความฝันจบลง มันก็จะยังคงเป็นค่ำคืนเดิม หรือไม่ก็แค่ยามเช้าเท่านั้น ไม่ว่าฝันนั้นจะสั้นหรือยาวก็ตาม แต่ลึกๆ ลงไปแล้ว นางเองก็ไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันว่าความฝันครั้งนี้ก็จะยังคงเป็นเช่นนั้น
เสียงการทำงานของเฒ่าเฮฟนั้นเงียบหายไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่มีใครรู้ตัว เฮ้ พวกเอ็งหิวกันหรือยัง เฒ่าเฮฟร้องถาม หลานข้าเอาของกินมาให้ ถ้าพวกเอ็งสัญญาว่าจะไม่หนีไปไหน ก็ออกมากินด้วยกันข้างนอกนี่
ทั้งสามหันมองหน้ากันกับข้อเสนอที่ไม่คาดคิด ก่อนที่สโนวซึ่งคิดว่าตนเองทำหน้าที่เป็นผู้นำกลุ่มจะตอบออกไป ได้ค่ะ เราสัญญา
ดี เสียงกลอนถูกขยับ ประตูเหล็กถูกผลักเปิดออก ออกมา เฒ่าเฮฟเดินลากขาพาทั้งหมดไปที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่ นั่งสิ
บนโต๊ะมีอาหารที่ถูกปรุงขึ้นอย่างง่ายๆ จากเนื้อ ปลา และผัก ส่วนใหญ่ใส่อยู่ในภาชนะที่ทำจากไม้ แต่ก็มีหม้อโลหะรูปร่างแปลกๆ กับสิ่งที่คล้ายบรรพบุรุษของ ช้อน ส้อม มีดที่ใช้ในการรับประทานอาหารวางอยู่ กับเด็กหญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าคุ้นเคยพร้อมรอยยิ้มกว้างให้ทุกคน
ใครใครก็เรียกข้าว่า เฒ่าเฮฟ ส่วนนี่ก็ เกรเทล หลานข้า หรือจะเรียกว่าเกรทก็ได้
สวัสดีจ๊ะ เกรทโบกมือน้อยๆ ทักทายทุกคน เธอก็คือเด็กหญิงที่คุณนายวิกเซ่นช่วยไว้จากผีดูดเลือดนั่นเอง
ฉันชื่อสโนว นี่...วิกเซ่น เธอตัดสินใจที่จะตัดคำนำหน้าว่าคุณนายนั้นออก ส่วนนี่ก็ ทอย
ข้ายังมีหลานอีกคน ที่พวกเจ้าก็ได้พบไปแล้วเช่นกัน แต่มันไม่ยอมมา มันมีชื่อว่าฮันเซล หรือเรียกว่าฮาน เฒ่าเฮฟนำทั้งหมดนั่งลงที่โต๊ะ
ฮันเซลกับเกรเทล สองพี่น้องที่ออกไปเดินเล่นที่ชายป่าด้วยกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่มันทำให้ทอยหวนนึกถึงคุณยายชุดดำท่าทางแปลกๆ เจ้าของร้านอาหารที่ประดับเต็มไปด้วยขนมในซอง กับเตาอบขนาดใหญ่พิเศษ ที่เขาแวะกินพิซซ่ากับปู่แจ็ค 'ซึ่งราวกับได้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อนานแสนนานมาแล้ว'
ฮานมันก็เป็นเด็กดี พวกเจ้าคงไม่ถือโทษอะไรเด็กใช่ไหม เฒ่าเฮฟถามก่อนตักอาหารคำโตเข้าปาก
...พวกคุณมั่นใจแล้วใช่ไหมว่าเราไม่ใช่พวกโจรสี่สิบอะไรนั่น สโนวเอ่ยถามเมื่อพิจารณาจากการกระทำและคำพูดของเฒ่าเฮฟ
ช่าย เฒ่าเฮฟยอมรับก่อนกลืนอาหารลงไป เห็นว่าเจอเจ้าโจรสองตัวนั่นแล้ว...หรืออย่างน้อยก็เป็นส่วนที่เหลือของพวกมัน
หมายความว่าอย่างไร คุณนายวิกเซ่นถามอย่างสนใจ ก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หรือพวกมันจะถูกผีดูดเลือดจัดการไปแล้ว
ผี ดูด เลือด เฒ่าเฮฟลองพูดตามช้าๆ ก็อาจเป็นได้ เจ้าจะบอกว่าศพเดินได้แปลกๆ พวกนั้นดูดกินเลือดมนุษย์เป็นอาหารอย่างนั้นใช่ไหม ข้าก็พึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก แต่ก็ตรงกับสภาพของพวกมันพอดี
ถ้าอย่างนั้นจะปล่อยตัวพวกเราเลยหรือเปล่าคะ สโนวถาม เพราะหากความจริงกระจ่างแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกักขังพวกเธอต่อไปอีก
ปู่กับหลานทั้งสองหันไปมองหน้ากัน และทั้งหมดรู้ได้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
พวกเจ้าคงต้องอยู่ในนี้ไปอีกสักพัก เฒ่าเฮฟตอบอ้อมแอ้ม แต่คืนนี้เรามีงานฉลองกลางฤดูร้อนกัน บางทีพวกเจ้าอาจได้เข้าร่วมด้วย มันเป็นงานที่สนุก พวกเจ้าจะต้องชอบ
ทันใดนั้นก็มีเสียงเอะอะดังใกล้เข้ามาทางประตูด้านหน้า เฒ่าเฮฟทำท่าบอกให้ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะ ส่วนตนเองนั้นเดินลากขาไปที่ประตูซึ่งมีช่องมองให้เลื่อนเปิดออกดูได้ เขามองออกไป ก่อนหันกลับมามองที่โต๊ะ ในแววตานั้นมีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะเปิดประตูออก
มีอะไรทอม แล้วทำไมเจ้านั่นถึงได้ถูกมัดแบบนี้
อย่าปากมากเลยเฒ่าเฮฟ ฝากขังเจ้านี่ไว้อีกคน แล้วเราคงไม่ต้องรบกวนอะไรอีก ร่างของชายคนหนึ่งที่ถูกมัดอย่างแน่นหนาถูกโยนผ่านประตูเข้ามา อย่าแก้มัดมันเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นทั้งแก ลูกสาว กับหลานๆ ได้เดือดร้อนหนักแน่
แก... เฒ่าเฮฟอ้าปากค้างพูดได้เพียงแค่นั้น
จำไว้ให้ดี ทำตามที่สั่งแล้วทุกอย่างจะดีเอง ประตูถูกดึงปิดด้วยเสียงดัง ข้างนอกนั้นมีเสียงหัวเราะ ก่อนที่กลุ่มคนทั้งหมดจะพากันเคลื่อนย้ายจากไป ทิ้งไว้เพียงร่างของนายอำเภอแฟรงที่ถูกจับมัดราวกับเป็นลูกวัวตัวหนึ่ง
Create Date : 25 พฤษภาคม 2557 |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2557 14:35:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 669 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|