19 .. 7 วิธีตายอย่างสบายใจ #2
7 วิธีตายอย่างสบายใจ #2
อักษรแห่งความเย็น พาสู่ความเห็นอันเป็นกลาง เมื่อรู้จักว่างแล้วคิด เรียกว่า คิดจากความว่าง
เนื่องจากสาระ 7 วิธีตายอย่างสบายใจ ค่อนข้างจะยาว ป้าจึงขอแบ่งย่อยเป็น 3 ตอน ค่ะ
ท่านใดมีเวลาน้อย จะดูแค่ผาดๆผ่านๆเฉพาะหัวข้อ
ก็ไม่ว่ากันค่ะ
บล๊อกนี้ เป็นตอนที่ 2 ............. สำหรับ 7 วิธีตายอย่างสบายใจ #1 กรุณา กดที่นี่ค่ะ
3. ยอมรับความจริง
ความจริงเป็นสิ่งที่น่ายอมรับที่สุด เพราะอย่างไรมันก็ต้องเป็นของมันอยู่อย่างนั้น... แต่สิ่งที่น่ายอมรับที่สุดนั่นแหละ ที่มนุษย์มักปฏิเสธยิ่งกว่าอะไรอื่น ราวกับจิตใจห่อหุ้มไปด้วยเมฆหมอกแห่งการหลอกตัวเองหนาทึบ
เคยได้ยินไหมว่า คนใกล้ตายไม่โกหก? รู้ไหมเพราะอะไร?
เพราะจิตของคนใกล้ตายเห็นสัจธรรมบางอย่าง นั่นคือชีวิตทั้งหมดเป็นการโกหกอยู่แล้ว พวกเราถูกหลอกว่ามี พวกเราถูกหลอกว่าเป็น ทั้งที่ไม่เคยมีและไม่เคยเป็นอะไรสักอย่าง วันแห่งความตาย คือ วันแห่งการเปิดเผยความจริง ทุกสิ่งจะหลุดจากกำมือของเราไป ประโยชน์อะไรกับการพยายามพูดโกหก ปั้นเรื่องเท็จซ้อนเข้าไปในเรื่องเท็จอีก
จะเริ่มฝึกยอมรับอะไรก็ได้... ตั้งต้นจากคนที่เข้ามาหาคุณในช่วงท้ายๆ ลองเริ่มคิดถึงสิ่งที่คุณหลอกเขาไว้ หรือสิ่งที่คุณยังกำเป็นความลับที่ทำให้เขาเสียประโยชน์ แล้วพูดความจริงให้เขาฟัง คำจริงที่หลุดจากปากคุณแต่ละครั้ง คือการสลายม่านหมอกแห่งความลวง ออกทีละน้อย ทั้งจากใจเขาและจากใจคุณเอง
ยิ่งยอมรับผิดมากขึ้นเท่าไร ใจคุณจะยิ่งเห็นความจริงปรากฏชัดขึ้นเท่านั้น และความจริงอันสำคัญที่ควรรู้ ก็คือ ทุกสิ่งต้องปรวนแปรไป
ความจริงที่ว่ามนุษย์ทุกคนต้องตาย หากคุณไม่เคยยอมรับความจริงเหล่านั้นได้ ก็จะพบว่าง่ายขึ้น หลังจากทยอยพูดความจริงออกไปเรื่อยๆ กระทั่งเกิดพลังสัจจะ ย้อนกลับมาช่วยเป็นแสงสว่างให้คุณเห็นทุกสิ่งกระจ่างขึ้น
การยอมรับความจริง ย่อมทำให้ใจคุณสบายกว่าตอนไม่ยอมรับ ...ความจริงไม่เคยน่าหวาดกลัว สำหรับนักยอมรับความจริง เป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าก่อนคุณเกิด หรือหลังคุณตาย
ระหว่างมีชีวิต คุณเคยทำให้ความจริงบิดเบี้ยวไปเพียงใด ก็ขอให้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายดัดมันให้กลับตรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เถิด ผลจะเกิดเป็นจิตที่สบายของคุณเอง
4. เผื่อใจให้กับการมีอยู่ของปรโลก
การอยู่กับฉากต้นๆ และฉากกลางๆของละครชีวิต จะไม่ช่วยให้คุณนึกถึงละครเรื่องใหม่ ต่อเมื่อคุณอยู่กับฉากท้ายๆใกล้จบนั่นแหละ ความรู้สึกเกี่ยวกับการเล่นและการชมละครเรื่องใหม่ จึงค่อยๆผุดชัดในใจคุณ แม้ยังไม่อาจคาดเดาว่าเรื่องใหม่จะเป็นอะไร แต่อย่างน้อยคุณก็เลิกสำคัญเสียทีว่า โรงละครโรงใหญ่แห่งนี้มีแต่เรื่องเดิมได้แค่เรื่องเดียว
ขณะใกล้ตายเป็นช่วงแห่งสังหรณ์ โดยเฉพาะสังหรณ์เกี่ยวกับภพข้างหน้า คุณจะมองเห็นรากของอนาคตที่ปรากฏอยู่ในความรู้สึกอันเป็นปัจจุบัน
ใจที่สงบจะชวนให้คุณนึกถึงแสงสว่าง และสภาพแวดล้อมน่ารื่นรมย์
ใจที่กระสับกระส่ายจะชวนให้คุณนึกถึงม่านมืด และสภาพแวดล้อมชวนขนหัวลุก
ส่วนใจที่ครึ่งๆกลางๆ เดี๋ยวสงบเดี๋ยวกระสับกระส่าย จะไม่ชวนให้คุณมั่นใจนักว่า กำลังจะต้องเผชิญกับอะไรกันแน่
ขณะยังมีชีวิตช่วงต้นและช่วงกลาง ถ้าไม่รู้ ก็ถือว่าไม่ผิด ถ้าไม่คิดถึงโลกหน้า ก็อ้างได้ว่าต้องเอาเวลาไปทำประโยชน์อย่างอื่น.... แต่สำหรับช่วงท้ายๆ การไม่คิด ถือว่าประมาท เวลาที่เหลือเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้มากกว่าทบทวนหรือเตรียมตัวเผชิญอนาคตเสียให้ดี หากไม่รู้อะไรเสียเลย ก็อาจถือได้ว่าเป็นความผิดใหญ่หลวง
เว้นไว้แต่พวกมิจฉาทิฏฐิ ที่วันๆเอาแต่ตะล่อมบอกให้ใครต่อใครเชื่อว่า เกิดหนเดียวตายหนเดียว ยามใกล้ตายคนทั่วไปไม่มีใครกล้าอวดดื้อถือดี สั่งให้ตนเองเชื่อว่าตายแล้วตายเลย ทุกคนจะหมดความทะนง หลงมั่นใจในความเชื่อของตัวเองไปพร้อมกับเรี่ยวแรงที่ถดถอย ในเมื่อร่างกายที่เคยบัญชาให้เคลื่อนไหวตามใจนึกได้ ก็กลายเป็นบัญชาไม่ได้อีกต่อไป สำหาอะไรกับจิตวิญญาณกับกรรมเก่าที่เหมือนเงาตามกันอยู่ ใครเล่าจะควบคุมให้มันหยุดตามกันได้?
ความเชื่อเรื่องตายแล้วสูญ นับเป็นศรัทธามืดอันเกิดจากความไม่รู้จริง ไม่เคยตายจริง ผู้มีศรัทธามืด ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปิดใจ การปิดใจจะทำให้รู้สึกคับแคบ ไม่อาจสบาย และไม่อาจหายสงสัยว่า เรื่องจริงหลังความตายคือการยุติ หรือว่า คือการเริ่มละครเรื่องใหม่กันแน่
การเผื่อใจ นับเป็นการลดแรงต้านลงได้มาก การลดแรงต้านลง ก็คือ การไม่ต้องออกกำลังต่อสู้กับความไม่รู้ มันช่วยผ่อนคลายจิตใจให้สบายขึ้นได้จริง อย่างน้อยก็เลิกเถียงกับตัวเองเกี่ยวกับการมีหรือไม่มีชีวิตหลังความตาย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ให้คุณเห็นในไม่ช้า ความเชื่อที่ขัดกับความจริงจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยไม่มีใครนำไปใช้ต่อสู้กับสัจธรรมได้เลย
5. อภัยโลก
โลกนี้โกลาหลด้วยการกระทบกระทั่ง และในเมื่อทุกคนอาศัยอยู่ในโลก จึงต้องถูกโลกกระทบกระทั่งเป็นธรรมดา ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แล้วโลกก็เต็มไปด้วยไอร้อนของควันไฟอันเกิดจากใจแค้นเคือง ไม่ค่อยมีที่ไหนฉ่ำเย็นด้วยกระแสน้ำแห่งการให้อภัยเท่าใดนัก
ปกติคนใกล้ตายจะไม่นึกอยากเอาเรื่องเอาราวกับใครอีก เพราะในไม่ช้าก็จะต้องอยู่คนละโลกกันแล้ว เหมือนเอื้อมมาแตะต้องกันไม่ได้อีกแล้ว การตายของคนๆหนึ่ง คือ การปิดเกมแห่งการเบียดเบียน เหมือนนักมวยที่แขวนนวม เลิกใช้ชื่อเดิมขึ้นเวทีอย่างเด็ดขาดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความพยาบาทอาฆาต อาจทำให้เรื่องปกติผิดปกติไป หลายคนยังผูกใจเจ็บ ยังนึกไปในทางเคียดแค้นอยากเอาคืน เสียดายไม่อยากตายตอนนี้ ยังไม่ทันได้เอาคืน หรือกระทั่งคิดเลยเถิดถึงขั้นประกาศศักดาชัดว่า คอยดู เดี๋ยวกูเป็นผี ก็จะมาเอามึงคืนอยู่ดี!
ก่อนกายนี้สิ้นลม เรารู้ว่าวิญญาณอาฆาตมีจริงด้วยความคิดฝังใจไม่อภัยศัตรู สิ่งที่ไม่รู้ก็คือ หลังกายนี้สิ้นลม วิญญาณอาฆาตนั้นยังมีจริงต่อไปไหม นี่แหละ! คนเราทนทุกข์ทนร้อนด้วยไฟโกรธ ขณะมีชีวิตไม่พอ แม้ธรรมชาติให้โอกาสจบทุกข์จบร้อนด้วยความตาย ก็ยังอุตส่าห์อยากเติมเชื้อไฟต่อเข้าไปอีก
สิ่งเดียวที่ประกันความรู้ได้แน่นอน ก็คือระหว่างยังไม่ตายนี้ คุณสามารถดับวิญญาณอาฆาตลงได้ ด้วยความคิดให้อภัย และเมื่อเชื้อแห่งทุกข์ร้อนดับลงแล้ว หลังตายก็ไม่น่าหลงเหลือวิญญาณอาฆาตอยู่ ณ ที่ใดอีก
ค่อยๆนึกถึงใครก็ได้ที่คุณผูกใจเจ็บอยู่ และที่ผ่านมาไม่เคยนึกอยากให้อภัย แม้ว่าเขาหรือเธอจะเป็นอดีตที่ฝังลืมไปแล้ว ปัจจุบันคุณไม่นึกถึงอีกแล้ว ก็ขอให้ขุดเขาและเธอขึ้นมาระลึกถึง นึกให้ออกทีละคน หากโทร.ได้ทัน ก็โทร.ไปขออภัย ขออโหสิต่อกันยิ่งดี
คุณจะพบว่า ทุกคนประกอบขึ้นเป็นโลกในใจคุณ ยิ่งคิดอโหสิได้มากคน ขึ้นเท่าไร คุณจะยิ่งทิ้งร่างนี้ไปด้วยใจอภัยโลกเต็มดวงขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่คุณจะรับรู้ก่อนตาย ก็คือใจที่สบายหายห่วง
แต่ละครั้งที่คุณพูดกับปาก หรือเพียงนึกด้วยใจบริสุทธิ์แท้จริง ว่าเลิกแล้วต่อกันนะ ไม่มีภัยเวร ไม่มีเส้นสายมืดดำโยงใยระหว่างใจกันอีกแล้วนะ คุณจะชื่นมื่น เห็นความเป็นโมฆะแห่งภัยเวรมากขึ้นเรื่อยๆ จนสว่างจ้าออกมาจากกลางใจชัดเจนทีเดียว
==============จบตอน2 =============
และป้ามี ซีดี MP3 เรื่อง ณ มรณา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับ การเตรียมตัวตายก่อนตาย
..
หากท่านใดสนใจจะรับไปฟัง โปรดแจ้งที่อยู่ทางหลังไมค์นะคะ ป้าพร้อมจะแบ่งปัน
ร่มไม้เย็น ค่ะ
Create Date : 22 ตุลาคม 2551 |
|
63 comments |
Last Update : 20 เมษายน 2556 21:36:40 น. |
Counter : 3543 Pageviews. |
|
|
|
แล้วดูรูปสวยๆไปด้วย ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันค่ะ