“ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนน้ำ หรือบินอยู่บนอากาศ แต่ปาฏิหาริย์คือการเดินอยู่บนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว”

ติช นัท ฮันท์
391 .. น้อมถวายความอาลัยแด่ “สมเด็จพระสังฆราช”












น้อมถวายอภิสัมมานสักการะ สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ด้วยเศียรเกล้า





























สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระนามเดิมว่า เจริญ คชวัตร ประสูติเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2456 เป็นบุตรคนโตของ นายน้อย คชวัตร และนางกิมน้อย คชวัตร ชาวกาญจนบุรี พระองค์มีน้องชาย 2 คน ได้แก่ นายจำเนียร คชวัตร และนายสมุทร คชวัตร บิดาของพระองค์ป่วยเป็นโรคเนื้องอกและเสียชีวิตไปตั้งแต่พระองค์ยังเล็ก หลังจากนั้น พระองค์ได้มาอยู่ในความดูแลของป้าเฮง ซึ่งเป็นพี่สาวของนางกิมน้อยที่ได้ขอพระองค์มาเลี้ยงดู




เมื่อพระองค์ยังทรงพระเยาว์นั้นทรงเจ็บป่วยออดแอดอยู่เสมอ จึงได้ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อแก้บนในปี พ.ศ. 2469 ขณะมีพระชันษาได้ 14 ปี ที่วัดเทวสังฆาราม โดยมีพระเทพมงคลรังษี (ดี พุทธฺโชติ) เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆารามเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูนิวิฐสมาจาร (เหรียญ สุวณฺณโชติ) เจ้าอาวาสสวัดศรีอุปลาราม เป็นพระอาจารย์ให้สรณะและศีล











พระอุปัชฌาย์ได้พาพระองค์ไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร และนำพระองค์ขึ้นเฝ้าถวายตัวต่อสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร (ต่อมา คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์) เพื่ออยู่ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์ทรงได้รับประทานนามฉายาจากสมเด็จพระสังฆราชว่า “สุวฑฺฒโน” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้เจริญดี” จนกระทั่ง พระชันษาครบอุปสมบท จึงทรงเดินทางกลับไปอุปสมบทที่วัดเทวสังฆาราม เมื่อ พ.ศ. 2476 ภายหลังจึงได้เดินทางเข้ามาจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เพื่อทรงศึกษาพระธรรมวินัย และที่วัดบวรนิเวศวิหารนี่เอง พระองค์ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทซ้ำเป็นธรรมยุติกนิกาย โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์




พระองค์ทรงสอบได้นักธรรมชั้นตรีเมื่อ พ.ศ. 2472

สอบนักธรรมชั้นโทและเปรียญธรรม 3 ประโยค ได้ในปี พ.ศ. 2473

สอบนักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม 4 ประโยคได้ ในปี พ.ศ. 2475

สอบเปรียญธรรม 9 ได้ในปี พ.ศ. 2484




ในปี พ.ศ. 2531 ได้รับการ สถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 ในราชทินนามเดิม คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


















เทิดพระเกียรติพระสังฆราช ผ่านบทเพลง "สังฆราชบูชา"

วัดบวรนิเวศวิหาร เปิดโครงการส่งเสริมปฏิบัติธรรม ร่วมฉลองพระชันษา 100ปี สมเด็จพระสังฆราช พร้อมแต่งเพลง “สังฆราชบูชา " ขับร้องโดยปาน ธนพร เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ ส่วนงานฉลองคล้ายวันประสูติ จัดยิ่งใหญ่ ในวันที่ 1-7 ตุลาคม ที่วัดบวรนิเวศวิหาร





เพลงสังฆราชบูชา ความยาว 4.07 นาที




คำร้อง : ฐิตวํโสภิกขุ ปทุมวนาราม
ทำนอง : รัชต์พงษ์ สมศรี (ภู ศิษย์มาวิตต์)
เรียบเรียง : เจษฎา สุขทรามร
ศิลปิน : ธนพร แวกประยูร
วิดีโอ : Bua Loy









เพลงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช ความยาว 4.28 นาที




เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชันษา ๑๐๐ ปี ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖
ขับร้องโดย ปาน ธนพร แวกประยูร
คำร้อง ทำนอง เรียบเรียง โดย อ๋อ...ณธนา หลงบางพลี
วิดีโอ : สายลมอิสระ









เพลงชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก ความยาว 5.04 นาที




คีตธรรมแห่งการไว้อาลัยและน้อมส่งเสด็จสู่พระนฤพาน
ในการสิ้นพระชนม์ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก



คำร้อง : ฐิตวํโสภิกขุ วัดปทุมวนาราม
ทำนอง : ปทุมมามหาสิกขาลัย
เรียบเรียง : เจษฎา สุขทรามร
ศิลปิน : ธนพร แวกประยูร
วิศวกรอัดเสียง : วงศ์วริศ อริยวัฒน์
ผู้กำกับจิตมิวสิกวีดีโออาสา : ภัทธิ บัณฑุวนิช
ศิลปินอาสา : ปุษยา เศรษฐเสถียร / ณิชารีย์ ลีลาทิพย์กุล / รภัท บัณฑุวนิช
วิดีโอ : Bua Loy








เพลง ชีวิตนี้น้อยนัก แต่สำคัญนัก


เหมือนจันทร์เพ็ญที่เคยส่องเย็นได้ลาจากฟ้า
เปลี่ยนผัน สายธารเวลาให้ชีวาได้มองได้เห็น
สัจธรรมคือความเข้าใจในสิ่งที่เป็น
ใดใดไม่มีว่างเว้น ล้วนเป็นเพียงอนิจจัง

.......


ดูน้ำค้าง เพียงโดนแดดจางก็พลันสลาย
ชีวิตบอบบางมากมาย เพียงจำไว้ทุกวันสำคัญ
ดีหรือร้าย กระทำอย่างไร ก็เป็นเช่นนั้น
รำลึกถ้อยร้อยรำพัน สังฆบิดา จารึกในใจ

.......


"สิ้นทุกข์สุขที่แท้จึงได้พบพาน สู่ทางธรรมบันดาลในชาติสุดท้าย
ส่งฟ้าสู่ดินแดนที่หมดผองภัย สถิตไว้ในแดนธรรมพระนฤพาน



(สถิตไว้เพียงความดีชั่วนิจนิรันดร์ / สถิตไว้ในรอยธรรม พระญาณสังวร)















“พระรูปฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”


เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๘

ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส

ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เมื่อครั้งทรงดำรงสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะ ในพระราชทินนามที่ สมเด็จพระญาณสังวร

(มีความหมายว่า ผู้สำรวมในญาณคือความรู้ หรือผู้มีความสำรวมในความรู้อย่างยิ่ง)

ณ สำนักสงฆ์ทักษิณราชนิเวศน์ จ.นราธิวาส

ระหว่างที่มีพระราชปฏิสันถารกับเจ้าประคุณสมเด็จฯ อยู่นั้น

ทรงเห็นว่ากุฏิที่ท่านอยู่เป็นสถานที่ให้ความหมายอธิบายเรื่องราว แสดงอารมณ์ของภาพได้อย่างดี

จึงทรงบันทึกพระรูปไว้










วลีทอง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ความยาว 3.00 นาที




วิดีโอ : Anil Sakya



ความโลภ โกรธ หลง คือความเร่าร้อนมืดมิด
ที่ห่อหุ้มจิตเหมือนกำแพงหนาทึบ
ที่ปิดกั้นแสงสว่างมิให้ปรากฏจิตทุกดวง
ดวงจิตของเราทุกคนนี้แหละมีความบริสุทธิ์
ประภัสสรสว่างไสวที่สุดอยู่แล้ว
ตลอดเวลา น่าเสียดายที่พากันสร้าง
กำแพงปิดกั้นเสียจนมืดมิด ด้วยการใช้
ความคิดปรุงแต่งอันเป็นอุปกิเลส





ใจของเราทุกคนนี้สำคัญนัก
สติก็สำคัญนัก ปัญญาก็สำคัญนัก
เมตตากรุณาก็สำคัญนัก
ทั้งหมดนี้ไม่ควรแยกจากกัน
มีใจก็ต้องให้มีสติ ต้องให้มีปัญญา
ต้องให้มีกรุณา ประคับประคองกันไปให้เสมอ
อย่าให้มีสิ่งอื่นนอกจากสติปัญญา
และเมตตากรุณาเข้ากำกับใจ





ถ้าคนเรามีความอยากจะได้วิชา
ก็ตั้งใจพากเพียรเรียน มีความอยาก
จะได้ทรัพย์ ยศ ก็ตั้งใจเพียรทำงานให้ดี
ตามกำลัง ตามทางที่สมควร ดังนี้แล้วก็ใช้ได้
แปลว่า ปฏิบัติมรรคมีองค์ ๘ ในทางโลก
และก็อยู่ในทางธรรมด้วย





การจะทำใจให้เป็นสุขผ่องใสนั้น
ไม่มีใครจะทำให้ใครได้ เจ้าตัวต้องทำของตัวเอง
วิธีทำก็คือ เมื่อเกิดโลภ โกรธ หลง ขึ้นเมื่อใด
ให้พยายามมีสติรู้ให้เร็วที่สุด และใช้ปัญญา
ยับ ยั้ง เสียให้ทันท่วงที อย่าปล่อยให้ช้า
เพราะจะเหมือนไฟไหม้บ้าน ยิ่งดับช้าก็ยิ่งดับยาก
และเสียหายมากโดยไม่จำเป็น





พระผู้เจริญพร้อม
“ดูก่อนอชิตะ กระแส(ตัณหา) เหล่าใดในโลกมีอยู่
สติย่อมเป็นเครื่องห้ามกระแสเหล่านั้น เราตถาคตกล่าวสติว่า
เป็นเครื่องระวังกระแสทั้งหลาย กระแสเหล่านั้นอันบุคคล
ย่อมละด้วยปัญญานี้เรียกว่า ญาณสังวร






















































“สังขารานัง ขะยัง กัตวา สันตะคามิง นะมามิหัง”
เกล้ากระหม่อมขอนอบน้อมนมัสการพระองค์ผู้ดับสิ้นสังขารบรรลุธรรมอันสงบระงับ





ขอขอบคุณ

ภาพจาก.......ประมวลพระรูป “สมเด็จพระสังฆราช” เว็บลานธรรมจักร

ข้อมูลจาก .... facebook Bualoyteamwork
https://www.facebook.com/Bualoyteamwork

และเครื่องแต่งบล็อก
จาก ..... บล็อกชมพร /บล็อกญามี่


ธรรมสวัสดี


ร่มไม้เย็นค่ะ




Create Date : 03 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2556 21:07:40 น. 0 comments
Counter : 3485 Pageviews.

ร่มไม้เย็น
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 127 คน [?]







เริ่มเขียน Blog เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2551


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยม เมื่อเวลา 18.15 น.



Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
3 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ร่มไม้เย็น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.