No. 526
ตะพาบ ถวายความอาลัย |
|
หลายสิบปีก่อน ย้ายไปทำงานประจำสาขา จันทบุรี เมืองแห่งฝน |
หยาดฝนจะพรำ ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ น้ำไหลบ่าจากบนเขาสู่เบื้องล่าง ผมนั่งเรือจาก |
ท่าเมืองจันทบุรี มุ่งสู่ อ.มะขาม ท่ามกลางสายฝน บนเรือมีกระสอบน้ำตาล |
กระสอบข้าวกับ อย่างอื่นอยู่เต็ม หยาดฝนตกใส่ระหว่างนั่งเรือ เย็นฉ่ำ เรือแหวกน้ำ |
ขุ่นสีแดงไปอย่างช้า ๆ นานแสนนานกว่าจะถึงจุดหมาย |
|
ในแล้วฤดูแล้งก็ ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ ลัดเลาะไปตามป่ายาง สลับกับสวนผลไม้ |
ใบยางพาราเริ่มร่วง ชาวสวนยางได้แต่มองฟ้า ด้วยความหดหู่
|
ใช่แล้วครับ ถึงคราที่จะต้องให้ ต้นยางพัก ไม่ต้องถูกกกรีดลำต้นให้ยางไหล จนหมดต้น |
รายได้ของชาวสวนและลูกจ้างที่แบ่งครึ่งกัน หดหายไปทีละน้อย |
|
เจ้าของสวนผลไม้ ไม่ต้องตัดหญ้าในสวน เพียงแต่กวาดใบไม้ไม่ให้สุมโคนต้นมากนัก |
ป้องกันไฟอาจจะลุกไหม้ได้ ปล่อยใบสีน้ำตาลคลุมบาง ๆ ป้องกันมิให้น้ำในใต้ต้นผลไม้ |
ระเหยเร็วไป เสียงเครื่องปั้มน้ำดังแต๊ก ๆ ติดต่อกันหลาย ชม. เพื่อปั้มน้ำใส่ท่อ |
สีเทาดำ ดันหูกระต่าย ให้หมุนรดน้ำโคนต้นไม้เป็นบริเวณที่กำหนด |
|
แน่นอนที่สุด ชาวสวนต้องไปหาซื้อน้ำหรือจ้างรถ ไปขนน้ำจากแหล่งอื่นที่มีน้ำขังใส่ |
สระน้ำในสวนไว้ ใช้กับต้นผลไม้ |
ต้องเสียเงินปีละไม่ใช่น้อย เพราะละแวกนั้น ใช้พื้นที่เกษตรมากเกินไป บางแห่งอาจจะ |
ตัดต้นไม้ใหญ่ เพื่อสร้างสวน เมื่อฝนตกมาไม่มีราก ต้น ใบไม้ดูดซึมเก็บไว้ น่ำย่อมจะไหล |
ลงสู่พื้นราบ ลงน้ำจันทบุรี สู่ทะเลที่ท่าแฉลบ หรือไม่ก็ลงสู่ทะเล อ.แหลมสิงห์ |
น่าเสียดายมาก
|
มีคนถามผมว่า ในเมื่อจันทบุรี แล้งมากเช่นนั้น ไปทำสวนผลไม้กันทำไมเลยนำความรู้ |
จากนักการเกษตร ว่า ต้นผลไม้ ชอบฝนตกใส่ ทำให้ต้นไม้ชุ่มชื้น |
น้ำจะละลายปุ๋ยให้รากดูดซึมขึ้นลำต้นใบ ไปปรุงอาหาร เกิดใบลำต้นให้แข็งแรง และออก |
ดอกออกผล แต่ขาดไม่ได้คือ แสงแดดที่แรงกล้า
|
ดินที่แห้งขาด ทำให้ต้นผลไม้รู้สึกว่า ภัยแล้งจะคุกคามทำให้ต้นตายได้ เลยรีบออก |
ดอกออกผล เพื่อจะได้มีผลไม้สืบสกุล |
ต้นไม้เหมือนคน ถ้ามีปุ๋ย มีน้ำสมบูรณ์เกินไป(รดน้ำบ่อย) มักจะไม่ออกลูกถึงมี ก็ออกน้อยเกินไป |
|
เขียนวันนี้ไม่ใช่วิชาการนะครับ เล่าสู่กันฟังว่า จันทบุรีเมืองแห่งผลไม้ |
มีปัญหามากเรื่อง การกักเก็บน้ำมาแต่ โบราณ น้ำป่าไหลท่วมเมือง ไม่มีแหล่งเก็บน้ำ |
|
แต่พวกประชาชนจันทบุรี มีความโชคดีที่เกิดใน
แผ่นดินของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
|
พระองค์ ทราบข่าวความทุกข์ร้อนของ จันทบุรี ทรงมีพระเมตตาให้ |
สำรวจพื้นที่ด้วยวิธีต่าง ๆ มีพระราชดำริ ให้กรมชลประทานสร้างอ่าง |
เก็บน้ำหลายอ่าง ผมขอตัดเรื่องราว อยู่ในช่วงเวลาของท่านผู้อ่านนะครับ |
|
เช่นปี 2521 ให้โปรดสร้าง แก้มลิง 20 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง ฝ่ายน้ำ 22 ฝาย |
ที่บ้านทุ่งโตนด ต.ท่าหลวง อ.มะขาม ชลอน้ำให้ไหลช้าลง
|
ช่วยให้ อ.แหลมสิงห์ มีน้ำได้ใช้นาน
|
สร้างเขื่อนคีรีธาร จุน้ำได้ 76 ล้านลูกบาตเมตร จากลุ่มน้ำ เวฬุ เขาชะอม เขามะกอก
|
สร้างฝายชะลอน้ำอีก 187 ให้ ประชาชน อ.ขลุง ได้ใช้ก่อนที่น้ำจะไป |
ลงสู่ทะเล ที่ตรงเกาะจิก อ.ขลุง
|
28 มิถุนายน 2531 ทรงมีพระราชดำริให้ กรมชลประทาน |
สำรวจ สร้างอ่างเก็บน้ำ คลองศาลพลู ที่ ต.เขาคลองพลู แถว อ.เขาคิชกูฏ |
เสร็จในปี 2537 |
|
ขณะที่ผมอยู่ และเรียนที่เชียงใหม่ ทราบข่าว และภาพที่ในหลวงของผม |
เสด็จไปเชียงใหม่ ไปตามป่าเขา และแน่นอน บนดอยที่หัวโล้น ประมาณปี 2507
|
ได้ใกล้ชิดประชาชน ทั้งบนเขา และ ล่างเขาคือในเมือง พระองค์ท่านมีพระเมตตา |
เห็นว่าชาวเขา ตัดต้นไม้ใหญ่ ให้ราบ แล้วปลูกฝิ่น ขายตามคำชักชวนของ |
คนไม่หวังดี ใช้ชาวไทยภูเขาบางเผ่า เป็นเครื่องมือ |
พระองค์ท่านได้สอบถาม จึงทราบว่า ขายฝิ่น ได้เงิน พอ ๆ กับ ขายลูกท้อ พันธุ์พื้นเมือง |
ลูกเล็ก ๆ ไม่น่าเชื่อ |
ทรงเล็งเห็นว่า ขืนตัดต้นไม้ ดอยหัวโล้น ไม่มีต้นไม้ซึมซับน้ำ น้ำย่อมจะชะล้างดิน ดอย |
ถูกทำลายไปมาก จนน่าวิตก ต่อไปคนข้างบน จะไม่มีน้ำใช้ รวมทั้งคนในเมืองด้วย |
จึงมีพระราชดำริ ให้ นำพันธ์ท้อลูกโต มาติดตา ทาบกิ่ง
|
ช่วยชาวไทยภูเขา จนแพร่หลายได้ราคาดี ส่งเสริมพืชเมืองหนาวให้ชาวภูเขาปลูก |
แน่นอน นำกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ปลูกบนดอยหัวโล้น ทำให้ดินดูดซึมเก็บน้ำไว้ได้นานขึ้น |
ทำให้ ลดการทำไร่เลื่อนลอย เป็นอย่างมาก
|
|
ทรงแนะนำให้ปลูกป่า รักษาป่า ให้บนดอยสูงเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับ คนพื้นราบ |
ชาวไทยภูเขาได้ขายผลผลิต ยังความปลาบปลื้มสู่พวกเขาเป็นอย่างมาก |
และปรากฏว่า ชาวไทยภูเขามีฐานะดีขึ้น บางคนดีกว่า คนไทยในพื้นราบบางคนด้วย
เพราะความขยัน ไม่ท้อถอย |
|
ส่วนจังหวัดภาคตะวันออก ที่ผมเคยไปทำงานเมื่อหลายสิบปีก่อน ผมได้กลับไปทำ |
สวนผลไม้ที่ อ.แก่งหางแมว จันทบุรี |
ในปี 2535 ก่อนที่ผมจะไปทำสวนที่ อำเภอนั้น ละแวกนั้นแห้งแล้งมากที่สุดปีหนึ่ง |
กรมชลประทานได้สำรวจ พื้นที่ตามพระราชดำริ เพื่อสร้างอ่างเก็บน้ำ |
|
ผลสำรวจและวางแผนสร้างอ่างเก็บน้ำ รองรับน้ำฝน ประมาณ 100 ตร.กม. จึงเริ่มดำเนินการ |
ณ บ้านบ่อชะอม ต.พวา ในปี 2548 ดำเนินเรื่อยมา ค่อนข้างยาก เพราะเป็นพื้นที่ |
ป่า เสื่อมโทรม เป็นพืนที่ ส.ท.ก. ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย
ประชาชนจันทบุรี จึงมีน้ำใช้ในการเกษตร เพิ่มขึ้น จากพระเมตตาของในหลวงของเรา
ส่วนน้ำหลาก ค่อย ๆ ทุเลาลงตามลำดับ
|
ส่วนผมเอง ได้ไปทำสวนที่จันทบุรี พื้นที่เป็นเนินสูง ต่ำ น้ำในฤดูฝนเยอะตามปกติ |
แต่ฤดูแล้งก็แล้งแทบ ขาดใจไปกับความแล้ง |
คือ รอไม่ได้แล้ว ต้องช่วยตนเองไปพร้อม ๆ กับโครงการข้างบน โดยขุดสระขนาด |
ใหญ่ ลึก 6 เมตร 3 สระ เพื่อกักเก็บน้ำฝน หรือน้ำซึมจากเนินเขา |
โชคดีหนึ่งในสามสระ ขุดพบตาน้ำผุด ตลอดเวลา เลยมีน้ำใช้ตลอด เนื่องจากพื้นที่ |
กว้างและยาว มีลำห้วยไหลผ่าน จึงสร้างฝายน้ำล้น ชะลอน้ำ ตามแนวพระราชดำริ ที่ห้วยฮ่องใคร้ ใช้ไม้ไผ่ |
ปักขวางลำห้วย นำหิน ดินใส่ถุงปุ๋ย กันน้ำไว้
|
ปีแรก เก็บน้ำได้ประมาณ ครึ่งเดือน ฝายพังเพราะกระแสน้ำแรงเกินไป ปีต่อมาจึงซ่อม |
จนใช้การได้ และทำฝายชะลอน้ำ เพิ่มอีก
|
ทำให้พื้นดิน ต้นผลไม้ ละแวกนั้นมีน้ำหล่อเลี้ยงต้น นานขึ้นกว่าเดิม แน่นอนที่สุดผม |
นำความคิดนี้มาจาก พระองค์ท่าน ในหลวงของพวกเราครับ
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ
end 716,244
visit บล๊อก
visit บล๊อก 713,940 st
=2,304
....... |
ขอน้อมเกล้า ถวายคำอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ
รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า นายไมตรี บุญสงค์ |