No. 593 บล๊อกประจำ จันทร์ - พฤหัสบดี |
|
|
วันนี้เขียน เบา ๆ แต่เป็นเรื่องจริง ของนักกีฬา และ คนธรรมดา ริ นั่งสมาธิ
|
ปกติพวกเราเห็น นักกีฬาผู้ที่มีประสาทสัมผัส ดีเยี่ยม คล่องแคล่ว |
จะไปเกี่ยวกับ การทำตัวช้า ๆ ทำสมาธิ แหะ ๆ แบบ คนแก่.... ได้อย่างไร |
|
เช้าวันหยุด มองฟ้าดู ชุ่มฉ่ำ อากาศเย็นสบาย ๆ ฝนจากฟ้าน่าจะตกไกล แต่มาไม่ถึง... ละอองความชื้น |
ลอยแทรก ครอบคลุมทั้งปริมณฑล สวนหลวง ร.9 |
ดูแล้ว น่าจะไปปั่นจักรยาน ออกกำลังกายได้
แม้จะไม่ได้เป็นนักกีฬา ไม่รู้เป็นไง ติดการออกกำลังกาย คงมาจาก |
ปั่นจักรยานแล้ว สมองโปร่งโล่ง |
|
มักเกิด คิด ริเริ่ม สร้างสรรค์ นึกถึงงานที่ รอให้ไปทำ แล้วอยากไปทำให้เสร็จ |
อะ งั้นไปปั่นจักรยาน จาก สวนหลวง ไปสู่ บึงหนองบอนดีกว่า |
นำจักรยานแขวนไว้ท้ายรถ เกือบถึงสวนหลวง |
|
อ้าว ฝนพรำ ตกมาค่อนข้างหนัก... ดูไกลออกไปข้างหน้า มืดสนิทจากสายฝน ไม่เหมาะแน่ |
เลย ขับรถไปสวน วน ธรรม ที่อยู่ใกล้สวนหลวง ร.9 เป็นสวนสาธารณะขนาด 37 ไร่ |
ที่นั่นมีที่จอดรถยนต์หน้าสวน ได้กว่า 30 คัน
|
กลางร่มเดินฝ่าสายฝน เข้าไปข้างใน จุดหมาย ก็เป็นศาลา ค่อนข้างโปร่ง มีหลังคาและ |
ผนังกันฝนได้พอสมควร |
|
ระหว่างทาง มีคนเดินกลางร่ม ออกกำลังกาย ไปตามถนนลาดยางที่เรียบ รอบสวน |
ชายหนุ่มอีก 2 คน วิ่ง ทน กรำฝนไปด้วย คือ วิ่งได้ระยะทางจนเหงื่อไหล เครื่องร้อนแล้ว |
เขาจึงวิ่งกรำฝนได้ |
|
ถ้าใครไม่เคย ก็ไม่ควรวิ่งกรำฝน ถ้ากายไม่ร้อนพอ จะเจ็บป่วย |
ส่วนผม..ไม่ได้เตรียมใจ เตรียมกายมาวิ่ง แหะ ๆ เตรียมมาปั่นจักรยานที่ไม่ต้องใช้แรงมากนัก |
หรือถ้าฝนตก ก็จะเข้าไปนั่งที่ศาลาใหญ่ กลางสวน |
|
มิได้กะ นั่งดูสายฝน ที่หยาดลงสู่สนามหญ้ากับท้องน้ำ หรือดูใบไม้ยามถูกหยดฝนตกใส่ |
คือจะไป นั่งทำสมาธิ |
|
ส่วนตัวแล้วรู้จักนักกีฬา หลายคน นั่งทำสมาธิบ่อย บางคนเป็น เจ้าของร้านเสริมสวย |
บริการลูกค้า ด้วยตนเองด้วย |
เธอเป็นนั่งวิ่งแข่ง ไตรกีฬา คือ (คือแข่งติดต่อกัน) |
ว่ายน้ำ 1.5 ก.ม.แล้ว ปั่นจักรยาน 40 ก.ม. วิ่งต่ออีก 10 ก.ม |
|
เธอบอกว่า จะนั่งสวดมนต์ที่บ้าน แล้วทำสมาธิ ประจำ ใช้เวลาว่าง ที่มีบ้าง |
บางครั้งขณะวิ่งจะไม่สนใจ คือใช้สมาธิขณะวิ่งแตกต่างกับ ทำสมาธิ คนโบกมือให้อาจจะไม่เห็น และไม่ได้ |
โบกมือตอบ คือวิ่งผ่านเฉย ๆ |
|
เธอเป็นนักกีฬา ลงแข่ง วิ่งล่ารางวัล(เงินสด/เช็ค) มาหลายปี |
รางวัลที่ผู้จัดแข่ง แต่จ่ายช้า เตรียมเบี้ยว...ก็มี ผมก็เป็นคน โทรศัพท์ทวงแทน ในนาม ป๋า... |
เตี๊ยมกันไว้ ทวงรางวัล แทนลูกสาว 555 แล้วก็ทวงได้ครั้งละหลายหมื่นบาท |
|
ทีนี้วกมาเข้าเรื่อง นั่งทำสมาธิ วันฝนตกพรำ ๆ ต่อดีกว่า |
วันนี้ ได้กลับมาถิ่นเก่าที่ มานั่งสมาธิ ดูนาฬิกาแล้ว ทำกิจกรรมได้ประมาณ 50 นาที |
เดินข้ามสะพานคอนกรีตสู่ ศาลาปฏิบัติธรรมที่โล่ง ขอยืมเก้าอี้พลาสติกขาวจาก รปภ.ที่นั่ง |
หลบฝน คนเดียว |
|
ยืนสงบนิ่งหน้า พระพุทธรูป สวดอาระหังสัมมาฯ เสร็จก็ เดินจงกรม กลับไปมา |
แรก ๆ ได้ยินเสียงวิทยุ ที่ รปภ.นั่งฟังข่าว เบา ๆ |
ไม่นาน รปภ.คงรู้ว่า เดินจงกรม ทำจิตให้นิ่ง เลยปิดวิทยุ ทุกสิ่งสงบนิ่ง มีเพียงหยาดฝนหล่น |
ใส่หลังคา กับไม้ใบข้างศาลา |
|
ต้องบอกว่า จิตสงบได้เร็ว เพราะอากาศเย็นสบาย ปราศจากสิ่งรบกวน เพราะระหว่างเดิน |
จงกรมจะ ท่องพุทโธ ในใจตลอดเวลา.. บางขณะที่เดิน นึกถึงเพื่อนที่กรำฝนไปทำงาน |
รีบท่องพุทโท ถี่ ๆ นิดเดียวก็นิ่ง.... |
ครบ 15 นาที คือกะเวลาทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องดูนาฬิกา ก็หยุดหันหน้าสู่พระพุทธรูป |
แผ่เมตตาให้ สรรพสัตว์ทั้งหลาย มีความสุข
|
|
เสร็จแล้ว ก็นั่งบนเก้าอี้ นั่งหลับตา ท่องพุทโธในใจ ไปเป็นจังหวะ |
น่าจะไม่ถึง 8 นาที จิตนิ่ง ยังมีความรู้สึก ตื้อ ชา จากข้างล่างสู่ศรีษะ เริ่มเข้าสมาธิสู่ ผวังค์ |
(อาการและความรู้สึกขณะเข้าสมาธิ แต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ) |
ท่องพุทโธต่อ แล้วก็ ปึ๊ด..(ใช้คำนี้นะครับ ตรงดี) |
เข้าสู่สมาธิ สู่พวังค์ อันดื่มด่ำต่อไป..........
|
|
ครู่เดียว เกิดแสงสว่างที่เปลือกตา คล้ายมีแสงไฟฉายส่อง นึกถึง คำสอนของพระอาจารย์ |
จึง ท่องพุทโธต่อ ช้า ๆ เปลือกตาที่มีแสงสว่าง เริ่มมืดดำตามปกติ |
ครู่เดียวก็สว่างอีก.... ก็ พุทโธ ต่อ... แล้วก็ ปริ๊ง ต่อ... คือเข้าสู่สมาธิต่อ |
เมื่อครบ 30 นาทีที่ตั้งใจไว้ก็ออกจากสมาธิ |
(รู้ว่าครบ เหมือน เราก้าวเดินแล้วจะรู้ว่า ก้าวขาเท่าใดกว้างเท่าใด คือทำซ้ำบ่อย จะรู้เอง) |
|
ลืมตา แผ่ส่วนกุศลผลบุญ ที่ได้ปฏิบัติ แก่ แม่ พ่อ น้อง กับอีกหลาย ๆ คน เป็นอันเสร็จ |
นั่งนิ่ง ๆ ดูสายฝนโปรยปราย ไม่ถึง 5 นาที
|
คนงานทำสวนอีก 3 คนเดินกางร่ม เข้าศาลา เปิดห่อข้าว กินข้าวเช้ากัน พร้อมกับพูดคุย |
กันอย่างมีความสุข คนสวนจะมาพักกินเข้าตอน 8 โมง ใกล้เคียงกับที่ผมคำนวณไว้ |
|
บอกตรง ๆ นะครับ... การเห็นแสงสว่างเกิดขึ้น ระหว่างหลับตาทำสมาธิ มิได้ตื่นเต้น |
เพราะรู้ว่า เป็นอาการชนิดหนึ่ง ขณะทำสมาธิเบื้องต้น |
แต่ไม่รู้ว่า เขาเรียกอะไร |
|
วันนี้เลย เปิดตำรา ของพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ ที่สอนพวกผม เล่มที่ 1 หน้า 54 |
เลยรู้ว่า เป็น ขณิกะสมาธิ คือเป็นสมาธิขั้นต้น ชั่วคราว |
จึงเกิด ความสุข อิ่มเอิบซาบซึ้ง ขึ้น |
|
พวกเราชาวสมาธิ มักจะเคยเจอ เช่นรู้สึก ตัวลอย ตัวเบา เห็นสิ่งสวยงาม บางครั้งน่ากลัว |
แต่ครู่เดียวก็ไม่กลัว บางคนก็ไม่เจออะไรเลย.. เป็นเรื่องธรรมดา
|
|
เรายังคงทำสมาธิ กันเรื่อย ๆ เรียกว่าทำประจำ เพราะรู้ว่า จิตที่เคยไหวหวั่น จะนิ่งไม่ |
กลัวอะไร มีประสาทสัมผัส ได้ไกล บางทีก็รู้ล่วงหน้า....แต่ |
ต้องทำสมาธิบ่อย ไม่จำต้องนั่งนาน....
เขียนเล่าวันนี้ เป็นการชักชวนให้ เพื่อนผู้อ่าน สนใจในการทำสมาธิซึ่ง การพบข้างบน
เป็นเรื่องธรรมดามาก สำหรับนักทำสมาธิ
และสวน วนธรรม เป็นที่เหมาะสำหรับ ทำสมาธิอีกแห่ง เห็นถนนรอบ ๆ สระน้ำทั้งหมดประมาณ 37 ไร่ สงบ..
เฉพาะที่เป็นรูป คล้ายหัวใจ
|
|
ทำสมาธิไม่ยาก... สนใจลองศึกษาดู แต่ควรมี อาจารย์หรือผู้รู้แนะนำอย่างถูกต้อง ติดต่อ สำนักปฏิบัติธรรม |
ใดก็ได้ครับ..... เมื่อเป็นแล้ว ทำสมาธิเองได้เอง |
|
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
end 847,364 |
st. ผู้เข้าชม 845,022 |
= 2,342 คน |
|
งานเขียนประเภท Diarist ไดอารี่ |
|
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์
ก่อนอ่าน
ผมแอบเดาว่าจะเจอแบบนั่งแล้วเห็นอะไรน่ากลัวรึเปล่าน้อ 555
แต่เป็นการเห็นแสงสว่าง
อันนี้ผมว่าทำห้เป็นสุข รู้สึกอิ่มเอิบใจได้เลยนะครับ
โหวตครับพี่