| No. 564 บล๊อกประจำวันศุกร์ - อาทิตย์ |
| |
|
| |
| เปล่าแหย่ รังแตน นะเออ.... |
| ระยะหลังมานี้ เห็นความวุ่นวาย ด้านการเงิน การ อมเงิน การใช้เงินของวัดผิด |
| วัตถุประสงค์ เยอะมาก ผมได้แต่ฟังข่าวแล้ว ไม่สบายใจนิด ๆ เพราะเรายัง ตัดกิเลศ |
| ไม่หมด ยังอยากแก้ไข "คนอื่น" อยู่.. 555 |
| |
| หลายสิบปีที่ผ่านมา หน้าที่การงาน ได้ ทำงานวางระบบ การเงิน คอยกำกับดูแล |
| ของบริษัท ทีมีสาขาทั่วประเทศ รวมทั้ง กับกิจการหลากหลาย |
| กิจการหรือบริษัทนั้น |
| เขาจะถือว่า รายได้ สำคัญที่สุด เพราะจะต้องนำไปจ่ายให้ แก่ลูกจ้างที่ทำงานให้ |
| รวมทั้งรายจ่ายต่าง ๆ เมื่อหักแล้ว จะเหลือเป็นกำไร นำไปจ่าย |
|
| ก. แก่ผู้ถือหุ้น กว่าจะมีกำไรแบ่งนานหลายปี มีบางบริษัท 2 ปีก็มีกำไร.. คนลงทุนจึง |
| นำตัวเอง เข้าทำงาน เพื่อได้เงินเดือน ค่าน้ำมัน ค่ารับรอง เอาลูกหลานทำด้วย |
| ซึ่งเป็นทางออกที่ดี และกฏหมายมิได้ห้ามไว้ คือ ถูกกฏหมาย |
| |
| ข.นำไปจ่าย ภาษีนิติบุคคลให้รัฐ (ดูดีเนาะ 555) จากยอดกำไรเป็นหลัก |
| |
| อะ ๆ อย่าเพิ่งคลิ๊กหนีนะครับ มิได้เป็นวิชาการ |
| บริษัท จึงห่วง รายได้ที่ พึงจะได้เข้าบริษัท ถ้า เซลล์แมน เก็บเงินแล้ว อมเงิน |
| บริษั่ทก็แย่ไล่ออก จับเข้าคุก.... อีกทั้ง คนมีอำนาจสั่งจ่ายเงิน ไม่เกี่ยวกับกิจการ เขาจึงจัดให้มี คนคอยดูแล กำกับ ห่าง ๆ ไว้ |
| เรียกว่า ผู้ตรวจสอบภายใน |
| แล้วกรรมการ ผจก.หรือ MD ที่มีอำนาจสั่งจ่ายเงิน ผิดประเภท บริษัทไม่ห่วงจะมี |
คณะกรรมการบริหารคอย ตรวจดูอีกชั้น หรือกำกับ "ภายใน" อีกชั้น
ยังมี ผู้สอบบัญชีอนุญาต....ที่เป็นตัวแทนของรัฐ และ ของบริษัทคอยตรวจให้เห็นสถานะภาพ
การเงินที่แท้จริงด้วย...(เขาว่า โกหก ไม่ได้แหะ ๆ)
แต่ชีวิต จากคนไกลวัด ค่อย ๆ กระดืบกระดื๊บเข้าวัด แล้วก็สังเกตเห็น คนทำบุญมาก
มีคนเล่าให้ฟังว่า ถ้าทำบุญด้วยเงิน 2,000 บาท ได้บุญเท่าส้มโอ... ถ้าทำบุญ 10,000 บาท จะได้บุญเท่าผลแตงโม
ชักกังขา งั้นเศรษฐีก็ได้ไปสวรรค์ ง่ายกว่า เราซินะ 555 |
|
| คนไกลวัดเช่นผม ก็มีโอกาส เห็นคน บริจาค หรือทำบุญให้ภิกษุ สงฆ์ หรือ วัดมาก |
| แต่บางแห่ง เกือบจะไม่มี เหงา...แต่ไม่น่าเชื่อ เรารู้สึกสงบ มีความสุขมากเมื่อไปอยู่ ณ ที่นั้น |
|
| ผมเห็นวัด และผมชื่นชม ครั้งนี้นำมาให้ดู |
| 3 วัด |
| |
| วัดแรก คนไปมากมายทุกวัน เพราะศรัทธาพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ อยู่แถวริมน้ำบางปะกง |
| เสี้ยวเวลาหนึ่งผมอยู่ในเหตการณ์ |
| พี่เจริญฤทธิ์ครับ มีคนมาหา จากธนาคาร เรา (แหะ ๆ ของ เจ้านาย) |
| อ้อ สวัสดี คิดว่าใคร มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ |
| ไม่ ๆ ครับ อย่าพูดแบบนั้น คือธนาคารจะเปิดสาขาที่.. เลยมาขอความกรุณาจาก |
| พี่ช่วย พูดให้เจ้าอาวาส หลวงพ่อเจียม ฝากเงินกับธนาคารนะครับ |
| จะเปิดเมื่อไรครับ |
| ต้นเดือนหน้านี้แหละครับ |
| ได้ผมจะไปพบกับ หลวงพี่ให้ คุณไปกับผมด้วยนะ ท่านจะได้รู้จัก |
| หลวงพี่ท่านเป็น พี่ชายคนโตของ หน.เจริญฤทธิ์ อยู่ |
| ริมน้ำบางปะกง ผมไปหาท่านหลายครั้ง |
| จากการสนทนา จึงทราบว่า แต่ละธนาคารที่ วัดหรือมูลนิธิเปิดบัญชีไว้ จะส่ง จนท. |
ธนาคารไปที่วัด ตามวันที่ตายตัว ไปร่วมกับ กรรมการการเงินของวัด
|
| เปิดตู้ รับบริจาค ทุกคนจะตรวจรับเซ็นรับรอง เซ็นส่งมอบ ต่อหน้ากัน จนท.ธนาคาร |
รับเงินทั้งหมดไปทันที พร้อมกับออกใบเปย์อินสลิปให้ ทุกคนได้แตะเงินเท่านั้น
|
|
| ตกลง ผจก.ธนาคารที่จะเปิดสาขา ได้รับอนุมัติไปรับเงินทุกวันพุธ |
| |
| วัดที่ 2 เป็นวัดที่สอนคนธรรมดา ให้ทำสมาธิและเพื่อเป็นครูสมาธิ เป็นหลัก |
| เป็นวัดที่สร้างแถวบางจากพระโขนงตั้งแต่ปี 2506 เป็นต้นมา มีคนไปเรียนมาก |
| วัดนี้ใครจะทำบุญด้วยปัจจัย หรือไม่ทำอะไรก็ได้ ขอเพียงให้ฝึกทำสมาธิก็พอ แต่ก็มีเงิน |
บริจาคในตู้ กับ อย่างอื่น
|
| มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ผมเข้าทำหน้าที่ เป็นพี่เลี้ยงน้อง ๆ นักศึกษาครูสมาธิ ผมได้ถูกเลือก |
| เป็นหนึ่งใน กรรมการ ตรวจนับเงิน แต่ละวัน |
| ต่อหน้า ภิกษุที่รับมอบหมายจาก พระอาจารย์หลวงพ่อ |
เราคนธรรมดา 6 คนจากฝ่ายต่าง ๆ ร่วมกัน เปิดตู้บริจาค หรือจากบัญชีรับบริจาค
ภาพข้างบนเป็นภาพแทน ผมไม่ได้ถ่ายมา ไม่สะดวกอีกอย่าง ห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป
|
| ออกตรวจนับเป็น 2 ชุด ชุดแรกตรวจ และเขียนจำนวนเงินใส่ถุง(นั่งทำงานพร้อมกัน) |
| ผมจะต้องตรวจนับอีกครั้ง เขียนใส่สมุด เซ็นชื่อรับรอง... และส่งมอบให้พระคุณเจ้า |
| นำเงินทั้งหมดไปเข้าบัญชีธนาคาร ในวันรุ่งขึ้น ในนามของวัด หรือ มูลนิธิ หรือตาม |
โครงการณ์ที่จัดทำขึ้น
|
| พระอาจารย์หลวงพ่อ ออกระเบียบไว้ |
| ด้านรายจ่าย ผมมีส่วนถือเงินจ่ายด้วยก็คือ |
| ผม ต้องเซ็นรับเงิน จากฝ่ายการเงินของวัด/มูลนิธิล่วงหน้าเป็นเดือน และนำไปจ่ายค่า |
| ใช้จ่าย บางประเภท ทุกจันทร์ ถึง ศุกร์ จึงรู้ระบบการเงินได้ พอสมควร |
| |
| วัดที่ 3 เป็นวัดที่อยู่ฝั่งนนทบุรี เน้นเทศน์ให้น่าฟังแก่ วัยรุ่น ส่วนคนชราท่านไม่เน้น |
เพราะบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก อีกไม่นานก็ตาย เป็นเรื่องธรรดา
555 อันนี้ผมหัวเราะเองนะครับ |
|
| เป็นวัดที่มีโบสถ์ธรรมชาติ ใต้ต้นไม้ มีร่มกาง ถ้าฤดูฝนก็เข้าศาลาที่เปิดโล่ง |
| พระอาจารย์จะรับแขก หรือเทศน์ที่นั่น มีคนทำบุญด้วยเงินก็จะนำเงินเข้าบัญชีวัด เลี้ยงคน |
ที่ไปพักฝึกงานให้ มีอาชีพ.... นำเครื่องใช้ที่มีคน ไปบริจาคให้วัด ท่านจะมอบให้ครูด้านอาชีพฝึก
สอนคนที่ไปอยู่วัด เรียนซ่อมแซม จนเป็น ของที่ซ่อมแล้ว ก็นำไปขายที่นั่น นำเงินมาเลี้ยงดูพวกลูกศิษย์
แม้กระทั่งปลูกไผ่ กล้วย ด้านหลังวัด นำมาขายคนทั่วไป.. บางครั้งท่านเห็นผมไป ถวายเงิน ท่านก็สั่งให้
เด็ก ช่วยยกผลไม้ ที่ใส่ตระกร้าแก่ผม หรือมอบแก่คนอื่นด้วย
ท่านไม่สร้างถาวรวัตถุคือสร้างเท่าที่จำเป็น |
|
| ทราบมาว่า ภิกษุในวัดรับนิมนต์ ไปที่ใด หรือใครถวายปัจจัย ทุกรูปกลับมาแล้วจะ |
นำเงินหรือปัจจัย เข้าเป็นของวัดหรือมูลนิธิ ทั้งหมด
|
| ใครฝ่าฝืน คงถูกขับ ออกจากวัด เพราะภิกษุย่อมจะไม่ สะสมทรัพย์ หรือปัจจัย |
| ไม่สร้างถาวรวัตถุใหญ่โต เพื่อดึงดูดคนเข้าไป ถวายปัจจัย |
| |
| ผมเห็น 3 วัดที่น่าชื่นชม ไม่สร้างถาวรวัตถุใหญ่ที่สุดในโลก เป็นจุดขาย |
| สร้างให้คนอยู่อย่างพอเพียง แนะนำคนให้ปฏิบัติธรรม เพราะได้บุญมากว่า การทำบุญใด ๆ |
|
| ยังมีวัด หรือสำนักสงฆ์อื่นอีกนะครับที่ ยังมิได้กล่าวถึง เพราะ.... |
| |
| ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ |
| |
| end 781,486 |
| st.visit 779,868 |
| 1,218 |
| |
| งานเขียนประเภท Diarist |
| |
สวัสดีจ้าา มาทักทายจ้า 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [
เมื่อวานติดต่อเพื่อบริจาคของที่บ้าน คิวยาวไปครึ่งเดือนเลยค่ะ
ที่บ้านใช้บริการบ่อยมาก อิอิ