การล่มสลายของร้านให้เช่าหนังสือ
เช้าวันนี้ ผมขับรถยนต์ไปเรือนจำหญิงสงขลา กะว่าจะเอา Pocket Book จำนวนหลายเล่มไปบริจาค พอดีได้เจอกับผู้คุมหญิงที่ดูแลห้องสมุดเรือนจำ เธอมายืนดูหนังสือด้านหลังรถยนต์ผมคร่าว ๆ และได้ยืนพูดคุยกันเกี่ยวกับหนังสือที่ผมจะมอบให้ เธอแนะนำผมว่า หนังสือแนวผมอ่าน นักโทษหญิงคงจะไม่ยืมไปอ่านกัน เพราะที่นี่ นักโทษหญิงชอบแนว หนังสือเจี๊ยบ หนังสือปกอ่อนพอคแก็ตบุคส์เล่มเดียวจบ หนาราว ๆ 100 หน้า ประเภท หวานแหวว นางเอกจน พระเอกรวย ผู้ดีตกยาก Happy Ending มากกว่า หนังสือแนวธรรมะ/หนังสือวิชาการ ที่มีคนยืมนัอยมาก เธอเลยแนะนำผม ให้ไปมอบให้ห้องสมุดสงขลา จะมีกลุ่มคนอ่านหลากหลายและคนอ่านเยอะกว่า
หมายเหตุ
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงนักจิตวิทยาบำบัดชาวยิว เล่าถึงตอนเป็นนักโทษแรงงานในค่ายกักกันชาวยิวเอาซ์วิส ที่นาซีเยอรมันตั้งขึ้นมาเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ท่านบอกท่านมองโลกในแง่ดี แง่ความสุขในอดีต แง่ความสุขในอนาคต เห็นภาพท่านกำลังบรรยายให้นักศึกษาฟัง และนักโทษชาวยิวหลายคนก็บอกให้มีอารมณ์ขัน อย่ามองแต่ความเลวร้ายที่มีในคุกเพียงอย่างเดียว
ถ้ามองแง่หนังสือธรรมะส่วนใหญ่ที่เคยอ่าน บางเล่มก็เน้นแต่อิทธิปาฏิหารย์ ครูบาของตน เชียร์พระขายพระกันเป็นว่าเล่นในหนังสือ บางเล่มก็อภิธรรมสูงส่ง นรกสวรรค์ เทวดา ผีเปรต มากล้นเหนือจินตนาการของคนทั่วไป บางเล่มก็เน้นแต่บาปกรรม ต้องชดใช้กรรม แต่ไม่มีทางออกทางหลุดพ้นจากกรรมเป็นรูปธรรม เผลอ ๆ ก็เน้นแต่การใช้เงินชดใช้กรรม ด้วยพิธีกรรมต่าง ๆ ทางพราหมณ์ ทางผี ทางของขลัง บางเล่มก็เหมาะกับคนทนถึกกว่าคนทั่วไป เน้นปฏิบัติธรรมเหนือกว่าพระบรมศาสดา ที่สอนให้ยึดทางสายกลางเป็นหลักในทางธรรม ทางปฏิบัติ แต่อาศัยวาทกรรมพวกมากลากไปเลยโด่งดัง มีหนังสือน้อยเล่มมากที่มีธรรมะแบบง่าย ๆ อ่านแล้วเข้าใจเลยไม่ต้องตีความมากมาย เช่น หลวงตา หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ เป็นต้น
ชีวิตคนข้างในทุกข์ยากมากพออยู่แล้ว ทั้งเรื่องอาหารการกินและอิสระภาพ แต่มานั่งอ่านหนังสือตอกย้ำความทุกข์/กรรมของตนเอง ไม่น่าจะเข้าถึงและชื่นชอบชื่นชมกับหนังสือเหล่านี้ สู้เอาเวลาไปอ่านหนังสือเจี๊ยบดีกว่า โลกที่ไร้สาระแต่สร้างสาระจินตนาการเพ้อฝัน ยังได้หลุดพ้นจากความทุกข์ในแต่ละวันได้
ผมเลยขับรถยนต์ไปมอบหนังสือให้ที่นั่น กับได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ห้องสมุด และเดินดูรอบ ๆ มี หนังสือนิยายรักรุ่นเก่าหลายร้อยเล่มมาก ที่ไม่มี Barcode แบบยุคปัจจุบันที่นำเข้าระบบได้เลย เป็นหนังสือของ ร้านให้เช่าหนังสือ นำมามอบให้จำนวนหลายร้อยเล่ม บรรณารักษ์ห้องสมุดเลยอนุญาต ให้คนสนใจอ่านมาเอากลับบ้านได้เลย อ่านเสร็จค่อยเอามาคืนห้องสมุดในวันหลัง
ห้องสมุดสงขลามีแนวคิดว่าคงต้องปรับโฉมให้ปิด 4 ทุ่ม แต่เดิมที่นี่ปิด 16.30 น. ตามเวลาทำงานของราชการ การทำแบบนี้จะรองรับคนทำงานที่เลิกงานแล้วมาห้องสมุดไม่ทัน กับเด็กนักเรียนมาอ่านหนังสือ/ทำการบ้าน/ทำรายงาน และให้พูดคุยส่งเสียงกันได้ในห้องสมุด แบบห้องสมุดหลายแห่งในต่างประเทศ และที่คณะสถาปัตย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ถ้าห้องสมุดยังบริหารงานแบบเดิม ให้เงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงดัง คงจะไม่ได้รับความนิยมจากพวกเด็กนักเรียนสงขลา ที่มักจะไปนั่งทำงาน/ทำการบ้าน/ทำรายงาน ตามร้านกาแฟ/ร้านอาหารแถวชายหาด การทำแบบนี้ก็จะดึงมวลชนส่วนหนึ่งได้มาก
การล่มสลายของร้านให้เช่าหนังสือที่สงขลา ทำให้ผมนึกถึงร้านสวนหนังสือ ร้านให้เช่าหนังสือรายใหญ่ เยื้องวัดถาวรวราราม/วัดโคกนาว ตรงข้ามมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สมัยก่อนร้านนี้คึกคักมาก คนมาเช่าหนังสือวันละหลายร้อยคน 2-3 ปีก่อน ผมเคยเข้าไป กะว่าจะเช่าหนังสือจีนกำลังภายในมาอ่านเล่น สอบถามเจ้าของร้านก็ยอมรับว่า หนังสือใหม่ ๆ มีน้อย และแพง คนมาเช่าหนังสือก็น้อยลงกว่าเดิมมาก ไม่หนาแน่นเหมือนเก่า
เท่าที่ผมจำได้มีร้านให้เช่าหนังสือปิดไป 2 ร้านแล้ว เป็นร้านที่ผมเดินผ่านบ่อย ๆ และเคยไปเช่าหนังสือเหมือนกัน
ร้านยึ่ปั้วขายหนังสือรายใหญ่แถวบ้านก็ปรับปรุงร้าน กะว่าจะเลิกขายหนังสือแล้วเช่นกัน เมื่อตอนต้นปีใหม่ ร้านเพื่งจะถูกไฟไหม้ แต่หนังสือส่วนใหญ่ส่งคืนสำนักพิมพ์ส่วนกลางแล้ว โชคร้ายประกันไฟสิ้นสุดตุลาคมปีที่แล้ว เลยไม่ได้ต่ออายุประกันอัคคีภัย เพราะกะว่าจะไม่ขายหนังสืออีกต่อไปแล้ว แต่โชคดีอาซิ่มเจ้าของร้านผู้ป่วยติดเตียง กู้ภัยท่งเซียเซียงตึ้งช่วยกันงัดลูกกรงเหล็กดัดชั้น 2 แล้วนำไปส่งโรงพยายาล เธอไม่เป็นไร แค่ตกใจ
เขียนขึ้นจากความทรงจำเก่า ๆ ก่อนที่จะเลือนหายไปเหมือนการอ่านหนังสือบางเล่ม
Create Date : 04 มีนาคม 2563 |
|
1 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2563 10:14:01 น. |
Counter : 1493 Pageviews. |
|
|
|
แวะเข้ามาอ่านพลอยทำให้คิดถึงสงขลาด้วย
เรียนอยู่หาดใหญ่สี่ปีแต่ไปค้างบ้านเพื่อนที่สงขลาบ่อยๆ
ตอนนี้แยกย้ายกันแล้ว คงเหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่อ่านแล้วยังจำได้ยังคิดถึง แม้จะจบไปนานแล้วก็ตาม