ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
22 ตุลาคม 2560
 
All Blogs
 
สตรีผู้ทำความสะอาดบ้านคนตายที่แสนโดดเดี่ยวในญี่ปุ่น





ที่โรงจอดรถยนต์บนถนนสายที่วุ่นวายของ อิตาบาชิ Itabashi
ทางตอนเหนือของมหานครโตเกียว
มิยู โคจิมะ Miyu Kojima เพิ่งจะเสร็จสิ้นงานประจำวัน
มันเป็นคืนที่หนาวเย็นในเดือนกุมภาพันธ์
อุปกรณ์ทำความสะอาดกองอยู่ที่มูมหนึ่งของโรงจอดรถยนต์
ขณะที่ข้าวของเครื่องใช้คนตายยังคงวางบนรถเข็นสีเขียว
และกล่องกระดาษแข็งมีเครื่องหมายการค้าว่า ToDo-Company
ทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมดนี้เป็นของบ้านผู้ตาย
ที่ มิยู กับเพื่อนของเธอเพิ่งจะไปทำความสะอาดมา
บางส่วนก็จะถูกนำไปรีไซเคิลหรือนำไปขายต่อ

มิยู วัย 24 ปีทำงานให้กับ บริษัท ToDo
เป็นพนักงานทำความสะอาดบ้านของคนตาย
ซึ่งส่วนมากคนตายมักจะตายแบบโดดเดี่ยว
หรือที่เรียกกันในภาษาญี่ปุ่นว่า โคโดคุซซิ Kodokushi

เรื่องแบบนี้เป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นกันได้บ่อย ๆ
ในประเทศที่มีประชากรสูงอายุจำนวนมากที่อาศัยอยู่ตามลำพัง
และสายสัมพันธุ์ที่เปราะบางและแตกแยกระหว่างครอบครัว
มิยูเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อายุน้อยที่สุดในบริษัทที่มีคนงาน 10 คน

" ฉันทำความสะอาดแฟลต อพาร์ทเมนต์ บ้าน
ที่มีคนตายอย่างโดดเดี่ยว และจัดระเบียบข้าวของที่ระลึกในบ้านด้วย "
มิยูกล่าวว่า เธอทำงานที่ ToDo มา 2 ปีแล้ว
โดยเฉลี่ยแล้วบ้านคนตายที่พวกเธอทำความสะอาด
มักจะพบศพนอนตายซากอยู่ราว 1-2 เดือน ที่ยาวนานที่สุดคือ 8 เดือน
บางครั้งพวกเธอก็ทำความสะอาดบ้านของคนที่เสียชีวิตในโรงพยาบาล
บ้านคนที่ถูกฆ่าตาย หรือบ้านคนที่ฆ่าตัวตาย

หลังจากที่ศพถูกเคลื่อนย้ายออกจากบ้านแล้ว
เธอกับเพื่อนร่วมงานก็จะขัดถูทำความสะอาดบ้าน
จัดเก็บข้าวของ รวบรวมของที่ระลึกความทรงจำส่วนตัวของผู้ตาย
มิยู ยิ้มแย้มในช่วงการให้สัมภาษณ์ เธอสวมรองเท้าผ้าใบฟอกสี
เธอเข้ามาทำงานสายงานนี้หลังจากที่พ่อเธอตายกระทันหัน
เธอกับพ่อมีความสัมพันธ์ที่ระหองระแหงมาตลอด

" ฉันคิดว่า ฉันรู้ว่าครอบครัวจะผ่านเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างไร
และฉันต้องการช่วยเหลือพวกเขาให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ "

มิยู เริ่มค้นหาบริษัทที่เชี่ยวชาญในงานประเภทนี้
งานส่วนใหญ่ระบุไว้ในช่องจัดหางานที่ต้องการคนสนใจ
และแล้วเธอก็ได้เห็นโฆษณาจัดหางาน ToDo
และชอบกับคำขวัญของบริษัทที่เขียนว่า
" คำพูดที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวคนตาย "
ฮิโรทซึกุ มาซูดะ Hirotsugu Masuda ซึ่งอยู่ในวัย 40 ปี
เริ่มธุรกิจ ToDo เพราะชื่อดังกล่าวคือ งานที่ใครบางคน จะต้องทำ


โปรดพักผ่อนอย่างสงบ


มิยู กล่าวว่าจะมีการประชุมทุกวันในตอนเช้า
เรื่องบทบาทและหน้าที่ของแต่ละคน
เพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานกันได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นมุ่งหน้าไปยังบ้านของผู้ตายที่ได้รับจ้าง
ทีมงานประมาณ 6 คนซึ่งมักจะทำงานเสร็จประมาณ 3 โมงเย็น
แต่ละคนนำมาจะมีรายได้ราว 3-5,000 เหรียญสหรัฐ

" ฉันทำทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ
ฉันขับรถบรรทุกและทำความสะอาด
และพูดคุยกับครอบครัวคนตาย "

ก่อนมิยูจะเข้าบ้านของคนตาย เธอมักจะอธิษฐานก่อน

" เหตุผลที่ ฉันอธิษฐานก่อนเข้าบ้านผู้ตาย
เพราะฉันรู้ว่าคนเหล่านี้เสียชีวิตแล้ว ...
และบางคนในครอบครัวอาจจะเสียใจ
ฉันเลยสวดภาวนาให้พวกเขา
โปรดพักผ่อนอย่างสงบ "

ในการทำงานตอนแรก
มิยูพบว่างานของเธอนั้นทำใจลำบากมาก
สภาพพื้นที่หลังจากที่ซากศพได้ย้ายออกไปแล้ว
มักจะมีสิ่งผิดปกติ เช่น ยังเศษผมและคราบน้ำเหลืองที่ตกค้างอยู่
มันเป็นงานที่ต้องทำความสะอาดใหม่ทั้งหมด

" แต่สิ่งที่ฉันพบว่ายากเย็นที่สุดก็คือ
การพูดคุยกับครอบครัวคนตาย
ฉันไม่รู้ว่า ฉันจะถาม หรือพูดคุยอะไรได้บ้าง "

เมื่อมีคนตายอย่างโดดเดี่ยว โคโดคุซซิ Kodokushi
เธอบอกว่า ความรู้สึกว่าชีวิตประจำวันของผู้ตายยังคงอยู่
มันจึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าไปทำความสะอาดบ้าน
ที่มีคนถูกฆ่าตาย หรือมีคนฆ่าตัวตาย
เธออธิบายว่าบรรยากาศภายในบ้านคล้ายหนักอึ้งหรือกดดันจิตใจ

ในช่วงฤดูร้อนจะมีงานชุกมาก
เพราะศพมักจะมีแนวโน้มเจอได้ง่ายมากจากกลิ่น
ในปีที่ผ่านมา เธอคิดว่าเธอได้ทำความสะอาดไปแล้ว 90 ศพที่แฟลต

ใน iPad ของมิยู ได้โชว์ภาพถ่ายของงานที่เคยทำ
ศพที่กลายเป็นสีน้ำตาลเข้มเริ่มสลายตัวและน้ำเหลืองซึมลงบนพรม
โครงกระดูกของแมวตัวหนึ่ง อ่างล้างจานที่สกปรกเต็มไปด้วยตะเกียบที่ใช้วางอยู่
ในวันศุกร์ก่อน พวกเธอได้พบใครบางคนเสียชีวิตที่หน้าห้องสุขา
เพื่อแสดงความเคารพ มิยูจึงได้วางช่อดอกไม้ไว้บนที่นั่งในห้องน้ำ

" ในระหว่างที่ฉันทำความสะอาด ฉันมักจะคิดถึงคนที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่
ชีวิตพวกเขาเป็นแบบไหน ทำงานอะไร และครอบครัวพวกเขาคิดอย่างไรกับคน ๆ นี้
คนทั่วไปมักจะสะสมสิ่งของต่าง ๆ เช่น เหรียญ แสตมป์ คูปอง ถุงช้อปปิ้ง
ฉันพยายามค้นหาข้าวของที่ครอบครัวคนตายกำลังมองหาอยู่
หรือสิ่งที่สำคัญกับครอบครัวพวกเขา - ภาพและของที่พิเศษ "

เมื่อพวกเธอเสร็จสิ้นการทำความสะอาดแล้ว
พวกเธอจะทำพิธีครั้งสุดท้ายด้วยการวางช่อดอกไม้
จุดธุปและอธิษฐาน เมื่อสถานที่นี้ได้รับการทำความสะอาดใหม่หมด

" ถึงเวลาแล้วที่จะบอกลา และเราทำเรื่องนี้กับบางครอบครัวในบางครั้ง "

มิยูมักจะมอบข้าวของที่ระลึกให้กับครอบครัวผู้ตาย
และถ้าครอบครัวพวกเขาไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้
ToDo ก็จะพาไปที่วัดเพื่อทำพิธีกรรมก่อนที่จะเผาทิ้งไป

" ฉันรู้สึกเศร้าใจ เมื่อครอบครัวผู้ตายไม่ต้องการรับสิ่งของเหล่านั้น
เพราะเป็นสิ่งที่คนตายได้ทิ้งไว้ และเป็นของที่ระลึกความทรงจำในอดีต "

ในความเห็นของเธอ ความต้องการงานประเภทนี้กำลังเพิ่มขึ้น
ฮิเดโต โกน Hideto Kone รองประธานสมาคมการจัดการของทรงจำ Dispositionitions Memento
ได้ประมาณการว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีบริษัทเหล่านี้ถึง 4,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น

" ทุก ๆ ปี ฉันรู้สึกว่า ผู้คนต่างถูกตัดขาดซึ่งกันและกัน
และฉันคิดว่านี่คือ การสูญเสียความสัมพันธ์ระหว่างกัน "


หนทางความสัมพันธ์ของมนุษย์


ในตอนแรกแม่มิยูไม่เห็นด้วยกับอาชีพนี้ แต่ต่อมาเธอก็ยอมรับ
แฟนหนุ่มของเธอก็แทบจะไม่เชื่อเลยและแทบยอมรับไม่ได้

" ในตอนแรก เขาบอกกับฉันว่า ทำไมเธอถึงทำงานแบบนี้
เธอจะต้องคำสาป และถูกผีสิง
แต่ฉันชอบงานนี้ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดหรือทำเรื่องไม่ดี
แล้วทำไมฉันจะต้องถูกผีสิง และตอนนี้เขาเข้าใจฉันแล้ว "

เธอไม่ได้พบกับผู้หญิงคนอื่น ๆ ในสายงานนี้
และบอกว่าผู้คนมักจะรู้สึกประหลาดใจ
ที่ได้พบเธอทำงานประเภทนี้

" ฉันคิดว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องอายุของฉัน
แต่มันเกี่ยวข้องกับเพศของฉัน "

ความเป็นมืออาชีพของเธอก็มีประโยชน์
มิยูจึงย้ายไปทำงานที่โตเกียว
และมัซซูดา(เจ้าของบริษัท) ก็มักจะไปร่วมงานกับเธอ

" สถานที่แห่งแรกที่เราเข้าไปดู
ฉันสามารถบอกได้ว่า มีอะไรผิดปกติก่อนที่จะเข้าไปทำงานข้างใน
ฉันเห็นร่างคนจาง ๆ อยู่บนพื้น และสงสัยว่ามีคนตายอยู่ตรงที่นั่น
ฉันจึงถามนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์/บ้านให้เช่า
พวกเขามักจะยิ้มและพูดว่า ไม่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่
และฉันก็ได้เรียนรู้ว่า เอาละ มีคนตายโดดเดี่ยวอยู่หลายคนในกรุงโตเกียว
และคนอื่น ๆ อีกหลายคนต้องการที่จะซ่อนเร้นปกปิดเรื่องนี้ไว้ "

งานของเธอทำให้เธอเห็นหนทางความสัมพันธ์ของมนุษย์

" ฉันเห็นคนบางคนที่ไม่ค่อยสนใจพ่อแม่ หรือครอบครัวของพวกเขา (ถ้าพวกเขาตาย)
และบางคนก็ไม่ได้มองไปที่ของที่ระลึก แต่ทันทีที่เห็นเงินสด นั่นคือ สิ่งที่พวกเขาต้องการจะได้... "

สำหรับมิยูแล้ว การตายแสนโดดเดี่ยว Kodokushi
เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อผู้สูงอายุเท่านั้น

" นี่คือ สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณ กับฉัน "

หนึ่งกรณีที่เธอเคยพบคือ ผู้หญิงอายุ 20 ปี
ตายในอพาร์ตเมนต์ของเธอพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของเธอ

" หมาตายหน้าทางเข้า และฉันได้เห็นเธอ
เธอกำลังอ้าปากและมองขึ้นไปด้านบน
และเห็นได้ชัดว่า กำลังขอความช่วยเหลือ
เจ้าของบ้านบอกเธอว่า หมาเห่าเหมือนเป็นบ้า

ฉันคิดว่าฉันหวังว่าเขาจะได้ตระหนักดีว่า เกิดอะไรขึ้น "

แต่จากการพูดคุยกับพ่อของผู้หญิงคนนั้นทำให้เธอสะเทือนใจมากที่สุด

" ฉันคิดว่า ฉันหวังว่า เขาคงรู้ดีว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้น
เขาบอกกับฉันว่า เขาค่อนข้างเข้มงวดกับเธอมาก
เป็นพ่อที่เข้มงวด และเขาเสียใจกับเรื่องนี้ที่ ...

ฉันรู้สึกเหมือนว่า ฉันไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้
ฉันไม่สามารถทำอะไรให้กับเขาได้ ...
ฉันรู้สึกว่าฉันหมดหนทางจริง ๆ "

ในหลาย ๆ กรณี มิยู กล่าวว่าการเสียชีวิตตามลำพัง
มักเกิดขึ้นกับคนที่มีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับครอบครัว
และไม่มีใครที่จะขอความช่วยเหลือได้
สังคมยังได้ตีตราคนที่ตายตามลำพังไว้ด้วย
เธอเชื่อว่า ชาวบ้านอาจจะเห็นความจริงที่ว่า
ผู้ตายไม่มีใครอยู่รอบข้างหรือมีคนที่รำพึงถึงคนตาย

Kodokushi คือ การตายตามลำพังและโดดเดี่ยว

สำหรับเธอแล้ว อาชีพนี้ได้เผยถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวมากที่สุด

" ถ้าคนจากไปแล้ว คุณก็ไม่สามารถทำอะไรได้
และนี่เป็นเวลาที่คุณจะตระหนักถึงความสำคัญของคน ๆ นั้น
นี่เป็นโอกาสของคุณ ที่จะพูดคุยกัน
และมีความสัมพันธ์กับครอบครัวและชาวบัาน "

รายงานเพิ่มเติมโดย Shiori Ito



เรียบเรียง/ที่มา



https://goo.gl/i4EfyL


Create Date : 22 ตุลาคม 2560
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2561 23:52:24 น. 0 comments
Counter : 1827 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.