ที่มา https://bit.ly/2oXgufr
นักวิจัยยังได้เชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กับการที่ทะเลทรายขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เพราะมีการขยายตัวเติบโตขึ้นร้อยละ 10 ตั้งแต่ปี 1920
แม้ว่าผู้เขียนรายงานวิจัยล่าสุด
จะไม่ได้เขียนระบุถึงผลกระทบทางนิเวศน์อื่น ๆ
ที่อาจจะเกิดจากการติดตั้งฟาร์มกังหันลม
และพลังงานแสงอาทิตย์ในทะเลทรายซาฮาร่า
แต่พวกนักวิจัยคิดว่า ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น
จะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้และรอบ ๆ ภูมิภาค
" 10% ของประชากรโลกที่มีการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม
มีการการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 50% ของโลก
(ที่สร้างเรือนกระจก จากการผลิตสินค้าชนิดต่าง ๆ ที่ใช้พลังงาน)
ดังนั้น ถ้าหากประชากรที่ยากจนที่สุด 90% ของโลก
มีเป้าหมายที่จะยกระดับมาตรฐานการครองชีพ
ไปสู่ระดับชนชั้นระดับสูงที่ 10% ของโลก
ด้วยการใช้พลังงานฟอสซิลในการผลิตพลังงาน
การเพิ่มกำลังการผลิตจะเพิ่มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกได้ถึง 5 เท่า
ดังนั้น เพื่อให้ชาวโลกสามารถเข้าถึงการพัฒนาได้
โดยไม่ทำการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เราจำเป็นจะต้องใช้พลังงานทดแทนที่สะอาดมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ "
Yan Li และ Safa Motesharrei กล่าวตอบในอีเมล
โอกาสที่จะปรับเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศโดยสิ้นเชิง
จะเห็นได้ชัดจากคำถามเชิงจริยธรรม (ควรทำหรือไม่ควรทำ)
แต่ David Wright ได้ชี้ให้เห็นว่า มนุษย์เราได้ทำมาก่อนแล้ว
" มนุษย์เป็นโดยธรรมชาติ นักสร้างโดยชีพวิสัย
เราพัฒนาการเป็นนักสร้างชีพวิสัยด้วยกิจกรรมต่าง ๆ
ที่อาจจะมีผลลัพธ์ที่เป็นไปได้เพียงหนึ่งในสองทางเลือก
ไม่ว่าจะเป็นการเก็บรักษาสายพันธุ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์
หรือการทำลายสายพันธุ์ให้สูญพันธุ์ไปเลย
สังคมมนุษย์ได้ทิ้งรอยเท้าทางนิเวศวิทยาขนาดใหญ่
ไว้ในพื้นที่ทะเลทรายและกึ่งทะเลทรายมาแล้ว
ในแง่ของความเต็มใจแล้ว
แน่นอน ผู้คนต่างยินดีในเรื่องนี้
เพราะสามารถที่จะสร้างโรงงานสร้างพลังงานขนาดมหึมา
ในทะเลทรายและกึ่งทะเลทรายของแอฟริกาจำนวนหลายแห่ง
แต่การกระทำดังกล่าวนี้ ก็นำไปสู่คำถามที่เปิดกว้างขึ้นว่า
การศึกษาเรื่องนี้ชี้ให้เห็นชัดว่า
มันเป็นเรื่องของการมองการณ์ไกลตามการคาดการไว้
ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกมากมายสำหรับโครงการดังกล่าว
ซึ่งจะต้องจ่ายมากกว่าในระบบนิเวศน์ด้วยเช่นกัน "
ทั้งนี้ การวิเคราะห์แต่
ค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ของโครงการ
ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโลก
ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
แต่เงินเดิมพันที่นี่ก็สูงมากเช่นกัน
โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยู่อาศัยในภูมิภาคนี้แล้ว
" มันขึ้นอยู่กับ คนในท้องถิ่นที่จะกำหนดวิถีชีวิตตนเองว่า
พวกเขายินดีที่จะเล่นกับเดิมพันในครั้งนี้หรือไม่
เพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
อาจจะมีผลกระทบแบบย้อนรอยเดิมในอดีต
ภายในระบบนิเวศวิทยาที่กว้างมากขึ้นในภูมิภาค
เพราะภายในบริบทของการเมืองศรษฐกิจอุตสาหกรรม
โครงการพัฒนาดังกล่าวมีแนวโน้ม
ที่คนในพื้นที่เพียงไม่กี่คนที่จะได้รับประโยชน์
จากการก่อสร้างโรงงานผลิตพลังงานจากลมและแสงแดด
แม้ว่าจะมีผลกระทบทางนิเวศวิทยากับพวกชาวบ้านจะรุนแรงที่สุด
(การสูญเสียพื้นที่ทำกิน/เลี้ยงส้ตว์ และภัยพิบัติจากธรรมชาติที่ไม่คาดคิด
ที่อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำฟ้าหรือหยาดน้ำฟ้า หรือพืชที่นำมาปลูกในพื้นที่)
ผลประโยชน์ดังกล่าวจะไหลไปสู่พื้นที่ที่มีการพัฒนาแล้วของโลก
(ผู้คนในชาติพัฒนาแล้วและมีกำลังจ่ายค่าพลังงานไฟฟ้า)
ซึ่งถือว่าไม่มีความเสี่ยงและรับผลประโยชน์จากพลังงานไปเต็ม ๆ " David Wright
ผู้เขียนงานวิจัยยังได้เสนอแนะคำแนะนำ
เกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินการใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
" การใช้ฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมขนาดใหญ่มีความเป็นไปได้อย่างสูงมาก
แต่ต้องมีการวางแผนที่เหมาะสมและการตัดสินใจอย่างมีวิสัยทัศน์
รวมทั้งการทำงานร่วมกันของผู้กำหนดนโยบาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และชาวบ้าน
เราหวังว่าบรรดาผู้มีบทบาทชี้นำกิจกรรมในท้องถิ่นและระดับโลก และผู้มีส่วนได้เสีย
จะหันหน้ามาร่วมงานกันและทำเรื่องนี้ให้เป็นจริงขึ้นมา
นี่อาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วสำหรับการดำรงชีวิตบนโลกใบนี้
ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงคุณภาพชีวิตของทุกคน "
Yan Li และ Safa Motesharrei กล่าวตอบในอีเมล
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/2Nq0dgG
https://bit.ly/2Q7Zkbb
https://bbc.in/2NUycLk
ข้อมูลเพิ่มเติม https://bit.ly/2Q7Zkbb
สภาพภูมิอากาศของฟาร์มกังหันลมและฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์
ในทะเลทรายซาฮาร่าที่อุณหภูมิอากาศใกล้พื้นผิว (Kelvin)
และน้ำฟ้าหรือหยาดน้ำฟ้า (มิลลิเมตรต่อวัน)
ผลกระทบของฟาร์มกังหันลม (A และ B) ฟาร์มสุริยะ (C และ D)
(E และ F) ตามลำดับจะปรากฏขึ้นตามภาพ
เฉพาะบริเวณที่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% (ทดสอบ t) จะแสดงบนแผนที่
จุดสีเทาหมายถึงตำแหน่งของฟาร์มกังหันลมและ / หรือ
ฟาร์มโซลาร์เซลล์ ที่ด้านล่างของแต่ละพล็อต,
ตัวเลขหลังจาก Δ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
(น้ำฟ้าหรือหยาดน้ำฟ้าที่เกิดขึ้นเป็นเคลวินหรือมิลลิเมตรต่อวัน)
เฉลี่ยทั่วทั้งพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยไปด้วยฟาร์มกังหันลมและฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์
สหสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของพื้นผิว (Rough)
กับการตอบสนองต่อพืช (Veg)
ภายใต้สภาพภูมิอากาศของฟาร์มกังหันลมในทะเลทรายซาฮาร่า
สหสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิ (A, C และ E) กับน้ำฟ้าหรือหยาดน้ำฟ้า (B, D และ F)
ที่จะปรากฏขึ้น ผลกระทบของฟาร์มกังหันลมที่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของพื้นผิว
และการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนของการสะท้อนแสงแดดของ
พื้นผิวในภายหลังที่มีการตอบสนองจากพืช
ที่ด้านล่างของแต่ละพล็อตตัวเลข
หลังจาก Δ แสดงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
(น้ำฟ้าหรือหยาดน้ำฟ้าที่เกิดขึ้นเป็นเคลวินหรือมิลลิเมตรต่อวัน)
โดยเฉลี่ยต่อพื้นที่ที่ครอบคลุมโดยฟาร์มกังหันลม
ชีพพิสัย (niche) คือ วิถีชีวิตของสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง
ตั้งแต่เกิดจนตายว่ามีรูปแบบ+วิถีการดำเนินชีวิตอย่างไร
(ในทางนิเวศวิทยายังรวมหมายถึง ทรัพยากรที่สิ่งมีชีวิตนั้นๆใช้ในชีวิตด้วย)
เช่น หากินอย่างไร เมื่อไร อย่างไร อาศัยอยู่ที่ใด สืบพันธุ์อย่างไร เป็นต้น
Ecological Niche คือ ความต้องการที่สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง