ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
13 กุมภาพันธ์ 2561
 
All Blogs
 
นกพันธุ์ใหม่วิวัฒนาการบนหมู่เกาะ Galapagos










การผสมพันธุ์ของนกสองพันธุ์ ระหว่างตัวผู้กับตัวเมียทำให้เกิดวงศ์ใหม่ Big Bird ตั้งชื่อโดยนักวิจัย
นกพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นพันธุ์ใหม่ Big Bird Credit: Copyright P. R. Grant



นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถสังเกตเห็นวิวัฒนาการที่น่าตื่นเต้นได้
วิวัฒนาการของนกพันธุ์ใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ในป่าในแบบเห็นกันจะจะ
และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วอายุของนกพันธุ์นี้
โดยในขณะนี้ได้มีการจัดลำดับจีโนม Genomic
และการวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพ
ทำให้ได้รับการยืนยันว่าเป็นนกกระจิบพันธุ์ใหม่ของดาร์วิน Darwin's finch
ซึ่งมีถิ่นกำเนิดบนเกาะขนาดเล็กที่เรียกว่า Daphne Majorในหมู่เกาะ Galápagos
นักวิจัยผู้ค้นพบได้ตั้งชื่อเล่นพวกมันว่า Big Bird

มีนกกระจิบของดาร์วิน Darwin's finches มีอย่างน้อย 15 พันธุ์
ที่ได้รับการตั้งชื่อไว้เพราะความหลากหลายของพวกมัน
ทำให้ช่วยให้นักธรรมชาตินิยม Charles Darwin
ผู้คิดค้นทฤษฎีวิวัฒนาการว่าเป็นการคัดสรรค์โดยธรรมชาติ
นั่นคือ การกลายพันธุ์จะสามารถช่วยให้พันธุ์นก
สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น
และจะถูกส่งผ่านไปยังรุ่นหลังภายในชั่วอายุนก

นกกระจิบมีถิ่นที่อยู่ในหมู่เกาะกาลาปาโกสของเอกวาดอร์และเกาะโคโคสคอสตาริกา
พวกมันจะปรับตัวให้เข้ากับอาหารที่ชอบ : นกกระจิบ Warbler finches จิกกินแมลงด้วยคมปากที่เรียวบาง
ในขณะที่นกกระจิบ Ground finches จิกกินเมล็ดพืชให้เปลือกแตกออกด้วยจงอยปากที่ทู่และแข็งแรง
นกกระจิบเป็นตัวอย่างในหนังสือเกี่ยวกับการปรับตัวตามธรรมชาติ
ซึ่งบรรพบุรุษเพียงตัวเดียวของพวกมัน ตอบสนองต่อแรงกดดันทางเลือกเพื่อให้อยู่รอด
ด้วยกรณีดังกล่าวนี้ - การหาอาหารได้ง่าย ทำให้มีการกระจายออกเป็นหลายพันธุ์/หลายชนิด

Charles Darwin เป็นคนแรกที่ได้ตั้งสันนิษฐานเรื่องนี้ไว้
ในระหว่างการเดินทางของเรือรบ HMS Beagle ในช่วงปี 1831–36
โดยได้เขียนไว้ในสมุดบันทึกประจำวันว่า
" มีนกตัวหนึ่งที่ไม่ธรรมดามาก
มีพฤติกรรมแปลกแยกแตกต่างไปจากนกจำพวกเดิม ๆ ในหมู่เกาะแห่งนี้
ทำให้เกิดมีการผสมพันธุ์หนึ่งขึ้นมาด้วยการจับคู่กัน
และปรับปรุงพันธุ์ใหม่ขึ้นมาให้แตกต่างออกไปในที่สุด "
เกือบสองศตวรรษต่อมาความสงสัยระยะแรกของ Charles Darwin
จึงได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม

โดยนกกระจิบสองพันธุ์ที่ผสมพันธุ์กัน
ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการผสมข้ามพันธุ์ Hybridisation species
หรือนกพันธุ์ลูกผสมเพื่อสร้างพันธุ์/วงศ์ใหม่ขึ้นมา



นกกระจิบ Big Bird Finch พันธุ์ใหม่บนหมู่เกาะ Galapagos (© P. R. Grant)




ในระหว่างการเดินทางสำรวจบนเกาะ Daphne Major
Peter กับ B. Rosemary Grant นักชีววิทยา Princeton University
ได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวของนกตัวผู้ ผู้บุกรุกที่ไม่ใช่นกพื้นเมือง
Geospiza conirostris หรือรู้จักกันในชื่อว่า นกกระจิบกระบองเพชรขนาดใหญ่
และมีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะกาลาปากอสอื่น คือ Española Genovesa Darwin และ Wolf
นกชนิดนี้เป็นหนึ่งในพันธุ์นกกระจิบของดาร์วิน Darwin's finches ที่มีขนาดใหญ่
และมีเสียงร้องที่แตกต่างจากนกกระจิบสามพันธุ์ในท้องถิ่นบนเกาะ Daphne Major
นกตัวผู้ผู้มาใหม่ที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแตกต่างจากนกท้องถิ่น

" เราไม่ได้เห็นมันบินมาจากท้องทะเล
แต่เราสังเกตเห็นมันไม่นานนัก
หลังจากที่มันมาถึง มันแตกต่างจากนกอื่น ๆ
ที่เรารู้เพราะว่า มันไม่ได้เกิดจากการฟักไข่บนเกาะ Daphne Major
(ร่องรอยรังนกพันธุ์นี้บนเกาะแห่งนี้) " Peter Grant กล่าว

และแล้วมันก็จับคู่กับนกตัวเมีย 2 ตัว
หนึ่งในบรรดานกกระจิบสามพันธุ์ทัองถิ่น Geospiza fortisนกกระจิบขนาดกลาง Ground finch
และการจับคู่ครั้งนี้ก็เกิดลูกหน่อเนื้อเชื้อไขขึ้นมา

การผสมพันธุ์ระหว่างสัตว์ที่มีชนิด/พันธุ์ที่แตกต่างกัน
มักจะส่งผลให้ลูกที่เกิดมามีความผิดปกติ
ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงได้แก่
ฬ่อ Mules ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างลากับม้า
และ Ligers ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างสิงโตตัวผู้กับเสือตัวเมีย



พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของนกลูกผสมพันธุ์ใหม่
G. conirostris (ซ้าย) กับ G. fortis (ขวา) (© K. T. Grant and B. R. Grant)




ผลการผสมพันธุ์ข้ามพันธุ์
ลูกที่เกิดมามักจะเป็นหมัน
หรือผสมพันธุ์ซ้ำไม่ค่อยได้

แต่ลูกนกพันธุ์ใหม่นี้กลับเริ่มสืบเชื้อสายใหม่ได้
มากไปกว่าที่พวกมันควรจะเป็นเช่นนั้น

นกพันธุ์นี้จะมีเสียงร้องที่แตกต่างจากนกพันธุ์ G. fortis
เช่นเดียวกับขนาดและรูปร่างจงอยปากที่แตกต่างกัน
และนี่คือสิ่งที่นกกระจิบมีไว้ใช้เพื่อดึงดูดนกตัวอื่นในพันธุ์เดียวกัน
เพื่อให้มาจับคู่และผสมพันธุ์สร้างครอบครัวใหม่

นกพันธุ์ใหม่จะแปลกแยกออกจากนกพันธุ์พื้นเมืองอย่างสิ้นเชิง
และมีคู่ครองภายในพันธุ์ของพวกมันเองเพื่อความอยู่รอด/สืบพันธุ์

แต่มันเป็นการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อสืบทอดเชื้อสาย/พันธุ์ที่ยากลำบากยิ่ง
ในช่วงฤดูแล้งบนเกาะในช่วงปี 2002-2003
เมื่อพันธุ์ของวงศ์ตระกูลใหม่ในรุ่นที่ 4 มีนก 2 ตัวที่ตายไป

และแล้วพวกมันก็กลับมาชุมนุมกันอีกครั้ง

" เมื่อฝนตกอีกครั้ง
พี่ชายกับพี่สาว น้องชายกับน้องสาว
รุ่นพ่อกับรุ่นแม่ก็มาผสานเข้าด้วยกัน
และผลิตลูกหลานอีกจำนวน 26 ตัว

มีลูกนกเพศผู้ 9 ตัวที่รอดตาย
ลูกนกเพศผู้ตัวหนึ่งผสมพันธุ์กับแม่นก
ลูกนกเพศเมียตัวหนึ่งผสมพันธุ์กับพ่อนก
และลูกนกรุ่นต่าง ๆ ที่เหลือต่างผสมพันธุ์กันเอง
ทำให้เกิดสายเลือดพันธุ์แท้ที่ยอดเยี่ยม "
Rosemary Grant กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อปีที่แล้ว

เนื่องจากนกกระจิบลูกผสมมีขนาดใหญ่กว่านกพื้นเมือง
พวกมันจึงสามารถเข้าถึงทางเลือกอาหารมากกว่า
พวกมันกินอาหารที่นกพื้นเมืองกินไม่ได้
และนั่นทำให้พวกมันยังมีชีวิตอยู่รอดได้

ในการเข้าเยี่ยมเยียนเกาะของนักวิจัยสองท่านนี้
ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ พวกท่านได้สำรวจและนับนกใหม่
นกรุ่นก่อนเหลืออยู่ 23 ตัวและนกที่ผสมพันธุ์ใหม่อีก 8 ตัว

ความสำเร็จครั้งนี้ตามที่นักวิจัยได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า
การผสมพันธุ์อาจเกิดขึ้นได้หลายครั้ง
ในตอนที่นกกระจิบของดาร์วิน Darwin's finches ในอดีต
ส่งผลให้เกิดพันธุ์ใหม่จนกลายเป็นพันธุ์ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้

" นักธรรมชาตินิยมรายหนึ่งมาถึงเกาะ Daphne Major
โดยไม่ทราบว่าพันธุ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่เมื่อไม่นานมานี้
ย่อมรู้จักและเชื่อว่านกพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในสี่ของนกชนิด/พันธุ์นี้บนเกาะนี้
เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการศึกษาภาคสนามในระยะยาว "
Leif Andersson จาก Uppsala University ใน Sweden
ซึ่งเป็นผู้ทำการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมของนกพันธุ์ใหม่นี้



นกกระจิบ medium ground finch (Geospiza fortis) บนเกาะ Daphne Major หมู่เกาะ Galápagos
Credit: Photo Copyright B.R. Grant, Department of Ecology and Evolutionary Biology/Princeton University Press






นกกระจิบ large ground finch (Geospiza magnirostris) บนเกาะ Daphne Major หมู่เกาะ Galápagos
Credit: B. R. Grant Reproduced with the permission of Princeton University Press







เมื่อ 36 ปีก่อนมีนกกระจิบตัวหนึ่งที่บินมาจากเกาะที่ห่างไกลในหมู่เกาะกาลาปากอส
โดยพบหลักฐานทางพันธุกรรมโดยตรงที่เกี่ยวข้องกับนกกระจิบพันธุ์ใหม่ที่เกิดขึ้นใหม่ในครั้งนี้

ในปี 1981 นักศึกษาระดับบัณฑิตวิทยาลัยที่ทำงานร่วมกับ
Peter กับ Rosemary Grant บนเกาะ Daphne Major
ได้สังเกตเห็นนกกระจิบเพศผู้ตัวใหม่ที่มีเสียงร้องที่ผิดปกติ
และมีรูปร่างขนาดใหญ่และจงอยปากที่ใหญ่กว่า
นกกระจิบพื้นเมือง/ทัองถิ่นสามชนิดที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้

การศึกษาครั้งนี้ทำให้พบว่า
นกกระจิบพันธุ์ใหม่สามารถเจริญเติบโต/ขยายเผ่าพันธุ์ได้ภายใน 2 ชั่วอายุนก

นักวิจัยได้เก็บตัวอย่างเลือดนกกระจิบพันธุ์นี้แล้วปล่อยนกไปเป็นอิสระ
นกกระจิบท้องถิ่นขนาดกลางพันธุ์ Geospiz fortis
ได้ถูกนกกระจิบที่มาจากที่ไกลผสมพันธุ์จนเริ่มต้นวงศ์วานใหม่เป็นพันธุ์ที่เรียกว่า Big Bird
และมีการนำตัวอย่างเลือดนก 6 ชั่วอายุนกกระจิบ
มาใช้ในการวิเคราะห์ทางพันธุกรรมของนกกระจิบพันธุ์นี้

ผลการศึกษาล่าสุดของนักวิจัยจาก Uppsala University
ได้ทำการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ DNA ที่เก็บรวบรวมจาก
ตัวอย่างเลือดของนกกระจิบ 120 ตัวจาก 15 พันธุ์
มี 2 พันธุ์ที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นต้นสกุล
ของเหล่าบรรดาพ่อแม่นกและลูกหลานของพวกมันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

นักวิจัยได้ค้นพบว่าพ่อพันธุ์เป็นนกกระจิบกระบองเพชรขนาดใหญ่ Geospiza conirostris
มาจากเกาะ Española ที่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 100 กิโลเมตร(ราว 62 ไมล์)
ส่วนแม่พันธุ์เป็นนกกระจิบ medium ground finch (Geospiza fortis) บนเกาะ Daphne Major


ระยะทางที่ห่างไกลมาก นั่นหมายความว่า
นกกระจิบตัวผู้คงไม่สามารถบินกลับถิ่นเดิม
เพื่อไปหาคู่ครองกับสมาชิกของนกกระจิบพันธุ์ตัวเองได้
มันจึงเลือกคู่ครองจากนกกระจิบสามเผ่าพันธุ์ที่มีอยู่แล้วที่เกาะ Daphne Major
ทำให้เกิดการแยกตัวออกมาเป็นนกกระจิบพันธุ์ใหม่จากการสืบพันธุ์ครั้งนั้น
ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการพัฒนาพันธุ์นกกระจิบใหม่ขึ้นมา
ที่แยกพันธุ์ใหม่ออกมาจากนกกระจิบประจำถิ่น 3 พันธุ์ดั้งเดิม

ลูกหลานของนกกระจิบพันธุ์นี้แปลกแยก/แตกต่างกับนกกระจิบชนิดอื่น
จากเสียงร้องของพวกมันซึ่งใช้ในการดึงดูดนกกระจิบพันธุ์เดียวกัน
ในการเลือกคู่ครองตามปกติเพื่อมาผสมพันธุ์และสร้างครอบครัวใหม่
พวกมันจึงไม่สามารถดึงดูดนกกระจิบเพศผู้เพศเมียพันธุ์ท้องถิ่นได้

ลูกหลานนกกระจิบพันธุ์นี้ยังมีรูปร่างและจงอยปากที่แตกต่างจากนกกระจิบพันธุ์ท้องถิ่น
เป็นผลทำให้ลูกหลานนกกระจิบพันธุ์นี้ต้องผสมพันธุ์กับสมาชิกของวงศ์ตระกูลของตัวเอง
เพื่อเสริมสร้างรักษาการพัฒนานกกระจิบพันธุ์ใหม่ของพวกมันเอง

นักวิจัยยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า
การก่อตัวของนกกระจิบพันธุ์ใหม่นี้โดยปกติต้องใช้เวลานานมาก
แต่ในนกกระจิบพันธุ์ Big Bird เกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่ 2 ชั่วอายุนก
ตามข้อสังเกตที่ทำโดย Peter กับ Rosemary Grant
ในการศึกษาทางภาคสนามเพื่อทำการศึกษาทางพันธุกรรมนกพันธุ์นึ้

นกกระจิบดาร์วิน Darwin's finches มาจากบรรพบุรุษร่วมกัน
ที่มาสร้างเผ่าพันธุ์นกกระจิบอยู่ในหมู่เกาะ Galápagos ประมาณ 1-2 ล้านปีที่ผ่านมา
นกกระจิบจึงมีหลากหลายชนิดมาก ตั้งแต่ชนิดต่าง ๆ
และการเปลี่ยนแปลงขนาดรูปร่างและขนาดจงอยปากนกกระจิบ
ทำให้พวกนกกระจิบสามารถกินอาหารชนิดต่าง ๆ ในหมู่เกาะเหล่านี้
ความต้องการที่สำคัญ/การปรับตัวให้อยู่รอดสำหรับนกกระจิบพันธุ์พิเศษนี้
เกิดขึ้นจากการผสมพันธุ์ของนกกระจิบสองพันธุ์ที่แตกต่างกัน
ทำให้เกิดเชื้อสายนกกระจิบพันธุ์ใหม่ที่จะต้องมีความสามารถในการแข่งขันทางด้านนิเวศวิทยา
นั่นคือ การแข่งขันด้านการหาอาหารการกินและการแย่งชิงทรัพยากรอื่น ๆ กับนกกระจิบพันธุ์อื่น ๆ
และนี่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นสำหรับนกพันธุ์ Big Bird

" มันน่าทึ่งมาก เมื่อเราเปรียบเทียบขนาดและรูปร่างจงอยปากของนกกระจิบ Big Bird
กับลักษณะทางสัณฐานวิทยาของนกกระจิบอีกสามชนิดที่อาศัยอยู่ในเกาะ Daphne Major
นกกระจิบ Big Birds จะครอบครองโพรงของตัวเองในพื้นที่เหมาะสมกับจงอยปากของพวกมัน

ดังนั้นการผสมผสานระหว่างยีนที่หลากหลายจากนกกระจิบสองพันธุ์ร่วมกัน
กับการคัดเลือกพันธุ์โดยธรรมชาติจึงนำไปสู่วิวัฒนาการ
ของรูปสัณฐานวิทยาของจงอยปากนกกระจิบที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร "
Sangeet Lamichhaney นักวิจัยระดับปริญญาเอกที่ Harvard University

ความหมายของพันธุ์คือ ความสามารถในการผลิตลูกหลานที่สมบูรณ์อย่างเต็มที่
จากการผสมข้ามพันธุ์ เช่น ในกรณีของม้าและลา
อย่างไรก็ตามผลการศึกษาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ได้กลายเป็นเรื่องที่ชัดเจน/มีผลประจักษ์แล้วว่า
พันธุ์ที่ใกล้ชิดกัน/เลือดชิดกันโดยปกติแล้วควรหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์กัน
เพราะลูกหลานของพันธุ์นั้นจะสามารถส่งผ่านยีนด้อยไปยังรุ่นต่อ ๆ ไปได้

ในการศึกษาที่ผ่านมาได้ค้นพบก่อนหน้านี้ว่า
มีการส่งผ่านยีนระหว่างนกกระจิบของดาร์วิน Darwin's finches ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา


Charles Darwin ถ้ายังมีชีวิตอยู่คงจะยินดีกับเรื่องนี้แน่
เพราะมีการตีพิมพ์งานวิจัยทั้งสองเรื่องนี้พร้อมกัน
ก่อนวันครบรอบวันเกิดปีที่ 206 ปีของท่านเพียง 1 วัน


เรียบเรียง/ที่มา

https://goo.gl/tnDspH
https://goo.gl/EzNqqu
https://goo.gl/pU2K1A
https://goo.gl/GKqTQX
https://goo.gl/sVktiy









Peter กับ Rosemary Grant ยืนอยู่ด้านหน้าโครงกระดูก Allosaurus ที่จัดเรียงขึ้นมาใหม่
ที่ Princeton University's Guyot Hall.JESSICA KOURKOUNIS/QUANTA MAGAZINE

นกกระจิบตัวนี้เป็นสมาชิกของพันธุ์ G. fortis species
หนึ่งในสองพันธุ์ที่มีการผสมกันจนเกิดวงศ์ Big Bird Credit: Copyright B.R. Grant


สมาชิกตัวหนึ่งของนกกระจิบพันธุ์ G. conirostris species นกตัวนี้บินมาราว ๆ 100 กิโลเมตร
และได้สร้างครอบครัวนกกระจิบพันธุ์ใหม่บนเกาะ Daphne Major ในหมู่เกาะ Galapagos
ณ ที่แห่งนี้ นกกระจิบพันธุ์นี้ได้จับคู่กับสมาชิกตัวหนึ่งของนกกระจิบพันธุ์ G. fortis species
และได้กำเนิดวงศ์ใหม่ Big Bird Credit: Copyright B. R. Grant


นกกระจิบพันธุ์ต่าง ๆ(นกฟินซ์สปีชีส์ต่างๆ) บนหมู่เกาะกาลาปากอสมีขนาดและสีแตกต่างกันเล็กน้อย
แต่จะมีลักษณะจะงอยปากที่แตกต่างกัน เพื่อความเหมาะสมสำหรับการหาอาหารชนิดต่างๆ
(ที่มา : สีมา ชัยสวัสดิ์ และคณะ, 2548)













Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2561 23:01:09 น. 0 comments
Counter : 3761 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.