ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กันยายน 2560
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
24 กันยายน 2560
 
All Blogs
 
20 เรื่องราวของปืน AK47 หรือ Kalashnikov







Credit : AFP Photo / Luis Robayo / AFP




AK-47 หรือ Kalashnikov คือ อาวุธปืนที่ใช้ง่ายและราคาถูก นิยมใช้งานกันมากที่สุดในโลก
AK-47 คือ อนุสรณ์ความทรงจำผลงานชิ้นสุดท้ายของ Mikhail Kalashnikov
บิดาของปืน AK-47 ที่เสียชีวิตในวัย 94 ปีที่รัสเซีย


1. Mikhail Kalashnikov คือ ผู้การรถถังคันหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
กลายมาเป็นผู้ออกแบบอาวุธปืน เพราะได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ช่วงทำสงครามที่ Bryansk
ในช่วงที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในปี 1942
เขาได้รับยินเสียงบ่นจากเพื่อนทหารที่บาดเจ็บจากการรบ
เรื่องเกี่ยวกับปืนไรเฟิลจู่โจมของรัสเซียหลายเรื่องมาก
จนทำให้เขาตัดสินใจที่จะพัฒนาเปลี่ยนแปลงพวกมัน
Mikhail Kalashnikov มียศจ่าสิบเอกในช่วงที่ออกแบบปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47


2. ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov กระบอกแรกผลิตขึ้นในปี 1947
มาจาก Avtomat Kalashnikova = Kalashnikov's Automatic Gun
ในภาษา Russian: Автома́т Кала́шникова จึงเป็นที่มาของชื่อ AK-47
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ได้รับรางวัล Stalin Prize และ Order of the Red Star
ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 กลายเป็นอาวุธประจำหน่วยรบกองทัพโซเวียตรัสเซียตั้งแต่ปี 1949 

Mikhail Kalashnikov ได้รับเพียงเงินเดือนกับรางวัลเท่านั้นในการคิดค้นปืน AK-47
ทำให้เขาหวังว่าจะทำเงินได้จากผู้ผลิตเหล้าวอดก้า 2 รายที่ใช้ชื่อเหล้าวอดก้า Kalashnikov
ในช่วงบั้นปลายชีวิต Kalashnikov ทำเงินได้จำนวนมากจากการไปปรากฎตัวในงานแสดงอาวุธรอบโลก




Mikhail Kalashnikov. (RIA Novosti / Ruslan Krivobok) / RIA Novos




3. ความทนถึก ต้นทุนต่ำในการผลิต พร้อมที่จะใช้งานและใช้งานง่าย
คือ คุณสมบัติสำคัญที่สร้างความสำเร็จให้กับปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ไปทั่วโลก
ในช่วงผลิตและทดสอบปืนนี้ Kalashnikov ได้ใช้งานมันอย่างหนักทุกรูปแบบทั้งในทรายหรือในน้ำ
ทำให้นักออกแบบยอมรับว่ามันคือ สัญลักษณ์อัจฉริยะในการสร้างสรรค์ของคนรัสเซีย



Credit : https://goo.gl/hRmGoS




4. ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ได้รับการบันทึกใน Guinness Book of Records ว่า
เป็นอาวุธที่มีการใช้งานกันอย่างกว้างขวางมากที่สุดในโลก
คาดว่ามีปืนไรเฟิลจู่โจมราว 100 ล้านกระบอกที่ยังมีการใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้
เฉลี่ย 1 ใน 60 คนจะต้องมีปืน AK-47 อยู่ 1 กระบอก(ประมาณการประชากรโลก 6,000 ล้านคน)
ทั้งยังสามารถสอนให้ผู้ใช้งานมือใหม่ ให้ถอดทำความสะอาดและประกอบได้ภายใน 1 ชั่วโมง




Credit : https://goo.gl/hRmGoS





5. กองทัพกับหน่วยรบพิเศษใน 106 ประเทศทั่วโลก
ตั้งแต่อัฟกานิสถาน ถึง ซิมบับเว ทุกวันนี้ยังใช้งานปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47


6. รัสเซียไม่เพียงแต่แจกจ่ายปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov ไปทั่วโลก
ในช่วงเป็นคอมมิวนิสต์ ทุกอย่างที่คิดค้นประดิษฐ์ได้เป็นของรัฐ
แม้ว่าจะมีการจดทะเบียนสิทธิบัตรก็เป็นแต่การยอมรับผลงานคนคิดค้น
กับป้องกันประเทศอื่นมาฉกฉวยหากำไรจากสิทธิบัตรของโซเวียตรัสเซียในยุคนั้น
ทั้งรัสเซียยังอนุญาตให้ชาติต่าง ๆ ทำการผลิตปืนรุ่นนี้ได้เอง ในยุคการส่งออกปฏิวัติคอมมิวนิสต์ช่วงสงครามเย็น
ซึ่งมีประเทศมากกว่า 30 ประเทศ เช่น จีน อิสราเอล อินเดีย อียิปต์ และ ไนจีเรีย
โดยจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนรัสเซียมีปืน AK-47 คงค้างจำนวนมากในคลังแสงมากที่สูดในโลกเช่นกัน

ในปี 2006 ประธานาธิบดี Hugo Chavez เวเนซูเอลา ได้ส่งออกปืน AK-47 ครั้งแรกจำนวน 100,000 กระบอก
ในปี 2012 จึงได้ประกาศว่ามีการตั้งโรงงานผลิตปืน AK-47 ในเขต Western Hemisphere ของเวเนซูเอลา


7. เชื่อกันว่าปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ฆ่าคนตายทั่วโลกมากกว่าปืนใหญ่ การทิ้งระเบิด หรือขีปนาวุธอื่น ๆ
ประมาณการว่ามีผู้คนราว 250,000 คนถูกยิงตายด้วยปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikovs ในทุกปี




8. โดยส่วนตัวแล้ว Mikhail Kalashnikov บอกว่าไม่เคยนึกตำหนิตนเองในปี 2007
เกี่ยวกับเลือดและความตายที่เกิดจากปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 เพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันชาติ
“ ผมนอนหลับสบายดี มันเป็นเรื่องของพวกนักการเมือง ที่สมควรจะถูกประณามมากกว่า
เพราะต่างตกลงกันไม่ได้และนำไปสู่ความรุนแรง (ต่างพาชาติไปสู่สงคราม)

ผมสร้างมันขึ้นมาเพื่อปกป้องมาตุภูมิ ผมไม่เคยเสียใจ
หรือต้องรับผิดชอบแต่อย่างใดในการที่นักการเมืองใช้พวกมัน

ผมภูมิใจกับสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ แต่ผมเศร้าใจ ถ้ามันถูกใช้โดยผู้ก่อการร้าย

ผมอยากที่จะสร้างเครื่องจักรที่ชาวบ้านสามารถใช้งานได้
และช่วยชาวนาในการทำงานของพวกเขา ตัวอย่างเช่น เครื่องตัดหญ้า "




อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ Kofi Annan ยกปืนไรเฟิลจู่โจม AK47
ที่ดัดแปลงเป็นกีตาร์ในศูนย์ Vienna's U.N วันที่ 11 กันยายน 2007 (Reuters / Herwig Prammer)





9. ราคาถูกจัดว่าเป็นข้อดีที่สำคัญที่สุดของปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
ราคาเฉลี่ยของปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นนี้ราว 534 เหรียญสหรัฐ(18,690.-บาท) ในปี 2005
ตามข้อมูล Phillip Killicoat นักเศรษฐศาสตร์ Oxford University
และคาดว่าราคาปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ในกลุ่มประเทศแอฟริกา
มีราคาถูกกว่าราคาเฉลี่ยของปืนทั่วไป 200 เหรียญสหรัฐ (7,000.-บาท)
(1 เหรียญสหรัฐเทียบเท่า 35.-บาท)
ตลาดมืดในไทยราคาปืน AK-47 มือสอง ราว ๆ 10,000-15,000.-บาท




Credit : https://goo.gl/k71CQm





10. Osama bin Laden มักจะมีปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov เคียงข้างกายในช่วงเผยแพร่ภาพปลุกระดมบนวีดีโอ
และตามรายงานข่าวบางแห่งได้ระบุว่า สหรัฐอเมริกามอบปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 กระบอกแรก
ให้กับ Osama bin Laden ผู้เริ่มก่อตั้งกลุ่ม Al Qaeda ในการไปรบกับโซเวียต ที่อัฟกานิสถาน
พร้อมกับจัดส่งปืน AK-47 นับล้านกระบอกพร้อมกับขีปนาวุธให้กับกองกำลังติดอาวุธต่อต้านโซเวียต




Osama Bin Laden (Reuters / Hamid Mir / Editor / Ausaf Newspaper for Daily Dawn)



Credit : https://goo.gl/hRmGoS





11. ในช่วงสงครามเวียตนาม ทหารสหรัฐอเมริกาหลายคนต่างทิ้งปืนไรเฟิลจู่โจม M16
แล้วหยิบฉวยปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov ที่เชื่อมั่นว่าใช้งานได้ดีกว่า M16 จากศพข้าศึกเวียตกงมาใช้งานแทน
รวมทั้งในอัฟกานิสถาน อิรัค ที่มีปัญหาเรื่องฝุ่นกับทรายมากในปืน M16
แม้กระทั่งในทุกวันนี้ นาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาบางคนยังพกพาปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 เป็นอาวุธประจำกาย

ในปี 2007 โรมาเนียขายปืน AK-47 แบบกึ่งอัตโนมัติให้สหรัฐฯ
ในราคาเพียง 350 เหรียญถูกกว่าปืนอื่น ๆ ที่ตั้งราคาขาย 1,395 เหรียญ

5 ธันวาคม 2007 วัยรุ่น 19 ปีได้ใช้ปืน AK-47 ระเบิดกระสุนในใส่ในศูนย์การค้า Nebraska รัฐ Omaha
ฆ่าคนตายไป 8 คนและบาดเจ็บมากกว่า 3 คน ก่อนจะยิงตัวตาย


12. ปืน AK-47 เป็นที่ยอดนิยมในแอฟริกาหลายชาติ
ก่อนวันคริสต์มาส ในปี 1989 Charles Taylor ได้ยึดเมืองมอนโรเวีย ในไลบีเรีย
ด้วยทหารกองโจรจำนวน 100 คนที่ติดอาวุธปืน AK-47 และครองอำนาจนานถึง 6 ปี
ด้วยการตั้งทหารเด็กและเยาวชนให้ติดอาวุธปืน AK-47 คุ้มครองพวกตน




Ousmane Sangare ทหารพลร่มมาลี วัย 26 ปีถือปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
ใน Gao ตอนเหนือของ Bamako (AFP Photo / Joel Saget)







ปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 อยู่บนธงชาติโมแซมบิก




อาร์มทหารซิมบับเว



อาร์มเบอร์กิน่า ฟาโซ(1984-97



อาร์มติมอร์ตะวันออก




ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov ยังปรากฏอยู่บนธงชาติกลุ่มก่อการร้ายฮิซบุลลอฮ์ ในเลบานอน



Credit : https://goo.gl/V1eFQH






13. พ่อแม่บางคนในแอฟริกาตั้งชื่อลูกตนเองว่า Kalash
ซึ่งเป็นชื่อเล่นอีกชื่อของปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
ตามรายงานข่าวโทรทัศน์ Russia Channel One


14. Andrey Kirilenko นักบาสเกตบอลชั้นนำของรัสเซีย
เกิดในเมือง Izhevsk สถานที่ตั้งโรงงานผลิตปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov
ได้หมายเลขประจำตัวเสื้อเลขที่ 47 ใน NBA และมีชื่อเล่นว่า AK-47




Credit : https://goo.gl/qGcqxH





15. อียิปต์ได้บอกถึงความเป็นอมตะของปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
ด้วยการสร้างอนุสาวรีย์ขนาดยักษ์รูปปืนKalashnikov พร้อมกับดาบปลายปืน ที่คาบสมุทรซีนาย




Credit :
https://goo.gl/HNMRyN




16. ในปี 2004-2005 ปืน AK-47 มากกว่า 350,000 กระบอกพร้อมอาวุธอื่น ๆ
ถูกนำออกจากประเทศบอสเนียและประเทศเซอร์เบีย ตามมติ NATO กับกองกำลังรักษาสันติภาพยุโรป
แล้วนำไปส่งมอบให้กองกำลังติดอาวุธในอีรัคที่รับจ้างกับ Pantagon
แต่ปืน AK-47 กว่า 110,000 กระบอกพร้อมกระสุน 80,000 นัดสูญหายไปไม่ทราบสาเหตุ
ในปี 2007 กองทัพอีรัคต่างใช้ปืน AK-47 ที่สหรัฐฯ สั่งซื้อจากประเทศจอร์แดน
แต่ช่วงหลังสหรัฐเริ่มแจกจ่ายปืน M-16 ให้ประจำกายแทน
เพราะปรากฏว่าปืน AK-47 จำนวนมากตกอยู่ในมือฝ่ายต่อต้าน/ISIS


ปืนไรเฟิลจู่โจม Kalashnikov เคลือบทองคำ คือ
สมบัติสะสมส่วนตัวของ Saddam Hussein อดีตผู้นำอีรัค ที่ถูกทหารสหรัฐฯ ยีดได้



Credit : https://goo.gl/713PH1






17. เหรียญที่ภาพ Mikhail Kalashnikov กับอาวุธปืนไม่ใช่มีแต่ในรัสเซีย
แม้แต่ประเทศที่รักสงบแบบนิวซีแลนด์ ยังมีเหรียญรุ่นพิเศษ ที่มีภาพปืนไรเฟิลจู่โจมรุ่นนี้ฉลองครบรอบ 60 ปี



Credit : https://goo.gl/7UtBEj






18. หนังสือพิมพ์ Liberation ของฝรั่งเศสได้ขนานนามปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47
คือ สิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20 เหนือกว่าระเบิดปรมาณูกับกระสวยอวกาศ

19. การผสมเหล้าวอดก้า เหล้าหวาน Absinth มะนาว อบเชย และน้ำตาล เป็นเหล้าผสมชื่อ Kalashnikov
และยังมีเหล้าวอดก้าชื่อ Kalashnikov ที่บรรจุขายในขวดคล้ายปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 ตั้งแต่ปี 2004



Credit : https://goo.gl/k71CQm


20. Cesar Lopez ศิลปินชาวโคลัมเบีย ได้นำปืนไรเฟิลจู่โจม AK-47 จำนวน 12 กระบอกมาประดิษฐ์ให้เป็นกีตาร์
แล้วมอบให้เป็นของขวัญชิ้นหนึ่งให้กับ Kofi Annan อดีตเลขาธิการสหประชาชาติในปี 2007



Credit : https://goo.gl/4jcvy3




เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/WgzchK
https://goo.gl/iZHP24
https://goo.gl/9sBrBZ




ปืนนี้ไทยเรียกว่า อาก้า ภาษารัสเซีย A= ah K= kah



Credit : หมายเลข 19 https://pantip.com/topic/31576364/comment5

ค้างคาใจคับ ทำไมคนไทยถึงเรียกปืนตระกูล AK ว่า"อาก้า"


ภาษาฝรั่งเศส A= อา K= กา
เพราะบางท่านว่าน่าจะมาจากภาษาฝรั่งเศส ซึ่งครั้งหนึ่งเวียตนามเคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน
และช่วงหนึ่งเวียตนามรับการสนับสนุนอาวุธจากโซเวียตรัสเซีย การออกเสียงก็คล้ายเคียงกัน





Create Date : 24 กันยายน 2560
Last Update : 25 กันยายน 2560 22:38:02 น. 1 comments
Counter : 3063 Pageviews.

 
ขอบคุณที่นำมาฝากค่ะ
เจิมอ่าน


โดย: อุ้มสี วันที่: 25 กันยายน 2560 เวลา:18:01:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.