ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 มีนาคม 2561
 
All Blogs
 
โจรสลัดต่างชาติช่วยกองทัพเรือรัสเซีย






จักรพรรดิ์ใน Moscow กับ St. Petersburg ต่างก็เหมือนราชันย์ชาติอื่น ๆ
ที่ต่างพึ่งพาบริการของโจรสลัด Legion Media





เมื่อตอนที่กองทัพเรือรัสเซียถูกก่อตั้งขึ้นมา
โดยจักรพรรดิ์ใน Moscow กับ St. Petersburg
ก็ไม่แตกต่างกับราชันย์ในอีกหลายประเทศ
ที่ต่างใช้พึ่งพาและใช้บริการของโจรสลัด
มากกว่าใช้ทหารเรือของตนเองในการรบ

พวกโจรสลัดมักจะเป็นชาวต่างชาติ
และเป็นนักรบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าทหารเรือของชาติตนเอง







1. ความน่ากลัวของโจรสลัดเดนมาร์กในทะเลบอลติก




Ivan IV เป็นจักรพรรดิ์ที่มีอารมณ์แปรปรวน
เป็นทั้งผู้ปกครองที่โหดร้ายและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล

เข้าใจถึงความสำคัญของรัสเซียในการมีท่าเรือบนทะเลบอลติก




กองทัพเรือรัสเซียในทะเลบอลติกถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 18
โดย Peter the Great พระเจ้าปีเตอร์มหาราช
จักรพรรดิ์และและนักปฏิรูปที่สำคัญของรัสเซีย
พระองค์ทรงการดำเนินการต่อเนื่องสืบทอดจาก Ivan IV
ที่ทรงพยายามจะสร้างกองทัพเรือเป็นเวลานานกว่า 100 ปีแล้ว
ตามพระราชดำริห์ของ Ivan IV หรือที่รู้จักกันดีว่า Ivan Terrible Ivan ผู้เหี้ยมโหด


เพื่อบรรลุเป้าหมายการมีท่าเรือบนทะเลบอลติก
Ivan IV จึงได้ลงมือทำสงครามในเขตภูมิภาคนี้

และสงครามในเขตภูมิภาคนี้ลากยาวมานานกว่าสองทศวรรษ
ในช่วงตอนแรก ผลลัพธ์ออกมาค่อนข้างดีสำหรับพระองค์

และได้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์บางอย่างจากพื้นที่ได้ยึดครอง

แต่แล้วพระองค์ตระหนักดีว่า 
ถ้าจะสามารถควบคุมชายฝั่งทะเลได้ จะต้องมีเรือรบ



แต่ปัญหาที่สำคัญของรัสเซียก็คือ
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 รัสเซียไม่มีเรือรบกับลูกเรือเลย

ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงหันไปขอความช่วยเหลือจากต่างชาติ

โดยขอให้กษัตริย์เดนมาร์ก Frederick II
พันธมิตรร่วมรบกับ Ivan Terrible ในการทำสงครามร่วมกัน
กำจัดศัตรูทางประวัติศาสตร์ของรัสเซียสองรัฐ ได้แก่ Polish-Lithuanian และ Sweden


พระองค์จึงเชื้อเชิญให้ Karsten Rode โจรสลัดชาวเดนมาร์กร่วมมือด้วย
“ ดังนั้นในช่วงฤดูร้อนของปี 1570 บริเวณน่านน้ำเหล่านั้น

มีกองเรือโจรสลัดที่ไม่ทราบชื่อ แต่ปฏิบัติงานโดย Karsten Rode 

โผล่ขึ้นมาในท้องทะเลและกลายเป็นความหวาดกลัวของทะเลบอลติก 
"
Valery Yarkho นักประวัติศาสตร์ เขียนไว้ในภาษารัสเซีย


Karsten Rode ได้รับสาส์นจาก Ivan IV ซึ่งมีรับสั่งว่า

" Rode และสหายของท่าน ต้องตามล่าเรือต่าง ๆ ด้วยดาบและไฟ
ไล่ล่า
ตามท่าเรือและทะเลเปิดในที่ต่าง ๆ ไม่เพียงแต่ที่โปแลนด์กับลิทูเนีย

แต่กับเรือลำไหนก็ตามที่มีสินค้าให้ปล้น ปล้นได้ทั้งคนและข้าวของทั้งหมด "



(คนจะถูกจับมาเรียกค่าไถ่ และจะมีส่วนแบ่งไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ให้กับ Rode)

เพราะฉะนั้น การให้ท้ายของพระเจ้าซาร์รัสเซีย ก็คือ
Karsten 
Rode สามารถโจมตีใครก็ได้ที่ติดต่อกับศัตรูของพระองค์
และโจรสลัดรายนี้ก็ทำหน้าที่นี้ได้ค่อนข้างดีทีเดียว

ในตอนแรก Karsten Rode มีเรือขนาดเล็กเพียงลำเดียวเท่านั้น

ต่อมาไม่นานก็เพิ่มกองเรือโจรสลัดขึ้นเป็น 3 ลำ
และหลังจากนั้นไม่นานก็มีเรือโจรสลัด 6 ลำ

ที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ Karsten Rode

โดย Karsten Rode จะโจมตีเรือสินค้าส่วนใหญ่ที่มาจากท่าเรือ Gdansk ในโปแลนด์


ในเดือนกรกฎาคมปีนั้น Karsten Rode
ได้ทำการปล้นเรือสินค้าจำนวน 17 ลำด้วยการโจมตีอย่างรวดเร็ว
ทำให้พวก
พ่อค้าในทะเลบอลติกเริ่มวิตกกังวล

และลงขันให้กองเรือราชนาวีลงมือปฏิบัติการ
ไล่ล่ากองเรือโจรสลัด
 Karsten Rode
แต่ปฎิบัติการไล่ล่าล้มเหลวในที่สุด

ยิ่งทำให้ชาวสวีเดนไม่พอใจกับ Karsten Rode มาก

และพยายามจะไล่ล่ากองเรือโจรสลัดของ Karsten Rode

แต่พวกสวีเดินก็ต่างล้มเหลวไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน


แต่การเป็นโจรสลัดที่ประสบความสำเร็จของ Karsten Rode
จบลงอย่างเหนือความคาดหมายมาก

เพราะ Ivan IV กำลังจะแพ้สงคราม
และเมื่อ Karsten Rode ปรากฏตัวขึ้นมาในเดนมาร์ก
จึงกลายเป็นตัวปัญหาสำคัญของกษัตริย์เดนมาร์ก
พระองค์จึงจับกุมคุมขัง Karsten Rode ไว้ได้



แม้ว่าจะมีข้อเท็จจริงที่ว่า Karsten Rode
จะได้ขายสินค้าและข้าวของจากการปล้นสะดมส่วนใหญ่ให้กับชาวเดนมาร์ก

แม้ว่าจะมีข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการกับ Ivan IV ว่า จะต้องขายให้กับพ่อค้าชาวรัสเซียก็ตาม
และตามที่ Valery Yarkho นักประวัติศาสตร์ชาวรัสเซียบันทึกไว้



“ ในขณะที่ Rode ไม่รีบเร่งที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญากับพระเจ้าซาร์รัสเซีย

ดังนั้นกษัตริย์เดินมาร์กก็ไม่กระตือรือร้นที่จะปล่อยตัว Rode ออกจากเดนมาร์ก
และ Rode จะต้องกลายเป็นเชลยรัสเซีย 

แม้ว่า Ivan IV จะได้ส่งสาส์นถึงกษัตริย์ Frederick
ขอให้ส่งตัว Rode เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังมอสโก
แต่กษัตริย์เดนมาร์กก็ปฏิเสธที่จะทำตามสาส์นฉบับนั้น

เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Rode ในบั้นปลายของชีวิต “







2. นายพลเรือตรีอเมริกันที่ต่อสู้กับชาวเตริกส์




John Paul Jones กลายเป็น นักรบคนสำคัญท่ ที่ช่วยให้รัสเซียทำการรบ
จนประสบความสำเร็จ
ในการโจมตีป้อมปราการ Ochakov ของตุรกี





John Paul Jones คือ โจรสลัดอีกผู้หนึ่งที่ทำงานให้กับรัสเซีย

ท่านเป็นที่รู้จักกันดีว่า ช่วยหากองทัพเรือให้ชาวสหรัฐอเมริกา

ในช่วงสงครามประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา


ในปี 1788 ท่านถูกว่าจ้างโดยจักรพรรดินีมหาราชของรัสเซีย Catherine II

เพราะในเวลานั้นรัสเซียกำลังทำสงครามกับตุรกีในทะเลดำ 

แต่รัสเซียขาดเรือรบและลูกเรือที่มากด้วยประสบการณ์
John Paul Jones ได้รับการเลื่อนยศเป็นนายพลเรือตรี

และบัญชาการเรือรบรัสเซียจำนวน 14 ลำ 
ในช่วงฤดูร้อนของปีนั้น


“ ชาวอเมริกันกลายเป็นหนึ่งในนักรบสำคัญ
ในการรบ
ที่ประสบความสำเร็จของรัสเซีย
ในการโจมตี Ochakov ป้อมปราการตุรกี
เรือรบจากกองเรือโจรสลัดของท่าน
เข้ามามีส่วนร่วมในการโจมตีกองเรือรบตุรกี

และบังคับให้เรือรบที่มีปืนใหญ่จำนวน 64 ลำบนเรือต้องยอมจำนน "


ทั้งนี้ ในจดหมายที่โต้ตอบระหว่างกันกับเจ้าชาย Potemkin

[เจ้าชายคนโปรดของ Catherine II รับผิดชอบการทำสงครามในเขตภาคใต้]

John Paul Jones ยืนยันว่าเป็นความคิดของท่านเอง
ที่จะบรรจุกระสุนปืนใหญ่ชนิดทำขึ้นเป็นพิเศษ ...

ซึ่งทำลายทำร้ายชาวเติร์กได้จำนวนมากที่สุด
Igor Ivanenko นักประวัติศาสตร์ เขียนไว้ในภาษารัสเซีย


ในฤดูใบไม้ร่วง เพราะผลจากเรื่องอื้อฉาวต่าง ๆ นานา

ท่านจึงต้องเดินทางไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

แต่กองเรือโจรสลัดของท่านก็ยังสามารถทำลายกองเรือรบตุรกีได้

หลังจากสงครามที่ประสบความสำเร็จ
และมีความสำคัญอย่างมาก
กับทางยุทธศาสตร์กองทัพรัสเซียที่ยึดป้อมปราการ Ochakov ได้

ในเวลาเดียวกัน John Paul Jones ก็ได้ขอลาพักผ่อนถึง 2 ปีในนครปารีส
แต่ ณ ที่แห่งนั้น ท่านเสียชีวิตอย่างกระทันหัน



การบุกยึดป้อมปราการ Ochakov ในตุรกี Wikipedia




3. วีรบุรุษชาวกรีก



Lambros Katsonis เป็นทหารของกองทัพรัสเซีย
และมีส่วนร่วมในสงครามรัสเซีย - ตุรกี




Lambros Katsonis เช่นเดียวกับ John Paul Jones

ท่านเป็นวีรบุรุษปฏิวัติในบริบทของการรบกับชาวเติร์กในประเทศกรีก 

โดยทำสงครามอย่างยาวนานและในบางครั้งก็อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ John Paul Jones


ในปี ค.ศ. 1788 Lambros Katsonis ถูกส่งไปยัง Trieste

ซึ่งเป็นท่าเรือของออสเตรียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

ที่เมืองท่า Trieste แห่งนั้น Lambros Katsonis ได้ซื้อเรือลำหนึ่งแล้วตั้งชื่อเรือว่า
Minerva of the North เพื่อถวายพระเกียรติแด่ Catherine II


หลังจากประสบความสำเร็จในการปล้นหลายครั้ง

ในไม่ช้า Lambros Katsonis ก็ขยายกองเรือโจรสลัดถึง 10 ลำ
ซึ่งแต่เดิมเป็นเรือรบของพวกเติร์กที่ถูกยึดมาได้

ในการบัญชาการกองเรือโจรสลัดเหล่านี้
กลายเป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริง
กับ
จักรวรรดิออตโตมัน ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เพราะในเวลานั้นรัสเซียไม่สามารถส่งเรือรบมาสนับสนุนได้

เพราะกำลังติดพันทำสงครามกับสวีเดน

จึงเป็นผลให้กองเรือโจรสลัดของ Lambros Katsonis

เป็นกองทัพเรือของรัสเซียเพียงชุดเดียวในภูมิภาคนี้


“ เรื่องแบบนี้เป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งตุรกีว่า
ตามหมู่เกาะต่าง ๆ เต็มไปด้วยเรือโจรสลัดของรัสเซีย

แต่ความจริงแล้ว ไม่มีกองเรือโจรสลัดในหมู่เกาะต่าง ๆ
ที่มีจำนวนมากไปกว่าข้าพระองค์
และเรือโจรสลัดจำนวนสิบลำของข้าพระองค์ "


Katsonis เขียนไว้ในจดหมายรายงานถึงเจ้าชาย Potemkin 

ซึ่งถูกอ้างอิงโดย Alexander Shirokorad
นักประวัติศาสตร์ ในหนังสือโจรสลัดของรัสเซีย

กองเรือโจรสลัดของท่านแข็งแกร่งมาก
จนสามารถยึดป้อมปราการของตุรกีบนเกาะแห่งนี้ได้


ในปี 1790 กองทัพตุรกีกับแอลจีเรียได้ร่วมมือกัน

เพื่อปราบกองเรือโจรสลัด Lambros Katsonis
แต่ก็พ่ายแพ้อย่างหมดรูปเหมือนเดิม
ต่อมา 
เมื่อรัสเซียลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับเตริกส์ ในอีก 2 ปีต่อมา
ทำให้ Lambros 
Katsonis โกรธมากที่ประเทศกรีซของท่าน
ไม่ได้ระบุว่าได้รับสิทธิ์ใด ๆ ไว้ในหนังสือสนธิสัญญาด้วย
Lambros 
Katsonis จึงนำกองเรือโจรสลัดทำการปล้นและทำการรบต่อไป

แต่ต่อมาไม่นานนัก Lambros 
Katsonis ก็เดินทางกลับไปยังรัสเซีย



เรียบเรียง/ที่มา


https://goo.gl/AkcAat



Create Date : 26 มีนาคม 2561
Last Update : 26 มีนาคม 2561 2:18:16 น. 1 comments
Counter : 1847 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณอุ้มสี


 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Music Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
หมุยจุ๋ย Travel Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Hobby Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Art Blog ดู Blog
mambymam Music Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
ravio Education Blog ดู Blog

เจิมอ่าน....
เข้าบล็อกนี้ทีไรได้ความรู้กลับบ้านตลอด
เจิม & vote


โดย: อุ้มสี วันที่: 26 มีนาคม 2561 เวลา:12:16:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.