กรงไฟ โดย ชลนิล
ห้ อ ง ส มุ ด ส่ ว น ตั ว
อีกครั้งกับผลงานของนักเขียนนามปากกา "ชลนิล" แต่เป็นเล่มแรกที่ประทับใจ และอยากจะทำความรู้จักชลนิล ในเล่มอื่น ๆ อีก จากที่อ่าน เพลิงนาคา แล้วรู้สึกเฉย ๆ อาจะเป็นเพราะดูละครไปด้วย ทำให้อรรถรสในการอ่านหนังสือถูกบั่นทอนลงไป
ผลงานที่ประทับใจของชลนิล เล่มนั้นก็คือ..
กรงไฟ โดย ชลนิล
สำนักคำต่อคำ : เล่มเดียวจบ จำนวน 515 หน้า ราคา 360 บาท
กรงไฟ เป็นนิยายที่ก่ำกึ่งดราม่าและฆาตกรรมอำพราง ลึกลับ กงเกวียนกำเกวียน จะเคร่งเครียดก็ไม่ใช่ สบาย ๆ ก็ไม่เชิง เป็นนิยายที่มีเนื้อหนักแน่น อัดแน่นด้วยคุณภาพและความดีงาม
อ่านแล้วสัมผัสให้รู้สึกถึงองค์ความรู้ ภูมิปัญญาทางธรรม ประสบการณ์ ชั่วโมงบินของการเป็นนักเขียน คุณชลนิลได้ถ่ายทอดออกมาในตัวของแต่ละคนที่โลดแล่นบนบทนิยายเล่มนี้ได้กลมกล่อม น่าติดตามและลุ้นระทึกถึงเหตุการณ์ที่สืบเนื่องตลอดจนจบเนื้อหา
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผลกรรมที่คุณนายพวงทองได้ทำไว้ เริ่มจากคนที่ไม่มีอะไรเลย เติบโตด้วยวิธีการสกปรก ด้านมืด แปดเปื้อนด้วยเลือด ช่วงชิงความเป็นใหญ่ ในการก่อร่างสร้างตัว จนกลายเป็นบุคคลสำคัญ มีเกียรติที่สุดในจังหวัดโดยไม่ต้องมีสายสะพาย
หลายสิบปีแห่งการเดินทางบนถนนชีวิต แวดวงธุรกิจคุณนายพวงทองใช้เวลาเกือบทั้งหมด สร้างอาณาจักรตนเองขึ้นมา ทุกสิ่งที่ฝันไว้ในวัยเยาว์เป็นจริงด้วยมันสมองและสองมือ โดยไม่สนใจวิธีการ กลายเป็นเศรษฐินีผู้ร่ำรวยชนิดไม่มีใครยอมนั่งนับรายการสมบัติให้เหนื่อยเปล่า แทบทุกคนในจังหวัดต่างเคารพ ยกย่อง เกรงกลัวบารมีเธอ
มีธุรกิจของตระกูลครอบคลุมหลายอย่าง โดยให้ลูก ๆ ทั้งห้าคนเป็นคนดูแลกิจการ ไม่ว่าจะห้างสรรพสินค้า ตลาดสด อู่ต่อรถ โรงแรม และร้านอาหาร
และเมื่อถึงเวลาของสังขารที่ไม่เอื้อที่จะอยู่ในโลกนี้ต่อไป แม้เธอไม่อยากจะตาย เธอก็ยื้อพญามัจจุราชไม่ได้ ด้วยความหวงทรัพย์สมบัติ ห่วงใยลูกหลานนี่เอง ทำให้เธอยังคงวนเวียน เฝ้าคอยดูลูกหลานไม่ไปไหน
วิญญาณของเธออยู่ได้ด้วยการผูกติดอยู่กับกุศลกรรมอันน้อยนิด ที่เธอได้ทำไว้ด้วยความไม่เต็มใจครั้งยังมีชิวต แต่มันก็ส่งผลให้เธอได้อาศัยที่แห่งนั้น เป็นที่พักร่างในโลกของวิญญาณและล่อเลี้ยงด้วยกระแสบุญที่มีคนส่งให้
ทำให้เธอได้รู้ได้เห็นความย่อยยับของลูกหลานจากบ่วงกรรมที่เธอทำไว้ ทำให้ลูกหลานต้องร้อนรน ฆ่าแกงกันเอง ด้วยความละโมภในทรัพย์สมบัติที่เธอสร้างมันขึ้นมา เธอเห็นผลกรรมของเธออย่างไม่มีสิทธิอุทธรณ์และให้การปกป้องใด ๆ ได้อีกลูกของเธอพบกับปัญหาต่าง ๆ มันเกี่ยวเนื่องจากผลกรรมจัดสรร ต้องมีอันเป็นไปคนแล้วคนเล่า เหมือนตกอยู่ในวังวนของบ่วงกรรมโดยมีเธอเป็นต้นกำเนิด
แม้ตายไปแล้วก็ยังมาทุกข์ทรมานจากการที่ได้เห็นลูกหลานทะเลาะจนถึงกับฆ่าแกงกัน เห็นอาณาจักรที่เธอสร้างต้องพบกับความสูญเสียจนแทบจะไม่เหลืออะไรเลย ชีวิตหลังความตายของเธอน่ากลัว ทุกข์ทรมานมากมายนัก เธอไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
นิยายเล่มนี้ ได้ดำเนินเรื่องด้วยชีวิตของลูก ๆ ของคุณนายพวงทองทั้งห้าคน ที่ต้องมาเผชิญกับปัญหาสารพันกับมรดกร้อนที่สร้างมาด้วยหายนะและความตายของคนอื่น กรรมค่อย ๆ จัดสรรทำหน้าที่ของมันได้อย่างเที่ยงตรงยุติธรรมที่สุด
อ่านแล้ว สนุกมากค่ะ นานแล้วที่ไม่เจอนิยายที่น่าติดตามได้มากขนาดนี้ คุณชลนิลได้เขียนแบบไม่เร่งไม่รีบและไม่ยัดเยียดธรรมะให้คนอ่าน บรรจงเขียนค่อยเป็นค่อยไป ให้เห็นการทำงานของกรรม พร้อมเหตุและผลเพราะสิ่งนี้เกิดสิ่งนี้จึงต้องมี
ค่อย ๆ สอดแทรกวิถีธรรม ให้สัมผัสได้ว่า ชีวิตที่ร้อนและชีวิตที่เย็นนั้น แตกต่างกันอย่างไร ผลที่ได้รับเป็นอย่างไร เป็นหนังสือนิยายที่ให้อะไรมากกว่านิยาย เป็นอีกเล่มที่บรรจุไว้ในเล่มโปรดเลยค่ะ
ขอหยิบยกเอาบางบทความมาให้อ่านนะคะ
"เมื่อก่อนรุ้งร้ายมากนะ ทำอะไรตามใจตามอารมณ์ ไม่สนใจใคร ไม่สนใจด้วยว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ก็คิดอย่างที่พูดแหละ..เกิดหนเดียว ตายหนเดียว เพราะฉะนั้นอยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรทำไปเลย ไม่เคยคิดอะไรไกล ๆ ไม่สนใจอนาคต
..จนมาที่นี่ ได้เห็นคุณย่า มองเห็นชีวิตหลังความตาย รุ้งรู้สึกว่าแกมีชีวิตหลังความตาย ที่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย แล้วยิ่งมาตามเรื่องอาสีดา มันทำให้รุุ้งอดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า ...นี่เราเกิดมาทำไม"
"..รุ้งไม่รู้หรอกว่าเราเกิดมาทำไม แต่ถ้าเลือกได้ ก็อยากมีชีวิตที่เป็นสุขอย่างคุณลุงคุณป้า มากกว่าอยู่บนกองสมบัติแบบพ่อแบบอาแบบลุงแล้วต้องร้อนรนทุกย่างก้าว"
รุ่งรตีสามารถสัมผัสเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง "สุข" เย็น กับ "สุก" ร้อน ได้ แสดงว่ายังมีพื้นฐานจิตใจที่ดีงาม อ่อนโยน ง่ายต่อการฝึกฝน เพียงแต่กระแสกรรมเก่าพาให้หล่อนเกิดมาในครอบครัวที่แตกแยก
"การมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก ร่วมวัฏสงสารน่ะ..เป็นสิ่งที่ดี แต่ใช่ว่าเราจะช่วยเขาได้ทุกเรื่อง ทุกครั้ง ขอให้รู้ไว้ว่า.. สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของของตน กรรมเป็นสมบัติเฉพาะตัว เฉพาะบุคคล
เราหวังดี เมตตาอยากช่วยเหลือเขาก็เป็นกรรมดี เจตนาดีของเรา แต่จะสำเร็จหรือไม่ ต้องดูด้วยว่าผลกรรมของเขาแรงแค่ไหน รู้จักที่จะวางอุเบกขา รู้จักที่จะยอมรับ ในผลของกรรมในแต่ละสัตว์ แต่ละบุคคล โดยไม่เอาใจเราไปแทรกแซง"...
สุขศจี เริ่มมีความหนักแน่นในการให้ทาน ..ทำทุกสิ่งเพื่อแก้ไขบาปผิดของตน เปรียบเสมือนเติมน้ำใสสะอาดลงไปในบ่อที่เต็มไปด้วยเกลือ แรก ๆ น้ำย่อมเค็มปร่า ใช้ไม่ได้ แต่ตราบใดที่ขยันเติมน้ำสะอาดโดยไม่หยุด ไม่ถอย ความเค็มย่อมจืดจาง ...ถึงจุดหนึ่ง น้ำอาจไม่มีรสเค็มสักนิด ทั้งที่เกลือในบ่อยังคงเดิมไม่ลดน้อยลง
ด้วยศักยภาพของมนุษย์สามารถทำได้เช่นนั้น ตราบใดยังมีชีวิตย่อมมีโอกาส ขอเพียงสำนึกได้ ละวางความชั่วทั้งมวล เฉกเช่นไม่ยอมเติมเกลือลงในบ่อน้ำ มุ่งหน้าบำเพ็ญความดีถ่ายเดียวโดยไม่ลดละท้อถอย
บุญไม่อาจล้างบาปได้.. แต่บุญที่สร้างสมเป็นกองมหาศาล ยามขึ้นตาชั่งย่อมมีน้ำหนักมากกว่าบาปเก่าอย่างไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบ ขอเพียงมีความเห็นถูก ปฏิบัติตรงเท่านั้น"... คุ ย กั น ท้ า ย บ ล็ อ ก
นิยายเล่มนี้ เราซื้อมาในช่วงเซลล์เหลือเล่มละ 100 บาท (ต้องซื้อครบ 7 เล่มขึ้นไป) ซื้อมาด้วยความคิดที่สงสารหนังสือ ที่ราคาลดอย่างน่าใจหาย ซื้อมาเก็บไว้ก่อนแล้วค่อยอ่านว่างั้นเถอะ แล้วพอทีวีออนแอร์เรื่อง "เพลิงนาคา" ของ ชลนิล ก็ไปหาซื้อเพลิงนาคามาอ่านก่อน
ยอมรับว่าไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ บทนิยายกับบทโทรทัศน์มักจะปรับเปลี่ยนมากน้อยอยู่เสมอ เมื่อดูสองอย่างในเวลาเดียวกันบทโทรศัทน์มักจะได้เปรียบเพราะมีนักแสดงนำได้ถ่ายทอดออกมาให้เห็น ทำให้หนังสือของคุณชลนิลที่ซื้อมา 2 เล่ม ก่อนหน้านี้ถูกเก็บไว้นาน
กว่าจะหยิบ "กรงไฟ" เล่มนี้ออกมาอ่าน ก็ใช้เวลาอยู่ในกองดองนานพอสมควร แต่พอได้อ่านแล้ว เฮ้ย..สนุกว่ะ ทำไมไม่หยิบมาอ่านตั้งแรกวะ ใจก็ต่อว่าตัวเองกระปอดกระแปด เนื้อหาโดยรวมนิยายเรื่องกรงไฟ ก็อย่างที่รีวิวให้ในข้างบนนั่นแหละค่ะ
ใครที่กำลังมองหนังสือที่ดี ๆ สักเล่ม ไม่หน่อมแน้มหรือดราม่า เคร่งเครียดเกินไป เราขอแนะนำ กรงไฟ ไปอ่านเลยค่ะ ขอรับรองไม่ผิดหวัง..
ส่งท้ายบล็อกด้วยรูปนี้ค่ะ.. ซ้าย หนังสือของลูกชายคนเล็ก ขวา หนังสือจ่อคิวอ่านเดือนนี้ของอิแม่มัน
หนังสือของลูกชายคนเล็ก เกือบ 80% ได้รับมรดกตกทอดจากลูกชายคนโต ที่ปัจจุบันผันจากการอ่านการ์ตูนไปอ่านนิยายอานิเมะ ไปห้างทีไรขอแยกตัวไปร้านหนังสือตลอด
เวลาที่ลูกขอซื้อหนังสือไม่เคยห้ามแต่จะจำกัดจำนวนเล่มในการซื้อแต่ละครั้ง อย่าได้ถามหาค่าหนังสือแต่ละเดือน ยิ่งเอามากองรวมกันไม่อยากจะถึงตัวเงินที่จ่ายไป คิดเสียว่า..จ่ายเป็นค่าความรู้รอบตัวจักได้ไม่เสียดายเนอะ อิอิ บ ท ส่ ง ท้ า ย : ขอขอบคุณ : ทุกคะแนนโหวต BlogGang Popular Award #14 โหวตให้กับ JinnyTent Blog นะคะ รางวัลชมเชย Best Friendly รางวัลชมเชย Best Travel Blog และรางวัลอันดับ 3 Best Book Blog
Create Date : 01 ตุลาคม 2562 |
Last Update : 1 ตุลาคม 2562 20:52:52 น. |
|
25 comments
|
Counter : 2118 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณRananrin, คุณเนินน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณสองแผ่นดิน, คุณวลีลักษณา, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณSweet_pills, คุณkae+aoe, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณชีริว, คุณอุ้มสี, คุณทนายอ้วน, คุณRinsa Yoyolive, คุณThe Kop Civil, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณเริงฤดีนะ, คุณmcayenne94, คุณหอมกร, คุณTui Laksi, คุณSai Eeuu, คุณจันทราน็อคเทิร์น |
โดย: Rananrin วันที่: 1 ตุลาคม 2562 เวลา:19:43:36 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 1 ตุลาคม 2562 เวลา:20:06:33 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 1 ตุลาคม 2562 เวลา:20:38:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 ตุลาคม 2562 เวลา:21:32:25 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:6:34:10 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:8:12:39 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:21:09:33 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:21:17:47 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:22:27:24 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:22:32:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:22:54:04 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 ตุลาคม 2562 เวลา:23:50:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 ตุลาคม 2562 เวลา:6:30:29 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 ตุลาคม 2562 เวลา:8:53:51 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 3 ตุลาคม 2562 เวลา:12:18:26 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 3 ตุลาคม 2562 เวลา:12:43:55 น. |
|
|
|
โดย: พายุสุริยะ วันที่: 3 ตุลาคม 2562 เวลา:20:33:52 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 3 ตุลาคม 2562 เวลา:21:06:01 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 4 ตุลาคม 2562 เวลา:3:22:37 น. |
|
|
|
|
|
โห แค่ชื่อ ก็คิดหนักแล้วค่ะ ว่าจะอ่านดีมั้ย 555
แต่เห็นด้วยนะคะ สัตว์โลกย่อมมีกรรมเป็นของของตน กรรมเป็นสมบัติเฉพาะตัว เฉพาะบุคคล
ใครทำกรรมอะไรไว้ก็ย่อมได้กรรมนั้นเสมอ