เมียงมองเมืองหม่อง ผ่านเลนส์ (2) @ พุกาม, มัณฑะเลย์, สิเรียม, ย่างกุ้ง
ชมภาพสวย ๆ จากตอนที่แล้ว เมืองพุกาม ทุ่งเจดีย์สีทองเรียบฝั่งแม่น้ำอิระวดี คลิกได้ที่นี่ค่ะ
วันที่สาม บินต่อไปยัง "มัณฑะเลย์" (Mandalay) เมืองหลวงเก่าของพม่า ด้วย Air Mandalay / 6T401 ใช้เวลาจากพุกาม-มัณฑะเลย์ ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ปักธงไว้ที่ วัดมหามัยมุนี หรือวัดระไคน์ (ยะไข่), พระราชวังมัณฑะเลย์, วัดชเวนันดอ วัดกุโสดอ, เขามัณฑเลย์ และตลาดกลางคืน ไว้เป็นที่หมาย
วัดมหามัยมุนี หรือ วัดระไคน์ (ยะไข่)
พระพุทธรูปเนื้อนิ่ม ณ มัณฑะเลย์ เป็นศูนย์รวมของความศรัทธาที่เราสามารถหาดูได้ยากจากที่ใดในโลก
ในทุกๆเช้าเวลาประมาณตีสี่ เจ้าอาวาสจะต้องมาทำ พิธีล้างหน้าองค์พระมหามัยมุนี เป็นพิธีกรรมอันเก่าแก่ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ชาวเมืองมีความเชื่อว่า พระพุทธรูปองค์นี้มีลมหายใจอยู่ มีชีวิต มีใบหน้าเหมือนพระพุทธเจ้า
เชื่อกันว่า มีพระพุทธรูปหน้าเหมือนอยู่ 5 องค์ 2 องค์ในอินเดีย 2 องค์อยู่บนสวรรค์ และ พระมหามัยมุนีองค์นี้ รวมเป็น 5 องค์ ผู้ที่มาไหว้พระพุทธรูปเนื้อนิ่มองค์นี้ จะต้องซื้อแผ่นทองคำเปลวไปติดบูชายังตัวพระ และสวดมนต์บูชา
ส่วนผู้หญิงนั้นห้ามเข้าไปสัมผัสองค์พระพุทธรูป ให้รออยู่ด้านนอกเท่านั้น
คุณเต้ยเล่าให้ฟังว่า ปุ่มสีทองอร้าอร่ามที่เห็นในรูปนั้น เกิดจากการที่ ผู้คนนำทองไปปิดองค์พระเป็นเวลานานนับร้อยปี จึงทำให้องค์พระเป็นแบบนี้
"พระราชวังมัณฑะเลย์" ราชธานีสุดท้ายของพม่า ได้ถูกสร้างขึ้นในสมัย พระเจ้ามินดง
โดยการสร้างนั้น ได้ยึดหลักของศูนย์กลางจักรวาลในแบบของ พราหมณ์ ปนกับ พุทธ โดยที่มี สมมุติให้ตัววังเป้นศูนย์กลางของโลก (เขาพระสุเมรุ)
มีกำแพงล้อมรอบ 4 ด้าน มีประตูทางเข้าด้านล่ะ 3 ประตู แต่ล่ะประตูนั้นฝังมนุษยเป็นไว้เพื่อเป็นผีเฝ้าประตู ตัวกึ่งกลางของพระราชวัง ห้องสีหาสนบัลลังค์ ณ ที่พระแท่นบัลลัง มียอดเจดีย์เจ็ดชั้น บนยอดสุดเป็นยอดแหลม รับพลังของจักรวาล
ตัวพระราชวังได้ทำจากไม้สักทั้งหลัง ภายในมี เรือนประทับของพระสนมมากมาย แต่ละหลังทำการสลักแกะลวดลายด้วยช่างฝีมืออันประณีต วิจิตรเป็นอย่างมาก
หลังจากสร้างพระราชวังเสร็จแค่ 28 ปี อังกฤษก็ตีเมืองมัณฑะเลย์แตกในปี พ.ศ. 2367 พระเจ้าธีบอ ซึ่งโอรสของพระเจ้ามินดง จึงเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่าและ ถูกส่งไปอินเดีย และเชื่อกันว่าถูกประหารที่นั่นโดยไม่ได้กลับพม่าอีกเลย
สมบัติทุกชิ้นถูกอังกฤษขนเอาไปไม่เว้นแม้แต่ราช บัลลังก์นกยูง สัญลักษณ์แห่งราชวงศ์ และ พระที่นั่งสิงหนาทในท้องพระโรงใหญ่ ก็ถูกขนไปไว้ที่ประเทศอังกฤษ
ในสมัยสงครามมหาบูรพา (สงครามโลกครั้งที่ 2) เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษ ได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ของประพม่าจนไฟลุกไหม้เป็นจุล เพราะว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่น
พระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นพระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้เป็นจุล เหลือแต่ป้อมปราการและคูน้ำรอบพระราชวัง
ปัจจุปัน พระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่า ได้จำลองรูปแบบของพระราชวังของเก่าขึ้นมา
ที่นี่ คือ วัด/วิหาร ชเวนันดอ แปลความหมายเป็นภาษาไทย คือ พระราชมณเฑียรทอง
สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลังและเคยเป็นที่ประทับนั่งสมาธิของ พระเจ้ามินดง พระราชบิดาของพระเจ้าส ีป้อ จนสิ้นพระชนม์ ที่วิหารแห่งนี้
"วัดกุโสดอ" เป็นวัดที่พระเจ้ามินดงสร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 4 และ พระองค์ ทรงให้จารึกพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์ลงบนหินอ่อน 729 แผ่น
ถือเป็นพระไตรปิฎกเล่มใหญ่ที่สุดในโลก และได้นำมาประดิษฐานในมณฑป อยู่รอบพระเจดีย์มหาโลกมารชิน สูง 30 เมตร ซึ่งจำลองรูปแบบมาจากพระมหาเจดีย์ชเวสิกองแห่งเ มืองพุกาม
"มัณฑะเลย์ ฮิลล์"
"มัณฑะเลย์ ฮิลล์" ตั้งอยู่กลางเมืองมัณฑะเลย์ สูง 236 เมตร ปากทางขึ้นมารูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่สองตัว ระหว่างทางมีปูชนียสถานให้สักระบูชาเป็นระยะๆ
นอกจากนั่งรถขึ้นมาแล้วยังมีบันได 7,292 ขั้น ให้เดินขึ้นมาได้ด้วย โดยจะผ่านจุดชมที่หนึ่งและจุดชมที่สอง..
ตลาดกลางคืน (Night Market)
ที่เล่าให้ฟังว่า มืดจริง ๆ ค่ะ สถานที่จริงมีแสงสว่างน้อยมาก เลย...ไม่แน่ใจว่า.. ช่วงที่คนเล่าเดินเที่ยว จะมีคนสังเกตเห็นบ้างมั้ย 555
เห็นหน้าตาออกมันเยิ้มแบบนี้ มีคนเล่าว่า อร่อยใช้ได้ค่ะ อร่อยไม่อร่อย เห็นเพื่อนร่วมก๊วนคุณเต้ยซัดไปคนละสิบกว่าไม้ นี่ขนาด เล่าให้ฟังว่า แค่ชิม นะคะคุณผู้ชม
6 คน 70 กว่าไม้คร่า^^ คงทำเอาแม่ค้ายิ้มแปล้ ที่เจอกรุ๊ปคนไทยก๊วนนี้ อิอิ
ปิดโปรแกรมวันที่สามด้วยตลาดกลางคืนแล้ว ก็พุ่งเข้าที่พัก Royal Guesthouse เก็บแรงไว้ลุยต่อในวันรุ่งขึ้น
วันที่สี่ บินจากมัณฑะเลย์ กลับมา ย่างกุ้ง ด้วย มัณฑะเลย์ แอร์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกับอีก 30 นาที
จุดหมายคือ เมืองสิเรียม (Syriem) หรือ เมืองตันลยิน (Thanlyin) อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้งประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากเมืองย่างกุ้ง ประมาณ 1 ชั่วโมง ด้วยการต่อเรืองหางยาวข้ามฟาก
ชม วัด / เจดีย์ เยเลพญา
กลับเข้าเมืองย่างกุ้ง ชม พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) ในยามค่ำคืน อีกหนึ่งมุมมองของมหาเจดีย์ ที่สวยงามจับใจ จริง ๆ
ค่ำคืนสุดท้าย พักที่ แพนด้า โฮเทล ที่เดิมกับคืนแรกที่มาถึง เก็บแรง เก็บพลังงาน ไว้เที่ยววันพรุ่งนี้อีกวัน ก่อนที่จะเหินฟ้ากลับเมืองสยาม
ก่อนจะอำลาเมืองหม่อง ไปแวะชม มหาเจดีย์ชเวดากอง ยามเช้าอีกรอบ องค์เจดีย์สีทอง อร่าอร่าม สวยงามไม่แพ้ตอนกลางคืนเลยค่ะ
เช้าของวันสุดท้ายในเมืองหม่อง แวะหลังจากที่แวะชม มหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว ยังพอมีเวลา แวะชม เจดีย์โบดาทาวน์ แปลว่า เจดีย์นายทหาร 1,000 นาย
ตามตำนานเล่าขานว่า เมื่อราว 2000 ปีก่อน พระเจ้าโอกะลาปะ กษัตริย์มอญทรงบัญชาให้ นายทหารระดับแม่ทัพตั้งแถวถวายสักการะแด่พระเกศาธาตุ ที่นายวาณิชสองพี่น้อง อัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือดากอง ณ บริเวณนี้
จึงสร้างเจดีย์โบดาทาวน์ไว้เป็นที่ระลึก พร้อมทั้งแบ่งพระพุทธเกศา 1 เส้น มาบรรจุไว้ ก่อนนำไปบรรจุในมหาเจดีย์เวดากอง และเจดีย์สำคัญอื่นๆ จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดถล่มย่างกุ้ง ทำให้เจดีย์โบดาทาวน์องค์เดิม ถูกทำลายพินาศ แต่ในระหว่างการบูรณะได้ค้นพบผอบทรงสถูปบรรจุพระ เกศธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ
ถ่ายจากด้านในฐานเจดีย์โบดาทาวน์ค่ะ
ครั้นเมื่อเจดีย์โบดาทาวน์องค์ใหม่ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2496 จึงนำพระเกศธาตุมาบรรจุในมณฑปครอบแก้วใส ประดิษฐาน ณ ใจกลางเจดีย์ และทำช่องทางให้พุทธศาสนิกชนเดินเข้าไปดูและสักการบูชาได้อย่าง ใกล้ชิด
เจดีย์สุเล (Sule Pagoda)
คุณเต้ยเล่าให้ฟังว่า .. เป็นเจดีย์ที่ตั้งอยู่ ใจกลางเมืองและเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองย่างกุ้ง แล้วสร้างผังเมืองขยายออกไป โดยยึดเจดีย์สุเลเป็นศูนย์กลาง
อยู่ติดกับ ตลาดสก็อตมาร์เก็ต เป็นตลาดที่รับเงินไทยด้วยค่ะ
มาชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเพื่อนบ้านเรามั้งค่ะ คุณหนึ่ง เก็บภาพมาฝาก ถ่ายทอดวิถีชีวิต ออกมาได้หลากหลายมุมมอง
สวยงาม น่ารัก น่าชัง ตามแบบฉบับของ พม่าเพื่อนบ้านของเรา ขอชมจากใจจริงค่ะ..
ภาพนี้ จากคุณเต้ยค่ะ
อันที่จริง แอบเห็นรูปผ่านเลนส์ของเพื่อนคุณเต้ยอีกคน "สามสิบผู้น้อง" ที่ถ่ายภาพออกมาแล้วสวยงามมาก มีบางภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ตาปลา แต่เกรงใจเจ้าของภาพ เลยไม่ได้จิ๊กภาพสวย ๆ มาฝากให้เพื่อนบล็อกแก็งค์ได้ดูกันค่ะ
บ่ายสาม กลับเมืองไทย ด้วย Air Asia / FD 3773 อย่างสวัสดิภาพ จขบ.เห็นค่าใช้จ่ายทริปนี้ กับ ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง คุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ
ขอปรบมือให้กับ คุณภัทร อย่างใจจริงว่าเป็น แม่งานที่สุดยอดมาก
Tips :
ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ Air Asia สุวรรณภูมิ - ย่างกุ้ง - สุวรรณภูมิ ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศทุกวัน Air Mandalay วันที่สอง 6T 401 RGN - NYU ย่างกุ้ง-พุกาม / วันที่สาม 6T 401 NYU-MDL พุกาม-มัณฑะเลย์ / วันที่สี่ 6T 402 MDL-RGN มัณฑะเลย์-ย่างกุ้ง
ค่าที่พักคืนแรกและคืนสุดท้าย ที่ Panda Hotel คืนที่สองในพุกาม Golden Express Hotel / คืนที่สามในมัณฑะเลย์ Royal Guesthouse
ค่าอาหาร ค่ารถ และ ไกด์ท้องถิ่น เบ็ดเสร็จทริปนี้ 4 คืน 5 วัน คุณเต้ยบอกว่าประมาณ 16,000 เอง ค่ะ แอบสะกิดบอกว่า ถ้าจะจ่ายหนักก็ตรงค่าเบียร์นี่แหละ^^
ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อ แต่พอเห็นสลิปบัตรเครดิตในการจองผ่านเวปมาแล้ว ถึงบอกว่า ขอปรบมือให้ คุณภัทร เพื่อนคุณเต้ยจริง ๆ ที่จัดการทุกอย่างได้ สมกับเป็น นักเดินทางมือแบคแพคมืออาชีพ ค่ะ
ขอขอบคุณมากมาย :
คุณเต้ย, คุณหนึ่ง ที่เอื้อเฟื้อภาพสวย ๆ จาก พุกาม มัณฑะเลย์ สิเรียม และ ย่างกุ้ง
และ คุณภัทร และ คุณเงาะ ที่ได้กรุณาให้ข้อมูลเชิงลึกแต่ละที่ ๆ ไป พร้อมกับตรวจทานให้ ขอบคุณมา ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ..
Create Date : 20 กันยายน 2554 |
Last Update : 26 กันยายน 2554 19:50:33 น. |
|
81 comments
|
Counter : 3962 Pageviews. |
|
|
สวยมากจ้ะจิน
เจิมมั้ย...